Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Friday, September 11, 2009

เปลว สีเงิน | เครื่องมือดูข่าวในคราว"กรรมเช็กบิล"

เครื่องมือดูข่าวในคราว"กรรมเช็กบิล" | ไทยโพสต์
มีคำอยู่คำน่าสนใจคือ "สิ่งที่เห็น-หาใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป" และ "สิ่งที่เป็น-ก็หาใช่สิ่งที่เห็นเสมอไป" ฉะนั้น ทุกข่าวสาร และทุกเหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นตอนนี้ เราต้องตั้ง "สติ" ให้ดีในการรับรู้-รับฟัง อย่าเชื่อทันทีที่ได้ยิน อย่าทึกทักว่าใช่ทันทีที่ได้เห็น ต้องใช้สติกรอง เมื่อกรองแล้วก็ต้องนำมาใช้ปัญญาร่อนอีกทีค่อยสรุป ในรอบของ "กรรมเช็กบิล" นี้ ผมอยากจะบอกว่าในแต่ละบท ในแต่ละตอนของเรื่องราว ถ้าเราใช้สติและปัญญาเป็นเครื่องมือในการรับรู้-รับฟังให้มากเข้าไว้

แล้วเราจะต้องบอกกับตัวเองว่า หนังท้ายม้วน...ม่วนจริงๆ ให้ดิ้นตาย!

พระท่านบอกว่า "กัมมัง สัตเต วิภัชชะติ ยะทิทัง หีนัปปะณีตัตตายะ" กรรมย่อมจำแนกสัตว์โลกให้แตกต่างกัน คือเลวทรามหรือประณีต ณ ขณะนี้ และต่อจากนี้ไป จะเป็นอย่างนี้จริงๆ ยึดพุทธภาษิตนี้เป็นแกนในการรับรู้-รับเห็นเรื่องราวไว้ จะได้ไม่หลงทิศ-หลงทาง

อย่างเมื่อวาน ที่พวก "เฒ่าทารก" ออกมาต่อต้านการทำงานของ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ในคดี ๗ ตุลา ถึงขั้นประณามหยาบช้าว่าเป็น "องค์กรเถื่อน" ตำรวจจะรวมตัวประท้วงด้วยการ "หยุดปฏิบัติหน้าที่" นั้น พูดอย่างอื่นก็ไม่เหมาะเท่ายกพุทธภาษิตให้มาตรองกันเอง

กรรม-คือการกระทำเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ว่าเลวหรือดีนั่นแหละครับ!

นี่กรรมก็จำแนกแยกสัตว์ดี-สัตว์เลวให้เห็นแล้ว สังคมก็ได้รู้ชัดไปแล้วจากการแสดงตัวของพวกเขาเองว่า ไหน..ตำรวจแดง ไหน..ตำรวจกากี?

ฉะนั้น ท่านเห็นแล้ว-ฟังแล้ว-ตรองแล้ว ก็ปล่อยผ่านไป อย่าเก็บมาเป็นอารมณ์เลยครับ พวกเฒ่าทารกก็เป็นอย่างนี้ แก่หนักๆ เข้าก็จะกลับมาเหมือนทารกอีกครั้ง ซักวันอาจเชิญนักข่าวมา พวกเขาก็นัดกันมานั่งเรียงแถวแล้วเอาอุจจาระตักใส่จานแบ่งกันกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วบอกว่า...มากินโต๊ะแชร์โชว์!

เป็นผู้ใหญ่ที่ฝากดีไว้กับชาติไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมาแสดงบทผู้ร้ายให้ลูกหลานเอาไปบ่น "เสียคนตอนแก่" กันเลย!

เมื่อวาน (๑๐ ก.ย.๕๒) ศาลอาญา อันเป็นศาลชั้นต้น ท่านตัดสินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล หมิ่นประมาท ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ด้วยโทษจำคุก ๒ ปี โดยไม่มีการรอลงอาญา แต่ท่านอนุญาตให้นายสนธิได้รับการประกันตัวออกไปในระหว่างอุทธรณ์

นี่ก็เป็นไปตามกฎ "ทำกรรมใดไว้ ก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น" เมื่อศาลสถิตยุติธรรมตัดสินเช่นนั้น นายสนธิก็ยอมรับผลของกรรมโดยดี และต่อสู้ทางกฎหมายต่อไปตามกรอบ-ตามกระบวนการที่มีอยู่ ผิดกับทักษิณ ชินวัตร พอตัวเองถูกลงโทษก็โวยวาย อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้างละ ศาลมีธงตัดสินบ้างละ ศาลสถิตไม่ยุติธรรมบ้างละ

แล้วนึกหรือว่า ที่หนีโทษไปนั้น ตัวเองจะพ้นโทษ-พ้นกฎแห่งกรรมไปได้!?

ทุกคนเห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่าศาลของเราตัดสินอรรถคดีด้วยความเป็นธรรม ไม่เข้าใคร-ออกใคร ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกอันธพาลทักษิณจ้วงจาบหยาบช้า และทุกฝ่ายก็จงเข้าใจไว้ด้วยเถอะว่า ไม่ว่าใคร-ฝ่ายไหน ไม่ว่าจะเล็ก หรือจะใหญ่ ผิด-เข้าคุก, ไม่ผิด-ปล่อยตัว, มั่นใจได้ในดุลยธรรมตุลาการของเรา!

กลไกกฎหมายทำงานแล้ว พวกที่หวังใช้กฎหมู่ล้างกฎหมาย หรือหวังใช้อำนาจคน-อำนาจเงินเหนือกฎหมาย ไม่ว่านักการเมือง นักป่วนเมือง ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ชาวบ้าน กระทั่งสื่ออย่างผม โปรดสังวรและสำเหนียกกันไว้!

ระยะนี้มีหลายเรื่อง-หลายคดีที่ศาลตัดสินจะทยอยออกมา และนั่นก็หนีไม่พ้นที่มีการ "ปล่อยข่าว" ว่าคนนั้น-คนนี้วิ่งเต้น จะติด-จะหลุดไปต่างๆ นานา ผมเองยังพลอยฟ้าพลอยฝน ถูกคนโทร.มาถามในทำนองว่า "จริงมั้ย เขาว่า......?" อยู่เป็นประจำ

จะถามเพราะอยากทราบจริงๆ หรือจะถามด้วยเจตนา "ปล่อยข่าวต่อ" ผมก็ไม่ทราบได้ ฉะนั้น ช่วงนี้จะมีข่าวปล่อย และข่าวเมาธ์ที่ฮิตติดชาร์ตอยู่ ๒ เรื่อง

๑.เขาว่า "เนวิน" จะหลุด เพราะวิ่งสุดฤทธิ์ จริงมั้ย?

๒.เขาว่า......ดัน พล.ต.อ.จุมพล จริงมั้ย เลยตั้ง ผบ.ตร.ไม่ได้ถึงเดี๋ยวนี้?

นี่พูดกันตรงๆ ทั้ง ๒ เรื่องนั้น ใครจะไปตรัสรู้ได้ล่ะ และในแต่ละข้อที่ถาม มีการขยายความนำเป็นคุ้ง-เป็นแคว ซึ่งไม่สามารถนำมาพูดได้ตรงนี้ ผมฟังแล้วก็มึน ไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นฐานยึดในการเชื่อ-ไม่เชื่อ และในการวินิจฉัยเรื่องราว อย่างเรื่องเนวิน เขาหมายถึงคดีกล้ายาง ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองนัดฟังคำตัดสินในวันที่ ๒๑ กันยานี้

ผมตอบไม่ได้หรอกครับว่า จะหลุด หรือไม่หลุด พระท่านว่า "สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง" คือผิดหรือถูกเจ้าตัวนั่นแหละรู้ดี ส่วนศาลท่านเพียงทำหน้าที่ชี้ขาด-วินิจฉัยไปตามพยาน-หลักฐานที่มีอยู่ในกระบวนการพิจารณาความเท่านั้น เรื่องวิ่งเต้น หรือไม่วิ่งเต้น ก็ใครล่ะจะไปรู้ดีเท่าเจ้าตัวเขาเอง

ส่วนจะติดหรือไม่ติด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมอย่างใดไว้ ก็ต้องรับผลของกรรมนั้น ปลูกข้าว-ได้ข้าว, ปลูกถั่ว-ได้ถั่ว, ทำชั่ว-เข้าคุก และต้องไม่ลืมที่ผมย้ำตลอดในระยะนี้ว่า ณ ขณะนี้ เข้าสู่เทศกาล

"กรรมเช็กบิล" แล้ว!

ถ้าพูดตามภาษาโหร ท่านว่า ในวันตัดสินเกณฑ์ชะตา "บางคน" เข้าเขตแดนประสิทธิภาพ "เสาร์ทับลัคนา" พอดี!?

สนธิยังหนาวได้ แล้วทำไมบางคนจะหนาวไม่ได้ จริงไหม แต่คนที่หนาวหนักในช่วง "เสาร์ทับลัคนา" นี้ ไม่ได้อยู่ในเมืองไทย เป็นสัมภเวสีร่อนเร่อยู่ในต่างบ้าน-ต่างเมือง

ส่วนข่าวปล่อยที่ ๒ ว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นเด็กของคนนี้ ส่วน พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย เป็นเด็กของคนโน้น นายกฯ อภิสิทธิ์เปรียบเหมือนคนขับรถที่ "คุณผู้หญิงให้เลี้ยวซ้าย คุณผู้ชายให้เลี้ยวขวา ไม่รู้จะเอาใจใคร...ก็เลยเก้ๆ กังๆ อยู่ในทางสองแพร่ง" นั้น ก็ปล่อยข่าวกันไป เพราะรู้อยู่ว่า ปล่อยแล้วใครก็ไม่สามารถไปถามจากต้นตอได้ว่า "จริงไหม?"

ผมเคยทำตัวเป็นเซียนว่า โหงวเฮ้ง พล.ต.อ.จุมพลเหนือกว่า พล.ต.อ.ปทีปแค่ขนจมูก แต่สงสัย พล.ต.อ.จุมพลคงเผลอไปให้ช่างตัดผมที่ดูไบเล็มขนจมูกทิ้งไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะตอนนี้ดู "ต้นจัด-ปลายแผ่ว" เห็นได้ชัด

ตรงข้ามกับ พล.ต.อ.ปทีป ยังครบเครื่อง "ต้นจัด ปลายแรง เด็กขี่แข็ง" แถม "ม้าน้ำ" อีกตะหาก คือยิ่งเจอฝน เจอพายุ นอกจากนิ่งคุมทางแล้ว ยังวิ่งคึกกว่าเดิม ยิ่งดูทางคนขี่ คือ "นายกฯ อภิสิทธิ์" ถึง ณ วันนี้ นอกจากไม่ว่อกแว่กเสียงพี่เลี้ยง เทรนเนอร์แก๊ง ส.น.น."สุเทพ-นิพนธ์-เสี่ยหนู" ที่สั่งให้บี้ ให้คลึง ให้ดึง ให้ควบ ขนาดไหน หรืออย่างไร

ก็ไม่สนใจ ควบม้าปทีปเตรียมเข้าป้าย "แบเบอร์" ชนิด วินเปย์ใบละ ๙ บาท!!

ครับ..ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรมท่านเช็กบิลไป ส่วนผมขอทำหน้าที่ "เช็กบิล" ในการซ่อม-สร้างโบสถ์หลวงพ่อตามใจ วัดพญาไม้ ราชบุรี ต่อไปให้จบ....


Label Cloud