Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Wednesday, April 8, 2009

"กษิต"แปลคำตัดสินคดี"แม้ว"ส่งทั่วโลก

Many flags are displayed in the Parliamentary ...Image via Wikipedia

มติชน: เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวระหว่างการแถลงที่กระทรวงการต่างประเทศ ถึงกระแสข่าวครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวนายสมชายออกนอกประเทศแล้ว ว่าถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของครอบครัวทักษิณจะไปไหนไม่ได้มีปัญหาอะไร

นายกษิตกล่าวว่า ส่วนการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศได้บอกกับประเทศต่างๆแล้วว่าสถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ที่หนีคุก ได้แปลสำนวนและคำพิพากษาของศาลเป็นภาษาอังกฤษส่งให้ทุกประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตของต่างประเทศในไทยรวมถึงประสานงานกับสำนักงานอัยการ เรื่องการเจรจาตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน

"นอกจากนั้นก็มีอีกช่องทางคือ การประสานงานกับตำรวจสากลเป็นการร่วมมือกัน 3 เส้า ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงการต่างประเทศ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูไบ มีการเจรจาข้อตกลงและบอกกล่าวว่าไม่ต้องการให้ประเทศไหนให้อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เป็นเวทีโจมตีประเทศไทย รวมถึงการออกหนังสือเดินทางต่างๆให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องคิดหน้าคิดหลังว่าจะรักกับประเทศไทยหรือจะรักกับอดีตนายกรัฐมนตรี มากกว่า อันนี้อยู่ในดุลพินิจของเขาเองว่าอันไหนถูกต้องไม่ถูกต้องและจะไปปกป้องใคร โจมตีประเทศไทยเป็นเรื่องหนึ่งแต่บอกว่าต้องล้มล้างด้วยก็ขึ้นไปอีกระดับ หนึ่งดีกรีของความร้ายแรงก็สูงขึ้นด้วย" นายกษิตกล่าว


Reblog this post [with Zemanta]

Red Shirt Demonstrators Numbers

BANGKOK, Thailand (CNN) -- About 50,000 anti-government demonstrators amassed Wednesday in the capital in a push to topple Thailand's prime minister.

 The "Red Shirt" protesters -- named for the color of their shirts -- had gathered outside Government House in Bangkok, according to the chief of the Metropolitan Police Bureau.

Demonstrations have intensified in recent weeks to destabilize the government of Prime Minister Abhisit Vejjajiva.

The Red Shirt protesters have declared Wednesday their D-Day, claiming they will draw up to 300,000 people from the eastern and northern part of the country.

Those regions are a stronghold of former Prime Minister Thaksin Shinawatra, to whom the Red Shirts owe their allegiance.

Thaksin was deposed from power in a coup in 2006, but still wields considerable clout. A party loyal to him, the People Power Party, assumed office in 2007 elections.

Those opposed to Thaksin took to the streets, dressed in yellow shirts and earning the moniker, the "Yellow Shirts."

 They staged sit-ins for more than two months last year -- occupying the headquarters of the government and blockading Bangkok's major international airport.

The demonstrations ended December 2 when a court ruled the People Power Party was guilty of electoral fraud.

The move paved the way for Abhisit to assume the prime ministership.

Now, the tables are turned -- with Thaksin supporters demonstrating.

They maintain Abhisit's government was not democratically elected. They want him to leave office and schedule new elections.

It's just plain wrong!! (spelling :D)


ู^Democrocy


^Democrecy

โฟนอินทักษิณใช้ Google AdSense ยึดเว็บไซต์ทั้งเนชั่น!

oknation: สงครามสื่อ
คมชัดลึก :"พล.อ.สุรยุทธ์” ย้ำ จะไม่ฟ้องร้อง “ทักษิณ” โฟนอินพาดพิงรัฐประหาร และไม่กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น พัลลภรับเคยเล่าเบื้องหลังปฏิวัติให้ทักษิณฟัง ล่าสุดมีการโฆษณาคลิปโฟนอินของทักษิณผ่าน โฆษณา google

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 18.00น.ของวันที่ 23 มี.ค.นี้ ที่ผ่านมาจะมีข้อความที่ระบุว่า "โฆษณา google ทักษิณ โฟนอิน เชียงใหม่ คลิปวิดีโอ อดีตนายกทักษิณ โฟนอิน สนาม 700 ปี เชียงใหม่ 22-03-2552 video.google.com"  ต่อท้ายข่าวตามหน้าเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำ code โฆษณา google มาแปะ

นั้นหมายความว่า มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์คลิปโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านทางโฆษณา google ซึ่งจะมีการเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณาตามจำนวนของคนที่คลิกเข้าไปอยู่ ให้กับ google  และ google และจะแบ่งจ่ายให้กับเว็บไซต์ต่างๆที่นำ code โฆษณา google มาแปะ และมีคนคลิกเข้าไปดู









ลือสะพัด“มติชน”ยกเครื่อง บก. เหตุเอียง นช.แม้ว-เสื้อแดง

oknation: “พี่ช้าง” ฉุนหนังสือพิมพ์มติชนเอียงกะเท่เร่ เปิด พื้นที่นักโทษชาย-กลุ่มคนเสื้อแดงเกินเหตุ ทำเอา “จุฬาลักษณ์” เพื่อนร่วมหมอมิ้งมหิดลสะดุ้ง สะพัดเตรียมยกเครื่องกองบรรณาธิการเร็วๆ นี้

แหล่งข่าวจากแวดวงสื่อมวลชนระบุว่า นายขรรค์ชัย บุญปาน ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์มติชน แสดงความไม่พอใจที่แนวทางการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ในปัจจุบัน เปิดพื้นที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี และสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงมากเกินไป สวนทางกับหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับข่าวของทั้งสองฝ่าย

เหตุความไม่พอใจดังกล่าว คาดว่า น.ส.จุฬาลักษณ์ ภู่เกิด บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งเป็นที่โจษจันในวงการสื่อว่ามีความสนิทสนมกับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลรุ่นไล่เลี่ยกับ น.พ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช คนใกล้ชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจจะได้รับผลกระทบ โดยในเร็วๆ นี้อาจมีการปรับโครงสร้างการทำงานครั้งใหญ่ในกองบรรณาธิการ

จาก คำบอกเล่าของแหล่งข่าว กล่าวว่าที่ผ่านมาพบว่าคนที่อยู่ในระดับบรรณาธิการ ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย จะเป็นผู้ที่กำหนดแนวทางข่าว ทำให้สภาพการทำงานเป็นไปด้วยความอึดอัด ต้องทำข่าวไปตามเป้าหมายทางการเมืองที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้สอบถามผู้สื่อข่าวการเมือง ของหนังสือพิมพ์มติชนรายหนึ่ง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เขาปฏิเสธที่จะให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่องภายในระดับบริหาร

แคน ไทเมือง อดีตคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์หัวสี ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มติชน อาจเป็นเพราะว่าแนวทางการนำเสนอพาดหัวข่าวที่พบว่าแหวกแนวไปจากหนังสือพิมพ์ ฉบับอื่น

โดยเฉพาะล่าสุดกับฉบับวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ที่พบว่าหนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสดพาดหัวข่าวสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะที่หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ให้ความสำคัญกับกรณีที่ พล.อ.พิจิตร กุลวณิชย์ องคมนตรีกล่าวพาดพิง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามีแนวคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์




แกนนำเสื้อแดง ที่ซุกหัวนอนติดแอร์

oknation: ในบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าว ด้วยพื้นยางมะตอยที่ปะทะกับแสงแดด ยังคงส่งผลต่อความร้อนรุ่มในใจของผู้ชุมนุม ที่โกธรแค้นและจงเกลียดจงชังศัตรูของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

แต่สำหรับแกนนำ ที่พักพิงหลบแดดในยามที่ร้อนจัด หรือแม้กระทั่งพายุฝนที่โปรยกระหน่ำ พวกเขาไม่ได้มีเต้นท์ให้หลบแดดหลบฝน แต่เลือกที่จะใช้ “รถบัสป้ายแดง” ติดแอร์เย็นฉ่ำ ยี่ห้อคิงส์ลอง หมายเลขทะเบียน ษ 2980 กทม.

“ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ” แกนนำ นปช.อ้างว่าที่ไปหลบอยู่ในรถบัสแอร์เย็นฉ่ำหลังเวที ตนไม่ได้กลัวอากาศร้อน แต่เป็นเพราะตนต้องดูแลการชุมนุม

“ต้องพักผ่อนในช่วงกลางวัน และต้องขึ้นเวทีปราศรัยในเวลากลางคืน”

ฟัง อย่างนี้ ถ้าไม่ได้คิดอย่างคนที่เข้าข้างพวกเดียวกันเอง อาจจะมีใครบางคนคิดว่า แกนนำ “กินแรง” ผู้ชุมนุม ที่ต้องผ่านร้อน ผ่านฝน เพื่อให้ได้มาซึ่งทักษิณ ชินวัตร!

ม็อบเสื้อแดงหนองคาย บุกพังประตูศาลากลาง

Nation Channel:    ม็อบเสื้อแดงประมาณ 200 คน ได้เดินทางไปยึดศาลากลาง จ.หนองคาย เมื่อไปถึงพบว่าประตูทางเข้าศาลากลางถูกปิดทั้ง 3 ด้าน โดยเปิดให้บริการด้านข้างเพียงด้านเดียว ทำให้กลุ่มม็อบไม่พอใจ ต่อมา นายสมคิด บรรณารักษ์ นายนิพนธ์ พลศักดิ์ และนายสมพาน ภูดานวัง แกนนำได้เข้าเจรจากับจังหวัดเพื่อขอเข้าไปชุมนุมภายในศาลากลาง โดยให้เปิดประตูด้านหน้าให้แต่ไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มม็อบไม่พอใจ จึงใช้กำลังพังดันประตูด้านหน้าจนโซ่ขาด จากนั้นได้ไปรวมตัวกันที่สนามด้านหน้าศาลากลาง พร้อมติดตั้งเวทีปราศรัย ซึ่งได้กล่าวโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ

    นายชัยวัฒน์ รัฐขจร รอง ผวจ.หนองคาย และรักษาการ ผวจ.หนองคาย เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าเจรจากับทางจังหวัดตั้งแต่เย็นวันที่ 7 เม.ย. แต่ทางจังหวัดไม่อนุญาต และขอร้องให้ไปชุมนุมที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย และ เช้าวันนี้ (8 เม.ย.) ได้เข้ามาเจรจาอีกครั้ง

    ซึ่งทางจังหวัดก็ไม่อนุญาต พร้อมกับได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่อย่างเต็มที่แต่เนื่องจากที่ ตั้งศาลากลางมีบริเวณกว้างจึงยากที่จะป้องกัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น.วันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้กลับมาอีกครั้งที่คาดว่าน่าจะได้รับคำสั่งจากส่วนกลาง

    จากนั้นได้ร่วมกันดันประตูด้านหน้าจนโซ่ที่คล้องอยู่ขาดและสามารถเข้ามา ชุมนุมได้ ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้แจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับผู้ทำให้ทรัพย์สินของทาง ราชการเสียหายไว้แล้ว โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

    นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า การเข้ามาชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จังหวัดจึงได้ตัดน้ำตัดไฟไม่ให้ใช้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสนธิกำลังตำรวจ อส. อป.พร. ประมาณ 150 นาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในอาคารศาลาพร้อมตัดน้ำตัดไฟอีกด้วย โดยคาดว่าหลังการรับฟังวีดีโอลิงค์แล้วคงจะทยอยกลับเหมือนครั้งที่ผ่านมา

    สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุมได้กระจายอยู่ตามร่มไม้เพื่อรอการมาสมทบเพิ่มเติมจาก อำเภอต่าง ๆ ที่จะเดินทางมาฟังการวีดีโอลิ้งค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีรายงานว่า สำหรับผู้มาร่วมชุมนุมจะได้แจกเสื้อแดง “คนรักทักษิณ” พร้อมค่าเดินทาง


เสื้อแดงพะเยา กร่อย คนหนีกลับ

์Nation Channel:    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมของเสื้อแดงพะเยา ว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 เม.ย.นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ และน.ส.อรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยาพรรคเพื่อไทย ได้ผลัดกันปราศรัยโจมตีประธานองคมนตรี องคมนตรีและรัฐบาลอย่างดุเดือด โดยยกเรื่องอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติมาเป็นข้อกล่าวอ้าง ซึ่งช่วงนี้เองมีชาวบ้านมาเพิ่มอีกประมาณ 200-300 คน แต่ก็ยังกระจายอยู่ตามอาคาร และร่มไม้ใกล้ๆศูนย์ราชการ

    จากนั้นได้มี น.ส.กัญญาฉัตร แท่งทอง อดีตผู้สมัคร ส.อบจ.พะเยา เขต อ.เมือง ได้ขึ้นปราศรัยโจมตีประธานองคมนตรีและรัฐบาลอีกครั้งด้วยถ้อยคำที่รุนแรง จนกลุ่มคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งทนไม่ไหว ทยอยออกจากบริเวณศูนย์ราชการ แล้วไปจับกลุ่มคุยกันถึงการใช้ถ้อยคำของน.ส.กัญญาฉัตร ส่วนหนึ่งก็รีบถอดเสื้อแดง เหลือเสื้อขาวชั้นในไว้ แล้วขึ้นรถกระบะ ขับออกไป อีกส่วนหนึ่งยังคงนั่งอยู่ห่างๆจุดปราศรัย

    ต่อมาเวลาประมาณ 16.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงเกือบครึ่งหนึ่งก็ทยอยกันกลับบ้าน โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มแกนนำไม่ทำตามข้อตกลง โดยไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร อาหารที่เตรียมมาก็ไม่เพียงพอ ต้องออกไปหากินกันเอง และที่สำคัญแกนนำบางคนใช้วาจาที่ไม่สุภาพและดูถูกคนอื่น ซึ่งไม่ใช่วิสัยของคนเมือง จึงไม่มีใครรับได้และตกลงกันว่าควรจะกลับบ้าน

    อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าขณะที่ น.ส.อรุณี และนายวิสุทธิ์ ทำหน้าที่เป็นแกนนำอยู่นั้น ไร้ร่องรอยของนายไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยาอีกคนหนึ่ง ขณะเดียวกันบรรดานักการเมืองท้องถิ่นสายนายไพรัตน์ ตันบรรจง นายกอบจ.พะเยา ซึ่งเป็นน้องชายนายไพโรจน์ ทั้งหมดก็ไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

สมาคมสื่อเป็นห่วง"เสื้อแดง"คุกคามนักข่าว

คมชัดลึก :กรรมการบริหารสมาคมนักข่าววิทยุและ โทรทัศน์ไทยและสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงรุมด่าทอและพยายามทำร้ายนัก ข่าวระหว่างทำข่าวการชุมนุม หวั่นทำให้เกิดบรรยากาศความหวาดกลัวในการรายงานข่าว

จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 7  และสำนักข่าวเนชั่น ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงคุก คาม โดยการขว้างปาขวดน้ำพร้อมทั้งเข้ามารุมด่าทอ ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับ ไล่เผด็จการ (นปช.) เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2552

วันนี้ (8 เม.ย.) นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และนายวันชัย วงศ์มีชัย อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกันแถลงว่า

ทั้ง 2 สมาคมวิชาชีพ มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเห็นว่าการคุกคามการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวที่รายงานข่าวการชุมนุม ได้สร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวและสร้างความอัดอัดใจต่อการทำหน้าที่ของ สื่อมวลชนที่ต้องรายงานข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ และถึงแม้แกนนำผู้ชุมนุมได้พยายามชี้แจงว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของ กลุ่มมือที่ 3 แต่แกนนำผู้ชุมนุมย่อมไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบ เพียงการกล่าวอ้างว่าเป็นการการกระทำของมือที่สามไม่ได้

แกนนำสมาคมวิชาชีพกล่าวต่อไปว่า สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุมมีมาตรการดูแลความปลอดภัยของผู้สื่อข่าวอย่าง ชัดเจนและเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจกับผู้ชุมนุมต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ทำงาน โดยปราศจากอคติ  ขณะเดียวกัน ก็ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนภาคสนามว่า มีความยากลำบากอย่างไร การคุกคามในลักษณะดังกล่าว อาจสร้างความหวาดกลัวและอึดอัดใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อจนอาจส่งผลต่อการทำ หน้าที่ในการรายงานข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบด้วย

นายกสมาคมนักข่าววิทยุ และโทรทัศน์ไทย กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการชุมนุมไม่ควรเพิก เฉยต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับสื่อมวลชนดังกล่าว และควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เป็นที่พึ่งของสื่อมวลชนเมื่อเกิด เหตุการณ์รุนแรงได้

“ในการรายงานข่าวการชุมนุมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สื่อมวลชนเอง ก็ต้องรายงานข่าวและข้อเท็จจริงด้วยความครบถ้วนรอบด้าน เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคข่าวสารสามารถใช้วิจารณญานในการพิจารณาข้อมูลข่าว สารที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายวันชัยกล่าว

ที่พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ได้เดินทางเข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงให้ กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ร องนายกรับมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลา 30 นาที จากนั้นพล.ต.ต.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ตอนนี้เป็นห่วงมือที่สาม ที่มีข่าวว่าเป็นพวกป่วน แต่สิ่งบอกเหตุอย่างอื่นยังไม่มี และนายกฯก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ และยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เราต้องดูแลโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เนื่องจากเป็นห่วงพวกก่อกวนเท่านั้น ผู้ สื่อข่าวถามว่า มีข่าวจะมีการเอารถระเบิดเพลิงมาขวางตามสี่แยก รองผบช.น. กล่าวยอมรับว่า ได้รับข่าวดังกล่าวเหมือนกัน แต่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร เป็นผู้ดูแล โดยมีการเตรียมรถยกเอาไว้ตามแยกและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หากเกิดเหตุจริงก็พร้อมดำเนินการทันที อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามือที่สามมีมากพอสมควร และไม่ได้แฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม แต่อยู่รอบนอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รู้ และตามประกบอยู่ แต่ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่ามือที่สามจะก่อเหตุในลักษณะใด พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวว่า คล้าย ๆ ว่าจะใช้ระเบิดเพลิงที่จะมีการเผา ซึ่งเป็นไปตามข่าวว่าจะมีการลอบเผาสถาบันการเงินต่าง ๆ อย่างไรก็ตามผบช.น.ได้สั่งการไปยังผู้การแต่ละกองบังคับการให้ดูแลพื้นที่ ของตัวเองที่รับผิดชอบตามจุดล่อแหลมต่าง ๆ หวั่นเกิดความรุนแรงสั่งเพิ่มกำลังตรวจเข้มบ้าน"ป๋า" พล. ต. ต.สุพร พันธ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครลบาล กล่าวว่า ในช่วงเวลาค่ำของคืนนี้ได้มีการสั่งดูแลความปลอดภัยบ้านสี่เสาเทเวศ ของ พล.อ.เปรม ติลสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เข้มงวดเป็นพิเศษ อีกทั้งมีการติดกล้องวงจรปิดโดยรอบ นอกจากนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้มีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ และยาเสพติดในพื้นที่รอบในเพิ่มอีก 12 จุด รอบบิรเวณการชุมนุมเพื่อป้องกันการเข้ามาสร้างสถาการณ์ ส่วนในพื้นที่รอบนอกให้ สถานีตำรวจนครบาลแต่ละแห่งตั้งจัดตรวจค้นเพิ่มขึ้นอีก สน.ละ 2 จุด และ ตั้งด่านจราจร อีก สน.ละ 1 จุด พร้อมทั้งส่ง่เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลบ้านพักบุคคลสำคัญ หลังมีรายงานด้านการข่าวของ จนท.ตำรวจ ว่าจะมีความรุ่นแรงเกิดขึ้น

คมชัดลึก :ช่วงบ่ายผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ทยอยเดิน ทางร่วมเต็มพื้นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลด้านถนนพิษณุโลก แม่ค้าข้างกระทรวงฯศึกษาไม่กลัวลูกหลงการชุมนุม เปิดแผงขายของตามปกติ ส่วนหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์เสื้อแดงปิดล้อมเต็มพื้นที่ รถโดยสารประจำทางหลายสายเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งใหม่

(8เม.ย.)  เมื่อเวลา 16.45 น.ผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้ ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมเต็มพื้นที่ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลด้านถนนพิษณุโลก  โดยเฉพาะหน้าเวทีปราศรัยใหญ่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ โดยผู้ชุมนุมต้องการเข้ามาให้ใกล้เวทีมากที่สุด เพราะมีการปราศรัย มีการแสดงดนตรี ของ ส.ส. บางส่วนถึงขั้นปีนเข้าไปในหน้าสำนักงาน กพ.เพราะทนความแออัดไม่ไหว

 ขณะที่บรรยากาศในภาพรวมภายหลังผู้ชุมนุมเสื้อแดงปิดล้อมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์และเส้นทางโดยรอบส่งผลให้การจราจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก ส่งผลให้รถโดยสารประจำทางหลายสายที่มีจุดหมายปลายทางสี่เสาเทเวศร์ ต้องเปลี่ยนเส้นทางการวิ่งใหม่ โดยอ้อมไปเส้นทางสะพานขาวผ่านหน้ามหาวิทยาราชภัฏจันทรเกษม ใช้เวลาเดินทางมากกว่าเดิม จนผู้โดยสารต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า การปิดถนนชุมนุมครั้งนี้ทำให้เกิดความเดือดร้อน

 ด้านแม่ค้าขายของตลาดนัดข้างกระทรวงศึกษาธิการ ริมถนนพิษณุโลก กล่าวว่า เท่าที่ดูการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงวันนี้ ไม่มีอะไรรุนแรง ต่างจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองที่ใช้ความรุนแรงจนไม่สามารถตั้งร้าน ได้เกรงจะไม่ปลอดภัย แต่การชุมนุมครั้งนี้ผู้ค้าไม่ได้หลีกหนีหรือยกเลิกตลาดนัดยังตั้งแผงขายของ กันตามปกติ แต่มีคนเดินจับจ่ายใช้สอยกันบางตา

 น.ส.อาริยา สุวรรณณรงค์ อายุ 37 ปีเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่มาร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง กล่าวว่า ต้องการเห็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง(???)และชอบการทำงานของอดีตนายกฯทักษิณ ที่ทำงานอย่างจริงจัง การมาครั้งนี้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไม่มีเจตนาอย่างอื่นแอบแฝง และจะชุมนุมไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ




จักรทิพย์หวั่นมือที่ 3 ใช้ระเบิดเพลิงบึ้มเสื้อแดง

คมชัดลึก :“จักรทิพย์”รุดรายงานสถานการณ์" อภิสิทธิ์-สุเทพ" "หวั่น"มือที่ 3 แอบแฝงตัวรอบกลุ่มเสื้อแดงเพียบ ยอมรับได้ข่าวใช้รถบรรทุกระเบิดเพลิงขวางตามแยก ลั่น พร้อมรับมือ เผย “นายกฯ”ไม่ได้สั่งการเป็นพิเศษ

ที่พรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.ต.จักรทิพย์  ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) ได้เดินทางเข้ารายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้าน เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงให้ กับ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  นายกรัฐมนตรี  นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ ร องนายกรับมนตรี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลา 30 นาที

 จากนั้นพล.ต.ต.จักรทิพย์ เปิดเผยว่า ตอนนี้เป็นห่วงมือที่สาม ที่มีข่าวว่าเป็นพวกป่วน แต่สิ่งบอกเหตุอย่างอื่นยังไม่มี และนายกฯก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ และยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เราต้องดูแลโดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เนื่องจากเป็นห่วงพวกก่อกวนเท่านั้น
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวจะมีการเอารถระเบิดเพลิงมาขวางตามสี่แยก รองผบช.น. กล่าวยอมรับว่า ได้รับข่าวดังกล่าวเหมือนกัน แต่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของพล.ต.ต.ภาณุ  เกิดลาภผล  รองผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร เป็นผู้ดูแล โดยมีการเตรียมรถยกเอาไว้ตามแยกและห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ หากเกิดเหตุจริงก็พร้อมดำเนินการทันที อย่างไรก็ตามยอมรับว่ามือที่สามมีมากพอสมควร และไม่ได้แฝงอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม แต่อยู่รอบนอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รู้ และตามประกบอยู่ แต่ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง

 ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่ามือที่สามจะก่อเหตุในลักษณะใด พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวว่า คล้าย ๆ ว่าจะใช้ระเบิดเพลิงที่จะมีการเผา ซึ่งเป็นไปตามข่าวว่าจะมีการลอบเผาสถาบันการเงินต่าง ๆ อย่างไรก็ตามผบช.น.ได้สั่งการไปยังผู้การแต่ละกองบังคับการให้ดูแลพื้นที่ ของตัวเองที่รับผิดชอบตามจุดล่อแหลมต่าง ๆ

หวั่นเกิดความรุนแรงสั่งเพิ่มกำลังตรวจเข้มบ้าน"ป๋า"

พล. ต. ต.สุพร พันธ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครลบาล กล่าวว่า ในช่วงเวลาค่ำของคืนนี้ได้มีการสั่งดูแลความปลอดภัยบ้านสี่เสาเทเวศ ของ พล.อ.เปรม ติลสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เข้มงวดเป็นพิเศษ อีกทั้งมีการติดกล้องวงจรปิดโดยรอบ

 นอกจากนี้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งให้มีการตั้งด่านตรวจค้นอาวุธ และยาเสพติดในพื้นที่รอบในเพิ่มอีก 12 จุด รอบบิรเวณการชุมนุมเพื่อป้องกันการเข้ามาสร้างสถาการณ์ ส่วนในพื้นที่รอบนอกให้ สถานีตำรวจนครบาลแต่ละแห่งตั้งจัดตรวจค้นเพิ่มขึ้นอีก สน.ละ 2 จุด และ ตั้งด่านจราจร อีก สน.ละ 1 จุด พร้อมทั้งส่ง่เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลบ้านพักบุคคลสำคัญ หลังมีรายงานด้านการข่าวของ จนท.ตำรวจ ว่าจะมีความรุ่นแรงเกิดขึ้น

“ตระกูลชินวัตร” โผล่เวทีเสื้อแดง สยบข่าวลือเผ่นออกนอกประเทศ

ASTV Mgr. - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วย นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมที่สะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าครอบครัวชินวัตรได้เดินทางหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
      
       วันนี้ (8 เม.ย.) ขณะที่การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พร้อมด้วยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุตรสาว 2 คน คือ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ และน.ส.ชญาภา วงศ์สวัสดิ์ ได้สวมเสื้อสีแดงเดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมที่สะ พานชมัยมรุเชฐ แต่ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 15 นาที จึงเดินทางกลับ
      
       โดยนางเยาวภากล่าวว่า การเดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ มาในฐานะคนไทยหัวใจประชาธิปไตย ส่วนสถานการณ์จะคลี่คลายอย่างไรนั้น เชื่อว่าคนเสื้อแดงเป็นคนที่เข้าใจง่าย รักความสงบ ยุติธรรม ดูได้จากการชุมนุมที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น เพียงแต่ต้องการเรียกร้องให้ได้ประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับคืนมา พร้อมกล่าวด้วยว่าจากนี้จะเดินทางมาให้กำลังใจกลุ่มผู้ชุมนุมทุกวัน
      
       นางเยาวภายังได้ปฏิเสธข่าวเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังอยู่ในเมืองไทย นอกจากนี้ยังปฏิเสธแสดงความคิดเห็นกรณีนายเนวิน ชิดชอบ แถลงข่าวพาดพิงถึง พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่าเป็นเรื่องของตัวบุคคล




เด้ง!ผกก.สภ.พัทยาสังเวยทุบรถนายกฯ

Posttoday - ผบช.ภ.2เด้งผกก.สภ.พัทยาเข้ากรุ30วันสังเวยเสื้อแดงทุบรถนายกฯอีก5เสือรอสอบ พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพัทยา ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 เป็นเวลา 30 วัน และให้พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รองผบก.ภ.จ.ชลบุรี รักษาราชการแทนในตำแหน่งผกก.สภ.เมืองพัทยา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วนจะมีการโยกย้าย ทั้ง 5 เสือของโรงพัก หรือไม่นั้นก็ต้องพิจารณาก่อน เนื่องจากขณะนี้มุ่งเน้นไปที่การดำเนินคดีกับผู้ที่ทำผิดจากเหตุดังกล่าว พร้อมเร่งให้สอบสวนดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิด รวมถึงสาเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำลายรถนายกรัฐมนตรีและทำร้ายเจ้าหน้าที่ ระหว่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหานครวานนี้ด้วย



ผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค 2 ยังกล่าวถึงการเตรียมกำลังดูแลการประชุมอาเซียนบวก 3 ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 10-12 นี้ว่า ได้ปรับเปลี่ยนแผนดูแล พร้อมระดมกำลังจำหน้าที่จำนวนกว่า 5,000 นาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตรึงกำลังดูแลเป็นชั้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดูแลความปลอดภัยของคณะรัฐมนตรี และผู้เข้าประชุมได้อย่างแน่นอน

สำนักเอเอฟพี รายงานว่า รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ถูกกดดันอย่างมากให้ต้องคอยรักษาความสงบก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอา เซียนบวกสาม ที่จะมีขึ้นพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้นายกฯอภิสิทธิ์ ถูกกลุ่มม็อบเสื้อแดงเข้าโจมตีขบวนรถ ขณะที่โฆษกตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ตำรวจรักษาความมั่นคง 1 หมื่นนาย ถูกระดมกำลังไปประจำยังสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งรัฐบาลและบ้านพักสี่เสาเทเวศร์



โฆษกรบ.ยืนยัน "ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์"เดินทางไปนอกจริง "สาทิตย์"จับผิดเผ่นตปท. ส่งสัญญาณอะไร

matichon - โฆษกรบ.คอนเฟิร์ม"แม้ว-สมชาย"หอบลูกเมีย เผ่นนอกแล้ว ปลัดกห.เชื่อถ้า"แม้ว"ยุติเคลื่อนไหวเมืองไทยจะสงบ "ครอบครัวชินวัตร"กระเจิงเผ่นหนีไปฮ่องกง-ดูไบ-อังกฤษ "สาทิตย์"จับผิดเหตุใด ครอบครัว"ชินวัตร"เผ่นไปนอกหมด ส่งสัญญาณอะไร หลัง"ทักษิณ"วิดิโอลิงค์ เย้ย"เนวิน"ผู้ร้ายสอนพระเอกจงรักภักดี

นายปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 เมษายน ผ่านทางโทรศัพท์ ยอมรับว่า ได้รับรายงานว่า ครอบครัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกนอกประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการทยอยออกไปทีละคนสองคนเท่านั้น ตั้งแต่เมื่อ 1-2 วันที่แล้ว และไม่ได้มีปลายทางแค่ที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น


อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้อ่านเอกสารอย่างละเอียดจึงไม่ทราบว่า มีนักการเมืองของพรรคฝ่ายค้าน เดินทางออกนอกประเทศด้วยหรือไม่ โดยเรื่องนี้หากต้องการรายละเอียดควรสอบถามเรื่องนี้กับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศโดยตรง

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพูดผ่านวิดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า อย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าต้องแตกหักให้ได้ ตนไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะเกิดขึ้น นอกจากความย่อยยับของประเทศชาติ ถามว่าเราได้อะไรจากเรื่องนี้ ขณะนี้กัมพูชาเขาก็นั่งมองอยู่ ตนเชื่อว่าเขากำลังหัวเราะด้วยซ้ำว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะไป สู้เขาได้ เมื่อไรเราจะไปแก้ปัญหาเรื่องพิพาทเขาพระวิหารได้ เรื่องเศรษฐกิจเช่นกัน ไม่มีโอกาสฟื้นตัวๆ ได้เลย ผลประทบจริง คือ ประชาชนโดยรวม แต่เขาไม่ได้กระทบกับเรา นี่คือสิ่งที่เราห่วงใยและไม่อยากให้เกิดขึ้น

 "ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัจจุบัน แต่สืบเนื่องมาสมัยที่ท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น หากท่านคิดตรงนั้น ย้อนกลับไปดูว่าสิ่งที่ท่านทำไว้สมัยนั้น สร้างความเป็นธรรมให้กับข้าราชการหรือไม่ ท่านพูดเรื่องจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ท่านพูดว่าทำบนพื้นฐานความจำเป็นเท่านั้น ไม่เห็นต้องมาจัดซื้อยุทโธปกรณ์มากมาย แต่ช่วงที่ท่านอยู่ท่านเสนอให้กองทัพทำเป็นแพ็คเกจ วงเงินใหญ่ๆ ลองตอบคำถามตัวท่านเองว่าท่านคิดอะไรสมัยนั้น มาถึงตอนนี้ท่านคิดอะไรอีกอย่าง" ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว

 เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะจบลงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยุติการเคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า คงใช่ หากอยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติอย่างที่ท่านพูดมาตลอด การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อะไรคือการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ท่านบอกประชาชนและสิ่งที่ท่านพยายามบอก ประชาชน ถามว่าเกิดขึ้นได้หรือไม่ด้วยคำพูด ตนเชื่อว่าทำไม่ได้ เป็นลักษณะของการป่วนมากกว่าว่าขณะนี้การปกครองไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่า นางพจมารถ ณ ป้อมเพชร(ชินวัตร) อดีตภรรยาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วย  และ น.ส.แพรทองธาร(อุ๊งอิ้ง) ชินวัตร ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยด้วย สายการบิน คาเธ่แปซิฟิค เที่ยวบินที่ cx750 ปลายทางเกาะฮ่องกง โดยเดินทางไปตั้งแต่คืนวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งในคืนวันเดียวกันนั้น น.ส.พิณทองทา(เอม) ก็ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยเดินทางไปประเทศอังกฤษ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 910

รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา นายสมชาย  วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี น้องเขยและ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ  พร้อมด้วย นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้ออกเดินทางสนามบินสุวรรณภูมิ ปลายทาง นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต ด้วยสายการบินเอมิเรต เที่ยวบินที่ EX419 ซึ่งคาดว่าการเดินทางออกนอกประเทศของคนในครอบครัวชินวัตรทั้งหมด ก็เพื่อความปลอดภัย เพราะการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง ถ้ามีความรุนแรงหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ไม่เป็นห่วง และคาดว่า คนทั้งหมดจะไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่นครดูไบอย่างแน่นอน

 ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ เมื่อวันที่ 10.30 น. วันที่ 8 เม.ย. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังอยู่ในการควบคุม แต่เป็นห่วงเรื่องการปลุกระดมของบรรดาแกนนำตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะการวิดีโอลิงก์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนให้มีการใช้กำลังอย่างเปิดเผย รวมถึงที่มีกระแสข่าวว่าลูกเมียของพ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกประเทศเช้าวันนี้ เป็นสัญญาณแปลกๆ ว่า อาจมีเหตุอะไรเกิดขึ้น

 วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า บ้านพักของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เงียบเหงาหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ อดีตภรรยา นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทาและน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว ไม่พบว่ามีใครพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว 

ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  กล่าวผ่านวีดิโอลิงก์  กับผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 20.20  น. วันที่ 7 เม.ย. โดยเริ่มแรกกล่าวกับ นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง ว่า ตนเป็นอาจารย์ใหญ่ที่เปิดโรงเรียนโดยที่คนไม่ต้องจบกฎหมายก็ได้เนติบัญ ฑิตเป็นแถว ปรากฎว่า ยังรู้ไหม เขาบอกว่า เวลาคนเราช่วงบุญมันไม่มาอะไรก็ไม่ดี ช่วงบุญมาอะไรก็ดีหมด เขาบอกพรุ่งนี้บุญผมจะดีมาก พี่น้องประชาชนจะมากันเยอะแยะ  ผมถือว่า บุญนี้จะเป็นบุญประเทศ เราจะได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงสักทีหนึ่ง(???) พวกเราจะได้สัมผัสประชาธิปไตยที่แท้จริงเต็มมือสักที ถ้าได้เที่ยวนี้ อมาตย์ทั้งหลาย ทหารทั้งหลาย กลุ่มอภิสิทธิ์ชนทั้งหลายถูกปราม ครั้งนี้แล้วมีกฎหมายรัฐธรรมนูญออกมาชัดเจน มอบอำนาจที่แท้จริงให้กับประชาชนและตัวแทนประชาชน ผมคิดว่า ประชาชนจะได้สัมผัสประชาธิปไตยที่กินได้มากกว่าครั้งที่แล้วอีก

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ไม่เเครียดเลย ตอนบ่ายก็ได้ดู ละครน้ำเน่า แต่ว่า เล่นไม่เนียน ดันไปเอาผู้ร้ายมาเป็นพระเอก ผู้ร้ายก็เป็นผู้ร้ายทั้งปี ผู้ร้ายดันมาสอนพระเอกให้รู้จักเรื่องของความจงรักภักดี ต้องรู้ว่า ผมเป็นใคร ผมจะเล่าให้ฟัง ตอนสมัยเด็กๆ อยู่บ้านนอก พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส พระราชธิดา เสด็จฯ ที่ อ.สันกำแพง ผมใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไปยืนรอรับเสด็จฯ ด้วยความชื่นชมพระบารมี ด้วยความชื่นชมต่อพระองค์ท่าน ตอนนั้นสมเด็จพระบรมฯ ทรงสูท ใส่สนับเพลาขาสั้น ชื่นชมตั้งแต่เด็กๆ มา

"ตอนผมเป็นนักเรียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชอาคันตุกะ ประธานาธิบดี ซูการ์โน แห่งอินโดนีเซียขณะนั้น ก็ได้มีการใช้บ้านพักของกรมป่าไม้ ตรงบันไดนาคขึ้นดอยสุเทพเป็นที่รับรอง  ผมเป็นนักเรียนก็ไปเข้าแถวรอรับเสด็จฯ  ก็ชื่นอกชื่นใจกลับมาเล่าให่แม่ฟัง ใจมีความจงรักภักดีตั้งแต่เด็ก มันอยู่ในสายเลือด และไปเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับป๊อก กับตุ้ย  ก่อนไปเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ทุนไปเรียนนอก กลับมาตอนจบก็ได้รับพระราชทานได้กระบี่ ได้สมรสพระราชทาน เป็น รัฐมนตรี รองนายกฯ นายกรัฐมนตรี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเยอะแยะ ทำไมต้องสอนความจงรักภักดีผมด้วย มันอยู่ในสายเลือด

พี่น้องก่อนที่ผมจะมาพบปะพี่น้อง วันนี้ ได้รับอีเมลจากเพื่อนที่วอชิงตันดีซี บังเอิญเพื่อนคนนี้ เป็นเเพื่อในสคริปต์วอยซ์ อดีตทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ไอ้เคราที่คุณพิจิตอ้างถึง เขาบอกว่าไม่พอใจ เลย ทำไมคุณพิจิตไปอ้างว่า เขามาพูดเรื่องบัญชีเงินฝากผมที่เคย์แมน เขาไม่เคยพูดเรื่องเงินฝากเลย เขาไม่เคยมีข้อมูลเรื่องเคย์แมนเลย"

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เห็นไหมว่า วันนี้ ดาหน้าออกมาทุกรูปแบบ แต่ทั้งหมดสรุปได้ว่าเก่ามาก  แม้กระทั่งคนหนุ่มที่ไปร่วมคณะทั้งหลายก็ยังคิดเก่าๆ มีลูกน้องตนคนหนึ่งแอบบอกว่า วันพรุ่งนี้ เขาจะเอาคนปลอมเป็นเสื้อแดง ไปสร้างความวุ่นวายแล้วเอาช่อง 11  ตามถ่ายเพื่อที่จะได้เห็นว่า คนเสิ้อแดงเย่ รู้ทันกันหมดวิธีเก่าๆ  ต้องถาม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รู้ดี ตอนไปปราศรัยที่บุรีรัมย์ มีคนปลอมเสื้อแดงแล้วเอาไข่ขว้างณัฐวุฒิจำได้ไหม  และวันนี้กระทรวงคมนาคมแอคทีฟเป็นพิเศษ ห้ามรถทัวร์บรรทุกคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพ ถ้าใครบรรทุกเข้ามาจะไม่ต่อทะเบียนให้ มันสุดจะเก่า

พ.ต.ท. ทักษิณ กล่าวต่อว่า เมื่อ 2 วันก่อน เข้าใจว่า พล.อ.เปรม  ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ไปพูดเรื่องความดีความเลว  ตนขอบอกว่า ความจริงระบอบการเมืองเรา  คำว่า ความดีคือการสร้างความมั่งคั่งและผาสุกให้กับประชาชน(???) การให้สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมกับประชาชนใช่ไหม ความดี คือ ประชาธิปไตยและคนที่ทำงานเพื่อประชาธิปไตย เพื่อประชาชนจริงๆ ความ เลว คือ เผด็จการ ปฏิวัติรัฐประหาร ทำให้ประเทศเสื่อมเสีย ทำให้ประชาชนเกิดความทุกข์ ยิ่งไปกว่านั้น พอปฏิวัติเสร็จผิดกฎหมาย ไปเหมือนกับบังคับให้พระเจ้าอยู่หัว ลงพระปรมาภิไท เพื่อให้สิ่งที่ผิดเป็นสิ่งถูก  ระบบประชาธิไตยของไทย อะไรกันแน่ อย่างนี้เรียกว่า เลวครับป๋า แล้วถ้าใครเป็นผู้นำการปฏิวัติ วางแผนปฏิวัติ  พาเข้าเฝ้าฯ ด้วย ยิ่งเลวกว่าอีก "พี่น้องครับผลสุดท้ายวันนี้ก็สรุปได้ชัดเจนว่า เรากำลังมาถึงจุดที่ว่า เกิดการต่อสู้ทางแนวความคิดและแนวปฏิบัติทางการเมือง ตั้งแต่ปี 2475 ก่อนคณะราษฎร์ยึดอำนาจ ในวันนั้น รัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานประชาธิปไตยให้กับประชาชน และเรามีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 รัฐธรรมนูญฉบับนั้นเข้าใจว่ามาตรา 12  ระบุว่า ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฐานันดรศักดิ์อะไร เมื่อเกิดเป็นคนไทยมีสิทธิเท่าเทียมกันหมด เขาไม่ได้ให้มีอภิสิทธิ์ชนเลย แต่จากนั้นก็เกิดความพยายามต่อสู้ของอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย โดยที่ไมีต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง  ไม่ว่าจะเป็นอำมาตย์ ทหารผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย รวมถึงกลุ่มนักการเมืองที่ทำมาหากินกับการเมือง(???) คนเหล่านี้ได้ประโยชน์จากการเมืองอ่อนแอ จากรัฐบาลล้มแล้วล่มเล่า แต่ประชาชนเสียประโยชน์ตลอดเวลา การต่อสู้นี้ต่อเนื่องยาวนาน มีเเลือกตั้งมา 22 ครั้ง มีปฏิวัติที่สำเร็จ 10 ครั้ง  แสดงว่า 2 ครั้งเลือกตั้งก็ปฏิวัติทีหนึ่ง แล้วใครจะเชื่อถือประเทศไทย ใครจะคบประเทศไทยลองเทอม แล้วพี่น้องประชาชนจะได้ประโยน์อะไรในเมื่อการเมืองไทยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าราย วัน"

"พี่น้องครับ วันนี้เป็นวันที่สำคัญที่สุด ที่เราต้องเลือกว่าจะยอมให้การเมืองเป็นแบบเก่ามีอภิสิทธิ์ชน มีอำมาตยาธิปไตย มีทหารคอยเป็นเครื่องมือปฏิวัติ(???)  แต่พวกเราลำบากแล้วลำบากอีก เราจะยอมต่อไปมั้ย ผมคิดว่า เรายอมต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอำนาจการตัดสินใจทางการเมือง เป็นอำนาจของประชาชนและตัวแทนที่ถูกต้องของประชาชนเท่านั้น ไม่มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ ไปแอบสั่งราชการตรงนั้นตรงนี้  ไปสั่งองค์กรอิสระ ไปสั่งศาล ไม่มีครับ ความเป็นธรรมความเสมอภาคเกิดขึ้นทันที(???)  ถามว่า เราจะไปแบบประเทศที่เจริญแล้วหรือเราจะเป็นอย่างนี้ ถ้าเราจะไปแบบประเทศที่เจริญแล้วเราต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ให้ พวกนี้นำมาใช้ประโยชน์ พวกนี้อิงสถาบันเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งนั้น"

"ลำพังเป็นทหารแก่เกษียณคนหนึ่ง สั่งศาลได้มั้ย สั่งองค์กรอิสระได้มั้ย สั่งทหารปฏิวัติได้มั้ย วันนี้พี่น้องประชาชนเริ่มทยอยเข้ามา ทราบว่า พรุ่งนี้ ร้านอาหารบางร้านจะปิด ร้านทำผมบางร้านก็จะปิด เจ้าของร้านและคนงานจะมากัน น่ารักมาก ไม่กี่วันนี้ เป็นช่วงที่เราจะเสียสละ เราถือว่า เรามาร่วมทำบุญเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนดีกว่า ถ้าประเทศเจริญ มีความเป็นธรรม ประชาชนมีความสุข พระเจ้าอยู่หัวจะมีความสุขมาก

วันนี้ขอร้องอย่ามาพูดว่า วันนี้รอก่อนไม่เป็นไร เดี๋ยวจะแก้รัฐธรรม เอาคนกลางมาแก้รัฐธรรมนูญ  คนกลางรับผิดชอบต่อประชาชนหรือเปล่า ใครก็ตามที่เข้ามาตัดสินใจทางการเมืองต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการเมือง ระบบเขาดีอยู่แล้ว วันนี้ต้องยอมอดทน เจ็บปวด แล้วเริ่มต้นใหม่ เปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ให้มีการปฏิวัติอีกแล้ว พอแล้ว ท่าน พล.อ.เปรม ก็อายุ 88 สิงหาคมนี้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องมีปฏิวัติ ถ้ามีปฏิวัติเมื่อไหร่ ประชาชนชาวเสื้อแดงจะนำลุกฮือก่อนเพื่อน  มันไม่หมูเหมือนเอารถถังไปยึดสถานีโทรทัศน์อีกแล้ว พี่น้องอดทนไม่กี่วัน เพื่อนาคตอันรุ่งเรืองของเรา อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามีประชาธิปไตยที่แท้จริง พี่น้องจะเห็นความมีเสรีภาพของประชาชนที่มีกติกากำหนดชัดเจน ไม่ใช่กติกาเลือกใช้แต่ตัวอภิสิทธิ์ชน เปิดเผยชัดเจนว่าเรามีเสรีภาพอะไรบ้าง เพื่อให้เราอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ความเสมอภาคทางสังคมต้องเกิด ความเป็นธรรมต้องเกิด ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหมด  ศาลไม่ต้องเขียนกหมายเองเพราะคนเขียนกฎหมายคือสภาฯ แล้วท่านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในประเทศไทยอย่างรวดเร็วมาก  ผมกล้ายืนยันว่า ภายใน 5-6 ปีท่านจะเห็นเปลี่ยนหมดในประเทศไทย คนไทยจะมีงานทำทั้งหมด งานที่คนไทยไม่ทำ ประเทศเพื่อนบ้านมาทำ แต่งานที่คนไทยอยากทำมีให้ทำหมด  ผมมองศักยภาพประเทศไทย สามารถจ้างงานได้อีกเยอะ ไม่ใช่ปล่อยให้คนไทยตกงานเป็นล้านแบบนี้ นั่งรถไปทำงาน 3 ชม.กลับ 3 ชม.ไม่มีแล้วต่อไปนี้ รถไฟฟ้าเต็มเมือง ชาวบ้านทำนามีชลประทาน 25 เปอร์เซ็นต์ ต้องขยายพื้นที่ชลประทานด่วน  ทำได้อยู่แล้ว ถ้าเป็นประชาธิปไตยไม่ต้องมีใครดึงงบฯ ไปซื้ออาวุธ อาวุธซื้อเท่าที่จำเป็น ลูกหลานต้องเรียนหนังสือหอบคอมพิวเตอร์ไปโรงเรียนทุกคน(???)

พี่น้อง มันต้องพัฒนาประเทศโดยด่วน  ประเทศไทย เนรมิตได้ง่ายมาก ต้องให้เมืองทุกเมือง มีความเบ็ดเสร็จในตัวเอง  ไม่ต้องเดินทางไกล ถามว่าสร้างได้มั้ย ง่ายมาก เงินเยอะไปหมด วันนี้เงินเขาหาที่ลง  แต่เขาชอบประเทศไทยมาก  คนไทย น่ารัก สวยงาม  อาหารอร่อย คนอยากมาอยู่ คนอยากมาทำงาน แต่เขามองเมื่อไหร่จะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เดี๋ยวก็ปฏิวัติ ปฏิวัติใครรวย นายพลไม่กี่คนรวย คนทั้งประเทศจน ต่อไปนี้ เราจะเข้าสู่ยุคของประชาธิปไตยแท้จริงที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่มีอำมาตย์มายุ่ง มีหน้าที่ถวายรับใช้ไม่ใช่มายุ่งการเมืองอย่างทุกวันนี้   ทหารต้องเป็นทหารอาชีพมีหน้าที่ปกป้องรักษาประเทศชาติ อันนี้ไม่รักษาคอยจะยึดสถานีโทรทัศน์อย่างเดียว ปล่อยให้ประชาชนตัดสินใจอนาคตของเขาเอง เลือกใครก้เลือกของเขา ไม่ดีคราวหน้าก็ไม่เลือก ไม่ใช่ไปบังคับเขา ไปตั้งนายกฯให้เขา เขาไม่อยากได้

พี่น้องครับ วันพรุ่งนี้ผมอยากจะบอกพี่น้องว่า ช่วยโทรศัพท์เชิญชวนเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องออกมาให้หมด เราจะมากันอย่างสันติ เราไม่ใช่คนเกเร เราไม่มีระเบิดปิงปอง เราไม่ปลอมเหมือนคนอื่นมาปลอมเรา เราต้องการปริมาณมากๆ เพื่อแสดงให้รู้ว่า คนไทยทั้งประเทศรับไม่ไหวกับการเมืองแบบเก่าอีกแล้ว  คนไทยวันนี้ต้องการให้ประเทศก้าวหน้า ลูกหลานเห็นอนาคตตัวเองหมด เพระฉะนั้นเขาสกัดเท่าไหร่ ใช้วิธีการเก่าๆ เท่าไหร่ เท่ากับเป็นการเสริมให้พวกเรา พร้อมกันมาเท่านั้น จะปิดข่าวก็ขอขอบคุณเพราะพวกเราอยากจะมาดูด้วยตาของตัวเอง"

"ผมเตือนไว้แล้วว่า พฤษภาทมิฬพังเพราะปิดข่าว วันนี้เหมือนกันไม่ยอมพัฒนาเลย  ผมอยู่ข้างนอกเห็นหมด พร้อมทันทีถ้าประเทศเป็นประชาธิปไตย พร้อมที่จะหาเงินจากต่างประเทศไปลงทุนในประเทศไทย พร้อมจะเอาสินค้าไทย และความชำนาญไทยไปลงทุนในต่างประเทศ พร้อมจะเอาสินค้าไทยและความชำนาญไทยไปทำเงินในต่างประเทศ  ผมไม่จำเป็นต้องเป็นเอง แต่ถ้าจำเป็น พี่น้องบอกว่า จะใช้ผม ผมก็จะทำ(????!!!!) ใช้อะไรก็ทำถือว่า เราได้มาร่วมกันด้วยหัวใจแล้ว พี่น้องที่เคารพ

 
พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ถือเป็นวันประวัติประศาสตร์ เชิญพี่น้องคนไทยที่รักเสรีภาพ ความเป็นธรรม ลูกหลาน รักอนาคต รักสถาบันออกมาพร้อมกันเยอะๆ แสดงพลังกันให้เต็มที่และผมจะอยู่เคียงข้างกับพี่น้อง"

ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"ชาญชัย"พยายามลงมือถึง3ครั้ง ตั้ง2ปม "พ.ต."ซัดทอด"พ.อ."สั่ง-เผาแบงก์10แห่ง

ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"ชาญชัย"พยายามลงมือถึง3ครั้ง ตั้ง2ปม "พ.ต."ซัดทอด"พ.อ."สั่ง-เผาแบงก์10แห่ง

ผบ.ตร.เผยทีมฆ่า"องคมนตรี ชาญชัย"พยายามลงมือถึง 3 ครั้งแล้ว สันนิษฐานเหตุการเมือง-ส่วนตัว ตร.ขยายผลหลังจับกุม"พันตรี"ผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า"ชาญชัย" อ้างเจ้านาย"พันเอก"สั่งมา เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่อง ไม่รู้เจตนา ยันไปบ้าน"ปีย์"แค่คุยกันธรรมดา รับช่วงนี้ต้องระวังตัวให้มาก

ความคืบหน้าการรวบตัวมือปืนเตรียมลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์  เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ได้ทันก่อนลงมือ ขณะมาซุ่มอยู่ละแวกซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใกล้กับบ้านนายชาญชัย เมื่อค่ำวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) แถลงคืบหน้าคดีเตรียมลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 8 เมษายน ว่า คดีนี้เป็นเรื่องจริง ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้พยายามดำเนินการลอบสังหารมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ในวันที่ 4 เมษายน 2 ครั้ง และวันที่ 5 เมษายน อีก 1 ครั้ง แต่ถูกตำรวจตรวจค้นอาวุธปืน และจับกุมได้ก่อน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พ.ต.เทียนชัย หรือ อ๊อด เมืองจันทึก เป็นผู้รับงานด้วยเงินจ้างวาน 1 ล้าน 5 แสนบาท หลังจากนั้นติดต่อ นายคมิต ศุกาญจนกาจน์ ในวงเงิน 6 แสนบาท โดยให้ นายคมิต ไปจ้างทีมฆ่า คือ นายภาณุพงศ์ รัตนาไพบูลย์ และ นายศักดิ์ชาย แซ่ลิ้ม ด้วยเงินว่าจ้าง 1 แสน 4 หมื่นบาท

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำอาวุธปืน .38 พร้อมเครื่องกระสุน และสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร มีรายละเอียดการโอนเงินเข้า และภาพถ่ายของนายชาญชัย มายืนยันด้วย โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว และเรื่องการเมือง

พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ถึงการจับกุมมือปืนที่เตรียมสังหารองคมนตรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนขยายผลจนทราบว่า มีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องและนำไปสู่การจับกุมทหารระดับจ่าและพ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก สังกัดกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งทั้งหมดได้รับสารภาพพร้อมกับซัดทอดไปยัง"พ.อ." ที่อ้างว่าเป็นเจ้านายอีกครั้ง

พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวด้วยว่า ระหว่างที่ทำการจับกุมทหารทั้งสองคนนี้ ได้มีโทรศัพท์โทรเข้าที่เบอร์ของทหารที่ถูกจับ หลังจากมีการวางสายแล้ว ตำรวจก็ถามว่า เจ้านายให้ทำอะไรอีก จนทราบว่าเจ้านายสั่งการให้วางเพลิงธนาคารกรุงไทย กับธนาคารอีกแห่ง รวม 10 จุดเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามถามว่า เจ้านายเป็นใครแต่ก็ไม่ยอมบอกว่าชื่ออะไร บอกเพียงชั้นยศเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับทั้งหมดต้องบอกรายละเอียดหมดทุกอย่าง

"การสอบสวนการลอบสังหารองคมนตรี ครั้งนี้ต้องขยายให้ถึงที่สุดว่าใครเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้บ้าง แต่หลักฐานที่ตำรวจจับกุมขณะนี้มีเพียงพอที่จะดำเนินคดีเนื่องจากครบองค์ ประกอบทั้งหมดเรื่องประเด็นเตรียมการลอบสังหารบุคคลสำคัญที่มีทั้งรูปถ่าย และอาวุธปืน" พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 7 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองปราบปรามและสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุม "พันตรี" ซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่านายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
 
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ถนนวิภาวดี  พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เรียก พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.หน.ศสส.ภ. 1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รองผกก.2 บก.ป. เข้าร่วมประชุมหลังชุดสืบสวนร่วมกับกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) จับกุมผู้พยายามก่อเหตุยิงนายชาญชัย ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมง
 
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่าเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาที่ถูก จับกุมทั้ง 3 คน รับสารภาพ ทางตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลผู้เกี่ยวข้อง และการจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 10 นัด และรถจักรยานยนต์ แต่ยังไม่ทันลงมือก่อเหตุทางตำรวจไปพบก่อน
 
พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ผู้ต้องหารับว่าผู้ว่าจ้างอ้างว่าให้มายิงนักธุรกิจซึ่งโกงเงินมาจากทางภาคเหนือโดยมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งสาเหตุการยิงนายชาญชัย อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเนื่องจากนายชาญชัยเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยในช่วงระหว่างการปฎิบัติหน้าที่การงาน ทางตำรวจก็อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลเพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากเรื่องอะไร สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วยนายภานุพงศ์ หรือกอลฟ์ รัตนาไพบูลย์ อายุ 32 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ นายศักดิ์ชาย หรือแบงก์ แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี มือปืน และนายคมิก หรือ จ่าเหน่ง สุขกาญจนกาศ อายุ 33 ปี  ผู้ติดต่อรับงาน
 
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างขอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับนายทหารคนหนึ่ง ยศ "พันตรี" สังกัดเลขานุการกองทัพบก ในฐานะผู้จ้างวาน หลังผู้ต้องหาซัดทอดว่ามีทหารกลุ่มหนึ่งอยู่เบื้องหลังบงการลอบสังหารองคมนตรีเพื่อทำให้สถานการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย
 
รายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องหาระบุว่า การจับกุมผู้ต้องหามือปืนเตรียมลอบยิงนายชาญชัยนั้น สืบเนื่องจากก่อน หน้านี้มีสายของตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมลอบสังหารมีหน้าที่ชี้เป้า ได้รับรูปของนายชาญชัย พร้อมบ้านเลขที่ และทะเบียนรถ ดส 4777 กทม.จากผู้จ้างวานอ้างว่าเป็นพ่อค้าคนจีนที่ขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจที่ จ.เชียงใหม่แล้วหนีหนี้สินมาอยู่ที่ โดยให้ค้าจ้างจำนวน 1.3 แสนบาท ซึ่งมีการโอนเงินและจัดหาอาวุธปืนให้เรียบร้อยแล้ว แต่สายตำรวจซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสังหารสงสัยทะเบียนรถที่ใช้ จึงได้เข้าไปตรวจเช็คทะเบียนปรากฏว่าทะเบียนรถเป็นของสำนักพระราชวัง จึงนำเรื่องไปปรึกษากับจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจ
 
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอรายนี้จึงได้ไปตรวจสอบทะเบียนรถพบ ว่าเป็นรถของนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี จึงได้ประสานทางตำรวจภาค 1 และกองปราบปราม ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งของบ้านนายชาญชัย ไปซุ่มอยู่บริเวณบ้าน ในซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยไม่ติดหมายเลขทะเบียน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนในเซฟเฮ้าแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามระหว่างจับกุมไม่พบอาวุธปืนที่จะใช้ก่อเหตุ
 
จากการเค้นสอบมาตลอดทั้งคืนทราบว่าผู้จ้างวานเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มหนึ่งจ้าง วานให้ฆ่านายชาญชัยภายในวันที่ 7 เมษายน เพื่อสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองวุ่นวาย
 
รายงานข่าวแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนดังกล่าวได้มารายงานเรื่องดังกล่าว ให้กับพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. คาดว่า พล.ต.อ.ธานี ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีทราบเรียบร้อยแล้ว
 
ด้านพล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้จะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
 
รายงานข่าวแจ้งว่าพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนถึงบช.น. บช.ก. บช.ภ.1 จัดกำลังอารักขาบุคคลสำคัญ ประกอบด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายชาญชัญ ลิขิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา(ในขณะนั้น) นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด นายจรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกา (ปัจจุบัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) นายปราโมทย์ นาครทรรพ นักวิชการ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการกอ.รมน. ที่เข้าไปร่วมหารือกับนายปีย์ มาลากุล ประธานบริษัทแปซิฟิก คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2549 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวหาว่าเป็นการหารือเพื่อล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ

ด้านความเคลื่อนไหวของนายชาญชัยนั้น เว็บไซต์คมชัดลึก รายงานว่า  นายชาญชัยให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงเหตุการณ์มีมีข่าวว่า มีคนคิดลอบสังหารว่า ทราบจากข่าวเช่นกัน โดยมีเพื่อนโทรศัพท์มาบอก ซึ่งตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น และไม่ทราบสาเหตุด้วย

เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ไปบ้านนายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า ไปบ้านนายปีย์ แค่ครั้งเดียว และ ก็ไปคุยกันธรรมดา ยังนึกไม่ออกว่า เกี่ยวกับตนได้อย่างไร ไม่ทราบเจตนาจริงๆ

เมื่อถามว่า ตอนนี้กังวลอะไรหรือไม่ องคมนตรี กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร แต่ต้องระวังตัวไม่ให้มากขึ้น เพราะปกติก็ไม่ได้ระวังตัวอะไรอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า  พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามถึงเรื่องราวเกิดขึ้นหรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า วันนี้ยังประชุมองคมนตรีด้วยกัน และ พล.อ.เปรม ก็ทราบข่าวว่า มีผู้คิดลอบสังหารตนเท่านั้นเอง

 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าจับกุมตัวคนร้าย ซึ่งวางแผนที่จะลอบสังหาร นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ว่า ตนยังได้เห็นรายงาน ทราบจากข่าว ซึ่งตนจะเข้าไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด



ผู้ประกาศช่อง3วอน"เสื้อแดง"เข้าใจสื่อหลังถูกขว้างของใส่

matichon - น.ส.วารุณี ซื่อสัตย์สกุลชัย ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 กล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ถึงเหตุการณ์ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงปิดล้อมและขว้างปาสิ่งของใส่ ระหว่างประกาศข่าว ที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ว่า คนที่ชุมนุมมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม แต่เราก็ทำหน้าที่ เขาก็ต้องเคารพสิทธิในการทำงานตามสิทธิของผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะสื่อมวลชน เพราะไม่ว่าในหัวใจสื่อจะมีสีไหน แต่หน้าที่ของเราก็คือการเสนอข้อเท็จจริงให้มากที่สุด โดยอยู่ภายใต้จริยธรรม จรรยาบรรณของสื่อที่มีอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว โดยขอเรียกร้องว่าให้ผู้ชุมนุมเข้าใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกแขนงด้วย เพราะว่าเรามาเป็นกระบอกเสียงให้กับทุกฝ่าย

"มีสิ่งไหนที่ผู้ชุมนุมรู้สึกไม่ชอบใจสื่อ หรือคิดว่ามีการรายงานบิดเบือน ก็ขอให้พูดคุยกันโดยตรงและดูหลักฐานการออกอากาศได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้ฟังคำพูดปากต่อปากจากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง เพราะอาจจะยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ และเหตุการณ์จะยิ่งเพิ่มความรุนแรง เพราะไม่อยากให้เป็นเพียงน้ำผึ้งหยดเดียว" น.ส.วารุณี กล่าว

นายกฯเชื่อลอบสังหารองคมนตรีโยงม็อบเสื้อแดง ไม่บังเอิญ

ASTV MGR - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ยุบสภาจากการชุมนุมข่มขู่ กดดัน และใช้ความรุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยประเมินจำนวนผู้ชุมนุมวันนี้จะใกล้เคียงกับที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประเมินไว้ที่ 80,000 คน ซึ่งหากใครทำผิดกฎหมายจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหากสมรู้ร่วมคิด อย่างไรก็ตาม มีการติดตั้งกล้องไว้เป็นหลักฐาน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ความรุนแรงก่อนอย่างเด็ดขาด และมั่นใจว่าจะไม่มีมือที่ 3 โดยในวันนี้ได้ประสานงานดูแลความปลอดภัยทั้งตำรวจ ทหาร และกระทรวงยุติธรรม หากมีความจำเป็นจะใช้อำนาจศาลโดยเร็วที่สุด
        ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่าครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปต่างประเทศแล้วจริงหรือไม่ พร้อมเชื่อว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญกรณีเหตุลอบสังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี กับการชุมนุมในวันนี้ที่เชื่อมโยงกัน รัฐบาลจึงไม่ประมาท และมีการซักซ้อมความเข้าใจกันอยู่ตลอดเวลา
        นายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจในความปลอดภัยของตนเอง และยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนรถประจำตำแหน่ง

"เสื้อแดง"ลานพระบรมรูปทรงม้าเหงา ไร้เงาแกนนำ

มติชน - ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ว่า ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในช่วงเช้า ผู้ชุมนุมเสื้อแดงยังมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากยังไม่มีการเคลื่อนขบวนมาจากที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีเพียงรถปราศรัยที่เปิดเพลงอยู่เท่านั้น และยังไม่มีแกนนำคนใดเดินทางมาถึง ส่วนการรักษาความปลอดภัย ขณะนี้ยังไม่เข้มงวด เพราะวางกำลังส่วนใหญ่อยู่หน้าทำเนียบฯ มีเพียงเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมกับพ่อค้าแม่ค้ารื้อถอนร้านค้า หลังจากที่งานกาชาดสิ้นสุดลงแล้ว ทั้งนี้ มีการเก็บอุปกรณ์ทั้งเศษไม้และตะปู เพื่อไม่ให้ผู้ไม่ประสงค์ดีนำไปใช้ก่อความวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการปิดการจราจร รถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้ แต่ปริมาณรถขณะนี้มีน้อย

ทักษิณบอก"เนวิน"แถลงแค่ละครน้ำเน่า

คมชัดลึก :"ทักษิณ" วิดีโอลิงก์มบอกพรุ่งนี้จะเป็นบุญของประเทศที่จะได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้ จริงเสียทีหนึ่ง เตรียมออกกฎหมายจัดการอำมาตย์ ทหารใหญ่ และอภิสิทธิ์ชน มอบประชาธิปไตยให้กับประชาชน พร้อมกับระบุวันนี้ไม่เครียดเพราะได้ดูละครน้ำเน่า

เมื่อเวลา 20.20น.วันที่ 7 เม.ย.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงก์มาที่การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล โดยได้ระบุว่า บอกว่าพรุ่งนี้บุญตนจะดีมากเลยเพราะประชาชนจะมาร่วมชุมนุมมาก ซึ่งจะเป็นบุญประเทศจะได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที ได้สัมผัสประชาธิปไตยเต็มมือ  หลังจากนั้นจะมีการออกกฎหมายจัดการกับอำมาตย์ ทหารใหญ่ และอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย และมอบประชาธิปไตยให้กับประชาชนแล้วยิ่งกว่ากินได้เสียอีก

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า วันนี้ไม่เครียดเพราะตอนบ่ายได้ดูละครน้ำเน่า ที่เอาผู้ร้ายมาเป็นพระเอก นี้ผู้ร้ายมาสอนพระเอกได้อย่างไร ต้องรู้ว่าผมเป็นใคร  อยากจะบอกว่าหลังจากที่ตนออกมาแฉแล้วมีการกล่าวหาตนฝากเงินเกาะเคย์แมนนั้น  ขอบอกว่าไม่มีอย่างแน่นอน

"พรุ่งนี้จะมีคนปลอมเป็นคนเสื้อแดงและสร้างความเสื่อมเสียให้กับคนเสื้อ แดง อย่างเช่นวันนี้มีการขนคนไปที่กระทรวงคมนาคมนั้น พฤติกรรมอย่างนี้เป็นเรื่องเก่าเขาไม่ทำกันแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว



เปิดเบื้องลึก'น้ำตาเนวิน'

คมชัดลึก : "มีหลายเหตุผลที่เนวิน ตัดสินใจพาเพื่อนเนวิน ย้ายขั้วมาอยู่กับเรา หนึ่งในนั้นเนวิน บอกว่า ให้รบกับใครทำได้หมด ทำแบบถวายหัว แต่กับสถาบันเขายืนยันไม่เอาเด็ดขาด" แกนนำพรรคประชาธิปัตย์รายหนึ่งกล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ประชาธิปัตย์จะ ผนึกกับพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน หนุนส่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

คำบอกเล่า ก็เป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่ได้หมายความด้วยท่าทีของ เนวิน ชิดชอบ และกลุ่มเพื่อนเนวิน ในช่วงก่อนที่ "ขั้วการเมือง" จะพลิกผัน ไม่ได้มีสัญญาณอะไรที่บ่งชัดว่าแนวทางของกลุ่มเพื่อนเนวิน จะไปในทิศทางนี้

 กระทั่ง "วันสุกดิบ" ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดง ภายใต้การปลุกเร้าของ ทักษิณ ชินวัตร จากนอกประเทศ จะรวมพลป่วนเมือง เนวิน ได้เปิดแถลงข่าวตอกย้ำคำบอกเล่าในก่อนหน้า

 "องคมนตรีแต่ละท่านมาจากการโปรดเกล้าฯ ตามพระราชอัธยาศัย ในฐานะที่ผมเป็นคนไทย ผมถือว่าคำว่าพระราชอัธยาศัยมีความหมายและมีความสำคัญยิ่งกว่าพระราชอำนาจ ด้วยซ้ำไป เมื่อพระองค์ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยแล้ว ผมอยากฝากถามแกนนำผู้ชุมนุม และท่านนายกฯ ทักษิณว่า คุณมาบอกว่าคนที่พระองค์ท่านทรงแต่งตั้งเป็นคนเลว คนไม่ดี คุณมีเป้าหมายอะไร"


 ส่วนหนึ่งจากถ้อยแถลงอันยาวนานของเนวิน ที่ถือว่ายาวที่สุดนับแต่ถูกสั่งเว้นวรรคการเมือง

 ถึงกระนั้นก็ตามก็ยังมีคำถามว่า เหตุใด เนวิน ถึงเลือกที่จะเปิดเผยตัวตนเอาในวันสุกดิบ ก่อนที่การชุมนุมใหญ่จะเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง

 มือการเมืองระดับนี้ มีหรือจะอ่านไม่ออกว่า เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงภายหลังการระดมคนจากทั่วสารทิศ บางส่วนมาถึงสถานที่ชุมนุมแล้วด้วยซ้ำไป นั้น ต่อให้หลั่งน้ำตาออกมาเป็นสายเลือดการชุมนุมก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี

 ลุ้นก็เพียงแค่ว่า ความรุนแรงหรือเหตุบานปลายจะเกิดขึ้นหรือไม่เท่านั้น

 ไม่มีใครรู้หรอกว่า สิ่งที่หวาดหวั่นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

 แต่หลายต่อหลายคนรู้ว่า หากเกิดขึ้นจริง การดำรงสถานะรัฐบาลของรัฐบาลชุดนี้ เป็นไปอย่างยากลำบากยิ่ง

 หากเกิดเหตุนองเลือด โอกาสที่จะมีการยุบสภา หรือลาออกเป็นไปได้ทั้งนั้น

 หากไม่ได้มุ่งหวังว่า การพูดร่วม 1 ชั่วโมงมีผลเพียงแค่ "กระตุกแขนเสื้อ" ...มองในแง่การเมืองนี่คือจังหวะที่เหมาะเจาะลงตัวที่สุด สำหรับการเปิดตัวของเนวิน

 ยิ่งมีข่าวสะพัดมาว่า กลางดึกคืนก่อนที่จะมีการแถลงข่าว เนวินได้ไปพบผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ยิ่งทำให้ภารกิจอันหนักอึ้งของเนวินครั้งนี้ ดูเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่

 ยิ่งผู้คนที่เป็นฐานเสียงของกลุ่มเพื่อนเนวิน ยิ่งสะเทือนใจไปกับน้ำตาที่ไหลลงมาเป็นสาย ทั้งของ เนวินและผองเพื่อน ก็ยิ่งปลุกเร้ากระแสจงรักภักดี และความรักในผองเพื่อนเนวิน อย่างแยกกันไม่ออก

 ผองเพื่อนเนวิน ที่วันนี้ ผนึกแน่นกับกลุ่มวังน้ำยม ของสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่เรียกว่า มีอนาคตที่สดใสและจะกลายมาเป็นอีกขั้วการเมืองที่มีพื้นที่ทับซ้อนกับพรรค เพื่อไทยโดยตรง

 หลายคนที่เนวินเอ่ย เอื้อนถึง ก็ล้วนแต่ผนึกแน่นกับภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็น เสนาะ เทียนทอง แห่งประชาราช สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน รวมทั้ง สมศักดิ์ เทพสุทิน

 คนเหล่านี้ เนวินประกาศชัดว่า "เจ็บช้ำ" กับทักษิณ มาทั้งนั้น

 นี่คือยุทธศาสตร์การเมืองที่ค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่ว่าการเมืองจะพลิกผันไปอย่างไร ไม่ว่าจะยุบสภา หรือนายกรัฐมนตรีลาออก (ซึ่งเป็นไปได้ยาก) พรรคภูมิใจไทย จะเป็นพรรคที่ลอยตัวออกจากสมรภูมิ และเก็บเกี่ยวเอาชัยชนะจากแทบทุกสนามเลือกตั้ง

 ด้วยฐานของสมศักดิ์ ป๋าเหนาะ เพื่อนเนวิน และยังมีฐานจากพรรคเพื่อแผ่นดิน มาเสริมทัพ โดยมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะถูกนำมาเป็นจุดขายของพรรคอีกครั้ง แม้จะติดขัดเพราะถูกเว้นวรรค แต่เท่านี้ก็ทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่ต่างจากพยัคฆ์ติดปีก
 .........

 ไม่ว่าจะมองในด้านไหน จังหวะก้าวของเนวิน ก็มีแต่บวกกับบวก

 ได้ใจจากทั้งกลุ่มพันธมิตร พรรคพันธมิตร จนแทบจะกลายเป็น "องคุลีมาลทางการเมือง"

 ถ้าหากรัฐบาลผ่านวิกฤตินี้ไปได้ จนถึงวันที่สมควรลาจาก ซึ่งหากโชคดีครบกำหนดที่จะปลดโซ่ตรวนการเมืองที่ถูกสั่งเว้นวรรค วัดจากทุกด้านแล้ว น้ำตาที่หลั่งออกไปย่อมมีค่าตอบแทนที่ดี

เสื้อแดงบุกล้อมโรงพักพัทยาจี้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทุบรถนายกฯ

Nation Channel breaking news  - ช่วงค่ำที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มเสื้อแดงในนามชมรมคนรักประชาธิปไตยพัทยา กว่า 500 คน นั่งรถบัสปรับอากาศจำนวน 8 คัน เดินทางมาปิดล้อมที่หน้า สภ.เมืองพัทยา เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัว นายวันเฉลิม กุมแสน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/40 ม .10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีทุบรถยนต์โตโยต้า แลนครุยเซอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ศห -9210 กทม.ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั่งออกมาจากโรงแรม รอยัลคลิฟบีช รีสอร์ท พัทยา สถานที่ประชุม ครม.สัญจร
   
โดยกลุ่มคนเสื้อได้กรู กันเข้าไปปิดล้อมภายในโรงพักจนประชาชน ที่เข้ามาแจ้งความแตกตื่นพากันวิ่งหลบหนีออกไป ซึ่งทางผู้ชุมนุมได้ยื่นคำขาดให้ พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก. สภ.เมืองพัทยา ปล่อยตัว นายวันเฉลิม อย่างไม่มีเงื่อนไข โดยยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นคนกระทำผิด และเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ ทาง ผกก .จึงเจรจาขอบันทึกปากคำ ของผู้ต้องหาประมาณ 10 นาที กลุ่มคนเสื้อแดง จึงยินยอมแต่ยังคงปิดล้อมโรงพักอยู่ อีกทั้งยังมีการนำเครื่องขยายเสียงมาปราศัยโจมตีการทำงานของตำรวจพัทยา จนกระทั่งทนแรงกดดันไม่ไหว จึงต้องปล่อยตัวนายวันเฉลิม ออกมาก่อนชั่วคราว โดยไม่มีการประกันตัว แต่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำให้เสียทรัพย์ของทางราชการ พร้อมกับนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจ และพากันขึ้นรถบัสเดินทางเข้ากทม.เพื่อชุมนุมร่วมกับคนเสื้อแดงทั่วประเทศ
   
ขณะที่ ร.ท. มนตรี ป่าจันทร์ อายุ 48 ปี หัวหน้าการ์ด รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี ได้พา ส.อ.รังสรรค์ แย้มพยุง อายุ 35 ปี คนขับรถ อยู่บ้านเลขที่ 41/2 ม .3 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ . พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ว่า ได้ถูกกลุ่มคนเสื้อแดง ทุบรถยนต์ทำให้กระจกหลังแตกมูลค่าความเสียหายประมาณ 40,000 บาท นอกจากนี้ยังนำใบรับรองแพทย์มายืนยันว่า ถูกทำร้ายร่างกายที่ใบหน้า ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน 2 คดี คือ ทำให้เสียทรัพย์กับทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ซึ่งภายหลังร.ท.มนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้โกรธเคืองอะไรกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะเห็นว่า เป็นคนไทยด้วยกัน ถือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย และอยากจะให้เรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดี


"เนวิน"ถามเสื้อแดง-สร้างรัฐใหม่คืออะไร

คมชัดลึก :"เนวิน ชิดชอบ" แถลงข่าวซัดกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมเพื่อคนๆเดียว ถามการประกาศสร้างรัฐไทยใหม่หมายถึงอะไร ย้ำใครคิดล้มสถาเบื้องสูงต้องข้ามศพ"เนวิน"ไปก่อน

(7เม.ย.) ที่โรงแรมสยามซิตี้ เวลา 13.30 น. นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แถลงเปิดใจกรณีถูกกลุ่มเสื้อแดงโจมตี ว่า มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ความแตกแยกในสังคมและการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) จึงต้องออกมาบอกว่าจากประสบการณ์ตนและเพื่อนๆ ที่เคยทำงานกับแกนนำเสื้อแดงบาง คน ซึ่งตอนนี้เป็นแกนนำอยู่บนเวทีทำเนียบฯ บางคนเรียกได้ว่าทำงานร่วมกันนานพอสมควร ตั้งแต่หลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา เพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการของคณะมนตรีความมั่นคงแห่ชาติ(คมช.) และเรียกร้องประชาธิปไตยที่สนามหลวง และในพื้นที่ต่างๆ

 "สรุปมีความเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเตือนประชาชน ระวังตกเป็นเครื่องมือหรือเหยื่อของสถานการณ์ที่วางแผนไว้ในการชุมนุมพรุ่ง นี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างที่ได้รับทราบโดยประสบการณ์ พี่น้องประชาชนที่ถูกปลุกระดมได้รับความสูญเสียมากที่สุด ประเทศไทยก็ได้รับความสูญเสียอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้" นายเนวิน กล่าว

 นายเนวิน กล่าวว่า จากการเฝ้าสังเกตการชุมนุมตลอด 12 วันที่ผ่านมา เห็นว่ามีการกล่าวถึงสงครามประชาชน การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ ยึดศาลากลางจังหวัด

 "จนนำมาสู่สิ่งที่เราเป็นห่วงและเชื่อได้ว่า ผู้นำบางคนเตรียมการณ์บางอย่าง เพื่อก่อให้เกิดสงครามกลางเมือ ปฏิวัติ และเกิดสถานการณ์เผาบ้านเผาเมือง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ไม่ใช่สันติวิธีอย่างแกนนำกล่าว" นายเนวิน กล่าว

 นอกจากนี้ ได้เห็นประกาศเจตนารมย์แบบเอาชีวิตเข้าแลกของผู้นำบางคน ว่า ถ้าเสื้อแดงอยู่ ไม่ได้ คนทั้งแผ่นดินก็อยู่ไม่ได้ หรือ หากทำไม่สำเร็จก็แพ้ ก็ต้องตายไปพร้อมกัน จึงต้องตั้งคำถามแกนนำ ว่า ถ้าชุมนุมพรุ่งนี้ไม่สำเร็จ ทำไมคนทั้งแผ่นดินต้องอยู่ไม่ได้ ซึ่งเป็นถ้อยที่แกนนำประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีก

 "จึงอยากบอกประชาชนที่เข้า ร่วม ขอให้พิจารณาให้ดีว่าเป้าหมายการชุมนุมเพียงแค่ไล่รัฐบาลเท่านั้นหรือมีเป้า หมายไกลกว่านั้น ผมและเพื่อนๆ มีเหตุ ผลที่เชื่อว่าแกนนำการชุมุนมุมีเจตนามากกว่าขับไล่รัฐบาล เหตุผลที่นำมาสู่ความเชื่อนี้ คือ เหตุการณ์ 15 ม.ค.52 แกนนำชุมนุมคนหนึ่งได้ประกาศไว้ในงานเปิดสถานีโทรทัศน์ช่อง"ดี สเตชั่น" โดยประกาศจะเป็นการสร้างรัฐไทยใหม่ด้วยมือคนเสื้อแดง โดยมีดีสเตชั่นเป็นเครื่องมือขยายฐานมวลชน" นายเนวิน กล่าว

 นายเนวิน กล่าวว่า ต้องตั้งคำถามว่าทำไมต้องสร้างรัฐไทยใหม่ เมื่อเรามีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระกษัตริย์เป็นประมุขอยู่แล้ว เชื่อคนไทยมีความสุข อยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร แกนนำต้องตอบคำถามที่ประกาศสร้างรัฐไทยใหม่นั้น มีเจตนารมย์อย่างไร ปกครองด้วยระบอบอะไร มีสถาบันใดเป็นสถาบันหลัก

 แกนนำคนเสื้อแดงเหล่า นี้ประกาศจับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเป็นตัวประกัน ใน 2 วันที่ผ่านมา แกนนำรุมโจมตีตน ด่าตนบนเวที เพราะโกรธที่ตนออกมาบอกพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เมื่อ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ผมเคยบอกว่าคนที่คิดล้มล้างระบบกษัตริย์ต้องข้ามศพผมไปก่อน ผมคิดว่าเจตนารมณ์นี้ในการปกป้องกษัตริย์ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์ของผมคนเดียว เพื่อนๆที่นั่งในที่นี้และคนไทยคงไม่ได้คิดต่างจากผม  ผมตั้งคำถามแกนนำเสื้อแดงว่า ผมผิดตรงไหนที่พูดแบบนี้ ถ้าจงรักภักดีทำไมต้องโกรธผมด้วย จนต้องประกาศเจอผมที่ไหนให้ยิงผมทิ้งที่นั่น การวิพากษ์วิจารณ์ผมที่ว่ายอมสละชีวิต ไปจี้ใจดำใครบางคนหรือเปล่า การที่คนไทยคนหนึ่งจะปกป้องราชบัลลังก์ด้วยชีวิต

 "การชุมนุมครั้งนี้หากมีเป้าหมายแก้ปัญหาประชาชนเรื่องพืชผลเกษตร คนว่างงาน เรียกร้องประชาธิปไตย ที่ถูกยึดอำนาจจากเผด็การและเพื่อประ โยชน์คนส่วนใหญ่ผมจะร่วมด้วย แต่ผมคิดว่าการเรียกร้องครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคนเดียวเป็นคนที่เดือดร้อน น้อยกว่าเกษตรกร คนขับรถแท็กซี่ จึงไม่เห็นด้วยที่บ้านเมืองเราในสภาพที่ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ไม่เห็นด้วยกับทำเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว และเคยทำงานร่วมกันยอมตายถวายชีวิต แม้ผมจงรักคนนั้นมากแค่ไหน แต่ถ้าคนคนนั้นรักตัวเองมากกว่าประเทศชาติ ผมและเพื่อนๆก็ไม่เอาด้วยเพราะพวกเราไม่ใช่ทาส ผมและเพื่อนๆจึงออกมาเรียกร้อง" อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยกล่าว

 "ผมและเพื่อนๆจึงเคยทำมาก่อน แต่การชุมนุมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กับการต่อสู้ในอดีต แตกแตกต่างกันตรงที่ว่า มวลชนที่สนามหลวงเมื่อปี 2549-2550 เป็นการทำมวลชนเพื่อประชาธิปไตยและต่อต้าน คมช.ที่ยึดอำนาจไปจากประชาชนหลัง พ.ศ. 2550 เราก็ชุมนุมต่อเนื่องไปอีกหลายครั้ง หลังจากมีการเลือกตึ้งแล้วเราก็ชุมนุมเรียกร้องรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย โดยไม่ไห้ถูกกดดันจากกฎหมู่ ปกป้องรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ การชุมนุมทั้งหมดในอดีตผมและเพื่อนๆ เชื่อว่าเป็นการทำที่ถูกต้อง เพราะเป็นไปเพื่อระบอบประชาธิปไตย แต่การชุมนุมปลุกระดมในครั้งนี้ เป็นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยและยืนยันว่า ผมและเพื่อนๆหากในอนาคต มีการยึดอำนาจ ล้มล้าง ประชาธิปไตยจะเห็นผมกับเพื่อนๆออกมายืนต่อสู้เพื่อขับไล่เผด็จการแบบที่ คมช.ยึดอย่างแน่อนอน " นายเนวิน กล่าว

 นายเนวิน กล่าวถึงประเด็นที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มีการโจมตีสถาบันองคมนตรีซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า  ตนและเพื่อนๆ ขอยืนยันจุดยืนว่า พวกตน ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย จะไม่ปกป้อง และไม่มีเจตนาที่จะปกป้ององคมนตรี แต่การออกมาแสดงความคิดเห็น เป็นการออกมาแสดงความคิดเห็นด้านความเป็นห่วงต่อการก้าวล่วงในพระราชอำนาจ และพระราชอัชฌาสัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำพูดบางคำของแกนนำที่บอกว่าไม่มีเจตนาให้กระทบต่อสถาบันพระมาหกษัตริย์ แต่พฤติกรรมของแกนนำบางคนที่อยู่บนเวที ฟ้องว่าอะไรเป็นอะไร และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พวกตนเคยรักก็ไปร่วมกับขบวนการนี้

 นายเนวิน กล่าวต่อว่า การโฟนอิน หรือการวิดิโอลิงค์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีอยู่ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงทุก วันนี้ มีเป้าหมายขับไล่องคมนตรี ซึ่งตนขอยืนยันว่า เป็นความล่อแหลมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  เพราะองคมนตรีแต่ละท่านมาจากการโปรดเกล้าฯ ตามพระราชอัชฌาสัย ในฐานะที่ตนเป็นคนไทย คำว่าพระราชอัชฌาสัย มีมากกว่า พระราชอำนาจเสียอีก  ดังนั้น เมื่อพระองค์ มีพระราชอัชฌาสัย  อยากถาแกนนำกับพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า บุคคลที่พระองค์โปรดเกล้าฯ  แต่งตั้งเป็นองคมนตรี ซึ่งพวกคุณเรียกว่า เป็นคนเลว ไม่ดี มีความหมายอย่างไร  พวกคุณคิดว่า รู้จักคำนี้ ดีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหรืออย่างไร  ไปก้าวล่วงพระราชอัชฌาสัยของพระองค์ท่านได้อย่างไร พวกคุณมีสิทธิ์อะไร

 นายเนวิน กล่าวต่อว่า ฝากถามไปยังแกนนำผู้ชุมนุมว่า แน่ใจหรืออย่างไรว่า ขณะที่พวกคุณพูดหยุดไว้ที่บุคคลที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ในใจไม่คิดเลยไปกว่าสิ่งที่คุณพูด มาจนถึงวันนี้ จากสถานการณ์ตรงนี้ ต้องเรียนไปยังประชาชนว่า หากพวกเราคนไทยรักประเทศไทย หากพวกเราอยากทำความดีถวายพระเจ้าอยู่หัว ผมว่าสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดและเร็วที่สุดคือ ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบ  ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย การคืนความสงบสุขแก่ประเทศไทย
 "ในโอกาสนี้ ผมอยากกราบเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่เจะเข้าร่วมชุมนุมในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย.) ว่า ได้โปรดทบทวนแลบะพิจารณาอีกครั้งว่า หรือสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือส่วนตัวกันแน่"

จับแล้ว"พันตรี"ผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่าองคมนตรี

คมชัดลึก :ความคืบหน้าการรวบตัวมือปืนเตรียมลอบ สังหารนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรีและอดีตประธานศาลฎีกาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ได้ทันก่อนลงมือ ขณะมาซุ่มอยู่ละแวกซอยสุขสวัสดิ์ 66 อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ใกล้กับบ้านนายชาญชัย เมื่อค่ำวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้น



รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 20.50 น.ตำรวจ กองปราบปรามและสืบสวนภูธรภาค 1 ร่วมกันจับกุม พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก สังกัดกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งถูกซัดทอดว่าเป็นผู้จ้างวานฆ่านายชาญชัย  ได้ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ขณะนี้กำลังนำตัวไปสอบสวน

ทั้งนี้หลังจากพ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง ผกก.สภ.พระประแดง เดินทางไปศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายชาญชัยหลัง จากได้สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดยให้การซัดทอดผู้เกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลัง 3 คน โดยในจำนวนนี้มี นายทหารยศ พ.ท.1นายและเป็นพลเรือนอีก 3 คน

Label Cloud