Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Monday, June 29, 2009

นายกอภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนไทยไม่เปลี่ยนรักษาสิทธิเขาพระวิหาร

Politics - Manager Online
“อภิสิทธิ์” ยันจุดยืนไทยกรณีปราสาทพระวิหารไม่มีเปลี่ยนรักษาสิทธิของประเทศ รับมติศาลโลก ลั่นต้องสงวนสิทธิตามธรรม ศาลโลกเช่นเดียวกัน เผยคุย “ฮุนเซน” เข้าใจร่วมกันมองอนาคตมากกว่าอดีตของสองประเทศ ซัดฝ่ายตรงข้ามบิดเบือนสร้างประเด็นความขัดแย้ง

วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคำพูดของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่ากรณีเขาพระวิหารให้เป็นเรื่องอดีตและฝันร้ายไปว่า ไม่ใช่ว่าเรายอมให้เป็นอดีตหรือฝันร้าย แต่คำพูดนายสุเทพหมายความว่าที่ได้ไปพูดคุยกับสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ยืนยันตรงกันว่าปัญหานี้จะต้องไม่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งมีหลายเรื่องที่จะทำ และปัญหานี้เรามีกลไกข้อตกลงอยู่แล้ว แนวปฏิบัติมีจุดยืนของแต่ละฝ่าย ซึ่งเป็นผลพวงจากอดีต ไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดูแลผลประโยชน์ของชาติตัวเอง ความหมายคือว่าอย่าเอาประเด็นนี้มาเป็นปัญหากับความร่วมมือในด้านอื่น และในประเด็นนี้ขณะได้มีวิธีการแก้ปัญหาอยู่

เมื่อถามว่า รัฐบาลไทยยินยอมรัฐบาลกัมพูชา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่มี อะไรเปลี่ยนแปลง ต้องระวังเพราะมีคนเอาคำพูดไปอ้างและพยายามไปพูดให้เกิดปัญหาระหว่าง 2 ประเทศอีก แต่ความเข้าใจเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีอะไรผิด มีแต่การบิดเบือนคำพูด ย้อนกลับไปดูคำพูดได้ กรณีปราสาทตนได้บอกว่าประเทศไทยจะต้องปฏิบัติตามมติศาลโลก แต่เราสงวนสิทธิไว้ ซึ่งเป็นตามธรรมนูญศาลโลก คำว่าสงวนสิทธิไว้หมายความว่า อาจมีข้อมูล ข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นมาที่จะสามารถทำให้มีการทบทวนเรื่องคดีได้ เราก็จะดำเนินการนี่คือคำพูดที่พูดมาตลอด ไม่ใช่ที่มีคนไปอ้างว่าจะเข้าไปบุกทวงหรืออะไร เราไม่ได้พูดอะไร ต้องระวังบางฝ่ายที่พยายามทำให้เกิดปัญหาชายแดนขึ้นมา

“ผมยืนยันว่า รัฐบาลไทยรักษาสิทธิของประเทศไว้เหมือนเดิมทุกประการในขณะนี้ และคนที่พูดก็แปลกเพราะคนที่พูดก็ไปสร้างปัญหาไว้ยังไม่ทราบอีกว่าเราได้ไล่ตามแก้ปัญหาให้ท่าน เรื่องนี้เป็นผลมาจากอดีต ผมได้พบสมเด็จฯ ฮุนเซน 3-4 ครั้ง ทุกครั้งท่านจะพูดมาเองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาที่เรารับมาจากอดีต ขอให้เราคุยกันในปัจจุบันและอนาคต ส่วนเรื่องนั้นมีกลไกหรืออะไรก็ดำเนินการไป ขอให้เราพูดเรื่องปัจจุบันและอนาคต ส่วนเรื่องนั้นเรามีกลไกไม่ว่าจะเป็นเจบีซี เอ็มโอยู ที่จะดำเนินการและขอให้แก้โดยสันติวิธี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อย่าตกเป็นเหยื่อของคนที่จะสร้างประเด็นนี้ขึ้นมา” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามว่าการบิดเบือนจะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาก็พยายามทำให้เป็นอย่างนั้น ตนก็ยืนยันว่าตนเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็จุดยืนเหมือนเดิม ไปดูคำพูดตนได้ จริงๆ ไม่อยากที่จะทำความเข้าใจคำพูด ส่วนที่มีการยื่นเรื่องไปยังยูเนสโกนั้น ขณะนี้กำลังรอรายละเอียดจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ยื่นประเด็นความเห็นของไทยไปแล้ว และเขาเองต้องไปพิจารณาในส่วนของขั้นตอนที่กัมพูชาจะดำเนินการ ตามความเข้าใจของตนคือว่าเดิมจะต้องดำเนินการในปีนี้ เขาจะขอเลื่อนในเรื่องการพิจารณาการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ไปปีหน้า นี่คือสถานะสุดท้ายที่ตนรับทราบ ส่วนที่มีกระแสข่าว่ายูเนสโกไม่รับเรื่องของคนไทยเข้าสู่การพิจารณาอย่าไปมองอย่างนั้น เพราะมีเรื่องที่ว่าจะต้องทำประเด็นนี้เข้าสู่การพิจารณาด้วยหรือไม่ เท่าที่ตนทราบเขาจเลื่อนการพิจารณาไปเป็นปีหน้า

เมื่อถามว่าเรื่องของตัวปราสาทไทยจะมีการรื้อฟื้นใหม่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องมีข้อเท็จจริงใหม่ เป็นเรื่องที่คนทำงานในเรื่องนี้จะติดตามอยู่ตลอดเรียนให้ทราบว่าในแง่ประเด็นทางกฎหมาย ได้มอบนโยบายให้กระทรวงต่างประเทศไว้ ก็มีการดำเนินการกันอยู่ ส่วนที่คณะกรรมการมรดกโลกมีมติให้ขอขยายเวลาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร ขั้นตอนของไทยจะต้องดำเนินการอะไรต่อไป เข้าใจว่าขั้นตอนต่างๆ เป็นเรื่องที่เขากำหนดให้กัมพูชา ไม่ใช่กำหนดให้ไทย เพียงแต่เราได้แสดงความห่วงใยไปว่าสิ่งที่เขากำลังดำเนินการมันจะกระทบกระเทือนในแง่ของสันติภาพ ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ เมื่อเขาเลื่อนออกไป ก็เป็นเรื่องของกัมพูชากับคณะกรรมการมรดกโลก แล้วเราจะยังให้ความเห็นว่าทำอย่างไรไม่ให้กระทบกระทั่งกันอีก


“นพดล” ขย่ม “สุเทพ” จำนนต่อหลักฐานเขาพระวิหารเป็นของเขมร

Politics - Manager Online
อดีต รมว.ต่างประเทศ ได้ทีข่ม “เทพเทือก” จำนนต่อหลักฐาน ต้องฝืนกลืนน้ำลายตัวเอง เหตุปราสาทพระวิหาร เป็นของกัมพูชา โอ้อวดพร้อมยกโทษเรื่องราวในอดีต ทั้งหมด แต่ให้ไปขอโทษ ปชช.ที่สุ่มเสียงต่อการเกิดสงคราม

วันนี้ (28 มิ.ย.) นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง เดินทางไปเจรจากับประเทศกัมพูชา หลังจากที่สถานการณ์ชายแดนเริ่มตึงเครียด ว่า กรณีที่ นายสุเทพ ระบุว่า ปราสาทพระวิหาร ศาลโลกได้ตัดสินไว้หลายสิบปีแล้ว ว่า เป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา และจะไม่โต้แย้ง ถือว่าเป็นฝันร้ายในอดีตนั้น ถือเป็นการกลับลำ 360 องศา กลืนน้ำลายตัวเอง แต่ในทางกลับกัน เป็นการยืนยันคำพูดของตน และรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ต้องขอบคุณ นายสุเทพ ที่ออกมาจำใจยอมรับความจริง แม้จะช้าไปหน่อย แต่ก็ทำให้คนไทยทราบข้อเท็จจริง ว่า ใครเป็นคนปกป้องดินแดนให้ประเทศไทย สถานการณ์วันนี้สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงคราม นายสุเทพ จึงต้องจำใจยอมรับความจริง เนื่องจากจำนนด้วยข้อเท็จจริง เมื่อครั้งที่เป็นฝ่ายค้านพูดอย่างหนึ่ง แต่พอมาเป็นรัฐบาลก็กลับพูดอีกอย่างหนึ่ง มุ่งแต่ทำลายล้างทางการเมือง โดยไม่คิดถึงปัญหาของประเทศชาติ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษตน แต่ให้ไปขอโทษประชาชนแทน

“ผมเป็นคนปกป้องพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขายชาติจนประชาชนเข้าใจผิด แต่ผมยกโทษให้ อยากให้ทุกคนพูด และยอมรับความจริง นายกรัฐมนตรีก็เข้าใจผิดอย่างมากในเรื่องนี้ อยากให้ยอมรับความจริงเสียดีกว่า” นายนพดล กล่าว


Friday, June 26, 2009

สื่อนอกตีข่าว ไมเคิล แจ๊คสัน เสียชีวิต (2)











RIP Michael Jackson

MSNBC คลิป ข่าวไมเคิล แจ็คสัน เสียชีวิต 25 มิถุนายน 2552 (PST)

ภาพข่าว ไมเคิล แจ็คสัน เสียชีวิต


ที่หน้าบ้านของไมเคิล

แฟนๆ ของไมเคิล รวมตัวกันหน้า UCLA Medical Center เพื่อฟังข่าวหลังจากไมเคิลถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ที่ UCLA Medical Center ที่ไมเคิล ถูกนำตัวส่งหลังจากหัวใจวายเฉียบพลัน

คลิปข่าว จาก CNN -- Michael Jackson (Died Cardiac Arrest) CNN



Uri Geller reacts to the news of Michael Jackson's death


ยูริ เกลเลอร์ (ผู้มีพลังจิต งอช้อน) เพื่อนของไมเคิล แจ็คสัน แสดงความรู้สึกต่อการเสียชีวิตของไมเคิล

ข่าวไมเคิล แจ็คสัน เสียชีวิต เป็นข่าวด่วนไปทั่วโลก














ช็อกโลก! สื่อมะกันรายงาน 'ไมเคิล แจ๊คสัน'ตายแล้ว

Around the World - Manager Online
เอเจนซี/เอเอฟพี - ช็อกโลก! ซูเปอร์สตาร์เพลงป็อบ ไมเคิล แจ๊คสัน เสียชีวิตแล้วด้วยโรคหัวใจล้มเหลวในวัย 50 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี(25) จากรายงานข่าวของเว็บไซต์บันเทิง TMZ.com

"เราเพิ่งทราบว่า ไมเคิล แจ๊คสัน เสียชีวิตแล้ว" TMZ รายงานบนเว็บไซต์ "ไมเคิล ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันในช่วงบ่ายวันนี้และแพทย์ไม่สามารถช่วยเขาได้ เราได้รับคำบอกเล่าว่าเมื่อแพทย์มาถึงชีพจรของ แจ๊คสัน ก็ไม่เต้นแล้วและชีพจรของเขาก็ไม่กลับมาเต้นอีกเลย"

ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการต่อรายงานการเสียชีวิตครั้งนี้และโฆษกของ แจ๊คสัน ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าว

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลิสไทมส์ รายงานว่าเจ้าหน้าที่แพทย์ของหน่วยดับเพลิงนำตัว แจ๊คสัน ส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส หลังพบว่าเขาไม่หายใจแล้ว เมื่อครั้งไปถึงบ้านของนักร้องคนดังรายนี้ เวลา 12.21 น.(ตามเวลาท้องถิ่น)

หนังสือพิมพ์ชื่อดังของแดนมะกันรายงานต่อว่าทีมแพทย์ได้ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพทันที ก่อนนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลยูซีแอลเอเมดิคอลเซ็นเตอร์

ด้าน โจ แจ๊คสัน บิดาของไมเคิล ให้สัมภาษณ์กับ E! Online ว่าเขาทราบถึงเหตุฉุกเฉินดังกล่าวแต่ก็ไม่รู้ถึงรายละเอียดอื่นๆ "ผมอยู่ที่ลาสเวกัส มีคนที่อยู่กับไมเคิลในลอสแองเจลิส โทรมาหาผมและบอกว่าเขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ผมไม่ทราบว่าอะไรเกิดขึ้น ผมกำลังรอฟังข่าวจากพวกเขา"

สำหรับ ไมเคิล แจ๊คสัน มีกำหนดกลับมาเปิดคอนเสิร์ตอีกครั้งที่ลอนดอนในวันที่ 13 กรกฎาคม และมีโปรแกรมทัวร์คอนเสิร์ตไปต่อเนื่องจนถึงเดือนมีนาคมปี 2010 ทั้งนี้ซูเปอร์สตาร์เพลงป็อบ ได้ซุ่มซ้อมอยู่ที่ลอสแองเจลิสในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ตั๋วที่ลอนดอนซึ่งเปิดขายเมื่อเดือนมีนาคม จำหน่ายหมดภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ข่าวจาก CNN


Sunday, June 21, 2009

รวบดาราหนุ่ม "เมธี" คดีเสื้อแดง


ตม. รวบ ดาราหนุ่ม "เมธี อมรวุฒิกุล" คาสุวรรณภูมิ โดนหมายจับร่วม เสื้อแดงปิดล้อมทำเนียบฯ คุมตัวส่งสน.ดุสิต

เจ้าหน้าที่ ตม.ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทอช.) เข้าจับกุมนายเมธี อมรวุฒิกุล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 279 ถนนวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ดารานายแบบชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1697/2552 ลงวันที่ 15 มิ.ย.52 ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้ที่มีหน้าที่สั่งการ ,ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ,ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมณ ที่ใดๆตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปในท้องที่กรุงเทพมหานคร หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังเจ้าตัวเดินทางกลับมาจากประเทศเวียดนาม ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 และพ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ดุสิต ร่วมทำการสอบปากคำ

เมธี อมรวุฒิกุลหลังสอบปากคำนายเมธี เปิดเผยว่า ช่วงที่กลุ่มเสื้อแดงมีการชุมนุม ตนเคยไปขึ้นเวทีอยู่ 2 ครั้ง คือก่อนรัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 1 ครั้ง และหลังประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 ครั้ง ซึ่งตนก็ทำใจแล้วว่าจะต้องถูกออกหมายจับแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ จนวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนก็เดินทางไปประเทศเวียดนาม และมาทราบว่า ตัวเองถูกออกหมายจับเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. จึงเดินทางกลับในวันนี้ ซึ่งตนก็ตั้งใจอยู่แล้วว่าจะเดินทางเข้ามอบตัวเลยทันที แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ทั้งนี้ตนขอให้การปฏิเสธ และได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท มายื่นขอประกันตัวแล้ว

สำหรับคดีปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ศาลอนุมัติหมายจับกุมกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่มอีก 8 คน เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้เหลือนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ เพียงคนเดียวยังไม่มาติดต่อเข้ามอบตัว.

นายกฯยันไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ

โพสต์ ทูเดย์ - นายกฯยันไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ

นายกรัฐมนตรี พร้อมปรับแก้กฎหมายเพื่อเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเรื่อง"การแก้วิกฤติเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจไทยเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว"ว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนทุกด้านทั้งจากเอกชนในประเทศและต่างประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นแหล่งระดมทุนสำคัญ หลังจากที่ภาครัฐได้ขับเคลื่อนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถือว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าครั้งที่เกิดวิกฤติในประเทศเมื่อปี 40 แต่เศรษฐกิจโลกเกิดวิกฤติค่อนข้างยาวนาน ทำให้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อไทยได้ เพราะเราก็พึ่งพาการส่งออก จากเดิมการส่งออกเคยเติบโตในอัตรามากกว่า 10% แต่ปัจจุบันการส่งออกติดลบมากกว่า 10%

แม้ว่าภาครัฐจะใช้นโยบบายการเงินการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงผลักดันการลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็คต์รวมกันกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่ยังไม่ส่งผลเต็มที่ ซึ่งเศรษฐกิจในไตรมาส 2 จึงยังจะไม่ดีมากอย่างที่คาด เพราะมีเรื่องการเมืองวุ่นวายซ้ำเติมมาด้วย ทำให้การผลักดันบทบาทการลงทุนภาคเอกชนมีความสำคัญ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ภาครัฐได้เบิกจ่ายเม็ดเงินจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไปใช้จ่ายแล้วกว่า 50% หลังจากนี้หน้าที่ของรัฐจะต้องช่วยหลือผู้ทีได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ และขั้นที่ 2 ก็ต้องดูแลสนับสนุนให้ผู้ผลิตมีการลงทุน โดยเฉพาะภาคเอกชน และขั้นที่ 3 รัฐบาลก็จะต้องวางยุทธศาสตร์และโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยใหม่ไม่ให้อิงกับเศรษฐกิจโลกมากเกินไป เพราะเมื่อเกิดวิกฤติจะเกิดผลกระทบรุนแรง

โดยภาคส่วนสำคัญที่ต้องการให้รัฐเข้าไปช่วยเหลือคือ สินค้าเกษตร ซึ่งควรมีการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพ เพราะถือว่าประเทศไทยค่อนข้างล้าหลัง และต้องมีการจัดเรื่องที่ดิน และการเพิ่มมูลค่าผลผลิต หาตลาดรองรับผลผลิตและสร้างระบบขนส่งที่ดี

ขณะที่ในด้านการลงทุนจะต้องได้รับการสนับสนุนและขจัดอุปสรรค ซึ่งรัฐบาลพร้อมจะแก้ไขกฎหมายที่จำเป็นเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อให้เกิดความมั่นใจและส่งเสริมการลงทุนของเอกชนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับการผลักดันโครงการลงทุนที่มีอยู่ เช่น เครือข่ายเทคโนโลยีระบบ 3G และ เหมืองโปแตช ซึ่งมีความล่าช้ากว่ากำหนดมาก โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปลงทุนทำเอง เพราะอาจประสบภาวะเหมือนในอดีต เช่น โครงการอีลิทการ์ด เป็นต้น

รัฐบาลยังพร้อมให้ต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนด้านต่างๆ ในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น การลงทุนในระบบราง ซึ่งรัฐบาลได้เจรจากับทางการจีนเพื่อเชิญชวนให้เข้ามาร่วมพัฒนาและสนับสนุนเมกะโปรเจ็คต์ระบะบราง เนื่องจากเห็นว่าจีนเป็นผู้ชำนาญการและมีการลงทุนระบบรางอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือในส่วนของรัฐบาล

ในด้านกการระดมทุนนั้น รัฐบาลจะสนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญของภาคเอกชน โดยล่าสุดได้มีการพยายามสร้างแรงจูงใจเพื่อให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยได้มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับบริษัทเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่สนับสนุนให้มีการนำรัฐวิสาหกิจเข้ากระจายหุ้นโดยตรงในตลาดหลักทรัพย์(แปรรูป) แต่ควรจะปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสมเพื่อนำกิจการบางส่วนเข้าจดทะเบียน ซึ่งอาจทำให้มูลค่าหุ้นลดลง แต่จะเป็นผลดีและคุ้มค่าต่อประชาชน เช่น ธุรกิจด้านพลังงาน รถเมล์ รถไฟ ที่ยังประสบปัญหาขาดทุน แต่ระบบสาธารณูปโภคไม่ควรแรรูปเพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และเป็นเรื่องยากที่อาจถูกคัดค้าน


Wednesday, June 17, 2009

อภิสิทธิ์สั่งเดินหน้า'เอฟทีเอ' มี3กลุ่มประเทศใหม่อยู่ในโผ

ฐานเศรษฐกิจ
รัฐบาล "อภิสิทธิ์" สั่งเดินหน้าเจรจาเอฟทีเอต่อ แย้มข้อมูลล่าสุดมี 3 กลุ่มประเทศใหม่อยู่ในโผ ทั้งฮ่องกง กลุ่มเมอร์โคซู แอนเดียน ขณะที่เตรียมเจรจาทวิภาคีอียู ส่วนเอฟทีเอกับสหรัฐฯ เชื่อเลื่อนอีกนาน ทีทีอาร์เร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ หวังผลได้รับแรงหนุนเจรจาเอฟทีเอต่อ

นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) ซึ่งมีฐานะเทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรี โดยได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ดูแลภารกิจด้านการค้า การลงทุนระหว่างประเทศทั้งหมด เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงนโยบายการจัดทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ)ในระดับทวิภาคีของรัฐบาลปัจจุบันว่า จะยังให้ความสำคัญในการเปิดเจรจากับประเทศ/กลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแต้มต่อด้านภาษี ตลอดจนความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างภาคเอกชนของไทยกับภาคเอกชนของประเทศคู่เจรจาเพื่อขยายการค้า การลงทุนระหว่างกัน

ล่าสุดมี 3 กลุ่มประเทศที่อยู่ในโผที่จะเปิดเจรจา โดยกลุ่มใหม่ประกอบด้วย ฮ่องกง ซึ่งได้แสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการจะเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจกับไทยในระดับที่ลึกซึ้งมากขึ้น กลุ่มเมอร์โคซู (MERCOSUR) ประกอบด้วยสมาชิก 5 ประเทศได้แก่บราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย อุรุกวัย และเวเนซุเอลา กลุ่มแอนเดียน(ANDEAN) ประกอบด้วยโคลัมเบีย เปรู โบลิเวีย และเอกวาดอร์ ซึ่งสองกลุ่มหลังนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียด

ขณะเดียวกันมีแผนที่จะเปิดเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป(อียู)ในระดับทวิภาคี ภายหลังการเจรจาในระดับภูมิภาคระหว่างอาเซียนซึ่งมีไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกกับอียูมีความคืบหน้าไม่มากซึ่งขณะนี้อียูมีแผนจะเปิดเจรจากับสมาชิกอาเซียนเป็นรายประเทศ ในส่วนของไทยได้มีการหารือนอกรอบกับอียูแล้ว ซึ่งต้องศึกษาในรายละเอียดต่อไป

ส่วนการเปิดเจรจาเอฟทีเอไทย-สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้หยุดชะงักลงมาตั้งแต่ปี 2549 (เนื่องจากการมีการยุบสภา และมีการทำรัฐประหาร สหรัฐฯ ประกาศไม่เจรจาเอฟทีเอกับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง) แต่ผลพวงจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่มีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐฯ ที่กำลังเกิดขึ้นและยังไม่สิ้นสุดในเวลานี้ รัฐบาลสหรัฐฯส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะยังไม่ทำเอฟทีเอเพิ่มกับประเทศใด แต่จะมุ่งแก้ไขปัญหาภายในก่อน

"มีหลายประเทศใหม่ที่แสดงเจตนารมณ์เข้ามา รวมถึงอียูซึ่งเคยเจรจากันแล้วในระดับภูมิภาคต่อภูมิภาค แต่เวลานี้เขาเปลี่ยนท่าทีอยากเจรจาทวิภาคีรายประเทศ ซึ่งเราจะเร่งศึกษาในรายละเอียดเพื่อเตรียมการเจรจาต่อไป ส่วนกับสหรัฐฯเขายังไม่พร้อมคงอีกนาน อย่างไรก็ดีสิ่งที่เราอยากเห็นมากที่สุดในเวลานี้คือทุกประเทศซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก หรือดับบลิวทีโอหันหน้าเข้าสู่การเจรจารอบโดฮาโดยเร็วแต่คงไม่ง่าย"

นายเกียรติ กล่าวว่านอกการเปิดเจรจาเอฟทีกับประเทศ/กลุ่มประเทศใหม่แล้วสิ่งที่ทีทีอาร์จะเร่งทำคือการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดทำเอฟทีเอที่มีผลบังคับใช้แล้ว(จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น อินเดีย) อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะเร่งศึกษาว่าที่ผ่านมามีกลุ่มใดบ้างที่ได้รับผลกระทบ เพื่อที่จะได้จัดทำโครงการ และจัดสรรงบประมาณในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากที่ผ่านมารัฐบาลมีกองทุนเอฟทีเอของกระทรวงพาณิชย์ และกองทุนปรับโครงสร้างภาคเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่ผู้ที่ได้รับกระทบต้องเขียนโครงการเพื่อชี้แจงผลกระทบ รวมถึงเสนอแผนงานเพื่อขอเงินกองทุนเพื่อช่วยเยียวยาทำให้มีความล่าช้าไม่ทันกาล

"กองทุนเดิมมีอยู่แล้วแต่อยู่กระจัดกระจาย ซึ่งเป็นไปในลักษณะใครอยากได้รับก็ขอมา ปัญหาคือคนที่ได้รับผลกระทบเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะของบได้ ในที่สุดเมื่อไม่สามารถของบได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม งบกองทุนก็เหลือและก็ต้องคืนรัฐบาล แต่ที่เราจะทำใหม่คือ จะเป็นผู้นำในการศึกษาเลยว่ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบแต่ละคนต้องแก้อย่างไร ด้วยโครงการอะไร ด้วยเงินเท่าไหร่ ซึ่งหากการเยียวยาเป็นที่พอใจเราก็จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในการเจรจาเอฟทีเอกับประเทศใหม่ๆต่อไป"





มติปปช.เอกฉันท์ฟันบิ๊กสปส.คดีทุจริตเช่าคอมฯ 2,800 ล้าน

โพสต์ ทูเดย์ - มติปปช.ฟันบิ๊กสปส.
มติปปช.เอกฉันท์ฟันบิ๊กสปส.คดีทุจริตเช่าคอมฯ2,800 ล้าน

นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริต โครงการเช่าจัดหาและดำเนินการระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศแรงงาน มูลค่า 2,800 ล้านบาท ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน สมัยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรมว.แรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่วันนี้ ( 16 มิ.ย.)

 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ อดีตเลขาธิการ สปส.ในความผิดทั้งทางอาญา

ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งเป็นบุคคลเดียวที่คณะกรรมการป.ป.ช.พบว่ามีการกระทำผิดดังกล่าว โดยที่ไม่สามารถสาวไปถึงตัวนักการเมือง หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังได้ ทั้งนี้รายละเอียดของคดีจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ ในเวลา 09.30 น. ที่สำนักงานป.ป.ช.



ศาลอาญายกฟ้องคดีหมิ่นฯห้างโลตัสยันคนไทยวิจารณ์ปัญหาค้าปลีกได้

โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - ศาลยกฟ้องคดีหมิ่นฯโลตัส
ศาลอาญายกฟ้องคดีหมิ่นฯห้างโลตัสยันคนไทยวิจารณ์ปัญหาค้าปลีกได้

ศาลอาญาอ่านคำพิพากษายกฟ้องว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ รองเลขาธิการหอการค้าไทย และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คดีห้างสรรพสินค้าโลตัสฟ้องหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท เอก - ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบกิจการค้าปลีกและส่งห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส โดยนายอนุชา เสริมสิทธิกุล ผู้รับมอบอำนาจ เป็นโจทก์ฟ้อง ว่าที่ ร.อ.จิตร์ว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2550จำเลย ได้ให้สัมภาษณ์ นสพ.ผู้จัดการรายวัน ด้วยการหมิ่นประมาทโจทก์ทำนองว่าห้างค้าปลีกเทสโก้โลตัส ของโจทก์ดูดเงินจากคนไทยส่งกลับบริษัทแม่ที่อังกฤษปีละหลายหมื่นล้านบาท และกำลังรุกขยายสาขาอย่างหนัก โดยระบุว่าหากไม่วางแผนชะลอการขยายสาขาห้างค้าปลีกขนาดใหญ่รวมถึงร้านสะดวก ซื้อ อนาคตประเทศไทย จะมีสาขาของห้างค้าปลีกต่างชาติฮั้วกันทำกำไร ทำลายร้านค้าเล็ก และผู้ประกอบการอิสระจะไม่เหลือ ซึ่งทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง และยังส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของโจทก์ ทั้งที่จริงแล้วโจทก์ประกอบกิจการค้าด้วยความซื่อสัตย์สุจริต

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า คำให้สัมภาษณ์ของจำเลยตามฟ้องเป็นการวิจารณ์ปัญหาค้าปลีกในประเทศไทย โดยมีฐานข้อมูลในฐานะหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับจำเลยมาก่อน จึงถือเป็นการเป็นการติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถทำได้พิพากษายกฟ้อง



ตู่เผยคนเสื้อแดงตายคามหาดไทย

โพสต์ ทูเดย์ - ตู่เผยคนเสื้อแดงตายคามหาดไทย
จตุพรปูดมีภาพคนเสื้อแดงตายคามหาดไทยเตรียมแฉสนามหลวง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตนมีหลักฐานชิ้นใหม่ เพื่อมายืนยันว่าเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงไปที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจริง โดยเป็นภาพขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังลากศพผู้เสียชีวิต ซึ่งมีพลเมืองดีส่งภาพดังกล่าวมาให้กับนายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยตนจะนำภาพดังกล่าวไปเปิดเผยกับประชาชนในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง วันที่ 27 มิ.ย.นี้ และวันดังกล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจจะวิดีโอลิงค์มาพูดคุยกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงด้วย

นายจตุพร ระบุว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะมีการชุมนุมทั้งหมด 4 ครั้งคือที่ท้องสนามหลวง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กองบัญชาการกองทัพบก และที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการชุมนุมยืดเยื้อหรือไม่นั้น จะมีการหารือกันในระดับแกนนำอีกครั้ง.


ส.ส.ผวาหวัด 2009 จี้ล้างแอร์รัฐสภา

โพสต์ ทูเดย์ - ส.ส.ผวาหวัด09จี้ล้างแอร์รัฐสภา
ส.ส.เพื่อไทยหวั่นเชื้อไข้หวัด2009ลามรัฐสภาจี้ล้างระบบแอร์

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า การแพร่ระบาด ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศไทยในหลายพื้นที่ และมีแนวโน้มที่จะระบาดมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดได้มีการระบาดมายังโรงเรียนหลายแห่งในกทม. และได้ปิดโรงเรียน กระทบต่อการเรียนการสอนของเด็กเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้การแพร่ระบาดดังกล่าว ขัดกับการให้ข่าว จากทั้งนายกฯ รมว.สาธารณสุข ที่ระบุว่า สามารถควบคุมโรคดังกล่าวได้ รวมทั้งยังมีการบิดเบือนตัวเลขในส่วนของผู้ติดเชื้อ ซึ่งหากรัฐบาล ยังดึงดันที่จะแจ้งข้อมูลโดยเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต่อไป อาจทำให้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เกิดความไม่เชื่อมั่น ในวิธีการและแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ นักท่องเที่ยว นักลงทุน ชาวต่างชาติ เกิดความไม่มั่นใจที่จะเข้ามายังในประเทศ

"รัฐบาลโดยทั้งนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ต้องมีแนวนโยบายการควบคุมโรคที่ชัดเจน และเสนอข้อเท็จจริงของสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งสถานที่ที่มีการระบาด จุดใดบ้างที่ต้องมีการควบคุม อย่างที่รัฐสภา จากการสอบถาม พบว่า มีเจ้าหน้าที่ และส.ส.หลายคนเป็นไข้หวัด โดย มีส.ส.บางคนไม่เข้าร่วมประชุม เพราะกลัวว่าจะมีการติดเชื้อ โดยเฉพาะระบบฟอกอากาศ ที่ถือเป็นระบบรวม ก็ต้องมีการล้างทำความสะอาดบ่อยๆ จะอ้างว่าไม่มีงบไม่ได้ เพราะมันเป็นโรคที่ติดต่อทางระบบหายใจ "นายวิชาญ กล่าว



ออกหมายจับ 8 แกนนำเสื้อแดง

โพสต์ ทูเดย์ - ออกหมายจับ 8 แกนนำเสื้อแดง
บช.น.ออกหมายจับเพิ่ม 8 แกนนำเสื้อแดง มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ยันไม่ใช่ 2 มาตรฐาน

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอดเทปปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา ที่กลุ่มคนเสื้อแดงปิดการจราจร ตั้งเวทีปราศรัยบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ แกนนำที่จัดให้มีการชุมนุมได้ขึ้นกล่าวปราศรัย พบว่ามีผู้กระทำผิดเพิ่มอีก 8 คน นอกเหนือจากที่ได้ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับเพิ่ม ประกอบด้วย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายสมชาย ไพบูลย์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายพายัพ ปั้นเกตุ นายเมธี อมรวุฒิกุล และนายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง ในข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

รอง ผบช.น. กล่าวว่า การออกหมายจับครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการทำงานแบบ 2 มาตรฐาน การดำเนินกานรสอบสวนนั้นทำงานอย่างต่อเนื่อง และผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง มีหลักฐานชัดเจน จึงจะมีการดำเนินการขออนุมัติออกหมายจับ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ



"บิ๊กตู่"แฉสมัครปล้นเก้าอี้ผบ.ตร.

โพสต์ ทูเดย์ - "บิ๊กตู่"แฉสมัครปล้นเก้าอี้ผบ.ตร.
"เสรีพิศุทธ์"ซัด"สมัคร"บงการปล้นเก้าอี้ผบ.ตร.ลั่นให้รอรับกรรม

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดแถลงข่าว ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฯ สยามสแควร์ ว่า วัตถุประสงค์ ของการแถลงในวันนี้ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง ไม่มีอะไรเคลือบแฝง แต่เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทำอะไรกับตนไว้บ้าง ปัจจุบัน บ้านเมืองไม่ได้มีแค่การปล้นเอาทรัพย์สิน แต่ปล้นเอางบประมาณมากกาย แม้กระทั่งตำแหน่งก็ไม่ใช่แค่การซื้อขาย แต่เป็นการปล้นกันเลยทีเดียว ถ้ารอซื้อ ตำแหน่งก็ไม่ว่าง สู้ปล้นเอาทีเดียวเลยดีกว่า

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เบื้องลึกเบื้องหลังการปล้นตำแหน่งผบ.ตร.ที่ตนแคยดำรงตำแหน่งนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2551 ขณะนั้นกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภาคใต้ ได้รับข่าวจากสื่อว่า นายสมัคร ออกคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย นับเป็นความเลวร้ายที่สุดที่เคยรับรายการมา เมื่อเขาคิดที่จะปล้นเรา เราก็ไม่สามารถจะไปหักห้ามได้ พอทราบข่าวจากสื่อ ก็รู้ได้ทันทีว่า ถูกปล้น ผมเคยเป็นจเรตำรวจแห่งชาติมาก่อน รู้วิธีการสืบสวนสอบสวน ถ้านายสมัครทำจริง ต้องทำตามกระบวนการ ซึ่งยุ่งยากซับซ้อน แต่ไม่อาจรอได้ เพราะตนจะเกษียณวันที่ 30 ก.ย. และเมื่อรับทราบข่าว ก็ไม่ได้ตกใจ และรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่า ใครทำอะไร รู้ตัวว่า ถูกปล้นแน่ และยังทำงานต่อไป ไม่ได้ตื่นตระหนก

"สุดท้าย ดาบนั้นจะคืนสนอง ใครที่ทำกรรมกับผมไว้ ก็จะต้องได้รับกรรมนั้น ร้อยเท่าทวีคูณ ผมเป็นนักต่อสู้ ต่อสู้เรื่อยไป ผมไม่เคยทราบล่วงหน้าว่านายสมัคร จะมีสภาพอย่างทุกวันนี้"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว

พล.ต.อ.เสรีพิทธ์กล่าวว่า อีกไม่นาน นายสมัครก็จะได้รับกรรม เพราะทั้งถูกพันธมิตรฯขับไล่ ยึดทำเนียบ หัวซุกหัวซุน ไม่มีที่ทำงาน มิหนำซ้ำ ยังถูกศาลพิพากษาจำคุก ในข้อหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยไม่รอลงอาญา ถูกยุบพรรค ถูกปลดออกจากหัวหน้า เมื่อไปต่างประเทศ ก็ถูกมือตบอีก จึงขอวอนแพทย์ประจำตัวช่วยดูแลนายสมัครให้ดี อย่าให้ตาย ขอให้ได้รับกรรมก่อน ตนอยากจะพิสูจน์ ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร เพราะในเวลาที่เขาคิดทำนั้นอายุก็ 70 กว่า เขาเป็นรมต.ตั้งแต่ตนเป็นสารวัตร ถือว่าเป็นนักการเมืองที่เก๋ามาก ถ้าเขารู้ว่า เขาปล้นตนไป เขาได้สิ่งที่ปล้นนั้นทันที แต่กรรมอีกนาน เหมือนปล้นทรัพย์ กว่าตำรวจจะจับได้ ต้องใช้เวลา ขอฝากนักการเมืองรุ่นหนุ่ม อย่าทำชั่วเช่นนี้

"ข้าราชการกังฉินที่ร่วมมือปล้นตำแหน่งผม ขบวนการที่จะทำลายผม รอรับกรรมต่อไป ผมสามารถพิสูจน์ได้หมด เพียงแต่ผมตัดสินไม่ได้ จึงต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว



Monday, June 15, 2009

เลื่อนสั่งฟ้องจักรภพหมิ่นเบื้องสูง

โพสต์ ทูเดย์ - เลื่อนสั่งฟ้องจักภพหมิ่นเบื้องสูง
อัยการเลื่อนสั่งฟ้อง"จักรภพ"หมิ่นเบื้องสูง‏เป็น17ก.ค.

นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งเลื่อนนัดสั่งคดีนายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ( นปช.) ผู้ ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง กรณีกล่าวบรรยายพิเศษเป็นภาษาอังกฤษโดยมีถ้อยคำเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบัน ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.50 เนื่อง จากคณะทำงานอัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็น เรื่องการแปลเอกสาร และสอบพยานในส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างถึง ซึ่งอัยการยังไม่ได้รับสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าว จึงได้ทำหนังสือเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนรีบดำเนินการให้เสร็จสิ้นจึงนัดให้ นายจักรภพมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 17 ก.ค. เวลา 10.00 น.

อธิบดี อัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาของอัยการยังไม่เสร็จจึงยังไม่มีคำสั่งว่าจะสั่งฟ้องหรือ สั่งไม่ฟ้องนายจักรภพ จึงไม่จำเป็นต้องออกหมายจับผู้ต้องหา แต่หากที่สุดแล้วอัยการมีคำสั่งฟ้องภายในวันที่ 17 ก.ค.นายจักรภพไม่มาฟังคำสั่งก็จะต้องทำตามขั้นตอนออกหมายจับต่อไป


Sunday, June 14, 2009

บสก.ยึดเงินราเกซคืนได้ 2พันล้าน

โพสต์ ทูเดย์ - บสก.ยึดเงินราเกซคืนได้2พันล.
บสก.คลายกังวล หลังดึงทรัพย์สินคืนจาก "ราเกซ" ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์แบงก์บีบีซี มาได้2,000ล้านบาท

นายบรรยงค์ วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือ บสก. กล่าวว่า หลังศาลประเทศแคนนาดาอนุญาตให้ทางการไทยนำตัว นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ หรือบีบีซี ผู้ต้องหาคดียักยอกและฉ้อโกงทรัพย์จากแบงก์บีบีซีไปกว่า 2,500 ล้านบาท จนทำให้แบงก์บีบีซีล้มละลายเมื่อปี 2538 กลับมาดำเนินคดีไนไทยได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นคดีทางอาญาที่ใกล้หมดอายุความ ขณะที่คดีทางแพ่ง ศาลได้พิพากษาไปแล้ว และมีการติดตามยึดหุ้นที่นายราเกซ นำไปลงทุนไว้ในบริษัท Movenpick ในตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งหุ้นในกิจการโรงแรมและร้านอาหารที่มีเชื่อเสียง จนนำออกมาขายในตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์ได้เงินคืนมา 2,000 ล้านบาท ดังนั้น คดีทางแพ่งจึงไม่น่าเป็นห่วง


นายกฯรับหวัด 09 กระทบท่องเที่ยว

โพสต์ ทูเดย์ - นายกฯรับหวัด 09 กระทบท่องเที่ยว
นากรัฐมนตรี วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชี้อัตราเสี่ยงถึงขึ้นชีวิตน้อยมาก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทยกรมประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ 2009 ว่าอย่าไปตื่นตระหนกหรือวิตกกันเกินไป เพราะเชื้อการแพร่ระบาดไม่ต่างไข้หวัดใหญ่ธรรมดาและอัตราการเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตน้อยมาก หากมีการดูแลสุขภาพที่ดีและหลีกเสี่ยงจุดเสี่ยงต่างๆ ก็จะป้องกันต่อการติดเชื้อได้ง่าย สำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นเดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด หากรู้สึกไม่สบายก็ให้รีบไปพบแพทย์ สำหรับการป้องกันตัวเองในเบื้องต้นก็คือ หลีกเลี่ยงเดินเข้าไปในสถานที่ชุมชนแออัด ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก การดูแลอนามัย เช่นการล้างมือบ่อยๆ และใช้หน้ากากอนามัยปิดหน้า ซึ่งการเกิดการแพร่ระบาดของโรคนี้ย่อมกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน หากประเทศไหนที่มีการแพร่ระบาด นักท่องเที่ยวก็จะระงับไม่เดินทางมา แต่เรื่องนี้จะปกปิดไม่ได้เพราะเรามีความจำเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุข และเชื่อว่าจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ แม้ว่าวีนนี้จะมีการพบการระบาดแล้วประมาณ 100 ราย


Thursday, June 11, 2009

BMTA TOR 4000 NGV Buses Draft 11 - ร่าง TOR ขสมก เช่ารถเมล์ NGV 4000 คัน ครั้งที่ ๑๑

BMTA TOR 4000 NGV Bus Draft 11
BMTA TOR 4000 NGV Bus Draft 11 TP T.O.R. draft for BMTA's 4,000 NGV buses project 2009


BMTA TOR 4000 NGV Buses Draft 1 - ร่าง TOR ขสมก เช่ารถเมล์ NGV 4000 คัน ครั้งที่ ๑

BMTA TOR 4000 NGV Bus Draft 1
BMTA TOR 4000 NGV Bus Draft 1 TP T.O.R. draft for BMTA's 4,000 NGV buses project 2009


๔,๐๐๐ คัน"ไม่มี TOR"แต่ว่าขออนุมัติงบ? - เปลว สีเงิน

๔,๐๐๐ คัน"ไม่มี TOR"แต่ว่าขออนุมัติงบ? | ไทยโพสต์

ไม่มีเวลาไปชี้แจงเรื่องเช่ารถเมล์ NGV ๔,๐๐๐ คัน ต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานซืน (๙ มิ.ย.๕๒) แต่นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ด ขสมก.มีเวลาไปฟ้อง "นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์" ส.ส.ปชป.ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ ต่อศาลอาญาเมื่อวานนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาท โทษฐานแถลงข่าวกล่าวหาว่าเขามีส่วนร่วมทุจริตโครงการ "ทั้งที่โครงการนี้ยังอยู่ระหว่างรอมติ ครม.อนุมัติ"

อืมมมม...รถเมล์ NGV นี่ทำท่าจะเป็น "รถเมล์ผีสิง" เฮี้ยนตั้งแต่อยู่ในท้องเพื่อนเนวินเสียแล้ว เพราะยังไม่ทันถึงไหนก็ฟ้องร้องกันเป็นปฐมฤกษ์ แบบนี้เห็นทีกว่าจะสรุปโครงการ คดีความไม่บานเบิกเถิกตะเกียงกันไปรึนั่น?

แต่ต้องขอบคุณ "นายชัยรัตน์ สงวนซื่อ" อธิบดีกรมการขนส่งทางบกเขานะครับ คือกรรมาธิการฯ เขาเชิญนายปิยะพันธ์ไปตอบข้อซักถามเกี่ยวกับโครงการรถเมล์ แต่นายปิยะพันธ์อ้างว่าติดอัดเทปรายการโทรทัศน์ที่นัดหมายไว้ก่อน เลยมอบหมายให้นายชัยรัตน์ในฐานะ "รองประธานบอร์ด ขสมก." ไปแทน

นายชัยรัตน์ก็คงเป็น "ลูกน้องเก่า" เพราะกรมขนส่งทางบกนี้ ตอนรับราชการยุคทักษิณ นายปิยะพันธ์เป็นอธิบดีกรมนี้อยู่ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นอยู่ตรงที่ว่า นายชัยรัตน์ตอบข้อซักถามคณะกรรมาธิการฯ ด้วยซื่อ และด้วยความซื่อนั้น ทำให้เห็นไส้ในโครงการส่อถึงความไม่โปร่งใสจนผมต้องหยิบมาคุยกันวันนี้

ไม่ใช่ประเด็นเรื่องขึ้นป้าย ซื้อหน้าหนังสือพิมพ์โฆษณาชวนเชื่อโครงการหรอก นั่นเป็นของแถม เพราะใครๆ ก็คงนึกว่า พรรคภูมิใจไทยควักกระเป๋าทำเอง-จ่ายเอง เพราะใครเห็นก็รู้ว่า นี่คือป้ายและข้อความจงใจโฆษณาพรรคภูมิใจไทย แต่นายชัยรัตน์สารภาพว่า เปล่าหรอก...ไม่ใช่พรรคจ่าย

แต่ประชาชนคนไทยทุกคนนี่แหละจ่าย

เพราะใช้เงินหลวง ผ่านงบของ ขสมก.!!


เนื้อเต่ายำเต่า เข้าใจเล่นนะ อย่างนี้มันไม่ค่อยภูมิใจไทยซักเท่าไหร่หรอก แต่ก็ดี ผมชอบ ซื้อหน้าหนังสือพิมพ์ทีละ ๒ หน้า ๓ หน้า

อย่างนี้ หนังสือพิมพ์ที่ผู้บริหารคนหนึ่งออกมาสารภาพว่าอยู่ได้ด้วย "งบประชาสัมพันธ์ทางราชการ" เขาจะได้มีเงินเลี้ยงดูพนักงาน ผมสนับสนุน แต่ขอให้ทำอย่างตรงไป-ตรงมา อย่าซิกแซ็กโฆษณาพรรค แล้วตีขลุมไปเบิกเงินหลวงอย่างนี้

เนี่ยะ..เล็กๆ น้อยๆ ยังตอดเป็นปลาแขยงตอดขี้ แล้วที่ใหญ่ๆ ระดับกว่า ๑ แสนล้าน ลดลงมาเหลือ ๖ หมื่น ๔ พันล้าน มีหรือที่มันจะไม่คิดขม้ำ?

เอ้า..ก็เข้ารายการที่ผมบอกว่าเป็นประเด็นเสียที ส.ส.ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ เขาซักนายชัยรัตน์ว่า

"เอกสารที่ ขสมก.เสนอให้ ครม.พิจารณามีการอ้างถึง TOR แสดงว่ามีการจัดทำ TOR เสร็จสิ้นแล้วก่อนที่จะเสนอ ครม.ใช่หรือไม่?" นายชัยรัตน์ขมีขมันชี้แจงว่า

"TOR ยังไม่แล้วเสร็จ ยังอยู่ระหว่างการฟังความเห็น ยังสามารถปรับปรุงได้อีก และที่ผ่านมาก็ขยายเวลาการจัดทำมาแล้ว ๑๑ ครั้ง"

ครับ..ท่านอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลูกน้องนายปิยะพันธ์ชี้แจงได้ "ซื่อดี" ไม่ซื่อเพียงเท่านี้ แต่ยังซื่อตั้งแต่ต้นยันปลาย ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อตอบไปแล้ว TOR คือเงื่อนไขการประกวดราคารถเมล์ NGV ๔,๐๐๐ คัน ยังไม่เสร็จ ส.ส.ชาญชัยก็ถามต่อทันทีว่า

"อ้าว..ในเมื่อ TOR ยังไม่เสร็จสิ้น แล้วจะนำมาเสนอให้ ครม.พิจารณาได้อย่างไร?" นายชัยรัตน์ที่ตกหลุมจนมิดหัวได้แต่อ้อมๆ แอ้มๆ ว่า

"เพียงแค่ส่วนประกอบเท่านั้น"!?

ตรงนี้แหละถือว่าเป็นประเด็น "ซ่อนเงื่อนปม" สำคัญมาก TOR ยังไม่เสร็จ แล้วนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม พรรคภูมิใจไทย นำโครงการเสนอ ครม.ขออนุมัติได้อย่างไร เพราะอย่างนี้นี่เล่า โครงการจากราคาแสนล้าน จึงลดราคาง่ายๆ เหมือนสามล้อกลัวผู้โดยสารจะหนี จากกว่าแสนล้านเหลือหกหมื่นกว่าล้าน

ครม.อนุมัติไปก็ซวย (คนเสียภาษี) แต่รวยพวกเขา มีอย่างที่ไหน เงื่อนไขการประกวดราคายังไม่รู้เลยว่าจะเอายังไง แต่ดันอนุมัติงบโครงการให้ไปก่อนแล้ว เหมือนจ่ายสินสอดทองหมั้นตั้งแต่เจ้าสาวเพิ่งเสียตัวคืนแรก แล้วแน่ใจเลยว่าท้องแน่ แถมรู้ซะด้วยว่าต้องคลอดออกมาเป็นหญิงแน่ๆ

ถ้า ครม.อนุมัติไปแบบนี้ มีหวัง "ติดคุก" กันทั้ง ครม.!

ไปดูทางกรรมาธิการของวุฒิสภาบ้าง วันเดียวกัน เขาประชุมร่วมกันทีเดียว ๕ คณะด้วยเรื่องรถเมล์ภูมิใจเนวิน ก็มีกรรมาธิการคมนาคม, กรรมาธิการตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล, กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค, กรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน และกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วม

เขาแถลงหลังประชุม ประเด็นก็สอดคล้องกับกรรมาธิการฯ สภาผู้แทนราษฎร เช่นว่า การจัดทำ TOR ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากอัยการสูงสุด เพราะมีปัญหาหลายประเด็น เช่น การบริหารในสัญญามีการแบ่งเป็นช่วง และพบหลายประเด็นที่ทำให้รัฐจะเสียประโยชน์ เช่น

-การเสียค่าปรับ หากมีการส่งมอบรถไม่เป็นไปตามสัญญา ๑๑.๙๐ บาท/วัน/คัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก

-ค่าประกันภัยรถ รวมอยู่ในค่าเช่า ซึ่งรัฐต้องเป็นผู้รับภาระ ทั้งที่ควรเป็นของเอกชน

-ค่าซ่อมที่ต้องจ่าย กม.ละ ๗.๕๐ บาท แต่หากวิ่งเกินวันละ ๒๐๐ กม.จะคิดค่าซ่อมเพิ่มเติมตามจริง แต่ไม่ได้กำหนดว่า หากวิ่งไม่ถึง ๓๐๐ กม. ผู้ให้เช่าต้องคืนส่วนต่างตรงนี้หรือไม่ ซึ่งเฉลี่ยแล้วรถเมล์จะวิ่ง ๒๔๐ กม./วัน

-การกำหนด TOR เช่นนี้ ทำให้รัฐขาดทุน ถือว่าจงใจทุจริต และการที่ ขสมก.และรัฐบาลบอกว่า โครงการนี้จะได้กำไร ๕ หมื่นล้านบาท แต่ความจริงขาดทุนถึง ๖ หมื่นล้านบาท ในระยะ ๑๐ ปีข้างหน้า!

ครับ..นั่นเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการฯ ท่านจะว่าของท่านไป แต่ที่สรุปได้แก่นตรงกันหมด ทั้งจากกรรมาธิการฯ สภาผู้แทนฯ-วุฒิสภา ทั้งคนที่มาให้ปากคำกรรมาธิการฯ และกระทั่งตัวนายปิยะพันธ์ ประธานบอร์ด ขสมก.ผู้อหังการเอง คือ โครงการเช่ารถเมล์ NGV ๔,๐๐๐ คันนี้ ยังไม่มี TOR คือเงื่อนไขการประกวดราคายังไม่เสร็จเลย

แต่นายโสภณ ซารัมย์ กลับนำเสนอให้ ครม.อนุมัติโครงการด้วยงบกว่า ๖๔,๐๐๐ ล้านบาทไปแล้ว!?

นี่ดีว่านายกฯ อภิสิทธิ์ "ส่งไปดอง" ไว้ที่สภาพัฒน์ก่อนนะ ถ้า เยส โน โอเค ไปตั้งแต่ต้นสัปดาห์ละก็ ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี แน่ๆ

พระท่านว่า "กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา" และกรรมลุกลี้-ลุกลน และกรรมปกปิดซ่อนเร้นประเด็นต่างๆ นี้ "ส่อเจตนา" ว่าคณะพรรคภูมิใจไทยประสงค์ "หักดิบ" แบบไหน อย่างไร วิญญูชนพึงรู้ได้ เห็นได้มิใช่หรือ?

พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ถ้านายอภิสิทธิ์ยอมให้โครงการนี้ผ่าน โดยแลกกับการยกมือของภูมิใจไทยเป็นอายุรัฐบาล ผมก็เกรงว่า ยาวนั้นมันจะสั้นในเชิงอนาคตของคนชื่ออภิสิทธิ์น่ะ!

ประชาธิปัตย์ใช่ว่าไม่เคยเป็น "รัฐบาลเสียงข้างน้อย" มาก่อน ผมคิดว่าในอนาคตไม่ไกล คงได้เป็น "รัฐบาลเสียงข้างน้อย" อีกครั้ง ลองศึกษาเคล็ดลับวิชาจากท่านปรมาจารย์ "ชวน หลีกภัย" เตรียมไว้ อย่างเร็ว ปลายกรกฎา อย่างช้า ปลายกันยา อาจได้ใช้วิชานี้ก็ได้

แต่มีอีกประเด็นที่ทุกคนมองข้าม สมมุติโครงการนี้ ครม.อนุมัติให้รถเมล์เนวินออกมาวิ่งฉลุย วัฒนธรรมหนึ่งอันเป็น "วัฒนธรรมใหม่" ที่คนขึ้นรถเมล์ทุกคนต้องปรับตัวตาม นั่นคือระบบ "ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์"

เข้าใจกันง่ายๆ คือ รถเมล์เนวิน ๑ คัน จะมีพนักงานในรถเพียง ๑ คนเท่านั้น คือ "พนักงานขับรถ" จะไม่มีกระเป๋า จะไม่มีนายตรวจให้เห็นอีกต่อไป ใครขึ้นรถเมล์ก็จะต้องใช้การ์ดเสียบเครื่องเก็บค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ประตูจึงจะเปิดให้เข้าไปในตัวรถ ปัญหาแรกที่ต้องเกิดตามมาคือ ปัญหาว่าจะเอากระเป๋าและนายตรวจไปไว้ที่ไหน

และกรณีมีคนขับคนเดียว ไม่มีกระเป๋าคอยดูแลคนขึ้น-ลงตามป้าย ปัญหาขั้นที่สองที่ต้องเกิดตามมาแน่นอน คือ

๑.รถเมล์มีคนขับคนเดียว โดยไม่มีพนักงานดูหัว-ดูท้ายรถ จะมีใครยอมขับบ้าง?

๒.ผู้โดยสารรถเมล์ใช่ว่าจะใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์เป็นเหมือนกันทุกคน แล้วใครจะดูแลตรงนี้?

๓.เครื่องเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์เสียแล้วคนโดยสารจะขึ้นรถอย่างไร?

๔.ใครจะดูแลผู้โดยสารขณะขึ้น-ลงตามป้าย และคอยส่งสัญญาณบอกให้คนขับรู้?

๕.มีปัญหาขึ้นมาภายในรถไม่ว่าด้านใดๆ แล้วใครจะคอยจัดการ-แก้ไขประสานกับคนขับ?

๖.ในขณะผู้โดยสารเต็มคัน ถึงแม้มองทางกระจก คนขับก็ย่อมมองไม่เห็นผู้โดยสารทั่วคัน แล้วจะทำไง?

๗.แล้วใครจะคอยตะโกน เลยๆๆๆๆ ลูกเพ่ จอดป้าย..จอดป้าย..หรือชิดหน้า-ชิดใน และมองหลังให้ล่ะ?

นี่คือปัญหาจากประสบการณ์จริงของคนนั่งรถเมล์อาชีพอย่างผม ท่านโสภณคงขับแต่รถเก๋งให้ท่านเนวินนั่ง ท่านสูงเกินระดับที่จะมานั่งรถเมล์ ฉะนั้น ย่อมจินตนาการไม่ออกหรอกว่า รถเมล์ทั้งคัน ถ้าไม่มีกระเป๋าดูหัว-ดูท้าย ปัญหามันจะมากมายขนาดไหน และคนขับ..จ้างเขาก็ไม่ยอม

เอาเข้าจริง ลงท้ายพยากรณ์ได้เลย เครื่องเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์จะเป็นแค่เฟอร์นิเจอร์ประดับรถ และก็ต้องมีพนักงานเก็บเงิน ทำหน้าที่ผู้จัดการทั่วไป ผู้แนะนำการเสียบการ์ดอิเล็กทรอนิกส์กับผู้โดยสารบางคน และทั้งต้องคอยกำกับคิวผู้โดยสารจากที่เคยแย่งกันขึ้นรถมาเป็นเรียงคิวเสียบการ์ด-ขึ้นรถทีละคน

ชั่วโมงเร่งด่วน เช้า-เย็น รถเมล์จะคาป้ายรอคิวคนเสียบการ์ดยาวทั้งจำนวนรถ และยาวทั้งจำนวนคนในแต่ละคิวขนาดไหน คิดเผื่อกันไว้หรือยัง?

และนี่จะเป็นกรณี "ผีถึงป่าช้า" เพราะเมื่อถึงเวลา จากโครงการรถเมล์ฝังโคตรเพชรที่ ๑ คัน ๑ คนขับ ก็ต้องขยับขยายเป็น ๑ คัน ๑ คนขับ และ ๑ พนักงานประจำรถ ถามว่า "แล้วใครจ่าย?" ที่ต้องจ้างคนอย่างน้อยอีก ๘,๐๐๐ คน โดยคิดหยาบๆ ให้กลางวัน ๑ คน กลางคืน ๑ คน เท่านั้น แต่เอาเข้าจริง ทำงานคนละ ๘ ชั่วโมง แล้ววันหนึ่งรถเมล์ต้องวิ่งกี่ชั่วโมงต่อคัน คิดเอาแล้วกัน ปัญหาจริงที่ต้องจ่ายอันไม่มีใน TOR นี้จะทำให้ ขสมก.ต้องจ้าง "พนักงานประจำรถ" เองเป็นหมื่นๆ คน ...ขนลุกมั้ยล่ะ?!

"ฮิลลารี่"เยือนไทยถก"ไฟใต้-การเมือง"


Image by Getty Images via Daylife
"ฮิลลารี่"เยือนไทยถก"ไฟใต้-การเมือง" คมชัดลึก
คมชัดลึก :รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯจะเยือนไทยในเดือนหน้า ท่ามกลางความวิตกเรื่องปัญหาภาคใต้และความปั่นป่วนทางการเมืองของไทย

(11มิ.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพุธโดยอ้างถ้อยแถลงของนายเคิร์ท แคมพ์เบลล์ ผู้กล่าวในระหว่างการพิจารณารับรองเขา เป็นผู้ช่วยรัฐมน ตรีต่างประเทศสหรัฐฯฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ว่า นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มีแผนจะเดินทางเยือนไทยในเดือนกรกฎาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันของสหรัฐฯที่จะส่งเสริมความมั่นคงในไทย ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรมายาวนาน เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนการเยือน แต่มีรายงานข่าวที่อินเดีย คาดว่าเธอจะไปเยือนที่นั่นในเดือนหน้าเช่นเดียวกันด้วย

แคมพ์เบลล์กล่าวว่า ไทยกำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายอย่างชัดเจนมาก ( very real challenges) เมื่อพิจารณาจากเหตุโจมตีมัสยิดแห่งหนึ่งในภาคใต้ของไทยเมื่อวันจันทร์ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 คนและเขายังคาดการณ์ด้วยว่าจะมีความปั่นป่วนทางการเมืองเพิ่มขึ้นในไทย ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 4 คน นับจากมีการก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

แคมพ์เบลผู้เป็นนักวิชาการและเป็นอดีตนายทหารเรือกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯกำลังพยายามสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างกลุ่มการเมืองต่างๆในไทย เพื่อส่งเสริมความมั่นคง แต่ก็เชื่อว่าสมควรทำเช่นนั้นแบบเป็นส่วนตัว เพราะยิ่งเปิดเผยต่อสาธารณชนมากยิ่งขึ้นเท่าไร อาจจะยิ่งทำให้เกิดผลที่ไม่คาดฝัน อาจทำให้สหรัฐฯตกอยู่ในสถานการณ์ที่ว่า กำลังส่งเสริมสิ่งที่อาจเป็นผลเสียอย่างมาก ทั้งในหมู่ชนชั้นนำในสังคมไทย และที่อื่นๆ (To be more open and more public right now could very well backfire. We might find ourselves in a situation where you're promoting things that could play very badly, not just among the elite in Thai society but elsewhere)

เขากล่าวด้วยว่า สหรัฐฯมีความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับไทยและปรารถนาจะกระชับความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น ขณะที่เอเอฟพีรายงานว่าไทยเป็นชาติพันธมิตรเก่าแก่สุดของสหรัฐฯในเอเชีย และเป็นที่ทราบกันดี เรื่องที่ไทยในสมัยใช้ชื่อประเทศว่าสยาม ได้เคยเสนอจะช่วยจัดส่งช้างไปช่วยอดีตประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ทำสงครามกลางเมืองสหรัฐฯ ช่วงระหว่างปี 1861-1865 ไทยยังสนับสนุนสหรัฐฯในหลายกรณีความขัดแย้งหลังจากนั้น รวมทั้งในสงครามเวียดนาม และสงครามอิรักครั้งที่สองเพื่อโค่นล้มอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซ็นด้วย

Reblog this post [with Zemanta]

อัยการเผยจนท.ไม่ปลื้ม FBI

โพสต์ ทูเดย์ - อัยการเผยจนท.ไม่ปลื้มFBI
อัยการชี้เจ้าหน้าที่ไทยอาจไม่อยากให้เอฟบีไอสืบคดีคาราดีน

นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายเดวิด คาร์ราดีน นักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดชื่อดัง ที่เสียชีวิตในประเทศไทย ว่า

ตามหลักอำนาจอธิปไตย การดำเนินคดีอาญาที่เกิดในประเทศใดย่อมเป็นอำนาจของประเทศนั้น หากมีการขอความร่วมมือในการสืบสวน หรือการร่วมสังเกตการณ์ สามารถกระทำได้ตามช่องทางของสนธิสัญญา

ทั้งนี้ ตามที่เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางประเทศสหรัฐอเมริกา (เอฟบีไอ) ร้องขอให้เจ้าหน้าที่เข้าร่วมการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายเดวิดนั้น อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากญาติของนายเดวิด ร้องขอให้เข้ามาช่วย และเป็นที่ทราบโดยทั่วไปว่า เอฟบีไอเป็นองค์กรของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ เมื่อเข้ามาจะขอความร่วมมือกับชาติใดมักจะได้รับความร่วมมือ

"เอฟบีไอมีเครื่องมือทันสมัยกว่า การตรวจสอบได้ลึกกว่า ส่วนระบบการบริหารจัดการ ไม่น่าต่างกับหน่วยงานพิเศษของไทย คิดว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย คงไม่อยากให้เอฟบีไอเข้ามาทำงาน แต่การสืบสวนสอบสวน บางกรณีควรมีผู้ชำนาญการพิเศษมาร่วมงานการคลี่คลายคดีจะได้รุดหน้า หากทางเอฟบีไอมาประสานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเมื่อใด จะแจ้งให้ทราบ"นายศิริศักดิ์ กล่าว


ศาลยกฟ้อง อภิสิทธิ์ สุเทพ หมิ่นทรท.โกงเลือกตั้ง

โพสต์ ทูเดย์ - ศาลยกฟ้องหมิ่นทรท.โกงเลือกตั้ง
ศาลอาญายกฟ้องนายกฯ-สุเทพหมิ่นฯทรท.จ้างพรรคเล็กโกงเลือกตั้ง

เวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.908 /2549 นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นโจทก์ฟ้องพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามมาตรา 326, 328, 332 และ 393 กรณีเมื่อวันที่ 16 มี.ค.49 นายสุเทพ และนายองอาจ ร่วมกันแถลงข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุพบผู้บริหารพรรคไทยรักไทยอย่างน้อย 3 คนสั่งการและจ่ายเงินให้ขบวนการทุจริตเลือกตั้ง โดยการให้พรรคเล็กลงสมัครแข่งขันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 และกล่าวจูงใจให้ประชาชนไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว ที่ห้องพิจารณาคดี 704

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 3 นายสุเทพ ได้แถลงข่าวกล่าวตามข้อเท็จจริงที่ได้รับฟังมา และตรวจสอบโดยสุจริต แถลงข่าวแสดงความคิดเห็นให้ประชาชนได้รับทราบถึงการกระทำ และการทำลายประชาธิปไตยของประเทศ เป็นการปกป้องประโยชน์ของประเทศ อีกทั้งเวลาต่อมาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย อันเนื่องจากกระทำผิดโดยกรรมการบริหารพรรคที่ได้ว่าจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง ดังนั้นจำเลยที่ 3ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และเมื่อไม่มีความผิดจำเลยที่1,2,4ไม่ต้องร่วมรับผิดชอบจึงพิพากษายกฟ้อง

ทั้งนี้ หลังใช้เวลาฟังคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง นายอภิสิทธิ์ ได้ให้คนขับรถยนต์ประจำตำแหน่งซึ่งเป็นรถกันกระสุนไปรับบริเวณประตูข้างของ ศาลอาญาเพื่อเลี่ยงกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ นายวีระ มุสิกพงษ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ นพ.เหวง โตจิราการ ที่มารายงานตัวต่อศาลหลังครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย เพื่อคืนหลักทรัพย์ประกันและปล่อยตัว เนื่องจากอัยการฟ้องคดีไม่ทัน ภายใน 48 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด โดยนายอภิสิทธิ์ได้เดินทางไปยังสถานกงสุลกาบอง ย่านประดิพัทธ์ เพื่อลงนามแสดงความเสียใจ ที่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐกาบอง ถึงแก่อสัญกรรม.


ไขปริศนาตู้คอนเทนเนอร์

โพสต์ ทูเดย์ - ไขปริศนาตู้คอนเทนเนอร์
เริ่มสำรวจตู้คอนเทนเนอร์แสมสารแล้วหมอพรทิพย์แจงชาวบ้านหวั่นสารพิษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เรือหลวงตะลิบง ได้นำนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ และเครื่องใช้อุปกรณ์ เดินทางมุ่งหน้าไปที่อ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีแล้ว เพื่อดำเนินการสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาที่จมอยู่ใต้ทะเล กรณีญาติวีรชนพฤษภา35 ได้ร้องเรียนต่อรัฐบาลว่า สิ่งที่อยู่ภายในตู้ดังกล่าวอาจเป็นมีศพของผู้สูญหายในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬซุกซ่อนอยู่ ทั้งนี้ เมื่อเวลา08.00น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนดคีพิเศษ หรือดีเอสไอ เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้ากรมควบคุมมลพิษ เดินทางไปร่วมสมทบที่จุดดังกล่าวแล้วเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางไปถึงอ่าวแสมสารจุดที่ตู้คอนเทนเนอร์จมอยู่ใต้ทะเล ทีมงานทั้งหมดจะเริมลงมือปฎิบัติหน้าที่โดยแบ่งการทำงานเป็น4 ขั้นตอน เริ่มจากตรวจหาค่ากัมมันตรังสี และติดตั้งเครื่องวัดค่าสารกัมมันตรังสี ก่อนจะคำนวณการใช้เวลาของนักประดาน้ำ เพื่อความปลอดภัย การนำน้ำจากจุดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบสารพิษ และตรวจสอบรอยรั่วต่างๆว่าสามารถส่องกล้องลงไปด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกันทีมนักประดาน้ำชุดที่ 2จะลงไปเก็บปะการังเพื่อตรวจหาอายุของตู้ และนักประดาน้ำชุดที่ 3 จะลงไปส่องกล้องถ่ายภาพว่ามีวัตถุชนิดใดอยู่ภายในหรือไม่ โดยเชื่อมต่อกับจอมอนิเตอร์บนเรือ

ทั้งนี้ในเวลา09.00น.แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะเดินทางไปร่วมตรวสอบด้วย รวมถึงการทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่เกรงว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์อาจมีสารพิษที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

กกต.ยุติสอบ"เนวิน"ช่วยตั้งรบ.

โพสต์ ทูเดย์ - กกต.ยุติสอบ"เนวิน"ช่วยตั้งรบ.
กกต.มีมติ ให้ยุติเรื่อง "เนวิน" ช่วย "อภิสิทธิ์" ตั้งรัฐบาล ชี้ มีสาระเดียวกับที่เคยให้ความเห็นไปแล้ว

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. แถลงว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณามีมติเสียงข้างมากให้ยุติเรื่องกรณีคำร้องของนายพิชา วิจิตรศิลป ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์และเครือข่าย ที่ขอให้ กกต.ยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยน่าจะมีการขอให้ผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เช่นนายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นต้น นั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ตามความเห็นของคณะอนุกรรมการ เนื่องจากเห็นว่าข้อร้องเรียนของนายพิชา มีสาระในทำนองเดียวกับที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ได้ร้องเรียน และกกต.ก็เคยมีความเห็นให้ยุติเรื่องไปแล้ว

กรณ์เมินใช้เงินสำรองกระตุ้นศก.

โพสต์ ทูเดย์ - กรณ์เมินใช้เงินสำรองกระตุ้นศก.
รมว.คลังเมินนำเงินสำรองใช้กระตุ้นศก.รอบ2ยันสภาพคล่องยังดี
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่นักวิชาการออกมาแสดงความเห็นว่า รัฐบาลควรนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่จำนวนมากในขณะนี้ มาใช้ลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 แทนการกู้เงินจำนวนมากว่าการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้ไม่ได้อยู่ในแผนงานของรัฐบาล เนื่องจากสภาพคล่องในระบบที่มีอยู่ขณะนี้ มีเพียงพอรองรับการลงทุนของรัฐบาลโดยย้ำว่าแผนการกู้เงินวงเงิน 4 แสนล้านบาทจะเป็นการกู้ภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีบทบาทสำคัญในการเข้ามารับซื้อพันธบัตรของรัฐบาล ที่จะนำออกมาจำหน่ายให้กับนักลงทุน สำหรับระดมเงินไปใช้ในการลงทุน ซึ่งถือเป็นการรักษาสภาพคล่องเพื่อให้รัฐบาลเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยไม่กระทบต่ออัตราดอกเบี้ยในระบบมากนัก

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เชื่อว่า ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย กำลังพิจารณาว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ในขณะนี้มีมากหรือน้อยอย่างไร เพื่อนำไปพิจาณาถึงการแก้ไขกฎหมายการเงิน ซึ่งหากเห็นว่าเงินทุนสำรองมีมากเกินไป ก็อาจมีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สามารถนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศออกมาใช้สำหรับการลงทุนในอนาคตได้ต่อไป.

Tuesday, June 9, 2009

กต.ยัน"แม้ว"ถูกเยอรมันเลิกวีซ่า"เชงเก้น" หลังพบเข้าปท. "นพดล"โต้ข่าวปลอมชื่อไร้สาระ ไปไหนคนก็จำได้

หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
กต.ยัน"แม้ว"ถูกเยอรมันเลิกวีซ่า"เชงเก้น" หลังพบเข้าปท. "นพดล"โต้ข่าวปลอมชื่อไร้สาระ ไปไหนคนก็จำได้

กต.ยัน"ทักษิณ"ถูกเยอรมันเลิกวีซ่า"เชงเก้น" หลังพบเข้า ปท. "นพดล"โต้ข่าวปลอมชื่อไร้สาระ ไปไหนก็จำได้ "เทพไท"เชื่อเป็นแค่สมมติฐาน ยัน"มาร์ค"รับผิดชอบคำพูด รมต.บัวแก้วรับกำลังตรวจสอบอยู่ ไม่รู้ใช้กี่ชื่อ

"นพดล"โต้"ทักษิณ"ปลอมชื่อไร้สาระ ไปไหนใครก็จำได้

นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุพ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อปลอมเดินทางไปต่างประเทศว่า เป็นเรื่องไร้สาระ ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อเดิมทุกครั้งและไม่เคยเปลี่ยนชื่อในการเดินทาง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปไหน ก็มีคนรู้จัก จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อ ดังนั้น นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่จำเป็นต้องมาสอบเรื่องนี้

"การที่พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางไปที่ใดก็ได้ เนื่องจากต่างประเทศเข้าใจและเห็นใจ ที่ถูกเล่นงานจากเกมการเมืองในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีและนายกษิตควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปราสาทเขาพระวิหารดีกว่า ขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่ที่เมืองดูไบ ส่วนกรณีที่ประเทศเยอรมันนีถอนวีซ่าเดินทางเข้าประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เนื่องจากวีซ่าเข้าเยอรมันได้ประทับตราในพาสปอร์ตของไทย แต่เมื่อทางการไทยยกเลิกพาสปอร์ตเล่มดังกล่าว ส่งผลให้วีซ่าเข้าเยอรมันต้องยกเลิกไปโดยปริยาย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ" นายนพดล กล่าว

ยัน"ทักษิณ"ถูกเยอรมันเลิกวีซ่า"เชงเก้น" หลังพบเข้า ปท.

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกฝ่ายการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่วีซ่าเข้าเยอรมนีของพ.ต.ท.ทักษิณถูกยกเลิก เมื่อถูกยกเลิกพาสปอร์ตของไทยว่า ตนได้ตรวจสอบกับสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยแล้ว และได้รับแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางเข้าประเทศเยอรมนีเมื่อเดือนธันวาคมปี 2551 โดยใช้พาสปอร์ตนิคารากัวและใช้วีซ่าเชงเก้นไปอยู่ที่เยอรมนีเป็นเวลา 2 วัน หากเป็นการเดินทางโดยทางรถยนต์ จะไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้น เยอรมนีจะไม่ทราบว่าพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามาได้อย่างไร โดยทางเยอรมนีเพิ่งตรวจพบเมื่อเดือนเมษายนปี 2552 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้ามา หลังจากได้ยินข่าวดังกล่าวแล้ว จึงได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ

"การที่นายนพดลระบุว่า ทางการเยอรมันไม่ได้ยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถูกยกเลิกไปเพราะทางการไทยยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่ตรงกับข้อเท็จจริง นอกจากนี้ ทางเยอรมันยังยืนยันว่าได้ให้ความสัมพันธ์สูงสุดกับความสัมพันธ์ของสองประเทศ เห็นได้จากการที่มีการยกเลิกวีซ่าเชงเก้นของพ.ต.ท.ทักษิณที่พบเป็นข่าว ก่อนที่จะแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ" นายชวนนท์ กล่าว

เมื่อถามว่า ทางการเยอรมนีได้ยืนยันกับฝ่ายไทยหรือไม่ว่า หลังจากนี้จะไม่มีการออกวีซ่าเชงเก้นให้กับพ.ต.ท.ทักษิณอีกต่อไป นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดแบบนั้น แต่เชื่อว่าน่าจะตีความได้ว่าทางเยอรมนีคงจะไม่ให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางเข้าประเทศอีกแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นคงจะไม่ยกเลิกวีซ่าเก่า รวมทั้งยังได้รีบชี้แจงมายังไทย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณคงไม่ได้เปลี่ยนชื่อในหนังสือเดินทางของประเทศอื่น เพราะไม่เช่นนั้นทางการเยอรมนีคงไม่สามารถตรวจสอบพบได้ว่า มีการเดินทางเข้าไปโดยใช้พาสปอร์ตของประเทศอื่น


โฆษก"มาร์ค"เชื่อข่าว"แม้ว"ปลอมชื่อแค่สมมติฐาน แต่เชื่อมีมูล

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชาชน เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ควรพูดถึงสิ่งที่ไม่รู้จริงเกี่ยวกับการใช้ชื่อปลอมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า พวกตนได้รับข่าวเรื่องการเปลี่ยนชื่อเดินทางไปประเทศต่างๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ มานานพอสมควรและพยายามที่จะตรวจสอบ ซึ่งจะเห็นได้ว่าจากการตรวจสอบไปยังประเทศที่พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ ไม่ปรากฎชื่อพ.ต.ท.ทักษิณเข้าออกในประเทศนั้นๆ จึงมีการตั้งสมมติฐาน และเชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณใช้ชื่อบุคคลอื่นจริง ไม่เช่นนั้นคงจะมีชื่อพ.ต.ท.ทักษิณในพิธีการทูตและการเข้าออกประเทศนั้น ๆ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะได้ตรวจสอบต่อไปเพื่อนำหลักฐานมายืนยัน

"สิ่งที่ท่านนายกฯได้เปรยเรื่องนี้ขึ้นมา ผมเชื่อว่าท่านนายกฯคงได้รับกระแสข่าวนี้เช่นเดียวกัน จึงทำให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ออกมาสัมภาษณ์ว่าถ้าไม่รู้จริงไม่ควรพูด ผมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เป็นที่รับผิดชอบในคำพูดและสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดน่าจะมีมูลความจริง" นายเทพไท กล่าว

"กษิต"รับกำลังตรวจสอบ"แม้ว" ใช้ชื่อปลอมร่อนทั่วโลก

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 (บน. 6) ถึงกรณีสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาในหลายคดี ใช้ชื่อปลอมในการเดินทางไปกบดานในประเทศต่างๆ ว่า "ตรวจสอบอยู่"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณใช้ชื่อปลอมกี่ชื่อ นายกษิตปฏิเสธว่า "ไม่ทราบ"

กล้วยไม้ป่า ๑ มติชน - ไขปริศนา ทักษิณเข้าเยอรมันอย่างไร

ตามรายงานข่าวของ นสพ ท้องถิ่น รายงานว่า

....เมื่อ นช ทักกี้ โผล่หน้าเหลี่ยมๆ ไปที่ สนง ตรวจคนเข้าเมืองท้องถิ่น เมื่อวันที่ 29 ธค 51 เพื่อยื่นขอให้ทางการออกวีซ่าประเภทพํานักอาศัยเป็นเวลา 1 ปีนั้น

เสมียนที่ สนง คงจะคิดว่า ตนก้มหน้าทํางานตามขั้นตอน ดีกว่ามานั่งถามคําถามอะไรมากมาย

เนื่องจากชาวต่างชาติผู้นี้ ไม่เหมือนพวกต้องการลี้ภัย และ นักศึกษาต่างประเทศอื่นๆ เพื่อจะต้องเข้าคิวรอกันนานนับชั่วโมงเพื่อยืนเรื่อง แต่เขามาพร้อมกับ "ตัวใหญ่" หลายคน หนึ่งในนั้น เป็นนักกฏหมายที่มีชื่อเสียงมากในวงการกฏหมายของประเทศเยอรมัน

คนที่สองเป็นอดีตผู้บัญชาการตํารวจ ของกรุงบอน์นในด้านการสืบสวน สอบสวนอาชญากรรม

คนที่สี่นั่งข้าง นช ทักกี้ แจ้งว่าชื่อ Richard Nelson.
เสมียนผู้นั้นเข้าใจว่าได้ยินคนชื่อ Nelson บอกว่า ตัวเขาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานด้านข่าวกรองของรัฐ ที่มีชื่อย่อว่า BND

เมื่อมีการสอบสวนเรื่องราวในกาลต่อมาที่กรุงบอน์น ซึ่งมีผลให้มีคําสั่งยกเลิก เพิกถอนวีซ่าฉบับที่อนุญาตไปแล้ว โดยประกาศยกเลิกเมื่อ วันที่ 28 พค 52 ที่ผ่านมานี้

แต่ผลสอบไม่ปรากฏว่าหน่วยงาน BND มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้แต่อย่างใด

เนื่องจากเมืองบอน์นไม่เหมือนที่อื่น ผู้คนชาวเอเซียไม่ค่อยจะอยู่ปะปนในสังคมมากนัก และจะพยายามหลบหน้าจากฝูงชนให้มากที่สุด

นิวาศสถานของ นช ทักกี้ ก็เป็นเรื่องลึกลับซ่อนเงื่อน ในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมา เขาโผล่ไปพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคที่นครปักกิ่งเมื่อปีก่อน แล้วก็เคลื่อนย้ายออกไปพักแรมที่ นครลอนดอน อยู่หลายเดือน จนกระทั่งประเทศอังกฤษ ประกาศยกเลิกวีซ่าของเขาไป

ตามข้อมูลของ นสพ ท้องถิ่นเยอรมันที่รายงานข่าวเรื่องนี้ นช ทักกี้ เดินทางไปหลายประเทศเมื่อเขาได้รับการอนุมัติวีซ่าสหภาพยุโรป เป็นเวลา 90 วัน ที่ออกให้จากฝรั่งเศส

ตามที่สํานักข่าวต่างๆ รายงานว่า พบเห็น นช ทักกี้ ที่ฮ่องกง เกาะบาหลี UAE มอนเตนิโกร และแมัแต่ในแอฟริกา นั้น

แต่โดยแทัจริงแล้ว นช ทักกี้ ไม่ได้เคลื่อนไปไหนเลย ตัวเขาพํานักอยู่ที่เมืองบอน์นนี่แหละตลอดช่วงเวลานั้น

นสพ รายงานว่า ในขั้นต้น หน่วยงานข่าวกรอง BND ของทางการเยอรมันสงสัย บุคคลที่สี่ที่มากับ นช ทักกี้ ว่าจะเป็นสายลับต่างชาติ แต่เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลทางลึก ปรากฏว่า คนที่ใช้ชื่อ Nelson เป็นชื่อเรียกกันทั่วไปของพวกนักสืบเอกชน

ขณะเดียวกัน คนที่ชื่อ Werner Mauss นักกฏหมายที่มีชื่อเสียงมากที่พา นช ทักกี้ ไปยื่นเอกสาร กระทําการในฐานะส่วนตัว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือ ทํางานให้กับ หน่วยงาน BND แต่อย่างใดทั้งนั้น

หลายปีที่ผ่านมานี้ ชื่อของ Mauss ปรากฏบนหน้า นสพ ในเยอรมันบ่อยๆ ในฐานะนักแก้ปัญหาอิสระ ผู้มีกึ๋นดั่งเหล็กกล้า และมี สายสน กลใน ที่แผ่กว้างไพศาลมากในแวดวงตํารวจ และหน่วยราชการทั้งหลายในเมืองบอน์น ซึ่งเคยเป็นนครหลวงสมัยยังเป็นเยอรมันตะวันตก

แน่นอนหล่ะว่า นช ทักกี้ มีเงินมากพอที่จะจ่ายเป็นค่าบริการใดๆที่ นาย Mauss ผู้มีชื่อเสียงและเส้นสาย จะเรียกเก็บกับเขา

เจ้าหน้าที่เสมียนที่ สนง ตรวจคนเข้าเมืองได้สอบถามกับ นช ทักกี้ว่า เจ้ามี--มากพอที่จะใช้จ่ายด้วยตัวเองไหม

ทั้งนี้เพื่อจะให้แน่ใจว่า นช ทักกี้ จะไม่เที่ยวมารบกวนสวัสดิการสังคมของเยอรมันเมื่อเข้ามาอาศัยแล้ว

ซึ่งคําตอบก็ต้องว่า มีทรัพย์มากพอที่จะอยู่ได้สบาย

ถามว่า นช ทักกี้ เจ้ามีประกันสุขภาพของเจ้าเองมั้ย คําตอบก็ต้องว่า มีครับ

ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ที่พา นช ทักกี้มาที่ สนง เป็นคนช่วยสื่อสารกับเสมียนผู้นั้น นช ทักกี้

ระบุว่า ตัวเขาขณะนั้นพํานักอยู่ในเขตอาศัยที่หรูหราที่สุดในกรุงบอน์น ที่มีชื่อว่า Bad Godesberg เป็นแหล่งพักอาศัยที่อุดมไปด้วยต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง มีสวนดอกไม้มากมาย และเต็มไปด้วยบ้านโบราณหลังใหญ่ๆ ที่มีระเบียงสามารถนั่งมองความสวยงามของแม่นํ้า Rhine อย่างมีความสุข

เมื่อเสมียนผู้นั้น ตรวจสอบกับฐานข้อมูลกลางว่า ชาวต่างประเทศผู้นี้ไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือ มีความผิดเรื่องวีซ่าของกฏหมายเยอรมันแต่อย่างใดไม่แล้ว ก็ให้การอนุมัติคําร้องขออนุญาตวีซ่าพํานักอาศัย 1 ปีนั้นไป

นสพ ฉบับดังกล่าว ตั้งข้อสังเกตุว่า ในขั้นต้น นช ทักกี้คงจะได้รับอนุมัติวีซ่า 90 วัน เพื่อเข้าเยอรมัน ด้วยความช่วยเหลือจาก อดีตนักการเมืองเยอรมันสายอนุรักษ์นิยม ที่แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ สนง ตรวจคนเข้าเมืองว่า

นช ทักกี้ ได้รับเชิญมาให้ข้อมูลเรื่องการเมืองของประเทศไทยให้แก่ผู้สนใจได้รับทราบกัน

แล้ว นช ทักกี้ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเยอรมันนานขนาดไหน ไม่มีใครทราบแน่ชัด

ไม่มีการรายงานให้ทราบว่า นช ทักกี้ เดินทางออกไปเมื่อไร แต่ นสพ ฉบับนั้น รายงานว่า ขณะนี้ นช ทักกี้ ถือพาสปอร์ตทางการทูตของประเทศนิคารากัว ซึ่งระบุว่า เป็นทูตผู้มีหน้าที่พิเศษ ทํางานให้แก่ประเทศในอเมริกากลางแห่งนั้น

เมื่อข่าวนี้ถูกเปิดเผยขึ้น มีการไล่เรียงเอาเรื่อง เอาราวกับหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับสูงสุดของผู้นําประเทศ

แทนที่จะทําการจับกุม และโยนนักการเมืองที่เข้าเมืองโดยผิดกฏหมายออกไปจากประเทศ หรือ อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้นําประเทศไทยคนปัจจุบัน ด้วยการเพิกเฉย

แต่ประเทศซีกโลกตะวันตกมักจะ "ปิดประตู" ไม่ให้ผู้นั้นเข้าประเทศอีกต่อไป เพราะจะได้ไม่มีเรื่อง ร้อน ร้อน ติดตามมาภายหลัง

นสพ ฉบับดังกล่าว รายงานต่อไปว่า สนง ผู้นํารัฐบาล (คล้ายๆ สํานักนายกฯ) และ กระทรวงต่างประเทศเยอรมันทําการกดดันให้ทาง มลฑล North Rhine Westphalia ที่นครบอน์นตั้งอยู่ ทําการแก้ไขข้อผิดพลาดนี้เสีย และให้ประกาศเพิกถอนวีซ่าอนุญาตให้พํานักอาศัย โดยทันที..........

รัฐบาลเยอรมันหัวเสียมากกับเหตุการณ์นี้ ที่เสมือนเป็นการฉีกหน้าเขา เพราะเขากลัวจะกระทบความสัมพันธ์กับประเทศไทย เนื่องจากทางเยอรมันมีการลงทุนมาก

ดังนั้น เขาไม่สนใจผู้นําถูกถีบตกเก้าอี้อีกต่อไป

ผลประโยชน์ประเทศของเขาต้องมาก่อน

ผิดกับ นช ทักกี้ ต้องเอาประโยชน์ข้ามาก่อน ข้ามีเงิน ข้าใช้เงินซื้อทุกอย่างใ้มีชีวิตอยู่ได้ไปวันๆ

ใครเป็นไงช่างแม้งงง แล้วบอกว่า ข้ารักรากหญ้าสุดขาดใจ เพราะ ข้าคือ ประชาธิปไตย โว้ยยยย

จาก comments: กล้วยไม้ป่า @ มติชน

ทูตเยอรมนีแจงขึ้นบัญชีดำ"ทักษิณ" ห้ามเข้าเมืองเบียร์ ยกเลิก"วีซ่าเชงเก้น" ตั้งแต่โฟนอินก่อเหตุ

หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
ทูตเยอรมนีแจงขึ้นบัญชีดำ"ทักษิณ" ห้ามเข้าเมืองเบียร์ ยกเลิก"วีซ่าเชงเก้น" ตั้งแต่โฟนอินก่อเหตุ

บัวแก้วแจง ได้รับแจ้งจากสถานทูตเยอรมนีในไทย ขึ้นบัญชีดำ "ทักษิณ ชินวัตร" เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าเยอมนี เว็บไซต์เมืองเบียร์แฉ "ทักษิณ" ติดต่อนายตร.ใหญ่เยอรมันเพื่อออกวีซ่าให้พำนัก 1 ปี ก่อนทางการจับได้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และโฆษกฝ่ายการเมืองของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยว่า ทางเยอรมนีได้ใส่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไว้ในบัญชี national exemption คือเป็นบุคคลที่ห้ามเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551 หลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โฟนอินจากประเทศอื่นเข้ามาในประเทศไทยบ่อยครั้ง ขณะนี้ ทางการเยอรมนี กำลังตรวจสอบอยู่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับใบอนุญาตให้มีถิ่นพำนักในเยอรมนี (resident permit)จากใคร เพราะพ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสิทธิได้ใบอนุญาตดังกล่าวเนื่องจากถูกทางการเยอรมนีขึ้นบัญชีดำไว้แล้ว

ดังนั้นใบอนุญาตของพ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นใบอนุญาตที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งรัฐบาลไม่ได้รับรู้เพราะทางพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้แจ้งให้ทางการ (federal) ของเยอรมนีทราบ และยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบด้วยว่าพ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาทำอะไรในเยอรมนี

"นอกจากยกเลิกวีซ่าเชงเก้นแล้วยังได้ยกเลิกใบอนุญาตให้มีถิ่นพำนักในเยอรมนีของพ.ต.ท.ทักษิณด้วย ทางการเยอรมนียืนยันว่า รัฐบาลเยอรมนีและรัฐบาลอียูจะไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น และจะไม่ยอมให้ใครใช้ประเทศตนเป็นฐานในการโจมตีประเทศอื่นอีกด้วย ทั้งยังได้ประกาศว่าหากพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาเยอรมนีอีกก็จะถูกควบคุมตัว" นายชวนนท์ กล่าว

เว็บไซต์มอนสเตอร์แลนด์คริติคส์ดอทคอม (monstersandcritics.com) รายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์ Sueddeutsche Zeitung ระบุว่าเมื่อถดูร้อนปีก่อน ทักษิณได้ใช้วีซ่า 90 วันเข้าไปยังเยอรมนี จากนั้นในวันที่ 29 ธันวาคมปี 2008 ปรากฎว่าเขาได้รับวีซ่าพำนักในเยอรมนี 1 ปี โดยไม่มีการแจ้งให้กับรัฐบาลกลางทราบ

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้รายงานว่าต่อมารัฐบาลเยอรมันได้สั่งยกเลิกวีซ่าพำนักในเยอรมนี 1 ปีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเวลานี้เขาพักอยู่ที่ไหน ขณะที่ Sueddeutsche บอกต่ออีกว่าเขาใช้พาสปอร์ตทูตในการเดินทางหลังจากพาสปอร์ตไทยของเขาถูกยึด

Sueddeutsche รายงานว่าการตรวจพบว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของเมืองบอนน์ออกวีซ่าให้กับทักษิณ ได้จุดชนวนความสงสัยจากรัฐบาลกลางต่อหน่วยงานภายใน ทว่า กระทรวงต่างประเทศและสำนักงานข่าวกรองต่างประเทศ(บีเอ็นดี) ยืนยันว่าไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน และว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพำนักในย่านไฮโซ บาด โกเดสแบร์ก ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงามติดกับแม่น้ำไรน์ ได้เดินทางมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพร้อมกับนายวาร์กเนอร์ มอสส์ อดีตนายตำรวจเยอรมนี ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายอาชญากรรมที่เป็นที่รู้จักดีในกรุงบอนน์ ทนายความเยอรมันมีชื่อคนหนึ่ง และชาวเยอรมันคนหนึ่งที่ในอดีตเคยทำงานให้กับหน่วยงานข่าวกรองเยอรมนี

สื่อมวลชนรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้าใจว่า มอสส์ มาในฐานะตัวแทนของหน่วยข่าวกรองเยอรมนี จึงออกวีซ่าให้กับทักษิณ ที่ได้ก่อความไม่พอใจแก่เจ้าหน้าที่ทูตของเยอรมนี ที่หวั่นความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีกับไทยอาจตกอยู่ในอันตราย ที่เกิดจากความเข้าใจผิดว่าทางสำนักข่าวกรองเป็นผู้จัดการให้ แต่ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นการดำเนินการของนายมอสส์ เอง

Monday, June 8, 2009

ฟ้องกราวรูด 21 บิ๊ก บสท. ลูกหนี้เล่น กม.อาญายัดคุก

Manager Online
ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉบิ๊ก บสท.กลั่นแกล้งฟ้องล้มละลาย ลูกหนี้สวมหัวใจสิงห์เดินหน้าชน ฟ้องกลับหลังถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลาย แต่ศาลยก งานนี้บอร์ดระดับคนดังของประเทศ 21 ราย โดนเรียบ ทั้ง "เชาว์ สายเชื้อ-ธาริษา วัฒนเกส-ชฎา วัฒนศิริธรรม-ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" ลูกหนี้มั่นใจเอาเข้าคุกได้เหตุขัดกฎหมายอาญามาตรา 188 ชัด "อมใบหุ้น" โทษจำคุก 5 ปี ชี้ บสท.สองมาตรฐานเทียบกรณียึด "ไทยพับลิคพอร์ต" ประเคนตระกูลพานิชชีวะ จับตาศาลไต่สวนนัดแรก 27 ก.ค.นี้

บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. (Thai Asset Management Corporation – TAMC) ถูกจัดตั้งขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เมื่อปี 2544 ยุค นช.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยอ้างเหตุผลให้ บสท.ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จแก้ปัญหาหนี้เสียและฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นธรรมเพื่อให้เศรษฐกิจไทยฟื้น แต่ในทางปฏิบัติหลายครั้งกลับพบว่า บสท.ใช้อำนาจอย่างมีวาระซ่อนเร้นในการปรับโครงสร้างกิจการลูกหนี้ โดยเฉพาะมาตรฐานที่แตกต่างกัน หากเป็นลูกหนี้ที่มีความใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจจะได้รับความช่วยเหลือทั้งลดหนี้และยืดเวลาชำระหนี้ แต่ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามจะถ่วงเวลาให้มูลหนี้เพิ่มขึ้น หลายกรณีมักจบลงด้วยการฟ้องล้มละลาย

ล่าสุด นายจิระ รัตนะรัต ประธาน The Siam Chemicals Public co., LTD (บริษัท สยามเฆมี จำกัด มหาชน) และผู้ก่อตั้งบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต (หรือเดิมคือ บริษัท สีชังทองเทอร์มินัล จำกัด ประกอบกิจการท่าเรือ คลังน้ำมัน) เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกหนี้ผู้เสียหายจากการใช้อำนาจมิชอบของ บสท. ถูกฟ้องล้มละลายเหมือนกับลูกหนี้อีกหลายราย แต่ได้ต่อสู้คดีจนศาลยกฟ้อง การกระทำของ บสท.ในครั้งนี้ควรจะถูกเปิดเผยให้สังคมรับรู้ เพื่อเป็นบทเรียนให้กับผู้บริหารและคณะกรรมการ (บอร์ด) บสท. และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง รวมทั้งลูกหนี้ที่เคยถูก บสท.กลั่นแกล้ง

นายจิระเล่าถึงเบื้องหลังก่อนถูกฟ้องล้มละลายแต่ศาลยกฟ้องว่า ตนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ไทยพับลิคพอร์ต จำกัด ต่อมาธุรกิจประสบปัญหา

มีภาระหนี้สูงถึง 6,000 ล้านบาท เจ้าหนี้ยึดกิจการ

หนี้ถูกโอนเข้า บสท. เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้าง

มีการลดมูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นลง ปรับลดหนี้หรือแฮร์คัตจาก 6,000 ล้านบาท เหลือ 600 ล้านบาท

โดยจะต้องมีการเพิ่มทุน 360 ล้านบาท

ในขั้นตอนการเปิดประมูลมีความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากผู้ถือหุ้นอีกรายคือนายสมบัติ พานิชชีวะ ชนะการประมูล ทั้งๆ ที่ตนก็ได้ยื่นประมูลโดยเสนอราคาที่สูงกว่า แต่ บสท.อ้างว่าขาดคุณสมบัติ จึงไม่ผ่านตั้งแต่คำขอยื่นประมูล

"นายสมบัติเสนอ 600 ล้านบาท ผมเสนอ 800 ล้านบาท ที่สำคัญผมมีเงินและพร้อมจะวางเงินสด ส่วนนายสมบัติไม่มีการวางเงิน แต่อ้างว่ามีเงินอยู่ในตู้เซฟที่ออฟฟิศ 360 ล้านบาท ผมขำนะ บ้าหรือเปล่า ตู้เซฟที่ไหนเก็บเงินเป็นร้อยๆ ล้าน คุณรู้มั้ยต้องใช้ที่กว้างมากๆ ในการเก็บเงินสด 360 ล้าน เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2546-2547 ตอนนี้เงิน 360 ล้าน ไม่รู้จ่ายครบหรือยัง บางทีอาจจะโยงกับเรื่องที่นายสมบัติผลักดันดอนเมืองโทลล์เวย์ (บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ) เข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะหากเข้าไปได้แล้วเงินที่ระดมทุนได้อาจจะมาชำระให้แก่ บสท." นายจิระอธิบายและว่า ตนเคยถือหุ้นใหญ่สุดในบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต จำนวน 70% เมื่อถูกลดทุนจึงเหลือหุ้น 35% และปัจจุบันเหลือ 0.5% ส่วนนายสมบัติจากผู้ถือหุ้นไม่ถึง 10% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ไทยพับลิคพอร์ต

***แฉ 2 มาตรฐานฆ่าศัตรู-อุ้มพวกพ้อง

นายจิระเชื่อว่า มีการวางแผนปล้นและยึดกิจการ ตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงในการจัดตั้ง บสท. เห็นได้จากมีการวางแผนเป็นขบวนการโดยมีนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลศ กรรมการผู้จัดการ บสท. ในขณะนั้นให้ความร่วมมือกับนายสมบัติ และเมื่อบริษัทฯ ถูกยึดเป็นของนายสมบัติ ตนไม่ยอมเพราะเห็นว่าถูกรังแก จึงพยายามคัดค้านแต่ไม่สำเร็จ เมื่อเห็นว่าตนไม่ยอม ผู้บริหาร บสท.จึงไปซื้อหนี้ส่วนตัวที่มีอยู่ในธนาคารไทยธนาคารมูลหนี้ 39 ล้านบาท หวังทำลายชื่อเสียงและธุรกิจที่ผมเป็นเจ้าของกิจการอีกหลายแห่ง เชื่อว่าน่าจะมีการตั้งธงให้เป็นบุคคลล้มละลาย เพราะหลังจากซื้อหนี้มา บสท.มีการเตะถ่วงไม่ปรับโครงสร้างหรือฟื้นฟูหนี้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

"ผมจำนำหุ้นเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ บสท.ไม่ยอมบังคับคดี ไม่นำไปหักหนี้แล้วยังบวกดอกเบี้ยขึ้นมาอยู่ที่ 86 ล้านบาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พร้อมยื่นฟ้องล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลาง ต่อมาศาลนัดฟังคำตัดสินเมื่อเดือนเมษายนพิพากษายกฟ้อง ศาลเห็นว่ารูปคดีไม่พอฟังได้ว่าผมมีหนี้สินล้นพ้นตัว ศาลชี้ 2 ประเด็นคือประเด็น บสท.มีอำนาจฟ้อง แต่ประเด็นลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ปรากฏว่าศาลยกฟ้อง ผมจึงฟ้องเพื่อให้เป็นบทเรียนกับผู้บริหารและบอร์ด บสท. นอกจากเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองแล้ว ผมอยากให้เป็นมาตรฐานและอยากเห็นลูกหนี้ที่ถูกกลั่นแกล้งลุกขึ้นสู้ด้วย"

ศาลเห็นว่าการฟ้องล้มละลาย ประเด็น บสท.อ้างว่าประนอมหนี้ตามขั้นตอนโดยผ่านเอกสารไปตามที่อยู่ลูกหนี้นั้น ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง และหลังจากลูกหนี้นำบัญชีเงินฝากมาแสดงต่อศาล ชี้ให้เห็นว่าลูกหนี้มีสินทรัพย์เพียงพอต่อการชำระหนี้

"จากที่ถูกฟ้อง 86 ล้านบาท ผมเอาบัญชีเงินฝากที่มีอยู่มาแสดงต่อศาล 87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 มี.ค.แต่เมื่อ บสท.เห็นกลับอ้างเรื่องเอกสารขอคุยกับผู้ใหญ่ก่อน แล้วขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 26 มี.ค. แต่พอถึงวันที่ 6 มีหนังสือจากกรมบังคับคดีเรียกเพิ่มอีก 11 ล้านบาท ผมก็เอาเงินฝากเพิ่มรวมเป็น 98 ล้านบาท ตอนนี้เงินถูกอายัดไปทั้งสิ้น 96 ล้าน ผมไม่ติดใจจำนวนเงินมากเท่ากับถูกรังแก จึงลุกขึ้นสู้ด้วยการฟ้องกลับ" นายจิระย้ำ

โดยประเด็นกฎหมายที่ปกป้อง บสท.นั้น นายจิระยืนยันว่ามีข้อกฎหมายที่พิสูจน์ชัดถึงความผิดชัดเจนคือกฎหมายอาญา มาตรา 188 "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท" โดยเล่นงาน บสท.อมใบหุ้นที่ตนวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนวน 1.148 ล้านหุ้น ซึ่งเคยคุ้มมูลหนี้แต่ราคาหุ้นลดลงตามภาวะตลาด ปัจจุบันเหลือประมาณ 11 ล้านบาท แต่ก็ยังใช้หักจากเงินต้นได้ จุดนี้แสดงว่า บสท.ยังผิดกฎหมายมาตรา 284 ของ บสท.ที่ห้ามไม่ให้อายัดทรัพย์เกินกว่ามูลหนี้ เพราะเงิน 96 ล้านบาทได้ถูกยึดไปแล้ว แต่ 11 ล้านบาทยังไม่คืน อย่างไรก็ตาม

จากการศึกษาข้อกฎหมาย บสท.พบว่ามีแต่ใช้อำนาจ ไม่มีบทลงโทษผู้บริหาร

ไม่ว่ามาตรา 51 57 28 หรือแม้แต่ 284 หากลูกหนี้ฟ้อง บสท.ก็ได้รับการคุ้มครอง แม้แต่มาตรา 157 ของ ป.ป.ช.เพราะพนักงานและผู้บริหาร บสท.ไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

"มีเพียงกฎหมายอาญามาตรา 188 เท่านั้น ที่เหลือทำอะไรคน บสท.ไม่ได้ นี่คือความชั่วร้ายของคนที่คิดจะเอาเปรียบคนอื่น ไม่มีกฎหมายแบบนี้ที่ไหนในโลก ผมไม่อยากพูดว่า บสท.เกิดสมัยรัฐบาลทักษิณ (พ.ศ. 2544) เขียนไว้เพื่ออะไร พวกปล้นทรัพย์ เอาเปรียบประชาชน ถ้าจะให้พูดตรงๆ บสท.ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อฟื้นฟูพรรคพวก ใครไม่ใช่พวกโดนทำลาย เรื่องนี้หลายคนไม่กล้าพูด" นายจิระกล่าวและย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเป็นการเลือกปฎิบัติของผู้บริหาร บสท.ที่มี 2 มาตรฐาน กล่าวคือกรณีไทยพับลิคพอร์ตลดหนี้ให้นายสมบัติ ฟื้นฟูเอื้อประโยชน์แต่กรณีตนปล่อยให้ยอดหนี้สูงเกือบร้อยล้าน ไม่มีการติดต่อเจรจาให้ไปฟื้นฟู

นายจิระเปิดเผยว่า จะฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง โดยขณะนี้ได้ยื่นฟ้องผู้บริหารบสท.ทั้ง 21 คน ต่อศาลอาญา ซึ่งศาลรับฟ้องและนัดไต่สวนนัดแรกในวันที่ 27 ก.ค.นี้ ส่วนผู้ถูกฟ้องร้องหรือจำเลยมีทั้งอดีตบอร์ด บสท.และบอร์ดปัจจุบัน ได้แก่

  • นายเชาว์ สายเชื้อ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ
  • คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์
  • นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ อดีตกรรมการผู้จัดการ บสท.
  • นายกัญจนพันธุ์ พันธุ์สุวรรณ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บสท.
  • นายวิชิต ชุมชัยเวทย์
  • นายปรีชา อาภาวัฒนาสกุล
  • น.ส.ธนษร เพชรแสงใสกุล
  • นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
  • รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ร.ต.คัมภีร์ แก้วเจริญ
  • นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  • นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
  • นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน)
  • นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
  • นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
  • นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยและประธานสมาคมธนาคารไทย
  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาสมาคมธนาคารไทย
  • นายวิรัช กฤตผล รองประธานกรรมการ บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) และ
  • นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)

***บิ๊ก บสท.อ้างทำตามกฎหมาย

แหล่งข่าวบอร์ด บสท.ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของ บสท.พิจารณาข้อกฎหมายแล้ว ไม่มีปัญหา บสท.ทำตามกฎหมาย เชื่อว่าสามารถแก้ต่างได้ เพราะ บสท.ไม่มีอำนาจตรวจสอบทรัพย์ กฎหมายไม่ได้ระบุให้ บสท.เอาหุ้นลูกหนี้ออกขายและหุ้นที่ลูกหนี้จำนำไว้ไม่มีสภาพคล่องให้ซื้อขาย อย่างไรก็ตาม บสท.เปิดโอกาสให้ลูกหนี้เจรจา (<<หลังจากโดนฟ้องกลับ - TDMZ)

"การฟ้องล้มละลายลูกหนี้เป็นสิทธิ์ที่ บสท.ในฐานะเจ้าหนี้ทำได้ตามกฎหมาย มีสิทธิ์บังคับหรือไม่บังคับขายหุ้นที่ลูกหนี้จำนำไว้ เพราะหุ้นที่จำนำเป็นสิทธิ์ของ บสท. กฎหมายให้ฟ้องหรือไม่ฟ้อง บังคับหรือไม่บังคับก็ได้" แหล่งข่าวกล่าว

TDMZ - อเมริกามี Chapter11 Bankruptcy Protection เมืองไทยกลับมีแต่อยากจะให้ลูกหนี้ล้มละลาย

Chapter 11

Reorganization Under the Bankruptcy Code

The chapter of the Bankruptcy Code providing (generally) for reorganization, usually involving a corporation or partnership. (A chapter 11 debtor usually proposes a plan of reorganization to keep its business alive and pay creditors over time. People in business or individuals can also seek relief in chapter 11.)

Sunday, June 7, 2009

DSI รวบซี6 สตง.เรียกรับสินบน

โพสต์ ทูเดย์ - รวบซี6 สตง.เรียกรับสินบน
DSI-ปปท.รวบเจ้าหน้าที่ ซี6 สตง.ทุจริตต่อหน้าที่ เรียกรับสินบน 1 แสน อบต.แหลมฟ้าผ่า จ. สมุทรปราการ

ภายหลังจากที่ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา นายก อบต. แหลมฟ้าผ่าได้ร้องขอให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 3 (จังหวัดนครปฐม)ที่ได้ทำการตรวจสอบการเงินทั่วไปของ อบต.แหลมฟ้าผ่า ระหว่างวันที่ 20-29 พ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ สตง.คนดังกล่าวได้แจ้งให้นายก อบต. ทราบว่า จากการตรวจสอบของ สตง. พบว่า อบต.แหลมฟ้าผ่ามีการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่ถูกต้อง โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะต้องถูกเรียกเงินคืนและถูกดำเนินการทางวินัย แต่หากนายก อบต. ยินยอมจ่ายเงินตอบแทนให้กับเจ้าหน้าที่สตง.คนดังกล่าว ก็จะช่วยดำเนินการแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อย

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผอ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตำรวจสภ.พระสมุทรเจดีย์ และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ร่วมกันจับกุมน.ส. รุ่งทิพย์ สิทธินันทนานนท์ อายุ 41 ปี ข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 6 สังกัดสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 3 (จังหวัดนครปฐม) พร้อมด้วยเงินสดของกลางจำนวน 100,000 บาท เป็นเงินที่ผู้ต้องหาเรียกรับจากนายกอบต.แหลมฟ้าผ่า

พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า ภายหลังสืบทราบข้อเท็จจริงชุดสืบสวนดีเอสไอร่วมกับสภ.พระสมุทรเจดีย์ วางแผนจับกุมผู้ต้องหา โดยมีการถ่ายสำเนาธนบัตรจำนวนทั้ง 100,000 บาท ไว้และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังสามารถบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของผู้ต้องหา รวมถึงบันทึกภาพของผู้ต้องหาขณะทำการเรียกรับเงินจากอบต.แหลมฟ้าผ่า ซึ่งดีเอสไอได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

แม้วกบดานเยอรมันนานครึ่งปี

Location of the Federal Republic of Germany wi...Image via Wikipedia

โพสต์ ทูเดย์ - แม้วกบดานเยอรมันนานครึ่งปี
เยอรมันสวดหน่วยสืบราชการลับหลังทักษิณกบดานนานครึ่งปี

ทีวีไทย รายงานอ้างสื่อเยอรมันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพำนักอยู่ในเยอรมันเป็นเวลาถึงครึ่งปี โดยเดินทางเข้าเยอรมันอย่างถูกต้อง และถือหนังสือเดินทางของนิการากัว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางการเยอรมันได้รับวีซ่าแล้วและพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อาศัยอยู่ใน เยอรมัน

ทั้งนี้ การพำนักของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลายาวนาน ทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองถูกตำหนิอย่างหนัก เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไทย นอกจากนี้ ยังถือเป็นความบกพร่องของหน่วยสืบราชการลับของเยอรมันที่ไม่มีข้อมูลการเข้า ประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ.
Reblog this post [with Zemanta]

"อภิสิทธิ์"วิพากษ์การศึกษาไม่สนองศก.-สังคม

"อภิสิทธิ์"วิพากษ์การศึกษาไม่สนองศก.-สังคม คมชัดลึก
คมชัดลึก :นายกฯ วิพากษ์ระบบการศึกษาไทยไม่ตอบสนองศก.-สังคม ชี้ผลิตกำลังคนกลับว่างงาน ขณะที่สถานประกอบการต้องการกำลังคนมากขึ้น หวังสหกิจศึกษาพัฒนาบัณฑิตมีคุณภาพ พร้อมทำงาน พร้อมเชื่อมกลับเข้าไปสู่ระบบการศึกษา

(6มิ.ย.) ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็คเมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)จัดงานวันสหกิจศึกษาครั้งที่ 1 พ.ศ.2552 โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งในการเป็นประธานเปิดงานว่า ขณะนี้กำลังจะมีการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 เพราะหลายฝ่ายมองว่าการปฏิรูปฯ รอบที่ผ่านมายังไม่บรรลุผลเท่าที่ควร ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องทบทวนแนวทางการแก้ไขปรัปปรุงระบบการศึกษาครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เพราะรัฐบาลตระหนักดีว่าเรื่องการศึกษาและการสร้างคนเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศ

ซึ่งเรื่องสหกิจศึกษาถือเป็นวาระสำคัญของการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 โดยเฉพาะในส่วนของผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ของระบบการศึกษา ซึ่งคงไม่ได้วัดเพียงว่าเด็กเรียนกี่ปี จบได้คะแนนเท่าใด หรือเรียนต่อในสัดส่วนเท่าใดเท่านั้น แต่จะต้องดูด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วระบบการศึกษาได้เปิดทางให้เด็กได้ใช้ศักยภาพ และแสวงหาโอกาสในการประกอบอาชีพการงานเพื่อความก้าวหน้าได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงบทบาทในฐานะพลเมืองในสังคมที่ควรจะเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของส่วนรวมต่อไป

“จุดหนึ่งที่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ของการประเมินระบบการศึกษาไทยมาตลอดคือ ปัญหาการผลิตคนให้ตรงกับความต้องการทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งที่ผ่านมาเป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนให้เห็นว่าจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไข เพราะเรามีปัญหาความไม่สมดุล ซึ่งทุกปีจะได้ยินเสียงบ่นว่ามีบัณฑิตจำนวนมากที่จบการศึกษามาแล้วไม่สามารถหางานทำได้ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จึงเป็นข้อห่วงใยมากว่าบัณฑิตที่จบใหม่ จะเป็นกลุ่มคนสำคัญที่มีความเสี่ยงต่อการที่อยู่ในภาวะว่างงาน และทำให้เป็นสิ่งที่ซ้ำเติมทั้งภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ความเดือนร้อนของเด็กและครอบครัว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุนภาคเอกชน พบว่า อยากจะมาลงทุนแต่มีข้อจำกัดเรื่องบุคลากร ทั้งนี้เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นพร้อมกัน เพราะขณะนี้มีคนอยากทำงาน แต่หางานทำไม่ได้ ทั้งๆที่ มีความต้องการของตลาดแรงงานมาก ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นว่าระบบการศึกษาไทยยังไม่ตอบสนอง หรือปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสังคมได้

อย่างไรก็ตามคงไม่ตำหนิผู้บริหารการศึกษา เพราะต้องยอมรับว่าระบบการศึกษาเป็นระบบที่ใหญ่ ไม่ว่าประเทศใดคงไม่มีความคล่องตัว หรือยืดหยุ่นที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา เพราะการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ทั้งนี้ข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ในยุคปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็ว ฉะนั้นความต้องการของภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้น หากไม่สามารถทำให้ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงนี้เชื่อมโยงและย้อนกลับเข้าไปสู่ระบบการศึกษา ปัญหาความไม่สมดุลที่สะท้อนออกมาจากปัญหาในเรื่องการว่างงาน พร้อมๆ กับการขาดแคลนแรงงาน ก็จะเป็นปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น และส่งผลกระทบต่อขีด ความสามารถของประเทศในแง่ของการลงทุน และจะกระทบต่อโอกาสของประชาชนคนไทยด้วย


"อุ๋ย"เตือนศก.สหรัฐยังไม่ฟื้น

โพสต์ ทูเดย์ - "อุ๋ย"เตือนศก.สหรัฐยังไม่ฟื้น
รมว.คลัง หวั่น เงินบาทแข็ง-น้ำมันพุ่งฉุดเศรษฐกิจร่วง ด้าน หม่อมอุ๋ยเตือนรัฐอย่าประมาทเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้น

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการสัมมนาประจำปี 2552 เรื่อง “โอกาส...ประเทศไทย” จัดโดยโครงการปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ว่า จากเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่ถดถอยติดลบถึงร้อยละ 7.1 มองว่าน่าจะเป็นจุดต่ำสุด และจากนี้ไปการหดตัวจะลดลงไม่เท่ากับไตรมาสแรก

อย่างไรก็ตาม ยังหวั่นเศรษฐกิจต่างประเทศที่จะมากระทบไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องหาแนวทางเข้าไปช่วยฟื้นเศรษฐกิจ เพราะเอกชนยังไม่พร้อมเดินหน้าลงทุน แต่จากกรณีปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐโดยเฉพาะปัญหาสถาบันการเงินที่กำลังมีปัญหาทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องดูแลสถาบันการเงินและการพิมพ์ธนบัตรดอลลาร์ออกสู่ระบบเพิ่ม แม้จะทำให้ประชาชนมีเงินใช้จ่ายและส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยบ้าง แต่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลต่อเงินบาทแข็งค่า ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกและเมื่อเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวจะทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น มองว่าสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปัจจัยสำคัญกระทบเศรษฐกิจของไทยจะมีทั้งอัตราแลกเปลี่ยนและปัญหาราคาน้ำมันแพง

นายกรณ์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเริ่มเดินหน้ากู้เงิน 400,000 ล้านบาท และ พ.ร.บ.กู้เงินระยะยาวอีก 400,000 ล้านบาท เพื่อต้องการใช้เงินจากแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จากเงินลงทุน 1.43 ล้านล้านบาท จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น แม้รัฐบาลจะมีอายุไม่ถึงปี หากรัฐบาลใดมาสานต่อคงต้องดำเนินการใช้เงินจากโครงการเดิมที่รัฐบาลปูทางไว้ เพราะมีความจำเป็นต้องใช้เงินผ่านโครงการดังกล่าว แม้การเมืองจะทำให้เศรษฐกิจสะดุด แต่ประชาชนอยากเห็นทุกรัฐบาลผลักดันโครงการลงทุนให้เดินหน้าต่อ

ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลคัดค้านโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ซึ่งมองว่าไม่โปร่งใส ทำให้รัฐบาลมีคะแนนความนิยมเพิ่มขึ้นมากจากการต่อต้านโครงการที่ไม่โปร่งใส รัฐบาลจึงน่าจะมีอายุเกิน 1 ปี และสามารถผลักดันโครงการต่าง ๆ ต่อไปได้ แต่สำหรับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่มองว่าฟื้นตัวแล้ว จริง ๆ เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน เพราะการบริโภคของประชาชนยังอยู่ระดับต่ำสะท้อนเศรษฐกิจที่มีปัญหา และต้องติดตามดูว่าครึ่งปีหลังสถาบันการเงินจะมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ดังนั้น คงไม่ต้องหวังพึ่งเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยดึงเศรษฐกิจไทย แต่ยังมีทางออกการค้าขายกับจีน เพราะนับจากครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจีนจะโตกว่าร้อยละ 10 อาจจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยด้วย


Saturday, June 6, 2009

ผกก.ลุมพินี?บอกดีใจถ้าได้ร่วมสางคดีคาราดีนกับ FBI

ผกก.ลุมพินี?บอกดีใจถ้าได้ร่วมสางคดีคาราดีนกับ FBI
พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายเดวิด คาราดีน อายุ 73 ปี นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังชาวอเมริกา ว่า ได้นัดหมายผู้จัดการส่วนตัวนายเดวิดเข้าให้ปากคำในวันนี้ (6) แต่ได้รับแจ้งว่าติดธุระ โดยจะขอเข้าให้ปากคำอีกครั้งในสัปดาห์หน้าแต่ยังไม่ระบุวันเวลา ส่วนการสอบสวนนั้นยังต้องรอผลตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุจากสถานบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะทราบผล ส่วนผลตรวจทางการแพทย์เพื่อหาสารเคมีในร่างกายผู้ตายนั้นใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ หลังได้ผลการตรวจทั้งหมดแล้วจะนำมาประชุมร่วมกับแพทย์และเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อสรุปผลและสาเหตุการตายร่วมกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้ให้น้ำหนักไปที่ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายหรือถูกฆาตกรรมเพราะต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้กำกับการ สน.ลุมพินี กล่าวถึงกรณีที่ภรรยานายเดวิด ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรม และร้องขอให้เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมสอบสวนคลี่คลายคดีด้วย ว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าภรรยานายเดวิดจะร้องขอให้เอฟบีไอเข้าร่วมสอบสวนกับตำรวจไทยก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอน โดยทำเรื่องผ่านกระทรวงการต่างประเทศมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสั่งการมายังฝ่ายสืบสวน ซึ่งในเรื่องดังกล่าวตนเองไม่รู้สึกหนักใจ แต่กลับรู้สึกดีที่จะได้ทำงานร่วมกัน

Label Cloud