skip to main |
skip to sidebar
Manager Onlineนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วงเงิน 4 แสนล้านบาท ในวันที่ 18 พฤษภาคม หลังฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ยังมีการประชุมร่วมรัฐสภาเช่นเดิม เพราะ พ.ร.ก.ดังกล่าวบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระ โดยจะขอเวลาช่วงเช้าเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวประมาณ 1 ชั่วโมง ว่าคำร้องของพรรคเพื่อไทยที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 หรือไม่ พร้อมตรวจสอบว่า การออก พ.ร.ก.ของรัฐบาลถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 185 หรือไม่ เท่าที่ทราบขณะนี้พรรคฝ่ายค้านยื่นเฉพาะกรณีที่การออก พ.ร.ก.ต้องมีความจำเป็นเร่งด่วนเท่านั้น หากพิจารณาแล้วเห็นว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวไม่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 ก็จะนำเข้าที่ประชุมรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ประธานรัฐสภา ยืนยันว่า ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่ขัดข้อง หากเห็นว่าเข้าข่ายตามมาตรา 184 ก็ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้ เพื่อให้ชะลอร่าง พ.ร.ก.ดังกล่าวไว้ก่อน
Manager Onlineสวนดุสิตโพลเปิดเผยผลสำรวจเรื่อง "ทำอย่างไรการเมืองไทยจึงจะเป็นที่พึ่งของคนไทย" โดยประชาชนร้อยละ 39.98 ห่วงเรื่องความแตกแยก แบ่งฝ่าย ทะเลาะ โจมตีใส่ร้าย รองลงมา คือ การแก่งแย่งอำนาจ และความไม่มั่นคงของรัฐบาล ประชาชนอยากให้การเมืองไทยเป็นที่พึ่งในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด ร้อยละ 37.31 รองลงมา ศูนย์กลางของความสมานฉันท์ การแก้ปัญหาสังคม ยาเสพติด และเห็นว่าการเมืองไทยเป็นที่พึ่งไม่ได้ ถึงร้อยละ 70.82 เพราะการเมืองไทยที่มีความขัดแย้ง ทะเลาะวิวาท โจมตีซึ่งกันและกัน โดยวิธีการที่ต้องทำ คือ ต้องกำจัดนักการเมืองที่ไม่ดี โกงกินบ้านเมือง ใช้อำนาจเล่นพรรคเล่นพวก
โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - จำลองปัดตั้งพรรคพธม.จำลองปัดตั้งพรรคพันธมิตรรอถามความเห็นประชาชน 25พ.ค.นี้ก่อน
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปฏิเสธเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมืองในชื่อ พรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มใดไปจดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะพันธมิตรฯ ยังไม่มีการลงมติเรื่องการจัดตั้งพรรคการเมือง จะมีความชัดเจนในวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งนัดรวมตัวกันที่เมืองทองธานี โดยจะขอถามความเห็นประชาชน และขอมติจากแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยว่าจะมีการจัดตั้งพรรคการเมืองหรือไม่ และหากจะจัดตั้งพรรคฯ คงจะไม่ใช้ชื่อพันธมิตรฯ แน่นอน เพราะเกรงว่าจะไม่เหมาะสม หากจัดตั้งจะใช้โมเดลของพรรคพลังธรรมจัดตั้ง
โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - พท.ขวางพ.ร.ก.กู้เงิน4แสนล.เพื่อไทยขวางพ.ร.ก.กู้เงิน4แสนล้านส่งศาลรธน.ตีความ
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาพรุ่งนี้ คงไม่มีการพิจารณาเรื่อง พระราชกำหนดกู้เงิน 4 แสนล้านบาทเนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ยื่นเรื่องเสนอความเห็นให้ประธานสภาฯ ว่าพระราชกำหนดนั้นไม่เป็นไปตามมาตรา 184 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ซึ่งจะต้องส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญใน 3 วันเพื่อให้มีคำวินิจฉัย ดังนั้นระหว่างนี้ต้องรอการพิจารณาพระราชกำหนดฉบับดังกล่าวไว้ก่อน
นายคณวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนพระราชบัญญัติกู้เงิน 4 แสนล้านบาทมีเนื้อหาเหมือนพระราชกำหนดกู้เงิน 4 แสนล้านบาทแต่ไม่มีรายละเอียดของแผนการใช้เงิน ซึ่งพรรคเพื่อไทยเตรียมข้อมูลเพื่ออภิปรายให้เห็นช่องโหว่ของพรบ.ฉบับนี้ ที่ทำให้เสียวินัยในการบริหารงบประมาณแผ่นดินอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และขัดกับหลักการเรื่องธรรมภิบาล ที่สำคัญคือ ทำให้สถานะทางการคลังอ่อนแอ เสียวินัยการคลังอย่างร้ายแรง เพราะสร้างภาระหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นมหาศาล แม้ว่าที่สุดแล้วรัฐบาลซึ่งมีเสียงข้างมากจะสามารถลากจนกฎหมายฉบับนี้ผ่าน แต่พรรคเพื่อไทยก็เตรียมที่จะผลักดันให้มีการแปรญัตติให้กำหนดกลไกการตรวจสอบการใช้เงินในรูปคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการใช้เงินตามพรบ.นี้ต่อไป
นายคณวัฒน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพระราชกำหนดขึ้นภาษีสรรพสามิตสุรา บุหรี่ และน้ำมัน จะมีการพิจารณาและอภิปรายกันในประเด็นความเหมาะสม และผลกระทบต่อค่าครองชีพ และปัญหาปากท้องของประชาชน เพราะการขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันในภาวะที่เศรษฐกิจทรุดตัวอย่างรุนแรงขณะนี้ ส่งผกระทบถึงประชาชนเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกันเท่ากับว่ารัฐบาลเปิดช่องทางให้กระบวนการค้าน้ำมันเถื่อนและบุหรี่ สุราหนีภาษี ลักลอบกระทำการผิดกฎหมายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต สุดท้ายจะส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย ดังนั้น ขอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับปากกับประชาชนว่าจะไม่ขึ้นราคาน้ำมันเป็นเวลานานกี่เดือน เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับผลกระทบที่เกิดจากราคาน้ำมันแพง.
MCOT News : อภิสิทธิ์ ยืนยันปัญหาสตอกข้าวโพดจบแล้วอภิสิทธิ์ ยืนยันปัญหาสตอกข้าวโพดจบแล้ว
กรุงเทพฯ 17 พ.ค.- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ถึงข่าวความขัดแย้งกับ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามโครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2551/52 ว่า เป็นเรื่องปกติในการทำงานที่อาจมีความเข้าใจไม่ตรงกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติบ้านเมือง ตนไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับผู้ร่วมงานทุกคนไปแล้ว
“ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ต้องการเร่งระบายสินค้า แต่ทางคณะรัฐมนตรีก็ประสงค์ทำให้เกิดความรอบคอบ โดยต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการระบายสินค้าต่าง ๆ จากภาครัฐเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และไม่กระทบกับราคาพืชผลในอนาคต คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้เสนอหลักเกณฑ์เข้ามา” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
MCOT News : นายกอภิสิทธิ์ ขอความร่วมมือผู้นำชุมชนลดความแตกแยกในสังคมนายกอภิสิทธิ์ ขอความร่วมมือผู้นำชุมชนลดความแตกแยกในสังคม
รัฐสภา 16 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลดความแตกแยกในสังคม ชี้การเมืองเห็นต่างได้แต่ไม่ควรแตกแยก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านกว่า 700 คน ในการสัมมนา “บทบาทรัฐสภาในการสนับสนุนการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ” วันนี้ (16 พ.ค.) ตอนหนึ่งว่าการสัมมนาครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ในผู้นำชุมชนและประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติและสงบสุข
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าระบอบประชาธิปไตยน่าจะเดินหน้าและพัฒนาไปได้มากกว่านี้ แต่บ้านเมืองเกิดความแตกแยก ส่วนตัวทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมา 18 ปี ไม่เคยพบสถานการณ์ทางการเมืองแบบนี้มาก่อน การเมืองเห็นต่างกันได้เพราะมีประชาธิปไตย แต่จะทำอย่างไรให้ความคิดเห็นขัดแย้งกันยุติลง ผมอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาใช้ระบบรัฐสภา
“ในช่วงการทำงานอาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง ฝ่ายค้านหรือผู้นำชุมชนอื่น ๆ จะวิพากษ์วิจารณ์ หรือด่าทอผมอย่างไรผมก็ต้องทำใจ แต่ทั้งหมดต้องอยู่ในกติกา และอยู่ในกรอบกติกา ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง หรือส่งเสริมให้เกิดความรุนแรง ถ้าทำเช่นนั้นถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่พูดเช่นนี้ เพราะเห็นว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่จะสร้างความแตกแยกอยู่ ดังนั้น จึงต้องการขอร้องให้ผู้นำชุมชนว่า ถ้าเห็นมีคนใดไปยุยง ต้องช่วยกันจัดการให้อยู่ตามกรอบของกฎหมาย แต่หากเห็นว่าใครแสดงออกทางความเห็นที่อยู่ในกรอบกติกา ก็ไม่ควรไปปิดกั้น และว่าเรื่องนี้ไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังต้องการให้ผู้นำชุมชนไปดูว่า ประชาชนต้องการแสดงความคิดเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร และให้เสนอมาที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งขึ้น เพื่อให้มีเวทีในการรับฟังความเห็น
“ผมเพิ่งกลับจากการเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกง นักลงทุนชาวฮ่องกงบอกว่ารักเมืองไทย และต้องการมาลงทุนที่เมืองไทย แต่ทุกคนถามว่าเมื่อไรเมืองไทยจะสงบ เรามีประเทศที่เป็นมิตรแบบนี้จำนวนมาก เขาก็ต้องการให้บ้านเมืองเราสงบ ดังนั้น จึงอยากให้ผู้นำชุมชนช่วยกันนำความสงบกลับคืนมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาออกไป ว่าขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ จ.ภูเก็ต เข้าใจเหตุผลของการเลื่อนการประชุม เพราะผู้นำ 16 ประเทศมีเวลาไม่ตรงกัน แต่ขอยืนยันว่าการจัดการประชุมในเดือนตุลาคมจะยังคงจัดที่ จ.ภูเก็ต
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนการกระจายอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และจะเร่งแก้ไขกฎหมายที่มีผลกระทบต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงเงินค่าตอบแทนที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะได้รับเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลยอมรับว่าต้องจ่ายเงิน 2 งวด เพราะการเพิ่มเงินดังกล่าวมีผลกระทบเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณอยู่บ้าง และจะแก้ไขกฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิเลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านโดยตรงด้วย.-สำนักข่าวไทย
"จตุพร"ย้ำนปช.เตรียมจัดชุมนุมใหญ่เดือนมิ.ย.นี้แน่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่จะมีการนัดรวมพลคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวงในเดือนมิ.ย.นี้อีกครั้งว่า ขณะนี้แกนนำกำลังอยู่ระหว่างการเลือกวันที่เหมาะสม ซึ่งเดิมตั้งใจจะจัดขึ้นในวันที่ 24 มิ.ย. แต่เนื่องจากไม่ตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้นจึงจะหารือกันอีกครั้ง โดยอาจจะเลือกวันก่อนวันที่ 24 มิ.ย.นี้ สำหรับคอนเซ็ปต์ของการนัดชุมนุมครั้งใหม่นี้จะยังคงคอนเซ็ปต์ทำความจริงให้ปรากฏ เพราะขณะนี้มีรายละเอียดภาพเพิ่มเติมจำนวนมาก เชื่อว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมจำนวนมากจนเต็มท้องสนามหลวง ซึ่งตนหวังจะให้แดงทั้งแผ่นดินอีกรอบ และการจัดการชุมนุมครั้งนี้เราจะตั้งเวทีติดด้านวัดพระแก้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนจะประสานไปยังกทม.ขอไม่ให้มีการจอดรถในสนามหลวง อีกทั้งยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปไหนทั้งสิ้น
"จตุพร"ระบุพรุ่งนี้ดีสเตชั่นดีเดย์ออกอากาศแน่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ นิวส์ดีสเตชั่น ว่าม เท่าที่ทราบในพรุ่งนี้(18พ.ค.) น่าจะออกอากาศได้ แต่ยังไม่ 100 % เต็ม โดยการถ่ายทอดศัญญาณจะใช้ผ่านดาวเทียม nss ส่วนดาวเทียมไทยคมในขณะนี้ยังมีปัญหาถูกข่มขู่อยู่ ซึ่งในการออกอากาศที่จะมีขึ้นนี้จะมีการตีแผ่ความจริงของเหตุการณ์ในช่วงสงกรานต์ทมิฬ เช่น เหตุการณ์ที่หน้าตลาดนางเลิ้ง เพชรบุรี ซ.5 , 7 และที่กระทรวงมหาดไทย รวมทั้งรถแก๊สที่แยกดินแดง เป็นต้น
Breaking News - นายกฯเผยผลตรวจตู้คอนเทนเนอร์นายกฯเผยผลตรวจตู้คอนเทนเนอร์อายุกว่า20ปีไม่น่าเกี่ยวศพพฤษภาทมิฬ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีทีว่า ในวันนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยของประชาชน หรือที่เรียกว่า เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม ซึ่งโดยปกติเป็นประจำทุกปี ตนจะเดินทางไปร่วมงาน แต่ในปีนี้ไม่ได้ไป เพราะติดภาระกิจจัดรายการนี้ สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำอนุสรณ์สถานขณะนี้แบบก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกประมาณครึ่งปีจะมีการปรับสภาพพื้นที่และเร่งดำเนินการก่อสร้าง
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยถึงข่าวเรื่องการค้นหาศพผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์พ.ค.35 โดยค้นพบตู้คอนเทนเนอร์ที่ทะเลอ่าวไทยจ.ระยองว่า ได้ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวมีอายุกว่า 20ปี ขณะที่เหตุการณ์พฤษภาทิฬเกิดขึ้นเมื่อ17ปีที่แล้ว จึงไม่น่าเกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายอาจต้องใช้งบประมาณมากพอสมควรเพื่อยกตู้คอนเนอร์ขึ้นมาเพื่อเจาะดูข้างใน ขณะเดียวกันผู้เสนอแนะให้เอาประการังมาตรวจพิศูจน์
Breaking News - ชัยสิทธิ์พร้อมหัวหน้าเพื่อไทยชัยสิทธิ์พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแต่เชื่อคนไกลบ้านไม่เอาด้วย
พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ออกมายืนยันว่าเตรียมยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในสัปดาห์หน้า ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อใดๆ จากพรรคเพื่อไทยเพื่อทาบทามให้ตนเองเข้าไปรับตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่โดยส่วนตัวแล้วตนเองเชื่อว่าการเลือกตัวหัวหน้าพรรค น่าจะขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ต่างประเทศมากกว่า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็คงไม่มีชื่อของตนเองในการพิจารณารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในที่ประชุม เนื่องจากที่ผ่านมาก็เคยเสนอตัวเข้าช่วยงานแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับกลับมาทั้งนี้ ตนเองไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆกับคนที่อยู่ต่างประเทศ และหากตนเองได้รับการติดต่อจริงก็พร้อมเพราะโดยสายเลือดนั้นอย่างไรก็ต้องช่วยเหลือกัน
ด้านนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตัวหัวหน้าพรรคใหม่นั้น อาจจะเป็นได้ทั้งคนที่เป็น ส.ส.อยู่แล้ว และที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เช่น นายทหาร หรือนักธุรกิจบางท่าน เนื่องจากการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคครั้งนี้ อาจเป็นการเตรียมการเลือกตั้งใหม่เลยก็เป็นได้ เพราะการเมืองเข้าสู่ช่วงปิดสมัยประชุมสภา 4 เดือนแล้ว
Daily News Online : Politicsผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.20 น. วันนี้ (16 พ.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานเปิดอบรมและปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ 'บทบาทรัฐสภาในการสนับสนุนการกระจายอำนาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปกครองท้องที่ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ' ซึ่งเป็นความร่วมมือของรัฐสภา กระทรวงมหาดไทย และสถาบันพระปกเกล้า จัดโครงการสัมมนาเรื่อง 'การเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจทางการเมือง การปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ปกครองท้องที่' ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มวันที่ 16 พ.ค.-8 ส.ค.2552 รวม 25 รุ่น
โดย นายชัย กล่าวว่า รัฐสภาถือเป็นสภาอันทรงเกียรติ เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง โดยเฉพาะขณะนี้มีปัญหาทั้งวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่า รัฐสภาจะแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ นอกเหนือจากนโยบายการบริหารของรัฐบาลแล้ว รากเหง้าของปัญหาที่สำคัญคือ การส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น จึงมีบทบาทสำคัญ ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนทั่วประเทศ เข้าใจถึงครรลองประชาธิปไตย ควบคู่กับการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
“จากนี้ไปขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทุกภาคส่วน ร่วมมือกันทั่วประเทศ สร้างความสมานฉันท์ ไม่มีสีเหลือง สีแดง หรือสีต่าง ๆ ขอให้ทุกคนอยู่ใต้สีเดียวกันคือ สีของธงไตรรงค์ เพราะปัญหาต่าง ๆ ทำให้ประเทศล้าหลังมามากแล้ว ทั้งนี้ พร้อมรับฟังความเห็นทุกเรื่อง จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” นายชัย กล่าว.
โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - "กรณ์" ปัดทำ กบข.ขาดทุน"กรณ์"ปัดทำ กบข.ขาดทุน พร้อมแจงศาลปกครองหลังรับฟ้อง ตั้งกก.ขอยืดเวลาตรวจสอบอีก 30 วัน
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครองรับคำร้องของสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)ที่ฟ้องร้องเลขาธิการ กบข.รวมถึงรมว.คลัง เกี่ยวกับผลขาดทุนจากการลงทุนของ กบข.ว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบชุดที่ตั้งขึ้นได้ขอขยายระยะเวลาการทำงานออกไปอีก 30 วัน จากเดิมที่เคยให้เวลาไว้ 30 วัน ดังนั้น ระหว่างนี้จึงต้องรอฟังผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการชุดนี้ออกมาก่อน
รมว.คลัง ชี้แจงว่า การที่สมาชิก กบข.ยื่นฟ้องให้ตรวจสอบการดำเนินงานของ กบข.ในปี 51 ถึงความทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น เป็นช่วงที่ยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่ง รมว.คลัง แต่เมื่อขณะนี้มีการยื่นฟ้องศาลและมีปัญหาเกิดขึ้นก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้ว หากผลการตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตหรือกระทำผิดวินัยจริง ทางองค์กร ซึ่งหมายถึง กบข.ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
"ผมยังไม่เห็นคำสั่งศาล และมีการยื่นฟ้องผมในข้อหาอะไร ซึ่งในช่วงที่เกิดเรื่องการดำเนินงานของ กบข.ในปี 51 ผมยังไม่มาเป็นรัฐมนตรี(คลัง) แต่เมื่อตอนนี้รับตำแหน่งแล้วมีปัญหา ก็มีการตั้งกรรมการตรวจสอบไปแล้ว...ถ้าศาลสั่งให้ผมไปสอบ ผมก็พร้อมชี้แจง" รมว.คลัง กล่าว
โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - "แม้ว"ร่อนแถลงการณ์โต้ข้อหาหมิ่นแถลงการณ์ฉบับ 3 "ทักษิณ" โต้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อ้างถูกกลั่นแกล้ง ลั่นจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ แทนการโฟนอิน ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 3 ผ่านทางคณะทำงานของนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเนื้อหาชี้แจงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินในคดี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ โดยในท้ายแถลงการณ์ได้ระบุว่าจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองอย่างถึงที่สุด ทั้งนี้ข้อความในแถลงการณ์ทั้งหมดมีดังนี้
แถลงการณ์ฉบับที่ 3/2552 ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ตามที่มีข่าวในสื่อมวลชนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อสรุป จากการที่ผมได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศในระหว่างวันที่ 12-13 เมษายน 2552 ที่ผ่านมาว่า ผมได้กระทำความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และจะดำเนินคดีกับตัวผมตามกฎหมายต่อไปนั้น
ผมทราบเรื่องนี้ด้วยความสะเทือนใจยิ่ง เนื่องจากข้อกล่าวหานี้เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง และขัดกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น แม้ผมจะต้องพำนักอยู่ในต่างประเทศก็ตาม ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับคนไทยทุกคน และการสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศที่อ้างถึงนั้น ไม่มีข้อความใดเลยที่ข้าพเจ้ามีเจตนาที่จะหมิ่นหรือจาบจ้วงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่เทิดทูนและเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและแห่งใดในโลก
ผมขอกราบเรียนว่า ในอดีตมีการพยายามใส่ร้ายป้ายสีและดำเนินคดีกับผมในทำนองนี้หลายคดี แต่อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกคดีที่ตำรวจเสนอสำนวนขึ้นไป ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมประสงค์ที่จะเห็นความปรองดองของคนในชาติ ซึ่งความปรองดองจะไม่เกิดขึ้นถ้าปราศจากความเป็นธรรมในสังคม ดังนั้นผมจึงไม่ปรารถนาที่จะเห็นการทำลายล้างกันทางการเมืองในสังคมไทย โดยการยัดเยียดข้อ กล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริงและเจตนาของผู้ที่ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ และน่าเสียดายว่าแนวโน้มนี้จะดำรงอยู่ต่อไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ผมจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมจนถึงที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ ผมจะไม่ยอมให้ผู้ใด ไม่ว่าจะดำเนินการเอง หรือมีใครบงการให้กระทำ มากล่าวหาผมอย่างเป็นเท็จว่าผมมีเจตนาหมิ่นพระมหากษัตริย์ ทั้งๆที่ผมมีความจงรักภักดีและเทิดทูนเหนือหัว และความจงรักภักดีที่ผมมีต่อพระองค์จะยังคงอยู่ในหัวใจของผมจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้ตัวผมจะพำนักอยู่หนใดในโลกก็ตาม
โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - เด้ง!พม.พิจิตรเมินช่วย ดช.เคอิโงะปลัด พม.สั่งย้ายด่วน พม.พิจิตร เมินช่วย ด.ช.เคอิโงะ ตามหาพ่อมานานนับปี แต่ไม่ยอมช่วยเหลือ
นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า กรณีความคืบหน้าการตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น ให้กับ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต อายุ 9 ขวบ เด็กชายชาวพืจิตรสายเลือดญี่ปุ่นว่า ยอมรับว่ายังไร้วี่แววในการที่จะได้เจอตัวนายคัทซูมิ ซาโต พ่อของ ด.ช.เคอิโงะ ทั้งๆ ที่ภาคราชการพยายามอย่างสุดความสามารถ จึงอยากฝากถึงสื่อประเทศญี่ปุ่นให้ช่วยบอกด้วยว่า คนไทยถือว่าความกตัญญูต่อพ่อแม่เป็นเรื่องสำคัญ
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีคำสั่งย้ายด่วนตามหนังสือที่ 219/2552 ให้ย้ายนายประสิทธิ์ มีช้าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร ไปประจำที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่า เป็นคำสั่งย้ายเนื่องจากกรณีของ ด.ช.เคอิโงะ ซาโต ที่หน่วยงาน พม.พิจิตร รู้เรื่องนี้มากว่า 1 ปีแล้ว แต่ทำนิ่งเฉย อีกทั้งเมื่อเด็กตกเป็นข่าวหลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่นายประสิทธิ์กลับไปพูดแซวว่า “เอาเด็กมาหากิน”