Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Sunday, September 27, 2009

เทียบ 2 หัวข่าว - ไทม์ชี้"มาร์ค" แค่ภาพลักษณ์ดี ปลอดโกง แก้วิกฤตไม่ได้ ระบุมะกันวิตกสถานการณ์การเมือง ให้เงินฟื้นปชต.

สองหัว สองขั้ว ใคร"กลาง"กว่า?
 

"ไทม์" เปรียบอภิสิทธิ์ "คนที่อยู่ตรงกลาง" ประสานความขัดแย้ง-ฟื้นฟูเสถียรภาพ
Suthichaiyoon.com
อ่านต่อด้านล่าง...


ไทม์ชี้ "มาร์ค" แค่ภาพลักษณ์ดี ปลอดโกง แก้วิกฤตไม่ได้ ระบุมะกันวิตกสถานการณ์การเมือง ให้เงินฟื้นปชต.
Matichon Online
นิตยสารไทม์แพร่บทความ เปรียบ "มาร์ค" สะพานเชื่อม 2 ขั้ว ฟื้นฟูความเชื่อมั่นประชาธิปไตย บอกแค่ภาพลักษณ์ดี ปลอดคอร์รัปชั่นแก้วิกฤตไม่ได้ อ้างสหรัฐเป็นกังวลสถานการณ์ ให้เงินฟื้นปชต.ที่ไม่เคยเกิดในรอบ 15 ปี

"ไทม์"ระบุ"มาร์ค"พยายามฟื้นฟูปชต.

เมื่อวันที่ 26 กันยายน รายงานข่าวแจ้งว่า นิตยสารไทม์ รายสัปดาห์ของสหรัฐอเมริกา ฉบับตีพิมพ์วันที่ล่วงหน้าวันที่ 5 ตุลาคม เผยแพร่บทความของฮันนาห์ บีช ผู้สื่อข่าวประจำประเทศไทย ที่เข้าพบสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก่อนหน้าที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และร่วมสังเกตการณ์การประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี 20 ในฐานะประธานอาเซียน โดยผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีวัย 45 ปีของไทยดูสบายๆ กับการทำหน้าที่เชิงการทูตระหว่างประเทศ มากกว่าการต้องเผชิญหน้ากับหลากหลายประเด็นทางการเมืองโดยเฉพาะความขัดแย้งรุนแรงในประเทศ

ฮันนาห์ บีช ระบุว่า ความแตกแยกขัดแย้งทางการเมืองในไทยไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวนายกรัฐมนตรี ตรงกันข้ามนายอภิสิทธิ์กลับพยายามอย่างมากที่จะฟื้นฟูสถาบันประชาธิปไตยที่เสื่อมถอยลงอย่างมากจากความแตกแยกในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และอ้างความเห็นของสุนัย ผาสุก ตัวแทนองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทยไว้ว่า นายกฯคนนี้เป็นนายกฯจากการเลือกตั้งคนแรกที่ประกาศจะใช้สิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมนำหน้าในการบริหารของรัฐบาลเพื่อสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติขึ้น...>>

อ่านจาก Time ต้นฉบับ "Man in the Middle"

"ไทม์" เปรียบอภิสิทธิ์ "คนที่อยู่ตรงกลาง" ประสานความขัดแย้ง-ฟื้นฟูเสถียรภาพ
Suthichaiyoon.com

บทสัมภาษณ์ "อภิสิทธิ์" ในนิตยสารไทม์ ได้เปรียบเทียบให้เป็นเสมือน "คนที่อยู่ตรงกลาง" รับบทเป็นทั้งผู้ประสานความขัดแย้ง และฟื้นฟูเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นของประเทศ ระบุสหรัฐยังห่วงปัญหาการเมืองไทย หวั่นระบอบประชาธิปไตยไทยสะดุด


นิตย สารไทม์ฉบับรายสัปดาห์ตีพิมพ์วันที่ 5 ต.ค.2552 ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยฮันนาห์ บีช ผู้สื่อข่าวของไทม์ ประจำประเทศไทย ก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ และร่วมสังเกตการณ์การประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือจี-20 ในฐานะประธานอาเซียน ที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีวัย 45 ปีของไทยยังคงมีท่าทีสบายๆ กับการปฏิบัติภารกิจที่เน้นหนักไปในการทำหน้าที่เชิงการทูตระหว่างประเทศ มากกว่าการเผชิญหน้ากับหลากหลายประเด็นร้อนทางการเมือง โดยเฉพาะความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในประเทศ
       และไม่ต้องสงสัยเลยว่า ในการกล่าวสุนทรพจน์ในเวทีโลก เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ก.ย. นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งคาดว่าจะหยิบยกประเด็นต่างๆ ขึ้นมาพูด ตั้งแต่เรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ไปจนถึงการสร้างแรงจูงใจเพื่อกระตุ้นการลงทุนของต่างชาติในไทย จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากผู้เข้าร่วมประชุม
      บทความชิ้นนี้ของฮันนาห์ บีช ระบุว่า แม้นายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ของไทย จะเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก แต่เขาก็กำลังถูกท้าทายจากกลุ่มต่อต้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่ารัฐบาลของเขาที่เต็มไปด้วยนักวิชาการจำนวนมากจะมั่นใจว่าดำเนินนโยบาย มาถูกทาง และอ้างผลงานว่าทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศสดใสขึ้น
       โดยก่อนหน้าที่นายอภิสิทธิ์จะออกเดินทางไปร่วมประชุมที่ยูเอ็นได้เพียง 2 วัน กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 2 หมื่นคน ก็ร่วมชุมนุมแสดงพลังในโอกาสครบรอบปีที่ 3 ของการก่อรัฐประหารโค่นอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และในวันเดียวกันนี้ กลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งให้การช่วยเหลือเพื่อปูทางให้นายอภิสิทธิ์ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศ ก็ปะทะกับชาวบ้านบริเวณใกล้ชายแดนกัมพูชา 
       ส่วนสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กลุ่มแบ่งแยกดินแดน ยังคงก่อความไม่สงบในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เฉพาะในเดือน ก.ย.เพียงเดือนเดียว ได้เกิดเหตุรุนแรง โดยฝีมือกลุ่มแบ่งแยกดินแดนไปแล้วกว่า 10 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 350 ราย และคาดว่า หากการก่อความไม่สงบยังคงดำเนินต่อไป ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงกว่าปีที่แล้ว
       ฮันนาห์ บีช มองว่า ความแตกแยกขัดแย้งทางการเมืองในไทย ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวนายกรัฐมนตรี ตรงกันข้ามนายอภิสิทธิ์กลับพยายามอย่างมาก ที่จะฟื้นฟูสถาบันประชาธิปไตยที่เสื่อมถอยลงอย่างมากจากความแตกแยกในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา 
       พร้อมทั้งอ้างความเห็นของนายสุนัย ผาสุก ตัวแทนองค์กรฮิวแมนไรท์ส วอทช์ ประจำประเทศไทย ที่เคยกล่าวไว้ว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งคนแรก ที่ประกาศจะใช้สิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมนำหน้าในการบริหารของรัฐบาล เพื่อสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติขึ้น แต่ก็ไม่มีอำนาจพอที่จะขับเคลื่อนรัฐบาลผสม ให้แปรคำพูดเป็นการกระทำจริงๆ ได้ ซึ่งในส่วนนี้ นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธ โดยระบุว่า ทุกอย่างยังคงเดินหน้าไปเรื่อยๆ เพียงแต่จำเป็นต้องให้แน่ใจว่า คนกลุ่มน้อยที่โน้มเอียงไปในทางใช้ความรุนแรงและก่อเหตุวุ่นวาย จะไม่สามารถสร้างความยากลำบากให้เกิดขึ้นกับประเทศได้อีกเท่านั้น
       ผู้สื่อข่าวจากนิตยสารไทม์ ระบุด้วยว่า สถานการณ์ทางการเมืองในไทยยังอยู่ในสภาพน่าวิตก ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นมักนำไปสู่การต่อสู้ระหว่างกลุ่มและแบ่ง แยกเป็นฝักเป็นฝ่าย ซึ่งส่งผลให้การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศเมื่อไม่นานมานี้มีคน ไทยเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เห็นว่า ประเทศกำลังเดินไปถูกทาง
       "ตามความเป็นจริงแล้ว สหรัฐกำลังวิตกกังวลกับสถานการณ์การเมืองในไทยมาก ถึงขนาดตัดสินใจมอบเงินทุนจำนวนหนึ่งให้กับสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่าง ประเทศของสหรัฐอเมริกา (ยูเสด) เพื่อดำเนินการสร้างประชาธิปไตยขึ้นในไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมายาวนานเกือบ 15 ปีแล้ว" ฮันนาห์ บีช ระบุในบทความชิ้นนี้
       บทความของไทม์ชิ้นนี้ ยังได้เปรียบเปรยนายกรัฐมนตรีของไทยว่าเป็นเหมือน "คนที่อยู่ตรงกลาง" ที่นอกจากจะต้องพยายามทำตัวเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคน 2 กลุ่มแล้ว ยังต้องทำหน้าที่ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่เสื่อมถอยไปให้ กลับคืนมาอีกครั้ง แต่การเป็นผู้นำที่มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นนักการเมืองมือสะอาด มีความรู้ ตั้งใจจริงในการทำงาน และไม่คอร์รัปชันเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะทำให้การแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศลุล่วงไปได้  เพราะการแก้ปัญหาต้องเริ่มตั้งแต่ภายในรัฐบาลผสมด้วยกันเองเสียก่อน
       ในบทความชิ้นนี้ นายอภิสิทธิ์ยอมรับกับผู้สื่อข่าวของนิตยสารไทม์ตรงๆ ว่า ประเทศไทยและรัฐบาลกำลังเผชิญภาวะยากลำบากอย่างมาก แต่ผู้เขียนบทความชิ้นนี้ก็กล่าวว่า ไทยก็ไม่ได้มีผู้นำทางการเมืองที่มีศักยภาพมากมายเพียงพอที่จะทำอะไรๆ ได้ดีกว่าที่ตัวเขากำลังดำเนินการ
       "เรารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราต้องให้แน่ใจว่าสามารถสถาปนาเสาหลักซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ให้เข้าที่เข้าทางได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง กับสิ่งที่มองกันว่า ประชาธิปไตย คือการปกครองโดยเสียงส่วนใหญ่ เราต้องหาจุดสมดุลที่ลงตัวให้ได้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว 



ศึกทวิตเตอร์“แม้ว”โต้เดือดคู่เหมือน“มาร์ค”

Daily News Online > ศึกทวิตเตอร์“แม้ว”โต้เดือดคู่เหมือน“มาร์ค”
(25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ตอบโต้กับบุคคลซึ่งใช้ชื่อ ภายใต้ชื่อ “Prn_Abhisit“ อย่างดุเดือด โดยเริ่มจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า “วันนี้ทราบว่า นสพ.ผู้จัดการ ตัดต่อภาพผมหลอกลวงคนไทย” ต่อมาบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาโพสต์ตอบโต้ว่า “ก็เหมือนคลิปเสียงตัดต่อที่ต้องบอกมาว่า ภาพจริงอยู่ไหน และเหมือนที่ฝ่ายค้านพูดเรื่องตัดต่อคลิป คือ เป็นภาพจริงทั้งหมด แต่คนใกล้ตัวท่านตัดต่อให้กระชับเป็นภาพเดียวกันใช่ไหม? ทั้งนี้ หลังตอบโต้ได้สักพัก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บล็อกบุคคลดังกล่าวออกจากกลุ่มสมาชิก แต่บุคคลดังกล่าวยังพยายามโพสต์ข้อความทิ้งท้าย อาทิ “คุณมาชวนผมคุยเองนะครับ เป็นถึงอดีตนายกฯ จะขี้ขลาดหนีไปเฉย ๆ แบบนี้หรือครับ? คุณอ่อนกว่าที่ผมคิดเยอะ แบบนี้ไม่ต้องคุยว่า จะมากอบกู้เศรษฐกิจ แค่ตัวเองก็เอาไม่รอดแล้ว น่าเวทนาจริง ๆ ครับ!...>>


Label Cloud