จากนั้น
นายจตุพรได้ชี้แจงว่าในเหตุการณ์ชุมนุมนั้นมีคนเสื้อแดงที่เป็นทหารปลอมตัวมาสร้างสถานการณ์ ตั้งแต่การล้อมรถถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ หรือการจัดฉากทุบรถนายกรัฐมนตรี ซึ่งตน
ยืนยันว่าในวันนั้นนายกรัฐมนตรีไม่อยู่ในรถ โดยได้มีการเปลี่ยนรถก่อนเหมือนที่เคยทำที่ อ.พัทยา รวมทั้งระหว่างเกิดเหตุชุลมุนนั้น รปภ.ยังสามารถเปิดประตูที่นั่งนายกฯ แล้วขว้างของไปตรงที่นั่งนายกฯ ได้อย่างไร ขณะที่ รปภ.บางคนคุยโทรศัพท์ไปพร้อมกับอารักขานายกฯ ซึ่งถือว่าผิดวิสัย
ทั้งนี้ ทางกลุ่ม
นปช.จะทำภาพสแกนที่สามารถมองทะลุกระจกด้านหน้ารถเพื่อพิสูจน์ชัดเจนว่านายกฯ ไม่อยู่ในรถ เมื่ออภิปรายถึงตรงนี้
นพ.วรงค์ ท้าทายว่า หากนายกฯ อยู่ในรถ นายจตุพรจะกล้าลาออกหรือไม่ นายจตุพรโต้ทันควันว่า ตนกล้าแน่นอน แต่ถ้านายกฯ ไม่อยู่ในรถ นายอภิสิทธิ์จะกล้าลาออกจาก ส.ส.สัดส่วนอันดับ 1 ของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ขณะที่ นพ.วรงค์ แย้งว่า อย่าพาดพิงถึงนายกฯ ซึ่งไม่อยู่ในที่ประชุม ตนขอรับคำท้าเอง แต่นายจตุพรเลี่ยงว่าตนไม่ได้มีเรื่องกับ นพ.วรงค์ แต่กำลังมีปัญหากับนายกฯ ดังนั้นต้องเดิมพันกับนายกฯ เท่านั้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการซีกพรรคประชาธิปัตย์ได้
ยกคำปราศรัยในเชิงยั่วยุของแกนนำ นปช.บนเวทีปราศรัยตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. อาทิ
“ประชาชนมีสิทธิจับอาวุธ ทั้งปืน หรือมีด ทำลายรัฐบาลโจรได้ โดยไม่มีความผิด” หรือ “ให้ผู้ชุมนุมขับรถพุ่งเข้าชนรถของทหารได้เลย เพราะจะมีความผิดแค่กฎหมายจราจรเท่านั้น” โดยระบุว่าคำปราศรัยเหล่านี้เป็นต้นเหตุของปฏิบัติการที่รุนแรงตามมา นายณัฐวุฒิอ้างว่า คำพูดบนเวทีปราศรัยนั้นไม่ใช่จะเป็นคำสั่งที่ให้มวลชนปฏิบัติตามทั้งหมด
แต่มันมีทั้งเรื่องจริง ความเห็น และเรื่องที่เป็นสีสัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีกรรมการซีกรัฐบาล ถามถึงบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศผ่านวิดีโอลิงก์ว่าการชุมนุมของ นปช.มีใครเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย และกรณีที่อดีตนายกฯ บอกว่าถ้ามีคนตายจะกลับประเทศมานำมวลชนด้วยตัวเอง หมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนม็อบหลักใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า ถ้านายอาคมกล่าวเช่นนี้แสดงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีคนตายใช่หรือไม่ พร้อมทั้งยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงแนวร่วมคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นได้รับมาจากการบริจาคของประชาชน ทำให้
นายศิริโชคได้ยกคำปราศรัยของนายจตุพร ที่เคยบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ สนับสนุนเงินทองอยู่หรือไม่ นายจตุพรตอบคำถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเสื้อแดงที่อยากจะช่วยคนที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น แต่ไม่ใช่ให้เงินมาใช้ในการจัดการชุมนุม นายศิริโชคไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ทำให้นายศิริโชคสวนโพล่งทันทีว่า “จนมุมแล้วบิดไปบิดมา” นายจตุพร โต้ว่า “คุณก็ดีแต่ไปเป็นวอลเปอร์ซะจนเคยตัว” ทำให้
นายศิริโชคโต้กลับไปว่า “ผมรู้เรื่องรามคำแหงของคุณนะ” ทำให้นายจตุพรชะงักทันที
อย่างไรก็ตาม นายจตุพรได้ยืนยันว่า ถ้าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลต่อผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตนขอเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมายทุกกรณี
นายณัฐวุฒิชี้แจงอีกว่า จากการสลายการชุมนุมของรัฐบาล ตำรวจ และทหารนั้น โดยเฉพาะที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดงไม่เป็นไปตามหลักสากลในเบื้องต้นที่ต้องมีการเจรจาและต้องฉีดน้ำดับเพลิง แต่กลับไม่มีการดำเนินการตามขั้นตอนจนเป็นเหตุให้มีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนั้น ในส่วนนี้ตนต้องการทราบว่าบุคคลใดที่ต้องรับผิดชอบบ้าง ซึ่งตนมองว่าคนที่ต้องรับผิดชอบคือตัวนายกรัฐมนตรีหยุดผลักภาระให้คนอื่นเสียที คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะพูดเท็จต่อสังคมได้อย่างไร
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ได้กล่าวว่าประเด็นทั้งหมดที่ผู้มาชี้แจงให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการจะมีการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างแท้จริง
ด้าน นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสนอแนะต่อที่ประชุมว่าขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีชาวบ้านย่านตลาดนางเลิ้งถูกยิงเสียชีวิตจำนวน 2 รายด้วย จึงถามว่ากรณีการยิงชาวบ้านดังกล่าวในฐานะแกนนำ นปช.จะมีส่วนในการติดตามอย่างไร
นายจตุพรกล่าวว่า ตนในฐานะแกนนำได้มีการตั้งรางวัลนำจับคดีละ 5 แสนบาท จำนวน 2 คดี เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าใครกันแน่ที่ลงมือทำ อย่างไรก็ตาม ขอให้รัฐบาลอย่านำประเด็นเรื่องนี้มาใช้ประโยชน์ทางการเมือง