Thai Insider - เมินโดนพธม.ไล่แขวะ 'สมยศ'รับ'ตร.สีน้ำเงิน' 'รัก-ชอบพอ'กับ'เนวิน' แจงชัดไม่กลัว-ไม่อาย
“สมยศ” เมินพธม.วิจารณ์ “ตร.สีน้ำเงิน” แอ่นอกรับ “รักชอบพอ” กับ “เนวิน” เป็นคนประเภทเดียวกัน-นิสัยเหมือนกัน-เป็นไงเป็นกัน ลั่น “ไม่กลัว-ไม่อาย” เพราะถ้าปฏิเสธก็หมายถึงโกหก พร้อมยอมรับซี้ปึ้กกับ “วิชัย-กนกศักดิ์” แถมชอบเล่นหุ้น
วันที่ 11 ก.ย. 2552 พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. ซึ่งเพิ่งได้รับคำสั่งจากพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อมสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ แทนพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่ขอลาออกจากคดีนี้ กล่าวผ่านรายการ “เจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์” ถึงกรณีดังกล่าวว่า “ถามว่าเห็นคำสั่งหรือยัง ณ บัดนี้ยังไม่เห็นคำสั่ง ยิ่งผบ.ตร.ตั้งผม ก็ไม่ได้ศึกษาหรือถามผมก่อน แต่ทราบมาหลายวันแล้วว่า พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ได้มาขอลาออกกับพล.ต.อ.พัชรวาท การที่ผบ.ตร.สั่งผม ไม่ทราบเรื่องมาก่อน ซึ่งก็ตกใจ ว่าทำไมมาตั้งผม เพราะหน้าที่ความรับผิดชอบ เป็นผู้ช่วยผบ.ตร. ที่รับผิดชอบกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ซึ่งงานเรื่องของพันธมิตรฯปิดสนามบินสุวรรณภูมิกับดอนเมือง เป็นเรื่องของผู้ช่วยผบ.ตร. ที่ดูแลกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) มันผิดฝั่งผิดฝาไปหน่อย”
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า เป็นดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชา ที่มอบหมายให้ตนทำ ก็น้อมรับ แต่ถามความรู้สึกส่วนตัว มันผิดฝาผิดฝั่ง เพราะวันหนึ่งหากงานเดินไป แล้วมีปัญหา ก็อาจจะลาออกก็ได้ เพราะไม่ใช่ความรับผิดชอบของตน แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในดุลยพินิจของรักษาการผบ.ตร. (พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์) ในเวลานี้
เมื่อถามว่า นายสั่งก็ต้องทำ อะไรที่ว่าถ้ามีปัญหาจะลาออก พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “การทำงานของผมยึด 3 ประการคือ 1.ยึดหลักความยุติธรรม ทำตรงไป-ตรงมา 2.ถูกต้องตามกฎหมาย 3.จะไม่กลั่นแกล้งหรือรังแกผู้อื่น ไม่ทำแล้วดูเป็นการกลั่นแกล้งหรือช่วยเหลือใคร”
ถามต่อว่า รู้สึกอย่างไร ในทันทีที่มีข่าวเซ็นตั้ง ทางพันธมิตรฯก็เริ่มยิงปืนใหญ่ถล่ม เป็นหมู่บ้านกระสุนตก กล่าวหาเป็นตำรวจสีน้ำเงิน ทำไมจึงเกิดเช่นนี้ และสีน้ำเงินแปลว่าอะไร พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ถ้าถามว่า อะไรเป็นความรับผิดชอบหรือคำสั่งของผู้บังคับบัญชา สั่งอะไรมาก็ทำ แต่ผมยึดหลัก 3 ประการ ผมทำเรื่องใหญ่คือ รีสอร์ตทองผาภูมิ ก็เป็นเป้ากระสุนตกมาแล้ว นสพ.ผู้จัดการก็เขียนถึงผมเยอะ ก็ไม่ว่ากัน เค้าบอกเป็นตำรวจติดตามนายมนตรี พงษ์พานิช จากนั้นก็บอกมาติดตามนายเนวิน ชิดชอบ ก็ขอแก้ข่าวว่า ผมไม่ได้เดินตามนายเนวิน ไม่ได้เป็นตำรวจติดตาม แต่รักนายเนวิน เพราะนิสัยเหมือนกัน เป็นไงเป็นกัน ผมเป็นตำรวจติดตามก่อนคุณเนวินเป็นส.ส.ด้วยซ้ำ เมื่อเจอกัน เป็นคนประเภทเดียวกัน ก็คบกันได้ เค้าเคารพผมเหมือนพี่ เราก็เคารพกัน เป็นเพื่อน นี่คือความผูกพัน”เมื่อถามว่า พูดเต็มปาก ว่ารักชอบพอกับนายเนวิน ไม่กลัวหรือ ผู้ช่วยผบ.ตร.ผู้นี้ ตอบว่า “ไม่กลัวครับ นสพ.เขียน ถ้าไม่จริง ผมจะตอบโต้ แต่เค้าเขียนเรื่องจริง ผมไม่อายหรอก ถ้าผมปฏิเสธว่าไม่เคย ก็โกหก เค้าบอกว่า ผมเป็นเพื่อนคุณวิชัย (รักศรีอักษร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด) เป็นเพื่อนคุณกนกศักดิ์ (ปิ่นแสง) บอกผมชอบเล่นหุ้น เขียนไปแล้ว ผมไม่ว่า ผมเล่นหุ้นก็ใช้เงินผม ไม่ได้สนใจเงินสีดำ สีเทา หรือเงินเน่าๆ ในวงการตำรวจ ผมอยู่ได้อย่างสง่าผ่าเผย ถามเลย ใครเคยเอาเงินมาให้ผม ผมชอบเล่นหุ้นมันผิดกฎหมายหรือครับ เงินที่เข้า-ออก บัญชีผม มาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เจ๊งบ้าง-รวยบ้าง ถือเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผมได้ดัง”
เมื่อถามว่า พูดเต็มปาก เดินตามนายมนตรี แต่ไม่ได้เดินตามนายเนวิน แค่รักชอบพอกัน แถมรู้จักนายวิชัย-นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง และเล่นหุ้นจริง พล.ต.ท.สมยศตอบว่า “ใช่...ไม่ว่ากัน”
ถามอีกว่า ถ้าลงไปเคลื่อนสำนวนในคดีพันธมิตรฯ ไม่ยิ่งโดนหนักกว่านี้หรือ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ถ้าเป็นหน้าที่ก็ต้องทำ ถ้าไม่อยากทำ ก็ลาออก ต้องดูกันต่อไป เพราะขีดความอดทนไม่เหมือนกัน บางคนอาจโดนปั๊ง-สองปั๊งก็อถอดใจ ผมอาจโดนสักร้อยปั๊ง ถึงถอดใจ”
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวต่อว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่ของพัชรวาท มันมีสองแง่สองง่าม บางท่านก็บอกว่า ต้องหยุดทันที บางท่านก็บอกว่า ไม่ต้องหยุด เพราะพล.ต.อ.พัชรวาทไม่ใช่ข้าราชการเมือง ตนก็เคารพภูมิปัญญาทุกท่าน คนหนึ่งเห็นอย่าง อีกคนเห็นอย่าง ก็ต้องถกเถียงกัน
เมื่อถามว่า หากทางกฎหมาย บอกว่า พล.ต.อ.พัชรวาทต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ คำสั่งตั้งพล.ต.ท.สมยศ ก็หมดสภาพ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ไม่ขอวิจารณ์ ผมแค่พอรู้กฎหมาย แต่ไม่แตกฉานในเรื่องกฎหมายสำคัญ ให้ผู้รู้ว่ากันไปดีกว่า”“ถ้ารักษาการผบ.ตร. (พล.ต.อ.ธานี) เรียกไป ก็ต้องหารือถึงแนวทางและวิธีการ แต่เท่าที่ทราบ สำนวนการสอบสวนมันจบไปแล้ว ผมมาทำอะไรไม่ได้ มันสรุปแล้วว่า ข้อหาเป็นอย่างนั้นจริง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ระบบยุติธรรมของไทย เป็นระบบกล่าวหา ให้ไปต่อสู้กันในศาล” ผู้ช่วยผบ.ตร.ผู้นี้ระบุ
เมื่อถามว่า สำนวนคดีปิดสนามบิน ถือว่าจบแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ไปถึงขั้นตั้งข้อกล่าวหา และมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่มารับทราบข้อกล่าวหา จากพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียก ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน จะออกหมายเรียก หรือทำเรื่องไปถึงศาล เพื่อขออออกหมายจับ แต่ตามป.วิอาญา ไม่ได้บอกว่า จะต้องออกหมายเรียกกี่ครั้ง อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน
ถามอีกว่า แต่เค้า (แกนนำพันธมิตรฯ) ไปปรากฏตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวน แต่ไม่รับทราบข้อกล่าวหา ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ถ้าผมมารับงานในหน้าที่นี้แล้ว ก็ต้องหารือกับคณะกรรมการ ที่สอบสวนเรื่องนี้ ไม่อยากตัดสินโดยลำพัง ขอถามก่อนว่า เค้าคิดอย่างไร แต่ขั้นตอนการดำเนินการตามป.วิอาญา มันมีอยู่”
เมื่อถามต่อถึงคดีรีสอร์ตของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส อดีตผบ.ตร. ออกหมายเรียกไปกี่ครั้ง พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “3-4 ครั้งแล้ว”
ถามต่อว่า แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า “ท่านไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวน แต่ทราบว่าล่าสุดไปขึ้นศาล จึงไม่ได้มา เราก็เข้าใจ ก็ต้องออกหมายเรียกซ้ำอีกที โดยกำหนดให้มาวันที่ 14 ก.ย.นี้ เวลาบ่ายโมง ให้มาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เลย”
"ธานี" ฟิตจัดเรียกประชุมคลี่คลายคดีลอบยิงสนธิ
พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. ในฐานะ รรท.ผบ.ตร. ได้เรียกรองผบ.ตร. ,จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) และตำแหน่งเทียบเท่า ประชุมภายหลังเข้ารับตำแหน่ง รรท.ผบ.ตร. โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 30 นาที พล.ต.อ.ธานี กล่าวภายหลังการประชุมว่า ได้เชิญรองผบ.ตร. จตช. และตำแหน่งเทียบเท่า เข้าประชุม ตนไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ได้แจ้งว่าให้ทุกท่านทำงานไปตามปกติ ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีคำสั่งเปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีปิดล้อมสนามบิน จากพล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร. เป็นพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผช.ผบ.ตร. ก็ให้เป็นไปตามนั้น คำสั่งที่ผบ.ตร.ลงนามไว้ ก็จะถูกแจกจ่ายไปยังผู้ปฎิบัติ ในการทำคดีก็ให้อำนาจหัวหน้าพนักงานสอบสวนไปดำเนินการได้เต็มที่
พล.ต.อ.ธานี กล่าวถึงคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพธม. ก็คืบหน้าไปทุกๆด้าน และเวลา 14.00 น.วันนี้ก็จะเรียกประชุมติดตามความคืบหน้าจากคณะทำงาน ซึ่งก็จะมารายงานในสิ่งที่ตนได้สั่งการไป
เมื่อถามว่ากดดันหรือไม่ เพราะเหลือเวลาเพียง 19 วันก็จะเกษียณอายุราชการ พล.ต.อ.ธานี กล่าวว่า ไม่ได้กดดันอะไร มีหน้าที่ก็ทำไป เมื่อวานที่ไปพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่บอกว่า ให้ปฎิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สิ่งที่ท่านเป็นห่วงคือความมั่นคง การชุมนุมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น