ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"ชาญชัย"พยายามลงมือถึง3ครั้ง ตั้ง2ปม "พ.ต."ซัดทอด"พ.อ."สั่ง-เผาแบงก์10แห่ง
ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"องคมนตรี ชาญชัย"พยายามลงมือถึง 3 ครั้งแล้ว สันนิษฐานเหตุการเมือง-ส่วนตัว ตร.ขยายผลหลังจับกุม"พันตรี"ผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า"ชาญชัย" อ้างเจ้านาย"พันเอก"สั่งมา เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เจตนา ยันไปบ้าน"ปีย์"แค่คุยกันธรรมดา รับช่วงนี้ต้องระวังตัวให้มาก
ความคืบหน้าการรวบตัวมือปืนเตรียมลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ได้ทันก่อนลงมือ ขณะมาซุ่มอยู่ละแวกซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใกล้กับบ้านนายชาญชัย เมื่อค่ำวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แถลงคืบหน้าคดีเตรียมลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่า คดีนี้เป็นเรื่องจริง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้พยายามดำเนินการลอบสังหารมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ในวันที่ 4 เมษายน 2 ครั้ง และวันที่ 5 เมษายน อีก 1 ครั้ง แต่ถูกตำรวจตรวจค้นอาวุธปืน และจับกุมได้ก่อน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พ.ต.เทียนชัย หรือ อ๊อด เมืองจันทึก เป็นผู้รับงานด้วยเงินจ้างวาน 1 ล้าน 5 แสนบาท หลังจากนั้นติดต่อ นายคมิต ศุกาญจนกาจน์ ในวงเงิน 6 แสนบาท โดยให้ นายคมิต ไปจ้างทีมฆ่า คือ นายภาณุพงศ์ รัตนาไพบูลย์ และ นายศักดิ์ชาย แซ่ลิ้ม ด้วยเงินว่าจ้าง 1 แสน 4 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำอาวุธปืน .38 พร้อมเครื่องกระสุน และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร มีรายละเอียดการโอนเงินเข้า และภาพถ่ายของนายชาญชัย มายืนยันด้วย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ถึงการจับกุมมือปืนที่เตรียมสังหารองคมนตรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนขยายผลจนทราบว่า มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องและนำไปสู่การจับกุมทหารระดับจ่าและพ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก สังกัดกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งทั้งหมดได้รับสารภาพพร้อมกับซัดทอดไปยัง"พ.อ." ที่อ้างว่าเป็นเจ้านายอีกครั้ง
พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวด้วยว่า ระหว่างที่ทำการจับกุมทหารทั้งสองคนนี้ ได้มีโทรศัพท์โทรเข้าที่เบอร์ของทหารที่ถูกจับ หลังจากมีการวางสายแล้ว ตำรวจก็ถามว่า เจ้านายให้ทำอะไรอีก จนทราบว่าเจ้านายสั่งการให้วางเพลิงธนาคารกรุงไทย กับธนาคารอีกแห่ง รวม 10 จุดเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามถามว่า เจ้านายเป็นใครแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าชื่ออะไร บอกเพียงชั้นยศเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งหมดต้องบอกรายละเอียดหมดทุกอย่าง
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 7 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปรามและสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุม "พันตรี" ซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เรียก พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.หน.ศสส.ภ. 1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผกก.2 บก.ป. เข้าร่วมประชุมหลังชุดสืบสวนร่วมกับกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) จับกุมผู้พยายามก่อเหตุยิงนายชาญชัย ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูก จับกุมทั้ง 3 คน รับสารภาพ ทางตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลผู้เกี่ยวข้อง และการจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด และรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทันลงมือก่อเหตุทางตำรวจไปพบก่อน
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ผู้ต้องหารับว่าผู้ว่าจ้างอ้างว่าให้มายิงนักธุรกิจซึ่งโกงเงินมาจากทางภาคเหนือโดยมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งสาเหตุการยิงนายชาญชัย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเนื่องจากนายชาญชัยเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยในช่วงระหว่างการปฎิบัติหน้าที่การงาน ทางตำรวจก็อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องอะไร สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วยนายภานุพงศ์ หรือกอลฟ์ รัตนาไพบูลย์ อายุ 32 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายศักดิ์ชาย หรือแบงก์ แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี มือปืน และนายคมิก หรือ จ่าเหน่ง สุขกาญจนกาศ อายุ 33 ปี ผู้ติดต่อรับงาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับนายทหารคนหนึ่ง ยศ "พันตรี" สังกัดเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้จ้างวาน หลังผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังบงการลอบสังหารองคมนตรีเพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย
รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องหาระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหามือปืนเตรียมลอบยิงนายชาญชัยนั้น สืบเนื่องจากก่อน หน้านี้มีสายของตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมลอบสังหารมีหน้าที่ชี้เป้า ได้รับรูปของนายชาญชัย พร้อมบ้านเลขที่ และทะเบียนรถ ดส 4777 กทม.จากผู้จ้างวานอ้างว่าเป็นพ่อค้าคนจีนที่ขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ จ.เชียงใหม่แล้วหนีหนี้สินมาอยู่ที่ โดยให้ค้าจ้างจำนวน 1.3 แสนบาท ซึ่งมีการโอนเงินและจัดหาอาวุธปืนให้เรียบร้อยแล้ว แต่สายตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสังหารสงสัยทะเบียนรถที่ใช้ จึงได้เข้าไปตรวจเช็คทะเบียนปรากฏว่าทะเบียนรถเป็นของสำนักพระราชวัง จึงนำเรื่องไปปรึกษากับจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจ
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายนี้จึงได้ไปตรวจสอบทะเบียนรถพบ ว่าเป็นรถของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จึงได้ประสานทางตำรวจภาค 1 และกองปราบปราม ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบ้านนายชาญชัย ไปซุ่มอยู่บริเวณบ้าน ในซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่ติดหมายเลขทะเบียน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนในเซฟเฮ้าแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างจับกุมไม่พบอาวุธปืนที่จะใช้ก่อเหตุ
จากการเค้นสอบมาตลอดทั้งคืนทราบว่าผู้จ้างวานเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งจ้าง วานให้ฆ่านายชาญชัยภายในวันที่ 7 เมษายน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย
รายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวได้มารายงานเรื่องดังกล่าว ให้กับพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. คาดว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบเรียบร้อยแล้ว
ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้จะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนถึงบช.น. บช.ก. บช.ภ.1 จัดกำลังอารักขาบุคคลสำคัญ ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายชาญชัญ ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา(ในขณะนั้น) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา (ปัจจุบัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชการ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกอ.รมน. ที่เข้าไปร่วมหารือกับนายปีย์ มาลากุล ประธานบริษัทแปซิฟิก คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวหาว่าเป็นการหารือเพื่อล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้านความเคลื่อนไหวของนายชาญชัยนั้น เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า นายชาญชัยให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงเหตุการณ์มีมีข่าวว่า มีคนคิดลอบสังหารว่า ทราบจากข่าวเช่นกัน โดยมีเพื่อนโทรศัพท์มาบอก ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่ทราบสาเหตุด้วย
เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ไปบ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ไปบ้านนายปีย์ แค่ครั้งเดียว และ ก็ไปคุยกันธรรมดา ยังนึกไม่ออกว่า เกี่ยวกับตนได้อย่างไร ไม่ทราบเจตนาจริงๆ
เมื่อถามว่า ตอนนี้กังวลอะไรหรือไม่ องคมนตรี กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร แต่ต้องระวังตัวไม่ให้มากขึ้น เพราะปกติก็ไม่ได้ระวังตัวอะไรอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามถึงเรื่องราวเกิดขึ้นหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ยังประชุมองคมนตรีด้วยกัน และ พล.อ.เปรม ก็ทราบข่าวว่า มีผู้คิดลอบสังหารตนเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งวางแผนที่จะลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ตนยังได้เห็นรายงาน ทราบจากข่าว ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"องคมนตรี ชาญชัย"พยายามลงมือถึง 3 ครั้งแล้ว สันนิษฐานเหตุการเมือง-ส่วนตัว ตร.ขยายผลหลังจับกุม"พันตรี"ผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า"ชาญชัย" อ้างเจ้านาย"พันเอก"สั่งมา เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เจตนา ยันไปบ้าน"ปีย์"แค่คุยกันธรรมดา รับช่วงนี้ต้องระวังตัวให้มาก
ความคืบหน้าการรวบตัวมือปืนเตรียมลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ได้ทันก่อนลงมือ ขณะมาซุ่มอยู่ละแวกซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใกล้กับบ้านนายชาญชัย เมื่อค่ำวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แถลงคืบหน้าคดีเตรียมลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่า คดีนี้เป็นเรื่องจริง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้พยายามดำเนินการลอบสังหารมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ในวันที่ 4 เมษายน 2 ครั้ง และวันที่ 5 เมษายน อีก 1 ครั้ง แต่ถูกตำรวจตรวจค้นอาวุธปืน และจับกุมได้ก่อน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พ.ต.เทียนชัย หรือ อ๊อด เมืองจันทึก เป็นผู้รับงานด้วยเงินจ้างวาน 1 ล้าน 5 แสนบาท หลังจากนั้นติดต่อ นายคมิต ศุกาญจนกาจน์ ในวงเงิน 6 แสนบาท โดยให้ นายคมิต ไปจ้างทีมฆ่า คือ นายภาณุพงศ์ รัตนาไพบูลย์ และ นายศักดิ์ชาย แซ่ลิ้ม ด้วยเงินว่าจ้าง 1 แสน 4 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำอาวุธปืน .38 พร้อมเครื่องกระสุน และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร มีรายละเอียดการโอนเงินเข้า และภาพถ่ายของนายชาญชัย มายืนยันด้วย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง
พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ถึงการจับกุมมือปืนที่เตรียมสังหารองคมนตรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนขยายผลจนทราบว่า มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องและนำไปสู่การจับกุมทหารระดับจ่าและพ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก สังกัดกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งทั้งหมดได้รับสารภาพพร้อมกับซัดทอดไปยัง"พ.อ." ที่อ้างว่าเป็นเจ้านายอีกครั้ง
พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวด้วยว่า ระหว่างที่ทำการจับกุมทหารทั้งสองคนนี้ ได้มีโทรศัพท์โทรเข้าที่เบอร์ของทหารที่ถูกจับ หลังจากมีการวางสายแล้ว ตำรวจก็ถามว่า เจ้านายให้ทำอะไรอีก จนทราบว่าเจ้านายสั่งการให้วางเพลิงธนาคารกรุงไทย กับธนาคารอีกแห่ง รวม 10 จุดเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามถามว่า เจ้านายเป็นใครแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าชื่ออะไร บอกเพียงชั้นยศเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งหมดต้องบอกรายละเอียดหมดทุกอย่าง
"การสอบสวนการลอบสังหารองคมนตรี ครั้งนี้ต้องขยายให้ถึงที่สุดว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้บ้าง แต่หลักฐานที่ตำรวจจับกุมขณะนี้มีเพียงพอที่จะดำเนินคดีเนื่องจากครบองค์ ประกอบทั้งหมดเรื่องประเด็นเตรียมการลอบสังหารบุคคลสำคัญที่มีทั้งรูปถ่าย และอาวุธปืน" พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 7 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปรามและสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุม "พันตรี" ซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เรียก พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.หน.ศสส.ภ. 1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผกก.2 บก.ป. เข้าร่วมประชุมหลังชุดสืบสวนร่วมกับกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) จับกุมผู้พยายามก่อเหตุยิงนายชาญชัย ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมง
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูก จับกุมทั้ง 3 คน รับสารภาพ ทางตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลผู้เกี่ยวข้อง และการจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด และรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทันลงมือก่อเหตุทางตำรวจไปพบก่อน
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ผู้ต้องหารับว่าผู้ว่าจ้างอ้างว่าให้มายิงนักธุรกิจซึ่งโกงเงินมาจากทางภาคเหนือโดยมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งสาเหตุการยิงนายชาญชัย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเนื่องจากนายชาญชัยเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยในช่วงระหว่างการปฎิบัติหน้าที่การงาน ทางตำรวจก็อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องอะไร สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วยนายภานุพงศ์ หรือกอลฟ์ รัตนาไพบูลย์ อายุ 32 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายศักดิ์ชาย หรือแบงก์ แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี มือปืน และนายคมิก หรือ จ่าเหน่ง สุขกาญจนกาศ อายุ 33 ปี ผู้ติดต่อรับงาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับนายทหารคนหนึ่ง ยศ "พันตรี" สังกัดเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้จ้างวาน หลังผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังบงการลอบสังหารองคมนตรีเพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย
รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องหาระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหามือปืนเตรียมลอบยิงนายชาญชัยนั้น สืบเนื่องจากก่อน หน้านี้มีสายของตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมลอบสังหารมีหน้าที่ชี้เป้า ได้รับรูปของนายชาญชัย พร้อมบ้านเลขที่ และทะเบียนรถ ดส 4777 กทม.จากผู้จ้างวานอ้างว่าเป็นพ่อค้าคนจีนที่ขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ จ.เชียงใหม่แล้วหนีหนี้สินมาอยู่ที่ โดยให้ค้าจ้างจำนวน 1.3 แสนบาท ซึ่งมีการโอนเงินและจัดหาอาวุธปืนให้เรียบร้อยแล้ว แต่สายตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสังหารสงสัยทะเบียนรถที่ใช้ จึงได้เข้าไปตรวจเช็คทะเบียนปรากฏว่าทะเบียนรถเป็นของสำนักพระราชวัง จึงนำเรื่องไปปรึกษากับจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจ
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายนี้จึงได้ไปตรวจสอบทะเบียนรถพบ ว่าเป็นรถของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จึงได้ประสานทางตำรวจภาค 1 และกองปราบปราม ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบ้านนายชาญชัย ไปซุ่มอยู่บริเวณบ้าน ในซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่ติดหมายเลขทะเบียน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนในเซฟเฮ้าแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างจับกุมไม่พบอาวุธปืนที่จะใช้ก่อเหตุ
จากการเค้นสอบมาตลอดทั้งคืนทราบว่าผู้จ้างวานเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งจ้าง วานให้ฆ่านายชาญชัยภายในวันที่ 7 เมษายน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย
รายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวได้มารายงานเรื่องดังกล่าว ให้กับพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. คาดว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบเรียบร้อยแล้ว
ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้จะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนถึงบช.น. บช.ก. บช.ภ.1 จัดกำลังอารักขาบุคคลสำคัญ ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายชาญชัญ ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา(ในขณะนั้น) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา (ปัจจุบัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชการ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกอ.รมน. ที่เข้าไปร่วมหารือกับนายปีย์ มาลากุล ประธานบริษัทแปซิฟิก คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวหาว่าเป็นการหารือเพื่อล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้านความเคลื่อนไหวของนายชาญชัยนั้น เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า นายชาญชัยให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงเหตุการณ์มีมีข่าวว่า มีคนคิดลอบสังหารว่า ทราบจากข่าวเช่นกัน โดยมีเพื่อนโทรศัพท์มาบอก ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่ทราบสาเหตุด้วย
เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ไปบ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ไปบ้านนายปีย์ แค่ครั้งเดียว และ ก็ไปคุยกันธรรมดา ยังนึกไม่ออกว่า เกี่ยวกับตนได้อย่างไร ไม่ทราบเจตนาจริงๆ
เมื่อถามว่า ตอนนี้กังวลอะไรหรือไม่ องคมนตรี กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร แต่ต้องระวังตัวไม่ให้มากขึ้น เพราะปกติก็ไม่ได้ระวังตัวอะไรอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามถึงเรื่องราวเกิดขึ้นหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ยังประชุมองคมนตรีด้วยกัน และ พล.อ.เปรม ก็ทราบข่าวว่า มีผู้คิดลอบสังหารตนเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งวางแผนที่จะลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ตนยังได้เห็นรายงาน ทราบจากข่าว ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด