Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Tuesday, July 28, 2009

แดงโห่ไล่'มาร์ค'ที่พัทยา ตร.สกัดอยู่หมัด

Daily News Online > แดงโห่ไล่'มาร์ค'ที่พัทยา ตร.สกัดอยู่หมัด
วันนี้(28 ก.ค.) ที่โรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. เดินทางมา สภ.เมืองพัทยา เพื่อฟังบรรยายการสรุปการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาร่วมรับประทานค่ำกับนักธุรกิจจีน ซึ่งบก.ตร. ภ.ชลบุรี ได้เตรียมแผนการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีอย่างเข้มงวด โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 600 นาย สารวัตรทหารจากมทบ.14 ชลบุรี อีก 150 นาย

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่ลานประชาธิปไตย ซอยเพ็ชรตระกูล ย่านพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นางชุลีพร สินธุไพร ประธานชมรมคนรักประชาธิปไตยเมืองพัทยา ได้นำมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 500 คน เดินขบวนไปยื่นหนังสือให้กับตัวแทนนักธุรกิจชาวจีน ณ บริเวณวงเวียนปลาโลมา หน้าโรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า ชมรมคนรักประชาธิปไตยเมืองพัทยา (คนเสื้อแดง) ยังคงให้การสนับสนุนการร่วมประชุมสัมมนาและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจีน ที่ออกมาแสดงเจตจำนงให้ทุกฝ่ายรับทราบว่าคนเสื้อแดงว่า ไม่ได้กีดกั้นการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจชาวจีน หรือชาวต่างชาติอื่นแต่อย่างใด แต่ขอเรียนให้ทราบว่า รัฐบาลที่ท่านร่วมลงทุนด้วยนี้ เป็นรัฐบาลที่มาโดยไม่ชอบธรรมตามแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จึงได้รวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมกลับคืนมา

ภายหลังนายหวัง ชิง เคอ เลขานุการสมาคมนักธุรกิจชาวจีน พร้อมล่ามชาวจีน ได้เดินออกมาจากโรงแรมดุสิตธานี พัทยา เพื่อมารับหนังสือจากแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกลุ่มคนเสื้อแดงได้ยื่นหนังสือต่อตัวแทนสมาคมนักธุรกิจชาวจีนแล้วต่างพากันพอใจ และกำลังจะยกขบวนกลับ แต่ระหว่างนั้นมีขบวนรถของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่โรงแรมซึ่งเป็นสถานที่ประชุมพอดี ทางกลุ่มเสื้อแดงจึงได้ใช้เครื่องขยายเสียงกล่าวโจมตีและตะโกนขับไล่ ก่อนที่จะพากันแยกย้ายเดินทางกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงตามที่หลายฝ่ายคาดแต่อย่างใด.
อ่าน Post Today รายงาน คนเสื้อแดงจำนวน 200 คน

ภาพ | เดลินิวส์

เสื้อแดงประท้วงนายกฯเข้าพัทยา

โพสต์ ทูเดย์ - เสื้อแดงประท้วงนายกฯเข้าพัทยา
เสื้อแดงพัทยายันไม่รุนแรงนายกฯร่วมงานเลี้ยงนักธุรกิจจีนที่พัทยา

ที่พัทยา กลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 200คน พร้อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 50คัน รถกระบะ และเก๋ง รวมตัวกันที่หลังห้างบิ๊กซี พร้อมติดเครื่องขยายเสียงโจมตีการทำงานของรัฐบาล และพยายามจะเคลื่อนกำลังคนไปโรงแรมดุสิต รีสอร์ท พัทยา ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารกับนักธุรกิจจีนในการประชุมสัมมนา และเจรจาจับคู่ทางธุรกิจไทย-จีน โดยตำรวจจำนวนหลายร้อยนายพยายามปิดกั้นถนนไม่ให้มีการเคลื่อนไหว

นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ชลบุรี แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า ได้มีตัวแทนของกลุ่มคนเสื้อแดงทำหนังสือขอบคุณที่นักธุรกิจจีนมาลงทุนที่พัทยากว่า 1.4 แสนล้านบาท ไม่ได้มีการป่วนแต่อย่างใด ขณะนี้ต้องยอมรับเศรษฐกิจโลกทรุด ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดอีกโดยมีนักท่องเที่ยวในเมืองพัทยาเหลือไม่ถึง 10% นักธุรกิจบางคนลงทุนเป็นหมื่นล้าน ดอกเบี้ยเดือนละหลายร้อยล้านกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก
กลุ่มคนเสื้อแดงจะปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวใหม่ โดยจะมีวินัย มีระเบียบในการเคลื่อนไหว และถือป้ายร้องเรียนเท่านั้น จะไม่ใช้ความรุนแรง

ก่อนหน้่านี้ ห้องประชุมตึกรักษ์วินัย สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร กรณีนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางมาพัทยา ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมตำรวจภูธรจัหวัดชลบุรี ได้ระดมพลจำนวน 600 นาย และกำลังทหารจาก มทบ.14 อีกจำนวน 150 นาย รถดับเพลิง และอุปกรณ์ต่างๆ ในการป้องกันเหตุ โดยมีการตั้งจุดตรวจสกัดกนัเป็นระยะ และมีการแบ่งการรักษาความปลอดภัยโดยกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ


“มาร์ค” ยิ้มรับ “พัชรวาท” ไม่พูดกระแสข่าวปลด!

Crime - Manager Online
“พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” รอซุ่มดักพบ “นายกรัฐมนตรี” ท่ามกลางข่าวร้อน ใกล้วินาทีปลดพ้น ผบ.ตร.ขณะที่ “ธานี” เข้าบ้านพิษณุโลก พบ “นิพนธ์ พร้อมพันธุ์” หลัง ป.ป.ช.ชี้มูล “พัชรวาท” ผิดวินัยร้ายแรง

วันนี้ (28 ก.ค.) ที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานกล่าวต้อนรับในงานเลี้ยงอาหารค่ำ (Welcome Dinner) คณะนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนโลก ท่ามกลางกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า ได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 200 คน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ประมาณ 3,000 นาย ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวรอดักสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ผู้สื่อข่าวได้เห็น พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางมาที่โรงแรมดุสิตธานี แต่เมื่อผู้สื่อข่าวจะไปสัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้รีบเข้าไปในห้องรับรอง และไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป โดยมีรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท มารอพบ นายกรัฐมนตรี ก่อนที่นายกฯจะเดินทางกลับ

ต่อมาเวลา 20.40 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ปรากฏตัวมารอส่งนายกรัฐมนตรี เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ไม่อยากให้สัมภาษณ์ ส่วนข่าวเรื่องปลด ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ได้เป็นข้อเท็จจริง และตนก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร โดยตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็มีข่าวถูกปลดหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นความจริง ต่อข้อถามที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีสลายการชุมนุม 7 ตุลาคม 2551 พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตนทราบแล้ว ส่วนในวันที่ 3 ส.ค.นี้ จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะติดภารกิจ อย่างไรก็ตาม ต่อข้อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะอยู่จนถึงเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย.นี้ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนข่าวปลดก็เป็นเพียงข่าว ต่อข้อถามว่า ที่มาพบนายกรัฐมนตรี เพื่อดับกระแสข่าวปลดหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ที่เดินทางมาเนื่องจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้โทร.สอบถามว่า สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง จึงได้เดินทางมาดูสถานการณ์ด้วยตนเอง

จากนั้นเวลา 21.05 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกมาจากห้อง และเมื่อพบกับ พล.ต.อ.พัชรวาท นายกรัฐมนตรี สอบถามว่า มาด้วยหรือ สถานการณ์ใต้เป็นอย่างไรบ้าง ดีไหม และไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว พร้อมโบกมือว่า ไม่ให้สัมภาษณ์นะ ก่อนจะขึ้นรถเดินทางกลับ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่สัมภาษณ์ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นที่น่าสังเกตว่า นายตำรวจติดตาม พยายามกันสื่อไม่ให้ถาม โดยพูดอยุ่ตลอดเวลาว่า พอได้แล้ว พอได้แล้ว

สำหรับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกัยกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.พัชรวาท ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ระหว่างที่การประชุมคณะรัฐมนตรี มีการประชุม ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 12.30 น.ปรากฏว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงได้ออกจากห้องประชุมไปช่วงหนึ่ง โดยได้ให้ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน จนกระทั่งในเวลา 13.00 น.ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ได้เดินทางเข้าประชุม ครม.อีกครั้งด้วยหน้าตาแจ่มใส เป็นช่วงเดียวที่มีข่าวว่า ป.ป.ช.จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 อีก 2 คน โดยหนึ่งในนั้นมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.รวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ ในเวลาใกล้เคียงกัน ที่บ้านพิษณุโลก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนคดี นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้เข้าพบ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ได้มีกระแสข่าวสะพัด นายกฯ และ นายสุเทพ ได้เดินทางไปสมทบที่บ้านพิษณุโลก แต่ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกฯ ปฏิเสธว่า นายกฯ และ นายสุเทพ ไม่ได้เดินทางไปยังบ้านพิษณุโลกตามที่มีกระแสข่าว แต่เป็นหมายส่วนตัว

ขณะที่ในเวลา 16.50 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดครบ 71 ปี ย่าง 72 ปี ของ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรค พร้อมมอบกระเช้าดอกไม้ โดยนายกฯอวยพรให้นายชวน มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง เป็นกำลังหลักทำงานให้ประเทศ ช่วยประเทศชาติ และประชาธิปัตย์เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมต่อไป

ด้าน นายชวน กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจนายกฯในการปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ประสบความสำเร็จ รู้ดีว่าเหนื่อยยากและจะเหนื่อยมากยิ่งขึ้น ขอให้สุขภาพแข็งแรงมีกำลังใจในการทำงาน ขณะที่ นายสุเทพ อยู่ที่พรรคด้วย แต่ไม่ได้ร่วมการอวยพรพร้อมกับนายกฯ

ต่อมาเวลา 17.50 น.หลังจากการอวยพร นายชวน แล้ว นายอภิสิทธิ์ พร้อมด้วย นายสุเทพ ได้เดินลงมาจากห้องทำงานที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมกัน ด้วยสีหน้าชื่นมื่น โดย นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ผมต้องจับมือโชว์ให้เห็นไหม” ซึ่งทำให้ นายสุเทพ หัวเราะ

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายสุเทพ ถึงความคดีลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล และตอนนี้ต้องรีบเดินทางไปพัทยา ขณะที่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวจะไปคุยกับนายกฯในรถประจำตำแหน่งของนายกฯระหว่างทางไปพัทยา

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่าจะได้คำตอบหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ก็ขึ้นรถประจำตำแหน่งของนายกฯเพื่อเดินทางไปพัทยาด้วยกัน


กองทัพปลด!! "จ่าปัญญา" เรียบร้อย พร้อมร่วมมือ ตร.ตามตัวดำเนินคดี

Manager Online
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นทหาร ในคดีลอบยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพิ่มเติมว่า เท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการทำหนังสือขอตัวทหารคนใดเพิ่มเติม เพราะปกติการจะทำหนังสือขอตัวกำลังพลจากกองทัพ ต้องมีการออกหมายจับก่อน ซึ่งขณะนี้มีเพียงการขอตัว จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา นายทหารสังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษคนเดียวเท่านั้น

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า กรณีของ จ.ส.อ.ปัญญา ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของตำรวจ กองทัพพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำตัว จ.ส.อ.ปัญญา มาดำเนินคดี และให้ความร่วมมือ หากตำรวจจะไปตรวจค้นในหน่วยทหารใด ทั้งนี้ กองทัพบกไม่ได้ให้สถานที่พักพิงหรือช่วยเหลือ จ.ส.อ.ปัญญา แต่อย่างใด รวมทั้ง ยังมีการสั่งการว่า หากกำลังพลคนใดพบเห็น จ.ส.อ.ปัญญา พักพิงอยู่ที่ใด ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทันที และหากใครให้สถานที่พักพิง จ.ส.อ.ปัญญา ถือว่ามีความผิด อย่างไรก็ตาม กองทัพคงไม่ถึงกับนำกำลังพลลงไปช่วยตำรวจในการตรวจค้นหาตัว จ.ส.อ.ปัญญา เพราะหน้าที่ดังกล่าวเป็นหน้าที่ของตำรวจ
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ จ.ส.อ.ปัญญา ได้เซ็นคำสั่งปลด จ.ส.อ.ปัญญา เรียบร้อยแล้ว เพราะ จ.ส.อ.ปัญญา เป็นนายทหารชั้นประทวน จึงไม่ต้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้เซ็นปลด ซึ่งสาเหตุที่มีคำสั่งปลด จ.ส.อ.ปัญญา เนื่องจากเข้าข่ายผิดกฎหมายทหาร 2 ข้อ คือ 1. จ.ส.อ.ปัญญา ถูกส่งไปช่วยราชการที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ซึ่งตามกฎหมายทหารห้ามไม่ให้กำลังพลที่ปฏิบัติราชการในพื้นที่ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลาราชการเกิน 3 วัน และ 2.กำลังพลที่หนีหมายจับ สามารถสั่งปลดได้ ซึ่งถือว่า จ.ส.อ.ปัญญา เข้าข่ายทั้ง 2 กรณี

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอบยิงนายสนธินั้น กองทัพบกขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทหารส่วนใหญ่มีหน้าที่ปฏิบัติภารกิจหลัก คือ การสนองตอบและช่วยเหลือประชาชน ซึ่งที่ผ่านมากองทัพแสดงให้สังคมเกิดความมั่นใจว่ากองทัพจะไม่ปกป้องนายทหารนอกแถวเป็นอันขาด


Label Cloud