Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Friday, June 5, 2009

ความลับรถเมล์ 4 พันคัน - ลม เปลี่ยนทิศ

[คอลัมน์]ความลับรถเมล์ 4 พันคัน

ไทยรัฐออนไลน์ โดย ลม เปลี่ยนทิศ
28 พฤษภาคม 2552, 05:00 น.

เรียกว่ารู้แกวดี ทันทีที่มี เสียงทักท้วง จาก คณะที่ปรึกษานายก-รัฐมนตรี เรื่องโครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน และโครงการขายข้าว ข้าวโพดในราคาขาดทุนย่อยยับ นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.ก็เหยียบดิสเบรกทันที ไม่ส่งเรื่องเช่ารถเมล์ 4 พันคัน กลับเข้า ครม.ใหม่เมื่อวันอังคาร

ทั้งๆที่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีคมนาคม แถลงข่าวล่วงหน้าว่าจะเสนอเข้า ครม.อีกครั้ง หลังจากที่ยอมลดดอกเบี้ยให้ 1 เปอร์เซ็นต์

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขอปรึกษาหารือกับ ที่ปรึกษานายกฯทั้ง 5 ท่าน และทีมที่ปรึกษา ขอให้นายกฯยึดหลักความถูกต้อง และ ประโยชน์ของประชาชน ในการบริหารประเทศ โครงการอะไรที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง หรืออนุมัติไปแล้วจะมีเรื่องทุจริตคอรัปชันตามมา ก็ไม่ควรยอม
คำปรึกษาอย่างนี้ ผมขอปรบมือให้ด้วยความชื่นชม

การเป็นผู้นำบริหารประเทศต้องยึดความถูกต้อง ผลประโยชน์ของชาติและผลประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก ไม่ใช่ยึดการเมืองนํ้าเน่าเป็นหลัก อย่างที่บางกลุ่มบางคนแนะนำ ให้ยอมปล่อยผ่านโครงการที่ไม่โปร่งใส ส่อไปในทางไม่ชอบ เพื่อประนีประนอมทางการเมือง

อย่างเรื่อง การเช่ารถเมล์ 4 พันคัน 10 ปี ค่าเช่า 69,788 ล้านบาท หากปล่อยผ่านออกไปตามที่เสนอ มันอาจจะกลายเป็น "โครงการโคตรโกง" ที่เป็น "รอยด่าง" ของ พรรคประชาธิปัตย์ ไปตลอดชีวิตก็ได้ ถ้าไม่ทบทวนให้รอบคอบ

ยิ่งได้ฟัง นายโสภณ ซารัมย์ นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยคมนาคม เอาตัวเลขต่างๆมาแจกแจงนักข่าวแล้ว ก็ยิ่งเห็น "ตัวเลขซ่อนเร้น" ที่ไม่เคยเปิดมาก่อนจนน่าตกใจ

ไม่เพียง ค่าดอกเบี้ย ที่คิดแพงกว่าตลาดถึง 3.15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เพิ่งมาเปิดเผยเมื่อบอกว่าจะลดดอกเบี้ยให้ 1 เปอร์เซ็นต์ และเรื่องรถเมล์เช่าทุกคันต้อง เปลี่ยนเครื่องยนต์ เมื่อวิ่งครบ 4 แสนกิโลเมตร โดยใช้ซากเก่าสวมใส่เครื่องยนต์ใหม่ แต่ยังคิดค่าเช่าในราคารถใหม่เหมือนเดิม

ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีคมนาคม ก็ออกมาเปิดเผย "ความลับอีกเรื่อง" ของ "รถเมล์ 4 พันคัน" โดยไม่รู้ตัวว่า

ค่าเช่ารถเมล์ 4 พันคันที่เขาลดราคาให้ ครม.พันกว่าล้านบาท จากราคาเต็ม 69,788 ล้านบาท เหลือ 67,992 ล้านบาทนั้น จะเก็บค่าโดยสาร 30 บาทต่อคนต่อวัน มีรายได้คันละ 11,000 บาทต่อวัน จากผู้โดยสาร 300 คนต่อวันต่อคัน ตลอดการเช่า 10 ปี ขสมก.จะมีรายได้มากกว่า 100,000 ล้านบาท

ผมมาติดใจตรงที่ รายได้ 11,000 บาทต่อคันต่อวัน เป็นรายได้

ที่สูงมากทีเดียว เมื่อเทียบกับ ค่าเช่ารถเมล์ 4,780 บาทต่อคันต่อวัน หมายความว่า ขสมก.จะมีกำไร 6,220 บาทต่อคันต่อวัน กำไรถึง 130 เปอร์เซ็นต์ เป็น "เสือนอนกิน" ที่ฟันกำไรโหดยิ่งกว่าพ่อค้าหน้าเลือดที่ค้ากำไรเกินควรเสียอีก

ผมลองเอาตัวเลขกำไรต่อคันต่อวันมาคำนวณดู กำไร 6,220 บาทต่อคันต่อวัน ปีละ 365 วัน ก็ฟันกำไรไป 2,270,300 บาทต่อคันต่อปี เช่า 10 ปี ก็เอา 10 คูณ ฟันกำไรไปเหนาะๆคันละ 22,703,000 บาท นี่ยังไม่รวมค่าเช่ารถเมล์อีกคันละ 1,744,700 บาทต่อปี หรือคันละ 17,447,000 บาทต่อการเช่า 10 ปี
ถ้าเอารถเมล์ 4,000 คันคูณเข้าไป โอ้ พระเจ้าจอร์จ ขสมก.ฟันกำไรไปเบ็ดเสร็จ 10 ปี เป็นเงิน 90,812 ล้านบาท นี่ยังไม่รวม ค่าเช่าที่โคตรแพงอีก 67,992 ล้านบาท เบ็ดเสร็จโครงการนี้คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 158,804 ล้านบาท ไม่ใช่ 67,992 ล้านบาท อย่างที่เราเข้าใจกันเบื้องต้น

เงินค่าเช่าและกำไรก้อนโต 158,804 ล้านบาทนี้ "คนกรุงตาดำๆ" ที่ยากจนไม่มีรถส่วนตัวจะต้องเป็น "ผู้รับภาระจ่ายทั้งหมด" ผ่าน "ค่าโดยสารรถเมล์" ที่ ขสมก.จะเก็บจากประชาชน รู้ตัวกันหรือยังจ๊ะ.

"ลม เปลี่ยนทิศ"

Label Cloud