Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Showing posts with label BMA. Show all posts
Showing posts with label BMA. Show all posts

Thursday, June 4, 2009

คณะทำงานคดีรถดับเพลิงเสียงแตก เห็นต่างส่งฟ้อง 7คนรวด รวม"หมัก-อภิรักษ์" อีกฝ่ายเห็นบางคนไม่ผิด

หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
คณะทำงานคดีรถดับเพลิงเสียงแตก เห็นต่างส่งฟ้อง7คนรวดรวม"หมัก-อภิรักษ์" อีกฝ่ายเห็นบางคนไม่ผิด

คณะทำงานคดีทุจริตรถ-เรือดับเพลิงมีความเห็นต่าง ฝ่ายแรกเห็นพ้องป.ป.ช.ส่งฟ้องรวด7คน ตั้งแต่"สมัคร-โภคิน-อภิรักษ์-วัฒนา-ประชา" อีกส่วนเชื่อผู้ถูกกล่าวหาบางคนไม่มีความผิด แย้มช่องขอความเป็นธรรมได้ ก่อนเสนออัยการสูงสุดวินิจฉัยส่งฟ้อง

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ห้องประชุม ชั้น 11 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายวัยวุฒิ หล่อตระกูล รองอัยการสูงสุด ประธานคณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนพร้อมมติเห็นควรให้ฟ้องนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.), นายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. และบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค จำกัด ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,200 ล้านบาท โดยใช้เวลาประชุมกว่า 2 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น

นายวัยวุฒิกล่าวภายหลังว่า คณะทำงานอัยการสรุป มีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ส่วนใหญ่เห็นชอบด้วยกับ ป.ป.ช. ควรสั่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาในคดีทั้ง 7 คน แต่คณะทำงานอัยการบางส่วนเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาบางคนไม่น่ามีความผิด ซึ่งทุกคนสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้ ทั้งนี้ คณะทำงานอัยการจะสรุปความเห็นทั้งสองแนวทางเสนอต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด วินิจฉัยว่าจะฟ้องหรือไม่ ใครบ้าง เบื้องต้นยื่นเอกสารกว่า 100 หน้า

นายวัยวุฒิกล่าวว่า ทั้งนี้หากอัยการสูงสุดมีความเห็นอย่างไร จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณาอีกครั้งว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากทาง ป.ป.ช.เห็นตรงกัน จะยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป แต่หาก ป.ป.ช.มีความเห็นแย้งกับอัยการสูงสุด ตนเห็นว่าควรให้ทาง ป.ป.ช.แต่งตั้งทนายความ เพื่อส่งฟ้องผู้ถูกกล่าวหาบางคนเอง แล้วนำสำนวนคดีมารวมกันในภายหลัง เช่นเดียวกับกรณีคดีทุจริตกล้ายางและคดีหวยบนดิน เชื่อว่าเป็นแนวทางดีที่สุดเพื่อหาข้อยุติ

Wednesday, May 20, 2009

5 เดือนฝนสะสม 500 มม. กทม.รับมากสุดรอบ 30 ปี


หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน : หนังสือพิมพ์คุณภาพ เพื่อคุณภาพของประเทศ

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหาร กทม.ไปแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการรับมือน้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร กับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงพื้นที่ฝั่งตะวันตก (ฝั่งธนบุรี) ซึ่งมีเพียงคลองสนามไชย-มหาชัย เพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่เป็นพื้นที่รับน้ำ (แก้มลิง) ขณะที่พื้นที่ฝั่งตะวันตกส่วนใหญ่เป็นคลองที่ขวางทางน้ำไหล จึงอาจต้องมีการปรับปรุงการระบายน้ำทั้งระบบ แต่ต้องหารือร่วมกับ จ.สมุทรปราการ และ จ.สมุทรสาคร

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวว่า ล่าสุดกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ จะมีฝนตกหนัก ขณะนี้ กทม.ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทาน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯด้วย ทั้งนี้ กทม.ได้รับรายงานปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 500 มิลลิเมตร ขณะที่ในรอบ 30 ปีของช่วงเดียวกัน มีปริมาณฝนสะสมเพียง 200 มิลลิเมตร เท่านั้น ส่วนตลอดทั้งปีมีฝนเฉลี่ย 1,100-1,200 มิลลิเมตร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจสอบเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการชำรุดหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการทรุดพังประมาณ 3 กิโลเมตร บริเวณคลองบางกอกน้อย ซึ่งได้ส่งผลกระทบให้น้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึมเข้าบ้านเรือนประชาชน จึงสั่งการให้แก้ไขไปพร้อมกับเร่งก่อสร้างเขื่อนอีก 7 กิโลเมตรที่เหลือ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2553

กทม.ทุ่ม 700 ล้านบาท ติดลิฟต์ BTS ทุกสถานี ช่วยคนพิการ


กทม.ลงทุนกว่า 700 ล้าน ทำลิฟต์ติดบีทีเอสครบทุกสถานีอำนวยความสะดวกให้คนพิการ “สุขุมพันธุ์” ยอมรับนโยบายคนพิการไม่คืบ ติดเรื่องงบประมาณ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการดำเนินนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการด้านการเดินทาง ว่า ตนได้มีนโยบายไปยังสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ให้มีโครงการร่วมกับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในการติดตั้งลิฟต์โดยสารสำหรับบริการคนพิการที่มีความประสงค์จะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เบื้องต้นให้ติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติมให้ครบทุกสถานีจากเดิมที่มีลิฟต์โดยสารไว้ให้บริการแล้ว 7 สถานี ได้แก่ สถานีหมอชิต สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีนานา สถานีอ่อนนุช สถานีช่องนนทรี สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่

เบื้องต้นนั้นสรุปว่า จะติดตั้งลิฟต์โดยสารทั้งหมด 56 ตัว งบประมาณกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของงบประมาณนั้นจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา กทม.ในสัปดาห์นี้เพื่อให้ความเห็นชอบและอนุมัติ จากนั้นทาง สจส.ก็จะมีการออกแบบรายละเอียด ซึ่งคาดว่า ภายในปี 2554 นั้น จะติดตั้งให้ครบทุกสถานี โดยปี 2552 จะดำเนินงานติดตั้งในสถานีที่คาดว่ามีพื้นที่และทำได้ง่ายก่อน 10 ตัว ปี 2553 ติดตั้ง 20 ตัว และปี 2554 ติดตั้ง 26 ตัว ส่วนการดำเนินสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ ตนยืนยันว่าอยู่ในการพิจารณา อาทิ การติดตั้งสัญญาณไฟพูดได้ ไว้ตามทางแยก ทางข้าม เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาสามารถใช้บริการได้, การทำทางเท้าพื้นลาดสำหรับคนพิการ

ม.ร.ว.สขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ในการดำเนินการนโยบายที่เกี่ยวกับคนพิการยอมรับว่าไม่ใช่งานที่ง่าย ส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ เรื่องของงบประมาณ ซึ่งการที่จะกำหนดโครงการและประสานงานกับหน่วยงานของรัฐบาลเพื่อขอความร่วมมือ หรือของบประมาณนั้นคงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นกทม.ต้องหาจังหวะที่เหมาะสมดำเนินโครงการด้วยตัวเอง อาทิ การปรับปรุงทางเท้า หากพื้นที่ใดที่ต้องซ่อมแซมก็จะคำนึงการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ ด้วย

Label Cloud