Image by adaptorplug via Flickr
ขอนำข้อเขียนอันชวนคิดตามของ "สิงห์ม่วง" มาลงไว้ในที่นี้
ทำไมอดีตนายกฯ จึงไม่ยอมรับคำตัดสิน
ช่างคิดประดิษฐ์คำเสียเหลือเกิน สำหรับอดีตนายกฯ ว่างงานนาม “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่รู้พูดมาได้อย่างไรว่ากระบวนการดำเนินคดีที่ถูกจำคุก 2 ปีคือ "กระบวนการยุติความเป็นธรรม" หาใช่ "กระบวนการยุติธรรมไม่" กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : O ถามง่ายๆ แต่จะตอบได้หรือเปล่าว่า แล้วทีเมียที่ชื่อ "พจมาน ชินวัตร" ศาลยกฟ้องทุกข้อหา แบบนี้เรียกว่าเป็นธรรมหรือเปล่า หรือว่าไม่เป็นธรรมที่เมียไม่ได้ติดคุกด้วย หรือแอบหวังลึกๆ ให้เมียติดคุกเดียวกันแน่...(ฮา)
O เรื่องแบบนี้ถ้ามองแบบ "คนดีๆ" เขามองกัน ก็ต้องเข้าใจว่าศาลเป็นธรรม เพราะถ้าเขากลั่นแกล้งหรือ "ยุติความเป็นธรรม" ก็คงสั่งลงโทษเต็มเหนี่ยวทุกข้อหา จำคุก 10 ปี 15 ปี ให้อายุความยาวนานกว่านี้ไม่ดีหรือ (เพราะไหนๆ ทักษิณและพวกก็ทำนายไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าอย่างไรเสียก็ต้องโดน)
O แต่ก็อย่างว่า พอมองด้วยสายตา "พาลๆ" เมื่อศาลลงโทษข้อหาเดียว ก็อ้างว่าหาช่องเล่นงาน (อีกจนได้) ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย
O การถูกจำคุก 2 ปีตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 โดยที่ศาลยกฟ้องข้อหาทุจริตต่อหน้าที่เป็นเพราะไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนัก เพียงพอ แต่ไม่ได้หมายความว่าอดีตนายกฯ ไม่ได้กระทำผิด
O คำอธิบายแบบเข้าใจง่ายต้องขอยืมทฤษฎีของ อ.แก้วสรร อติโพธิ ท่านบอกว่าให้เปรียบเทียบกับ "พระ" เพราะภิกษุนั้นจะถูกกำกับทั้ง "ศีล" และ "วินัย" การทำผิดศีลหรือไม่บางครั้งพิสูจน์ยาก จึงต้องมีวินัยมากำกับไว้ไม่ให้กระทำ หากพระรูปใดผิดวินัย ก็จะขาดจากความเป็นพระทันที ไม่ต้องย้อนไปดูว่าทำผิดศีลจริงหรือไม่
O เช่น ศีลกำหนดห้ามพระเสพเมถุน หรือกระทำไม่เหมาะสมกับสีกา เรื่องแบบนี้เอาเข้าจริงก็พิจารณายากว่ากระทำเข้าข่ายหรือยัง จึงต้องมีวินัยมากำกับว่า ไม่ให้พระอยู่ในที่รโหฐานกับสีกาสองต่อสอง ฉะนั้นเมื่อพระกระทำผิดวินัย คืออยู่ในที่รโหฐานสองต่อสองกับสีกา ก็จะมีผลทันทีโดยไม่ต้องย้อนไปดูว่ากระทำผิดตามที่ศีลกำหนดห้ามไว้หรือไม่
O เทียบกับกรณีของอดีตนายกฯ แน่นอนศาลยกฟ้องข้อหาทุจริตเพราะหลักฐานไม่ถึง แต่ "คนโตจากลอนดอน" ก็กระทำผิดวินัย คือ กติกากำหนดห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่ตนเอง กำกับดูแล ซึ่งเป็นข้อห้ามตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 เมื่อคุณทำผิดตรงนี้ คือ ฝ่าฝืนวินัย ก็ถูกลงโทษทันที โดยไม่ต้องย้อนไปดูว่ากระทำผิดศีล คือทุจริตด้วยหรือไม่ เพราะมันมีการทุจริตมากมายที่หาหลักฐานไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อผู้กระทำทุจริตมีอำนาจบารมีและอิทธิพลล้นเหลือ
O ถ้าได้อ่านคำแถลงของอดีตนายกฯ จะมองเห็นตัวตนของคนคนนี้ 2 ประการคือ หนึ่ง ไม่มีความรู้สึกเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จริยธรรม ความเหมาะควรอยู่ในสามัญสำนึกเลย เพราะการซื้อที่ดินซึ่งเป็นสมบัติของรัฐโดยภริยาของนายกรัฐมนตรี ถ้ามองเป็นเรื่องธรรมดาก็ป่วยการที่จะอธิบายกันต่อว่ามันเป็นการขัดกัน ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมอย่างไร เพราะคงไม่มีวันเข้าใจ
O หรือ สอง ถ้าข้อสังเกตข้อหนึ่งไม่ถูกต้อง อดีตนายกฯ ผู้นี้ก็เข้าข่ายดับเบิลสแตนดาร์ดมากที่สุด เพราะเลือกพูดเฉพาะประเด็นที่เป็นประโยชน์กับตัวเองอย่างร้ายกาจ และทำลายเครดิตของระบบศาลทั้งระบบ
O กฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 เขาเขียนไว้ทนโท่ ถ้ากฎหมายไม่ดีก็ต้องไปแก้ไข ไม่ใช่ไปด่าศาล ที่สำคัญเรื่องกล่องขนม 2 ล้าน หรือความพยายามวิ่งล็อบบี้ตุลาการผ่านรัฐมนตรีคนหนึ่งในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ถึงกับพากันไปกินข้าวที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง นั่นเรียกว่ากระบวนการ "ยุติความเป็นธรรม" ด้วยหรือไม่
O นี่ยังไม่นับคดีเสนอสินบนในคดียุบพรรคที่เรื่องค้างเติ่งอยู่ในชั้นอัยการมา นานเป็นปีแล้ว เรื่องแบบนี้ทั้งแม้วทั้งอ๋อยไม่เคยพูดถึงเลย ได้แต่โวยวายเช่นเคยว่ากฎหมายไม่เป็นธรรม
O ส่วนเรื่องพันธมิตรยึดทำเนียบ ก็ไม่ได้รับการคุ้มครองจากศาลอย่างที่พยายามกล่าวอ้าง การพูดเหมารวมแบบนี้มันทำลายเครดิตกระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาศาลแค่ถอนข้อหากบฏ เพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งก็เป็นกระบวนการรีวิวตรวจสอบกันตามปกติของศาลแต่ละชั้นที่เปิดช่องให้ ประชาชนได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น ส่วนเมื่อศาลมีคำสั่งแล้ว เจ้าหน้าที่อื่นไม่ยอมบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งศาลหรือบังคับไม่สำเร็จ อันนั้นก็ต้องไปโทษเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่าย ไม่ใช่ไปด่าศาล
O อดีตนายกฯ เอง ก็เคยได้ประโยชน์กับกระบวนการแบบนี้ เช่น การขอเดินทางไปต่างประเทศแล้ว "หนี" ไม่ยอมกลับมานี่อย่างไร ทำไมแบบนั้นไม่บอกว่าศาลไม่เป็นธรรมบ้างที่อนุญาตให้ท่านเดินทางออกนอก ประเทศ แล้วไม่ต้องกลับมารับโทษ
O พิเคราะห์จากการปลุกมวลชนเสื้อแดง ตามด้วยถ้อยคำล่อแหลมเรื่อง "พระบารมี" ก็พอมองเห็นจังหวะก้าวของ "บิ๊กแม้ว" เที่ยวนี้ว่าคงหนีไม่พ้นขอพระราชทานอภัยโทษตามที่ "สิงห์ม่วง" เคยคาดการณ์เอาไว้ สอดรับกับบทวิเคราะห์การเมืองของ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีนิด้า ที่เคยชี้ให้จับตากรณีของฟิลิปปินส์ให้ดีๆ เพราะประธานาธิบดีอาร์โรโยก็ตัดสินใจออกกฎหมายอภัยโทษให้อดีตประธานาธิบดี เอสตราดามาแล้ว
O แต่ประเด็นที่ อาจารย์สมบัติ เน้นเป็นพิเศษก็คือ จะทำเช่นนั้นได้นายกฯ ต้องเป็นคนของตัวเอง และนี่คือสาเหตุว่าทำไม "ทักษิณ" ถึงต้องดิ้นเพื่อรักษาอำนาจไว้ในหมู่พวกตัวเองให้นานที่สุด จัดตัวสำรองชุด 2 ชุด 3 มาเป็นรัฐมนตรีโดยไม่เกรงใจประชาชน คำตอบก็คือผลประโยชน์และความอยู่รอดของตนเอง หาใช่ประเทศชาติที่กำลังดำดิ่งเพราะวิกฤติทั้งภายในและภายนอกไม่!
สิงห์ม่วง kobkab034@hotmail.com