ย้อนเวลา
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ [http://www.thannews.th.com]
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ [http://www.thannews.th.com]
"สมัคร" เปิดทางให้ ขสมก. ฟื้นฟูกิจการ สั่งเร่งจัดหารถเมล์ NGV 6,000 คันวิ่งให้บริการแทนรถเมล์ใช้น้ำมันดีเซล ด้านคมนาคมเตรียมชงฝเรื่องเข้า ครม. อนุมัติแผน 10 มิ.ย.นี้ "สันติ" คาด มี.ค.2552 ได้ใช้ล็อตแรก 3,000 คัน จากนั้นอีก 4 เดือนจะได้ใช้ครบทั้งหมด 6,000 คัน เตรียมใช้ตั๋ว E-ticket เก็บค่าโดยสารราคาถูก เริ่มต้นที่ 15 บาท เชื่อปี 2553 เริ่มมีกำไร หลังดึงช่วยรับภาระดอกเบี้ยกว่า 2,000 ล้าน/ปี แทน พร้อมหามาตรการเยียวยารถร่วมเอกชนด้วย
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการพัฒนาระบบขนส่งทางรางและระบบขนส่งมวลชน ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แล้ว โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ ให้ ขสมก.จัดหารถที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 6,000 คัน ด้วยวิธีการเช่า ซึ่งจากนี้ไป ขสมก.ต้องไปดำเนินการตามระเบียบพัสดุ
ทั้งนี้ คาดว่าการเปิดประมูลเช่ารถเมล์ NGV จะเสร็จสิ้นและ ได้เอกชนผู้ให้เช่าประมาณเดือนกันยายนนี้ จากนั้นอีก 6 เดือน ขสมก.จะได้รับมอบรถส่วนแรก จำนวน 3,000 คัน หลังจากนั้นอีกประมาณ 4 เดือน จะได้รับมอบรถส่วนที่เหลืออีก 3,000 คัน ซึ่งรถเมล์ NGV ที่ขสมก. เช่าใหม่นี้จะติดระบบตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-ticket
โดยระบบตั๋วโดยสารอิเล็กทรอนิกส์นั้น จะมีทั้งแบบรายวัน ซึ่งจะคิดราคาเริ่มต้นสำหรับการเดินทางเที่ยวเดียว 15 บาท แต่ถ้ามากว่า 1 เที่ยวต่อวัน จะจ่ายค่าโดยสารในราคาแค่ 30 บาท ส่วนรายสัปดาห์ จะคิดค่าโดยสารในราคา 150 บาท ขณะที่รายเดือนจะคิดค่าโดยสารในราคา 900 บาท ส่วนผู้พิการและคนชราจะได้รับส่วนลด 50% ขณะเดียวกันก็จะมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักเรียน-นักศึกษาด้วย โดยคาดว่าหาก ขสมก. ดำเนินการได้ตามแผนที่กล่าวมาข้างต้น ขสมก.จะเริ่มมีกำไรประมาณ 500 ล้านบาทได้ภายในปี 2553
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวต่ออีกว่า สำหรับภาระหนี้ ที่ ขสมก. มีอยู่ 69,000 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการ มีมติว่าให้พักการชำระหนี้ไว้ก่อน โดยจะให้กระทรวงการคลังรับภาระดอกเบี้ยปีละกว่า 2,000 ล้านบาทแทน ขสมก. เพราะถือว่าภาระหนี้นี้เกิดจากการที่ ขสมก.ตรึงค่าโดยสารไว้ เพื่อลดผลกระทบให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม จะเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 มิถุนายนนี้"ประมาณเดือนมีนาคมปีหน้าเราจะมีรถเมล์ NGV ให้บริการล็อตแรก 3,000 คัน โดยแผนนี้รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือให้งบประมาณแก่ ขสมก. เลย เพราะเขาจะใช้รายได้ของตัวเองมาจ่ายค่าเช่า ซึ่งเราประเมินไว้ว่า ขสมก.จะเริ่มมีกำไรในปี 2553 ประมาณ 500 ล้านบาท ก็จะแบ่งตรงนี้มาจ่ายค่าเช่ารถ และชำระหนี้อีกกว่า 69,000 ล้านบาท ซึ่งภาระหนี้จะลดลงเรื่อยๆ ทุกปี เนื่องจากกระทรวงการคลังจะรับภาระดอกเบี้ยให้" นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากได้รับรถใหม่ 6,000 คันแล้ว ขสมก.จะนำรถเก่ามาเปิดประมูล โดยให้สิทธิ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก่อน เพื่อนำรถไปใช้ประโยชน์ เช่น รับ-ส่งนักเรียน จากนั้นจึงจะให้สิทธิ์เอกชนทั่วไปเข้าประมูลแข่งขัน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
สำหรับรถร่วมบริการ ขสมก.นั้น จะไม่มีการยกเลิกสัญญาสัมปทานโดยเด็ดขาด แต่จะใช้วิธีเยียวยาผู้ประกอบการ โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคม กำลังประสานกับกระทรวงพลังงาน เพื่อขอเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานประมาณ 9,000 ล้านบาท มาให้เอกชนกู้ยืม เพื่อใช้ปรับปรุงคุณภาพรถ โดยรัฐจะไม่บังคับว่าต้องปรับเป็นรถ NGV หรือ ต้องใช้ระบบ E-ticket แต่จะให้ดำเนิน การด้วยความสมัครใจ
"เราต้องดูแลคนทุกระดับในสังคม อย่างรถร่วมบริการเราถือว่า เขามีส่วนช่วยเหลือสังคมมากเช่นกัน และก็ต้องเข้าใจว่าการประกอบกิจการ ต้องมีรายได้มีกำไร การที่เขามาขอขึ้นค่าโดยสารถือเป็นเรื่องจำเป็นมีเหตุมีผล เพราะราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นมาก และเขามีภาระหนี้ มีครอบครัวต้องเลี้ยงดู อีกอย่างถ้าหากไปยึดสัมปทานคืนหมด เดี๋ยวขสมก.จะได้ใจ เราจึงคิดว่าใช้วิธีเยียวยารถร่วมบริการเพื่อให้เขามาเดินรถแข่งกับขสมก.จะดีกว่า" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว