Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Wednesday, April 1, 2009

“แอ๊ค คาราบาว” ตาสว่าง! ไม่ขึ้นเวทีเสื้อแดง จวกถ้ารักในหลวงให้กลับบ้าน อย่าเอา ปชต.มาอ้าง

“แอ๊ด คาราบาว” ยอมรับอดีตเคยเข้าร่วม นปช. แต่ปัจจุบันตาสว่างไม่ขอขึ้นเวทีเสื้อแดงตามคำเชิญ เผยก่อนหน้านี้เคยเตือน “ทักษิณ” แล้วว่าอย่าทำ จวกคนเสื้อแดงถ้ารักในหลวงให้กลับบ้าน อย่าเอาประชาธิปไตยมาอ้าง
      
       หลังจากที่ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล ออกมาแขวะพันธมิตรฯ ขณะเล่นคอนเสิร์ต “Road To Country Carabao & Friend” ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาในทำนองที่ว่าการยึดสนามบินสุวรรณภูมิทำให้เพื่อนเขา 2 คนที่ทำงานอยู่ไทยแอร์เอเชียต้องตกงาน อยากให้หันหน้ามาเจรจากันแบบสันติวิธี เพราะบ้านเมืองบอบช้ำมามากแล้ว
      
       ตรงกันข้ามกับเวลาที่พูดถึง “นช.ทักษิณ ชินวัตร” ที่ กลับออกปากเยินยอว่าเป็นคนที่มาช่วยเหลือคนจน อุ้มชูเกษตรกร ในขณะที่รัฐบาลที่ผ่านมาไม่มีใครทำ ฉะนั้นอย่าด่าแบบไร้เหตุผล ทั้งยังกล่าวอีกว่าคนที่มาชมคอนเสิร์ตเยอะกว่าไปม็อบพันธมิตรฯเสียอีก สร้างกระแสความไม่พอใจให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ และส่งผลเสียต่อคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ของ “แก้วสรร อติโพธิ” เนื่องจากเลือกนักร้องเพื่อชีวิตคนดังเข้ามาร่วมทีมบริหาร
      
       แต่ล่าสุดในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตสามช่าสามัคคี ที่โรงแรมดุสิตธานี “แอ๊ด คาราบาว” กลับสร้างเซอร์ไพรส์โดยการออกมาปฏิเสธขึ้นเวที “คนเสื้อแดง” ตามคำเชิญ พร้อมทั้งบอกว่าตนเองตาสว่างแล้ว และเคยเตือน “ทักษิณ” แล้วว่าอย่าทำแบบนี้ จวกคนเสื้อแดงถ้ารักในหลวงให้กลับบ้าน ไม่ใช่เอาประชาธิปไตยมาอ้าง
      
       “การที่ ม็อบเสื้อแดงบอกถ้าผมรักประชาธิปไตยก็ให้ขึ้นเวทีของเขา โธ่...กูเพื่อชีวิตตรงไหน คนที่ไปเที่ยวผับเพื่อชีวิตแล้วบอกว่าเพื่อชีวิต ถามว่ามันเพื่อชีวิตตรงไหน ผมไม่ไปหรอก เมื่อก่อนผมเคยเตือนทักษิณว่าอย่าทำแบบนี้ ม็อบเสื้อเหลืองผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเขา ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาเรื่องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผมว่าที่เป็นอยู่คือกลุ่มเหลืองเกลียดทักษิณ อีกคนรักทักษิณ”
      
       “ผมเป็นคนหนึ่งที่ต่อสู้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ผมว่าประชาชนตกเป็นเครื่องมือของทั้งสองฝ่าย ประชาชนต้องตื่นผมไม่รู้จะทำไง เขียนเพลงให้ประชาชนตื่นเหรอ เอาเป็นว่าถ้ารักในหลวง อย่าออกไปเลย ทำประเทศให้ปกติดีกว่า มีบางกลุ่มที่เขาโจมตีผมแต่ผมไม่เคยตอบโต้ ผมจะโต้ทำไมถ้าผมโต้เขาจะเอาข่าวนี้ไปเล่นมันไม่มีประโยชน์ ผมไม่ได้ทำผิดอะไร คนรู้บ้างไม่รู้บ้างคนที่ไม่รู้มีไม่มากนะ แต่ส่วนมากเขารู้ว่าผมเป็นยังไง อย่ามายุ่งกันดีกว่า”
      
       “บ้านเมืองแบบนี้จะจบอย่างไร ผมว่าตอนนี้การเมืองไทยเรากำลังกลายเป็นประวัติศาสตร์ของไทย ผมว่าบ้านเรามันไม่มีประชาธิปไตย มันไม่มีมานานแล้ว ผมไม่รู้ว่าระบบนี้มันเหมาะหรือไม่เหมาะ ฝรั่งโยนให้คนไทยใช้แต่คนไม่พร้อม นักการเมืองไทยบางกลุ่มในแบบอุปถัมภ์เขามีผลประโยชน์ในเครือข่าย และก็รวมกันเป็นพรรคการเมืองกุมอำนาจการปกครอง คิดดูกุมงบประมาณแผ่นดินหลายแสนล้านบาท อันตรายไหมทุกอย่างมันอันตราย ถ้าเป็นห่วงบ้านเมือง อย่าไปพูดประชาธิปไตย ทั้งเหลืองทั้งแดงมันไม่มีประชาธิปไตย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประชาธิปไตยเป็นอย่างไร”
      
       “คือ ทั้งเหลืองและแดงผมว่าไม่รู้จริง เชื่อผมสิ ถ้ารักในหลวงเสื้อแดงให้กลับบ้าน ตอนนี้สีแดงบอกว่าถ้ารักทักษิณก็เอาประชาธิปไตยมาอ้างแล้วก็โจมตีองคมนตรี ซึ่งมันสุ่มเสี่ยงมากกลับบ้านเถอะ อย่าพยายามที่จะดึงผมไปเกี่ยวข้อง ดึงไม่ได้หรอกผมเป็นตัวของตัวเองโตแล้ว อดีตผมอาจเข้าร่วมแต่วันนี้เห็นหมดไม่ใช่ทำไปโดยไม่รู้ แต่วันนี้เราตาสว่างแล้วกลับบ้านเถอะ ถ้าการเมืองจะทำ ก็ต้องทำแบบเยอรมัน ใช้เวลา 12 ปีในการ ฝึกการปกครองแบบประชาธิปไตยจนจบมัธยม เราอยู่ในเอเชียห่างไกลจากประชาธิปไตยมาก อยู่ดีๆ เอารถมาให้ใช้ แต่ขับไม่เป็น เยอรมันเขายังต้องส่งเด็กเข้าโรงเรียน เขากลัวจะมีเผด็จการอีก เขาต้องเอาประชาธิปไปไตยมาไว้บ่มเพาะให้เยาวชน”

"อัยการ"เตือนเสื้อแดงอย่าเหิมทำผิดซ้ำ! ยันคดีบุกบ้าน"ป๋า"ยังไม่สิ้นสุด

อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เผย ความเห็นแย้ง ผบ.ตร.เห็นควรสั่งฟ้องแกนนำ นปก.บุกบ้านสี่เสาเทเวศน์ ถึงมือแล้ว เตรียมเสนอ อัยการสูงสุด ชี้ขาด ฝากเตือนแกนนำเสื้อแดง อย่าอ้างความเห็นสั่งไม่ฟ้องอัยการไปกระทำผิดซ้ำ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด
      
       วันนี้(1 เม.ย.)นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยถึงกรณีที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแกนนำแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.)ในคดีนำกลุ่มผู้ชุมนุมก่อความวุ่นวายหน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.50 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ทราบว่าทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้ส่งความเห็นแย้งโดยเห็นควรสั่งฟ้องแกนนำทุกคนในทุกข้อหา กลับมายังสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอให้ นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด พิจารณาชี้ขาดต่อไป
      
       นายกายสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อทางตำรวจมีความเห็นแย้งกลับมา ดังนั้น จึงถือว่าคดียังไม่สิ้นสุด และเมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันในชั้นปฏิบัติงาน ผู้ที่จะชี้ขาดคืออัยการสูงสุด ซึ่งขอฝากเตือนไปยังแกนนำ นปช.ที่นำเรื่องนี้ไปพูดบนเวทีทำนองว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นความผิด เพราะแม้ว่าอัยการเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็ไม่ได้หมายความว่าจะไปกระทำการ ในลักษณะเดิมซ้ำได้อีก
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหนังสือความเห็นแย้งที่ ผบ.ตร.ส่งกลับไปให้อัยการสูงสุด พิจารณา ระบุว่ามีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล นายบรรธง สมคำ ม.ล.วีระยุทธ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา นายศราวุธ หลงเส็ง นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน นายวันชัย นาพุทธา นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท น.พ.เหวง โตจิราการ พ.อ.ดร.อภิวันท์ วิริยะชัย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ในข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อความวุ่นวายในบ้าน เมือง โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธและมีผู้สั่งการ ร่วมกันเดินขบวนในลักษณะกีดขวางการจราจร ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลัง

MGR

“เสื้อแดงแพร่” ปิดฉากแล้ว ส.ส.เพื่อไทยปั่นกระแส 3 วันไร้ผล

แพร่ – เสื้อแดงเมืองแพร่หมดท่า ถอนเวทีหน้าศาลากลางแล้ว หลัง ส.ส.พรรคเพื่อไทย พยายามปลุกระดม 3 วันซ้อนแต่ไม่ได้ผล แฉนักการเมืองค่าย “ไข่แม้ว” แพร่ ปั่นกระแส “ประชิปไตยต้องมีทักษิณ” เป่าหูชาวบ้าน แถมหมิ่นผู้หลัก ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองถ้วนหน้า
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมของกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ระดมหัวคะแนนและประชาชนที่สามารถชักชวนได้เข้าร่วมชุมนุมที่หน้าศาลากลาง จังหวัดแพร่ ตั้งแต่เย็นวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำหลักของ ส.ส.จังหวัดแพร่พรรคเพื่อไทย ที่เป็นแกนสำคัญในการนำประชาชนออกมาประท้วงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี โดยมีประชาชนเข้าร่วมจำนวน 300 คน
       
       นายวรวัจน์ ได้นำกล่าวโจมตี พล.อ.เปรม และระบอบอมาตยาธิปไตยอย่างรุนแรง นอกจากนั้นยังมีการขึ้นป้ายด้วยว่า “ไอ้ตุ๊ด ทูลเท็จ” และพยายามขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้ 2 เดือน ว่า เป็นผู้ที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ และประชาชนเป็นหนี้
       
      
       ในขณะที่ต้องเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ หมายความว่า ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการปลุกระดมประชาชนในชนบทที่อดีตเข้าใจว่าประชาธิปไตยที่เรียกร้อง กันคือการไปเลือกตั้ง แต่ขณะนี้ความเข้าใจได้เพิ่มเข้ามาคือ การเป็นประชาธิปไตยได้ต้องมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นต้องช่วยกันเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านโดยเร็ว
      
       อย่างไรก็ตาม การชุมนุมแม้จะมีเวทีและการเตรียมความพร้อมเครื่องปั้นไฟฟ้า เครื่องเสียงราคาแพงไม่ต่างจากการจัดคอนเสิร์ตของนักร้องชื่อดัง แต่ปรากฏว่าการชุมนุมเริ่มกร่อย ประชาชนมาร่วมได้ไม่นานก็พากันเดินทางกลับ จนในที่สุดต้องปิดเวทีไปโดยปริยาย ในขณะที่วันที่ 31 มีนาคม การชุมนุมไม่สามารถดำเนินการได้ โดยมีการเปิดเวทีตั้งแต่เวลา 09.00 น.แต่ไม่มีประชาชนมาร่วมทำให้เวทีต้องปิดไป และในวันที่ 1 เมษายนมีการรื้อถอนเวทีออกจากหน้าศาลากลางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      
       ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มประชาชนในจังหวัดแพร่ส่วนใหญ่ที่ไม่ศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์เท่าไรนัก ต่างพากันดูการทำงานของนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคพระชาธิปัตย์ว่า มีการดำเนินงานที่ก้าวหน้าหรือถดถอยอย่างไร แต่ภาพของการทำงานเพียง 2 เดือนที่ผ่านมาพบว่า มีแนวทางในการทำงานที่น่าสนใจและต้องรอดูผลในระยะต่อไปเช่นการกู้ยืมเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการสร้างความเท่าเทียมในระบบนิติรัฐ ที่ทุกฝ่ายจะต้องมีความเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรม ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้ที่เป็นกลุ่มใหญ่ไม่เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยในการสวม ใส่เสื้อแดงออกมาขับไล่รัฐบาล มีเพียงกลุ่มหัวคะแนนของพรรคเพื่อไทยทำให้สถานการณ์การชุมนุมที่จังหวัดแพร่ อ่อนลงและในที่สุดต้องยุติการชุมนุมไปแล้ว

MGR


นายกฯถกนักธุรกิจเมืองผู้ดี

Gordon Brown meets Thai PMImage by Downing Street via Flickr

นายกฯถึงอังกฤษร่วมสัมนานักธุรกิจ เรียกความเชื่อมั่นก่อนร่วมงานเลี้ยงควีนอลิซาเบธ

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาวีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงประเทศอังกฤษแล้ว โดยมีภาระกิจดังนี้ ช่วงเช้าให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ประกอบด้วย สถานีโทรทัศน์ บลูมเบิร์ก นิตยสารเวิลด์ รีพอร์ต รวมถึงให้สัมภาษณ์พิธีกรรายการ บีบีซี ฮาร์ดทอล์กจากนั้นระร่วมหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีประเทศอินโดนีเซีย และนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย

ขณะที่ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุมสัมมนาเชิงธุรกิจกับนักธุรกิจระดับสูงของสหราชอาณาจักร ประมาณ 30 คน ซึ่งนายกฯจะใช้เวทีนี้สร้างความเชื่อมั่นของประเทศกับนักธุรกิจต่างประเทศ ณ เอเชีย เฮ้าส์ และจะเปิดโอกาสให้นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลกเข้าเยี่ยมคาราวะ

ทั้ง นี้เวลา 18.30 น. จะร่วมงานเลี้ยงรับรองซึ่งสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่2 และดยุคแห่งเอดินเบิร์ก พระราชทานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุม ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮมจากนั้นจะเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงอาหารร่วมกับผู้นำของ แต่ละประเทศ ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร และเดินทางกลับถึงโรงแรมที่พักเวลา 22.30 น.

posttoday

Reblog this post [with Zemanta]

Comment ประชาธิปไตย

ปัญหาเศรษฐกิจที่ลามไปทั่วโลก หนักหนาสาหัสในวันนี้...ส่งผลกระทบรุนแรงกับคนทั่วโลก รวมทั้งพวกเราทุกคน

ต้นเหตุมาจากอเมริกา "ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย"
เลือกตั้งเสรี และทุนนิยม


ต้นเหตุมาจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลบุช "ซึ่งชาวอเมริกันส่วนใหญ่" เลือกเข้ามากับมือถึง 2 สมัย รวม 8 ปี กว่าจะแสดงผลชัดเจนก็ปลายปีที่ 8

ระบบตรวจสอบการบริหารที่มีอยู่ทั้งหลาย ก็ไร้ผล ในการมองเห็น และป้องกันหายนะที่อยู่เบื้องหน้า

ประชาธิปไตย และการเลือกตั้งเสรี ผู้นำ และรัฐบาลจากคนส่วนใหญ่ จึงไม่ใช่หลักประกันว่า

สิ่งที่คน "ส่วนใหญ่" เห็นด้วย จะดีกับคนทั้งหมด"ทั้งประเทศ" หรือทั้งโลก


สิ่งที่น่าคิดคือ เมื่อเกิดความเสียหายอันใหญ่หลวง "คนส่วนน้อย" กลับต้องมารับผลกระทบจากการตัดสินใจผิด ของคนส่วนใหญ่เหล่านั้นด้วย

ฝากคิด แล้วตอบตัวเอง ว่า...
จริงหรือไม่????

จากมติชน ออนไลน์

ศก.โลกตกต่ำคนจนเพิ่ม53ล้าน

World BankImage by blahmni via Flickr

ธนาคารโลกรายงานศก.ตกต่ำสุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่2 คาดคนจนเพิ่ม53ล้านคน
สำนัก ข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (1 เม.ย.) อ้างรายงานของธนาคารโลกระบุผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจโลกถดถอยกำลังจะส่งผล อย่างยิ่งต่อกลุ่มชาติกำลังพัฒนา คาดว่าสภาพเศรษฐกิจโลกปีนี้จะเติบโตเฉลี่ยแค่ 1.7 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าตกต่ำที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ่งที่ตามมาคือสภาพการณ์จะผลักดันให้กลุ่มคนจนขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายล้าน คน

นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า คาดว่าเฉพาะปีนี้จะมีคนจนเพิ่มอีกราว 53 ล้านคน กลุ่มคนที่ถือเป็นคนจนคือมีรายได้เฉลี่ยวันละไม่ถึง 1.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 43.75 บาท ขณะที่ราคาอาหารและเชื้อเพลิงขยับสูงขึ้นเรื่อยๆ

posttoday


Reblog this post [with Zemanta]

ผู้รับบำนาญรับเช็คช่วยชาติถึง 5 เม.ย.

กรมบัญชีกลาง ขยายเวลาผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญรับเช็คช่วยชาติ ที่กรมส่งออกฯ ถึง 5 เม.ย. นี้

นาง สาวสุทธิรัตน์  รัตนโชติ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง  เปิดเผยผลการจ่ายเช็คช่วยชาติให้แก่ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญทั้งส่วนกลางและทาง สำนักงานคลังจังหวัด 75 แห่งทั่วประเทศ  ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2552 จนถึงวันที่ 31 มี.ค.ว่า มีผู้มารับเช็คแล้วจำนวน 132,600 ราย จากจำนวนทั้งสิ้น 237,000 ราย เป็นผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญส่วนกลาง 28,171 ราย  คิดเป็นร้อยละ 45.75 ของผู้มีสิทธิ และเป็นผู้รับเบี้ยหวัด บำนาญทางส่วนภูมิภาค จำนวน 104,429 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.53 ของผู้มีสิทธิ

ในส่วนของผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญทางส่วนกลาง กรมบัญชีกลางได้นำเช็คไปจ่ายที่ศูนย์แสดงสินค้าส่งออก กรมส่งเสริมการส่งออก ถ.รัชดาภิเษก ตั้งแต่วันที่ 26 – 31 มี.ค. 2552 แต่ที่ผ่านมามีผู้มารับเช็คเพียงวันละ 5,000 ราย โดยประมาณ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนน้อย และจากการสอบถามทราบว่าผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนมีสิทธิได้รับเช็คช่วยชาติด้วย  จึงขอให้ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญเข้าไปตรวจสอบสิทธิและสถานที่รับเช็คทาง เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง  www.cgd.go.th หรือสามารถโทรสอบถามได้ที่ 0-2273-9101  0-2271-0686-90 และ Call Center 0-2270-6400  และหากมีสิทธิได้รับทางส่วนกลางก็ขอให้ไปรับเช็คได้ที่ ศูนย์แสดงสินค้าส่งออก  โดยกรมฯ  ได้ขยายเวลาการจ่ายเช็คต่อไปอีก  จนถึงวันที่ 5 เม.ย. 2552  ตั้งแต่เวลา 09.00 น. -16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งได้เตรียมสถานที่อุปกรณ์และเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการ และอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สำหรับทางส่วนภูมิภาค ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิมากกว่า ขณะนี้ได้มีการจ่ายเช็คไปแล้วร้อยละ 59.53 ซึ่งพบว่าไม่ค่อยมีปัญหาอุปสรรค จึงน่าจะจ่ายเช็คได้หมดภายในวันที่ 8 เม.ย. 2552 ตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ดี หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้วผู้มีสิทธิยังไม่สามารถไปรับเช็คช่วยชาติได้  ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาค  ก็มีเวลาให้ไปรับได้ภายใน 90 วัน  นับจากวันที่เช็คลงวันที่ (26 มี.ค.52)   หรือสุดท้ายหากมีการตรวจสอบสิทธิและสถานที่รับเช็คแล้ว ปรากฏว่า สถานที่รับเช็คอยู่คนละแห่งกับสถานที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่  ก็สามารถไปติดต่อที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดได้ โดยจะอำนวยความสะดวกให้

posttoday

สุเทพปัดสั่งถอดยศทักษิณ

รองนายกฯสุเทพเผยไม่เคยสั่งสตช.ถอดยศทักษิณ อย่าไปฟังข่าวลือ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธไม่เคยสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ถือเป็นหน้าที่ของ สตช.ที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้เคยได้พูดคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้วในช่วงที่เป็นรัฐบาลใหม่ๆ กระแสข่าวที่ออกมาจึงเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น
         
" ขอเรียนว่าอย่าไปฟังข่าวลือ ผมยังไม่เคยเห็นเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงไม่เคยมีคำสั่งให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ" นายสุเทพ

อย่างไรก็ตามนายสุเทพ กล่าวยอมรับว่า เคยได้ยินข่าวเรื่องการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณจึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ2เดือนที่แล้ว ส.ส.เคยตั้งกระทู้ถามตนในสภา ก็แจงไปแล้วว่าเป็นเรื่องปกติของการทำหน้าที่ราชการไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือทหาร เมื่อได้รับพระราชทานยศก็ต้องดำรงตัวให้สมกับเกียรติที่ได้ดำรงยศอยู่ในขณะ นั้น ถ้ามีความผิดหรือขาดความเหมาะสมที่จะดำรงยศนั้นต่อไป เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการแต่วันนี้ยืน ยันว่ายังไม่เห็นเรื่อง
        
เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่าควรมีการถอดยศในช่วงนี้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะวินิจฉัย มีคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาอยู่แล้ว ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงมีหน้าที่บริหารรับผิดชอบกำกับดูแลสั่งการ สตช. แต่ไม่เคยสั่งการหรือส่งสัญญาณ

posttoday

โต้ DStation กรณีกองทัพจัดซื้อ IMI Tavor rifle ของอิสราเอล กับ M16

คำกล่าวหา

1 เมษา 2552 - DStation (Dang Station) ให้ข้อมูลว่า กองทัพจัดซื้อ ปืน IMI Tavor rifle ของอิสราเอล ทั้งๆที่อิสราเอลเองไม่ใช้ และ ซื้อ M-16A2 ดีกว่า

โต้ว่า แดงมั่ว

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าปืน IMI Tavor rifle ของอิสราเอล มีคุณภาพเหนือกว่า M-16 ทั้งในด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ ความทนทาน ความเหมาะสมกับสรีระของทหาร สามารถปรับให้เหมาะกับทหารที่ถนัดซ้าย หรือขวาได้ ทั้งยังใหม่กว่า วัสดุที่ใช้ดีกว่า ใช้เทคโนโลยี่ที่ใหม่กว่า ขนาดสั้นกว่า M16 ถึง 271มม. (เกือบ 1 ฟุทหรือ 1 ไม้บรรทัด) กระชับมือกว่า เหมาะสมกว่า ถูกผลิตมาเพื่อทดแทน ปืนเก่าอย่าง M16A1 และ Galil ออกแบบโดยกองทัพที่ดีที่สุดในโลกคือ อิสราเอล ถึงกับยกย่องว่า "Tavor Assault Rifle for 21 century" เป็นที่มาของชื่อปืน TAR-21 เป็นปืนสำหรับศตวรรษที่ 21 (1)

ประเทศไทยใช้ M16 มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30-40 ปี (สมัยปราบคอมมิวนิสท์ไทยก็ใช้ M16 ฝ่ายตรงข้ามใช้ AK-47) ถูกผลิตครั้งแรก ปี 1958 (M16A2 รุ่นปรับปรุง ผลิตช่วงปี 1980-เก่า 30ปี) ขณะที่ IMI Tavor ผลิตปี 1999 ใหม่กว่า M16A2 ถึง 20 ปี (3)(4)

จะซื้อของเก่าเทคโนโลยี 30 ปีที่แล้วทำไม






ประเทศไหนบ้างใช้ Tavor rifle

-จอร์เจีย (ที่พึ่งทำำสงครามกับรัสเซีย)
-อินเดีย (รบกับปากีสถาน) (2)
-ตุรกี (รบกับกบฐชาวเคิร์ด)(6)
-อิสราเอล IDF Israel Defense Forces(7) และยังใช้กับหน่วย Isarael SF Sniping, SWS, IDF's sniping school

จะเห็นว่าประเทศที่เค้ามีสงครามอยู่ เค้าใช้กันทั้งนั้น ประเทศไทยต้องพร้อม ทหารไทยต้องมีอาวุธดีๆป้องกันประเทศ
The T.A.R. 21 is an Israeli bullpup assault rifle chambered for 5.56x45mm NATO ammunition with a selective fire system. The name "T.A.R. 21" stands for "Tavor Assault Rifle - 21st Century". The T.A.R. 21 was selected as the future assault rifle of the Israel Defense Forces, is the standard issued weapon of the Givati Brigade (since August 2006) and Golani Brigade (since August 2008). Within the next few years it will become the standard Israel infantry weapon.(8) - Wikipedia
วิกิพีเดียมีอยู่ทนโท่ DStation มันยังโกหกได้หน้าด้านๆ
อิสราเอลเค้าใช้มาตั้งนานแล้ว

TAR-21
บน Tavor ใช้ในแค้วนแคชเมียร์, อินเดีย
ล่าง ทหารอิสราเอลถือ Tavor TAR-21




Israeli Soldier Girl with 5.56×45mm Tavor Bullpup Assault Rifle with MARS Red Dot
cal sniper rifle pictures
ทหารหญิงอิสราเอล กับ TAR-21

ราคา

US$6500 (มีนา 2008)
US$3000 รุ่น semi-auto only สำหรับขายบุคคลทั่วไป (อนุญาตในบางประเทศ)




"People sleep peaceably in their beds at night only because rough men stand ready to do violence on their behalf" (goerge orwell)

(1) http://guns.wikia.com/wiki/IMI_TAR-21_Tavor
(2) http://www.kashmirnewz.com/n000336.html
(3) http://www.ar15.com/weaponLibrary/index.html?wc=9&w=36
(4) http://www.ar15.com/weaponLibrary/index.html?wc=9&w=3
(5) http://www.canadaammo.com/product.php?productid=12&cat=0&page=1
(6) http://www.defencetalk.com/forums/showthread.php?t=7507
(7) http://www.geocities.com/mazanga9/IDF/IDFCounterterrorismHostageRescueUnits.htm
(8) http://en.wikipedia.org/wiki/Tar-21

Reblog this post [with Zemanta]

โพลชี้ ปชช.ไม่สบายใจหลัง "ทักษิณ" โฟนอินห่วงรุนแรงเพิ่ม ไม่เห็นด้วยพาดพิงบุคคลสำคัญ

เอแบคโพลเผยผลสำรวจพบประช่าชน 73.4% ไม่เห็นด้วยกับการโฟนอินที่พาดพิงบุคคลสำคัญ และ 69.4% ไม่สบายใจ ห่วงขัดแย้งรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก

 
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผล "เอแบคเรียลไทม์โพลล์" ในหัวข้อเรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อ การโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 18 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ อ่างทอง สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรปราการ ยโสธร มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครราชสีมา สตูล และสุราษฎร์ธานี จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 1,154 ตัวอย่าง ในวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมาด้วยระบบเทคโนโลยีสื่อสารเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในการเก็บข้อมูลและ ประมวลผลแบบเรียลไทม์


ผลสำรวจพบว่า ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.5 ทราบข่าวการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในขณะที่ร้อยละ 4.5 ไม่ทราบข่าว แต่เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรีที่กล่าวพาดพิง บุคคลสำคัญของสังคมไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.4 ไม่เห็นด้วย ในขณะที่ร้อยละ 15.6 เห็นด้วย และร้อยละ 11.0 ไม่มีความเห็น


ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.4 รู้สึกไม่สบายใจ หลังทราบข่าวการโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเกรงว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นอีก ปัญหาเยอะมากพออยู่แล้ว มีการโจมตีผู้ใหญ่ในสังคม เกรงอดีตนายกรัฐมนตรีจะได้รับอันตราย และกลัวการปฏิวัติยึดอำนาจอีก เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 23.3 รู้สึกสบายใจ เพราะได้ยิน ได้เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ และเห็นว่าประเทศไทยยังเป็นประชาธิปไตยอยู่ เป็นต้น และร้อยละ 7.3 ระบุไม่รู้สึกอะไร เพราะเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมประชาธิปไตย ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับใคร ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตนเอง เป็นต้น


ที่น่าเป็นห่วงคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.8 คิดว่าจะเกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายขึ้นอีกในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ในขณะที่ร้อยละ 10.9 ไม่คิดว่าจะเกิดความขัดแย้งรุนแรงบานปลายอีก และร้อยละ 27.3 ไม่มีความเห็น


สิ่งที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งในมุมมองของประชาชนที่ถูกศึกษา คือ ทางออกของปัญหาการเมืองที่อยากเห็น พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.4 อยากให้คนไทยรักกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 86.2 ยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 83.5 หยุดการโต้ตอบกันไปมา ร้อยละ 67.9 นำวัฒนธรรม ประเพณีไทยมาแก้ปัญหาแตกแยก ร้อยละ 55.3 ระบุให้เร่งรัดคดีความต่างๆ ให้จบสิ้น ร้อยละ 52.2 ให้จับมือกันกับอดีตนายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาของประเทศ และร้อยละ 39.1 ให้นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ ตามลำดับ

matichon

เรียกครม.ประชุมนัดพิเศษที่กรมประชาฯ "ชวน"ตำหนิ"มาร์ค-สุเทพ"อย่างุบงิบแก้ปัญหา ปชป.ยันไร้เหตุนองเลือด

ครม.ประชุมนัดพิเศษที่กรมกร๊วก นายกฯ ยันมีข่าวบางกลุ่มต้องการให้เกิดความรุนแรงก่อนสงกรานต์ ลั่นถ้าจำเป็นก็พร้อมใช้ความเด็ดขาด ปชป.ใช้วิทยุชุมชน-เอ็นบีทีตอบโต้ "ชวน"อัด"มาร์ค-สุเทพ"ทำอะไรควรปรึกษากันก่อน ส่วนรมต.อย่าดีแต่นั่งทำงานในกระทรวง ผบ.ทบ.ยันไม่คิดปฏิวัติ

"สุเทพ"เรียกครม.ประชุมนัดพิเศษที่กรมกร๊วก

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้(1 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นัดพิเศษ ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีสัมพันธ์ ใน​เวลา 10.00 น.
 

ปชป.ยันไม่มีเหตุนองเลือด

 ก่อนหน้านี้ ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คณะทำงานปฏิบัติการประเมินและติดตามสถานการณ์ หรือวอร์รูม พรรค ปชป. ประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธานวอร์รูม นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษก ปชป. และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษก ปชป. ร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางตอบโต้วีดีโอลิงก์ของพ.ต.ท.ทักษิณ และการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง
 

เมื่อเวลา 13.00 น. นพ.บุรณัชย์ แถลงว่า มีความชัดเจนแล้วว่า การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเสนอกฎหมายปรองดอง และการเสนอให้ยุบสภา การประกาศว่าจะนำมวลชนเข้ากรุงเทพฯเองนั้น สอดคล้องกับคำพูดของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่บอกว่าจะมีการนองเลือด พรรคขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้จะไม่มีทางทำให้เกิดการนองเลือดอย่างเด็ดขาด


รบ.ถอยฉากไม่กลัวเสียฟอร์ม
 

ด้านนพ.วรงค์ กล่าวเสริมว่า วอร์รูมยังประเมินแนวทางการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ต้องการให้เรื่องนี้จบเร็วและแรงที่สุด ก่อนช่วงสงกรานต์ แต่นายสุเทพยืนยันว่า จะไม่มีการสลายชุมนุมเด็ดขาด แม้แต่ใช้น้ำฉีดยังไม่ใช้
 

"รัฐบาลจะอดทน ถอยไปเรื่อยๆ โดยไม่กลัวเสียฟอร์ม ถ้าเขารุกมามาก็เต้นฟุตเวิร์คถอยฉาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแม้เลยช่วงสงกรานต์ไป พ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงก็ยังไม่ยุติการเคลื่อนไหว เพราะขณะนี้ถือว่าการเคลื่อนไหวจุดติดระดับหนึ่งแล้ว ส่วนร่างพ.ร.บ.ปรองดองนั้นไม่มีทางเป็ฯไปได้  นายสุเทพเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้พูดคุยกับพรรคร่วมแล้ว และทุกพรรคยังยืนยันว่าแน่นปึ้กเหมือนเดิม" นพ.วรงค์กล่าว


ใช้วิทยุชุมชน-เอ็นบีทีโต้"แม้ว"
 

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมวอร์รูม วิเคราะห์กันว่า  แนวทางการเคลื่อนไหวพ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดงต้องการให้เกิดการนองเลือดเพื่อทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ซ้ำรอยเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงมาไกล่เกลี่ย เหมือนสมัยพล.อ.สุจินดา คราประยูร และพล.ต.จำลอง ศรีเมือง จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณก็จะยื่นข้อเรียกร้องต่างๆ แลกกับการยุติความวุ่นวาย พรรคจึงต้องปูพรมให้ข้อมูลกับประชาชน เพราะขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดพื้นที่สื่อและคนเริ่มหลงเชื่อพ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากพูดอยู่ฝ่ายเดียว
 

"จึงมีความคิดจะนำวิทยุชุมชุน และคลื่นของกรมประชาสัมพันธ์ รวมถึงคลื่นกองทัพบก 400-500 คลื่น มาใช้ตอบโต้พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะให้เวลา 1 ชั่วโมง กับนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง จัดรายการทางสถานทีโทรทัศน์เอ็นบีทีเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงแทนรัฐบาลด้วย โดยรูปแบบรายการจะคล้ายรายการความจริงวันนี้ในอดีต " รายข่าวระบุ


วันเดียวกัน ตัวแทนเครือข่ายวิทยุเพื่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (วมค.) นำโดยนายประชา มุ่งรักษ์ปน ประธานเครือข่าย เข้าพบนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้กำลังใจรัฐบาล


"ชวน"ตำหนิ"สุเทพ-มาร์ค"งุบงิบ
 

ต่อมามีการประชุมส.ส.ประจำสัปดาห์ โดยส.ส.หลายคนต่อว่ารัฐบาลที่ตั้งรับมากเกินไป นายสุเทพ จึงบอกว่า จากนี้ไปรัฐบาลต้องให้ข้อมูลเชิงรุก อยากให้ส.ส.ลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูล และปกป้องพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษและพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ถ้ารัฐบาลปกป้องไม่ได้จะถือว่าบกพร่องหน้าที่
 

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ลุกขึ้นกล่าวตำหนินายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่ประชุมว่า จะทำอะไรควรปรึกษาคนอื่นบ้าง ไม่ใช่คุยกันอยู่แค่ 2 คน พอมีปัญหา ทุกคนก็ต้องมาช่วยกันแก้ไข นอกจากนี้ ยังแนะนำรัฐมนตรีของพรรคว่าจะทำอะไรก็ควรแจ้งให้คนในพรรคทราบบ้าง ไม่ใช้มัวแต่ทำงานอยู่ในกระทรวง สุดท้ายอาจถูกข้าราชการพาไปทำเรื่องที่ผิดๆ ได้ ขณะเดียวกันยังตำหนิการทำหน้าที่ของโฆษกพรรค และวอร์รูม ว่า จากนี้ไปทำอะไรต้องระวัง เพราะที่ผ่านมาทำงานไม่ไปในทางเดียวกัน จึงทำให้เกิดความสับสน
 

เวลา 17.00 น. นายสุเทพ เรียกรัฐมนตรีและคณะทำงานพรรคปิดห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยหารือถึงการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณว่า สาเหตุที่ต้องดิ้นรนอย่างหนักช่วงนี้ เพราะหากนายอภิสิทธิ์ไปปรากฎตัวบนเวทีจี 20 สำเร็จ จะทำให้ภาวะผู้นำของพ.ต.ท.ทักษิณเลือนหายไป ดันนั้นจึงขอให้ทุกคนทำงานด้วยความอดทน
 

เวลา 19.00 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันที่ 1 เมษายน ส.ส.ปชป.บางส่วน จะไปให้กำลังใจพล.อ.เปรม แต่หลังจากประสานคนใกล้ชิดได้รับแจ้งว่าเนื่องจากสถานการณ์ในขณะนี้ พล.อ.เปรมยังไม่สะดวกให้เข้าพบ แต่ได้รับทราบความปรารถนาดีและฝากขอบคุณมายังส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ ตั้งใจมาให้กำลังใจ


"มาร์ค"ยันมีข่าวให้เกิดเหตุรุนแรง
 

ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 11.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ห้องรับรองวีไอพี สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนเดินทางไปประชุมกลุ่มประเทศ จี 20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า อยากบอกประชาชนให้สบายใจว่ารัฐบาลพร้อมที่จะดูแลความสงบของบ้านเมือง
 

"แต่ทราบว่าบางฝ่ายต้องการให้เกิดความ รุนแรงในช่วงก่อนสงกรานต์ จึงมีความพยายามหลายอย่างให้เกิดความตรึงเครียด เช่น การพูดถึงการสลายการชุมนุม  แต่เชื่อว่าประชาชนทราบว่ารัฐบาลอดทน อดกลั้น และทราบมาว่ามีความพยายามประสานงานสื่อต่างประเทศให้เข้ามาทำข่าวความรุนแรง แต่รัฐบาลจะไม่ตกหลุมด้วยการทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น เพราะรู้ว่านั่นเป็นการทำร้ายบ้านเมืองมากที่สุด จึงไม่ตกไม่เหยื่อของการยั่วยุ" นายอภิสิทธิ์กล่าว


ลั่นถ้าจำเป็นจะใช้ความเด็ดขาด
 

เมื่อถามว่า หากกลุ่มเสื้อแดงไม่สนใจคำสั่งของศาลแพ่งรัฐบาลจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าไม่ดำเนินการตามคำสั่งของศาลก็ต้องดำเนินการอีกขึ้นหนึ่ง
 

"เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นต้องใช้ความเด็ดขาด ในการแก้ไขปัญหา ก็จำเป็นจะต้องทำ แต่ต้องการให้ประชาชนได้รับทราบว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะใช้ความรุนแรงกับ ประชาชน ถ้าใช้สิทธิเสรีภาพโดยไม่สร้างปัญหา ไม่ผิดกฎหมายหรือกระทบความมั่นคงอย่างรุนแรง รัฐบาลก็จะไม่เข้าไปดำเนินการที่ทำให้ถูกบิดเบือน ตีความ ขยายผลให้เสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ถ้าจะมีการใช้ความเด็ดขาดในเรื่องใดก็จะอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และจะเป็นไปตามมาตรฐานสากล แต่ต้องเป็นความจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


ระบุ"ทักษิณ"ไม่อยู่ใกล้ไทย
 

เมื่อถามถึงการสืบหาที่อยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีกระแสอยู่บ้าง แต่ไม่ได้อยู่ใกล้ประเทศไทย และได้ดำเนินการทางการต่างประเทศบ้าง คงจะสามารถหวังผลได้ เมื่อถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตีนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศว่าเคยให้เงินใช้และไม่น่าไว้วางใจให้ทำงาน สำคัญ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อ่านจากข่าว ก็แปลกใจว่าคนเป็นถึงนายกฯแล้วคิดว่าคนไม่เหมาะสมแล้วยังส่งไปอยู่วอชิงตัน กับโตเดียวได้
 

เมื่อถามว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรบอกว่าสมน้ำหน้ารัฐบาลที่แก้ปัญหาไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมเดินหน้าทำงานตามปกติ หากใจร้อน ผลีผลามจะผิดพลาดซ้ำซาก แต่แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ยั่งยืนต้องใช้เวลาและอดทน วิธีการที่จัดการจะต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของฝ่ายที่เป็นเหยื่อของฝ่ายที่ต้อง การทำลายเสถียรภาพของประเทศ" 
 

"ช่วงที่ไม่อยู่ผม มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ล้มรัฐบาล การเมืองนั้นขอให้เล่นกันเต็มที่ แต่เราจะไม่ยอมให้บ้านเมืองเสียหาย ขอย้ำว่า หากใจร้อน ผลีผลามจะแก้ไขไม่ได้ แล้วยิ่งทำให้บ้านเมืองมีปัญหามากขึ้น" นายอภิสิทธิ์กล่าว
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายอภิสิทธิ์ พร้อมนางพิมพ์เพ็ญ เวชชาชีวะ ภริยา เดินทางไปยังอาคารห้องรับรอง วีไอพี ขาเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินสุวรรณภูมิ แจ้งกับทีมรักษาความปลอดภัยนายกฯให้เปลี่ยนเส้นทาง เนื่องจากพบผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 10 คนที่อาคารผู้โดยสาร


ผบ.ทบ.ยันทหารไม่มีปฏิวัติ
 

ด้านพล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวงโจมตีพล.อ.เปรมว่า ตนเคยเรียนตั้งแต่สมัยที่เป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ว่า ประธานองคมนตรีถวายงานแด่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นในฐานะที่เราเป็นประชาชนคนไทยที่เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ก็ไม่ ควรไปล่วงเกิน
 

เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.สายหยุด เกิดผล ประธานองค์กรกลาง ระบุว่า มีทหารบางกลุ่มรับเงินจากพ.ต.ท.ทักษิณเพื่อทำปฏิวัติ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าวนี้ ยืนยันว่ากองทัพบกไม่มีการปฏิวัติ
 

"ทหารไม่มีพวก ยืนยันตั้งแต่สมัยที่พันธมิตรโจมตี สื่ออนุมานเองว่า ผมเป็นพวกนั้นพวกนี้ไปจูบปากคนนั้นคนนี้ ยืนยันว่า ทหารกองทัพบก 2 แสนนายไม่มีพวก และกองทัพบกไม่สามารถเป็นพวกใดพวกหนึ่งได้ เราทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน ไม่เคยแบ่งสีใดสีหนึ่ง สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ใช้ทหารแม้แต่นิดเดียว ท่านเลือกใช้ตำรวจ และให้ผมดูแลความมั่นคงภาคใต้ ส่วนปัญหาภายในท่านจะจัดการเอง ส่วนเหตุการณ์วันที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผมพูดหลายครั้งว่า เหตุการณ์ตอนนั้นไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉิน วันนั้นเป็นเหตุการณ์คนตีกัน แต่การที่คนเข้าไปยุ่งสถานที่ราชการ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างวันที่ 7 ตุลาคม 2551" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว


มั่นใจสถานการณ์จะคลี่คลาย
 

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ยึดสนามบินสุวรณภูมินั้น รัฐบาลขระนั้นมอบให้พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งท่านก็ทำอะไรไม่ได้  เมื่อถามว่า สถานการณ์จะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จะตอบแง่สร้างสรรค์ต่อประเทศชาติว่า ประเทศจะยืนอยู่บนความขัดแย้งไม่ได้ จะมีสองฝั่ง สองฝ่ายอย่างนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ต้องแตกหักกันไปข้าง ดังนั้นตนจะดูแลความสงบให้เกิดขึ้นให้ได้ ไม่ให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด มั่นใจว่าสถานการณ์ข้างหน้าทุกอย่างต้องเรียบร้อยและคลี่คลายไปในทางที่ดี
 

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตร เรียกร้องให้ทหารออกมาปกป้องสถาบันพล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ทหารจะปกป้องสถาบันกษัตริย์ด้วยชีวิต ดังนั้นจะไม่ทำอะไรที่นอกกรอบกฎหมาย นอกบทบาทภารกิจ


มท.ชี้ม็อบ42จว.แค่ทดสอบกำลัง
 

นายวิชัย ศรีขวัญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เชื่อว่าการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงใน 42 จังหวัดเป็นเพียงการทดสอบกำลังว่าแต่ละจังหวัดมีกำลังมากน้อยเพียงใด และไม่มีการคาดโทษผู้ว่าฯทั้ง 42 จังหวัด เพราะไม่มีเหตุรุนแรง และเมื่อทดสอบพลังตามที่แกนนำกลุ่มสั่งเสร็จแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมก็แยกย้ายกันกลับตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มีนาคม
 

รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า ฝ่ายการข่าวประเมินว่า การชุมนุมใน 42 จังหวัดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณต้องการที่จะทดสอบพลังมวลชนว่าสามารถจุดติดหรือไม่ จากตัวเลขผู้มาชุมนุมแต่ละจังหวัด เห็นว่าไม่มีพลังเพียงพอ การปลุกพลังมวลชนจึงไม่สำเร็จ นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคเรื่องอากาศที่ร้อนอบอ้าวและเงินสนับสนุน
 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายจังหวัดหลายนั้น ไม่ใช่เป็นเพราะประชาชนศรัทธาพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ เป็นเรื่องที่เขาวางแผนไว้ก่อนแล้ว


มท.2ยันไม่ดันเสื้อน้ำเงินมาสู้
 

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ไม่ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นพิเศษในการดูแลการชุมนุมเสื้อแดง เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ อยู่แล้ว เนื่องจากศาลากลางจังหวัดเป็นสถานที่ราชการ หากมีผู้กระทำผิดกฎหมายบุกยึดสถานที่ราชการก็ต้องดำเนินคดี ขณะนี้ผู้ว่าฯตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์การชุมนุม โดยขอความร่วมมือจาก อปพร. อาสาสมัครรักษาดินแดน(อส.) กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาช่วยดูแล และจะไม่ผลักดันให้กลุ่มเสื้อน้ำเงินออกมาปะทะกับกลุ่มเสื้อแดง แต่หากจะมีการเคลื่อนไหวของคนเสื้อน้ำเงิน ตนเชื่อว่าเป็นการเคลื่อนไหวของประชาชน ที่จะออกมาปกป้องสถาบันหลักคือสถาบันสูงสุดมากกว่า
 

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) แถลงภายหลังการประชุมพรรค ว่า ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์กล่าวหาว่าส.ส.พรรคพลังประชาชนที่มาตั้งพรรคภูมิใจ ไทยและร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถูกกำลังทหารบังคับหรือไม่ก็ขายตัวนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่ส.ส.ออกมาตั้งพรรคใหม่นั้นเป็นการตัดสินใจโดยมีสติ อยู่บนพื้นฐานเพื่อแก้วิกฤตประเทศ คนส่วนใหญ่ในสังคมก็ยอมรับและเห็นว่าการที่ส.ส.ภูมิใจไทยเข้าร่วมกับพรรคประ ชาธิปัตย์เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

 
ครม.เล็งประชุมที่กรมประชาสัมพันธ์ 1 เม.ย.

 
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการสั่งงดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.และคู่สมรสต้องเข้าเฝ้าฯถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต้องไปร่วมประชุมจี 20 ที่ประเทศอังกฤษ อีกทั้งยังเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เอื้อ


"สาเหตุสำคัญที่ผมสั่งงดประชุม ครม.เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ ชุมนุม ไม่ใช่เรื่องเอาแพ้เอาชนะ รัฐบาลจะค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามให้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเข้าใจดีว่า ถ้าไปตกหลุมพรางของบางฝ่ายจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย ประชาชนคงเห็นแล้วว่าการดำเนินการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นขั้นตอน มีการประสานกันทั้งในและนอกสภา โดยมีเป้าหมายชัดเจน คือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ส่วนสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติเมื่อไรนั้น ต้องคอยดูกันไป" นายสุเทพกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า กลุ่มเสื้อแดงได้กระจายกำลังไปปิดประตูเข้าออกทำเนียบรัฐบาลทุกประตู โดยนำรถบรรทุก 6 ล้อมาจอดขวางไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการประชุม ครม. ต่อมาเวลา 08.30 น. หลังจากนายสุเทพยกเลิกการประชุม ครม. ทำให้ผู้ชุมนุมกระจายตัวไปนอนพักผ่อนตามจุดต่างๆ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายสุเทพได้นัดประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์ ในวันที่ 1 เมษายน เวลา 09.00 น.

matichon

คำต่อคำ: “ป๋าเปรม” เปิดใจไม่ได้สั่ง “สนธิ” ปฏิวัติ ซัด รบ.ทักษิณแย่เอง

ถ้อยคำ “พล.อ.เปรม” ระหว่างเปิดใจกับเหล่าศิษย์เก่ามหาวชิราวุธ สงขลา แจงข้อกล่าวหา “ทักษิณ” ไม่มีอำนาจสั่งให้ “สนธิ” ปฏิวัติ ซัดรัฐบาลทักษิณแย่เอง ทำทหารต้องออกมาปฏิวัติเอง จนคนร้องไชโยไปทั้งเมือง ย้ำไม่ได้นำเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ แต่ทำตามหน้าที่ถวายรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยันพูดเรื่องจริง พ้อขี้เกียจต่อความยาวสาวความยึดแก้ตัว ระบุไม่มีฝักมีฝ่าย แต่มีหน้าที่ให้คนไทยรักกัน
      
       ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะอาจารย์ และศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัย ได้เดินทางเข้าพบและให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านพัก ซึ่งสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ได้นำเสนอเนื้อหาคำพูดระหว่าง พล.อ.เปรม ที่ได้กล่าวกับศิษย์เก่าวชิราวุธ กรณีที่ถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังเหตุปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อล้มรัฐบาลทักษิณ มีใจความสำคัญ ดังนี้ “ขอพูดบางกอกน่ะ ใจคอไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ คุณทักษิณ ท่านกล่าวหา 3 อย่าง”
      
       ข้อ 1.เขาเปิดเผยว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือเรา คือคนเขารู้หมดแล้ว ตั้งแต่คุณทักษิณพูดตั้งแต่วันนั้น แล้วคุณทักษิณ ว่า แต่เราพยายามถามเขาตอนนั้น ว่า หมายถึงเราใช่ไหม เขาก็ไม่ตอบ แล้วเราก็ถามอีกว่า ถ้าไม่ใช่เรา ก็ขอให้บอกมาว่าใคร ให้รู้กันชัดๆ ไม่ได้ถามแต่คุณทักษิณ ให้คนถามคุณหญิงอ้อ ว่า งั้นให้ช่วยพูดหน่อยได้ไหมว่า ที่คุณทักษิณ พูดว่า ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่ผม เขาก็ไม่พูด ตกลงไม่พูด ไม่ตอบ ทั้งสามคำถาม ซึ่งจริงๆ เราก็รู้ว่า เขาหมายถึงเรา ตอนนั้นคุณทักษิณ ไปพูดที่ไหนไม่รู้ แล้วก็เปิดเผยผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ คือ พล.อ.เปรม
      
       ข้อ 2.เขากล่าวหาว่า เราอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติของคุณสนธิ เราก็ไม่รู้ว่าจะไปชี้แจงเขาได้อย่างไร เพราะว่าเราไม่ได้อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ เราจะอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติไม่ได้ เพราะเราไม่มีหน้าที่ ที่จะต้องไปปฏิวัติ และเราก็ไม่มีอิทธิพลพอที่จะไปบอกคุณสนธิ ว่า “ปฏิวัติเถอะ” เพราะตอนนั้น รัฐบาลคุณทักษิณ นี่แย่มากๆ คนกำลังเล่นงานรัฐบาลทักษิณอยู่ ถ้าคุณจำได้ เขาจึง ไชโย ไชโย กันมาตอนที่ทหารออกมาปฏิวัติ คุณทักษิณ ก็บอกว่า ป๋า อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติครั้งนี้ เบื้องหลังนี่ หมายความว่า อย่างไรก็ไม่รู้ เรานี่คงจะไปยุแหย่ หรือไม่ก็รู้ว่า คุณสนธิ จะปฏิวัติ แต่ก็จริงๆ เรามิได้เกี่ยวข้อง เขาก็ปฏิวัติกันไป ก็คิดดูกันเอาก็แล้วกันว่า ถ้าเรามีอิทธิพลพอที่จะไปบอกคุณสนธิ ว่า คุณไปปฏิวัติ คุณสนธิก็แย่ เพราะคุณสนธิต้องคิดเองว่า ทำไมจึงต้องปฏิวัติ มีเหตุใดที่ปล่อยให้รัฐบาลคุณทักษิณอยู่ต่อไปไม่ได้ ไม่ใช่มาเชื่อเรา ฉะนั้น เราไม่ได้อยู่เบื้องหลังเบื้องหน้า
      
       ข้อ 3 เขาบอกว่า เราเป็นคนนำ ผบ.เหล่าทัพ ไปเฝ้าฯพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็ไม่จริง คืนนั้นเขาประกาศปฏิวัติกัน ประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ คือ วันที่ 19 กันยายน พอเราได้ยินว่า เขาปฏิวัติกันไป เราก็เข้าไปในสวนจิตรฯ ที่เราเข้าไป เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่เป็นองคมนตรี เนี้ยเมื่อมีปัญหาอย่างนี้ เราก็ต้องไปอยู่ใกล้ๆ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผื่อว่า ท่านจะมีรับสั่งอย่างไรบ้าง เราจะได้รับใส่เกล้ามาปฏิบัติ เพราะมันเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน เราเข้าไปประมาณ 3 ทุ่มเศษๆ คุณสนธิ กับ คุณชลิต ผบ.ทอ.2 คน เข้าไป เมื่อตอน 5 ทุ่มเศษ คุณสถิรพันธุ์ ผบ.ทร. มาทีหลัง มาเกือบ 2 ยาม แสดงให้เห็นว่า เราไม่ได้นำ 3 คน เข้าไปสวนจิตรฯ เพื่อเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราไปของเราเอง แต่พอตอนที่เมื่อพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯลงมา เราเล่าข้ามตอนไปนิดว่า พวกที่เข้าไปบอก สมุหราชองครักษ์ เขาจะมาเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมุหราชองครักษ์ ก็ไปทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สักพักหนึ่ง ก็เสด็จฯลงมาทั้ง 2 พระองค์ เพราะฉะนั้น เราก็เป็นคนเข้าไปร่วมในการเฝ้าฯ จะว่าเรานำเข้าเฝ้าฯก็ไม่ถูก แต่ว่าเราไปอยู่ในที่นั่นด้วย เพราะฉะนั้น ที่คุณทักษิณ บอกว่า เราเป็นคนที่นำ 3 คนนี้ไปเฝ้าฯพระเจ้าอยู่หัว ก็เป็นเรื่องที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะเราเข้าไปก่อน ชั่วโมงกว่า และเราก็ไม่รู้ว่า เขาจะมา หรือไม่มา เรารู้ก็ต่อเมื่อ คุณสนธิ เข้าไปกับ คุณชลิต ไปเจอเราในสวนจิตรฯ แล้ว นี่คือเรื่องจริงๆ ที่เกิดขึ้น เราขี้เกียจไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่แก้ตงแก้ตัว
      
       พะจุณณ์ ก็ทราบดี พวกเราก็ทราบดี เล่าให้ฟังเพื่อจะได้รู้ว่า ที่จริงมันเป็นอย่างไร ที่จริงคุณทักษิณ ก็มาบ้านเราหลายครั้ง คุณอ้อ ก็มาหลายครั้ง แล้วเมื่อ คุณทักษิณ ถูกปฏิวัติ แล้วคุณอ้อ ก็มาอีก แล้วหนังสือพิมพ์ก็เล่นงานเรา จำได้ไหม คุณอ้อ ก็มาให้ป๋าช่วยเหลือตอนนั้น สักประมาณปลายๆ เดือนกันยายน ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ เพื่อจะได้รู้ว่า เหตุการณ์บ้านเมืองตอนนั้น เป็นมาอย่างไร อยากจะพูดกับทุกคน และขอบใจว่า เราเนี้ย เราถือว่า เราไม่มีศัตรู ไม่มีฝ่ายตรงข้ามกับเรา เพราะเราถือว่า เราจะทำหน้าที่ของเรา เพื่อคนไทยทุกคน แต่บางส่วน เขาเห็นว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา เราก็ไม่ว่าอะไร เขาอยากเป็นฝ่ายตรงข้ามก็เป็น แต่เราไม่เป็นด้วย เราถือว่า เราทำเสมอภาค ไม่มีฝ่ายตรงข้าม แต่นี่มีบางคนเห็นว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเขา เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณ ความจริง เราก็ไม่ได้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณทักษิณหรอก ที่เขาปฏิวัติ รู้สึกว่า เขาจะมีเหตุผลพอสมควร นี่คือ ที่อยากให้เข้าใจ ให้รู้เรื่อง ก็ขอบใจที่มากัน และมีหลายคนที่โทรศัพท์มาบ้าง มาพบเองบ้าง ขอมาเชียร์ และมาให้กำลังใจ ผมขอบอกว่า ขอบคุณ กำลังใจผมยังอยู่เต็มร้อย ผมไม่มีปัญหา ผมโดนมาเยอะแล้ว ผมโดนมามากกว่านี้ด้วยซ้ำไป อย่างตอนที่ผมเป็นแม่ทัพ ผมไปปราบ ผกค.เขาก็พูดว่า ปราบพวก ผกค. ผมบอกว่า ผมไม่ได้มาปราบพวกคุณหรอก ผมมาทำความเข้าใจกับพวกคุณ ว่า เราเข้าใจถูก เข้าใจผิดกันอย่างไร ผมไม่มีหน้าที่จะมาปราบคนไทยหรอก มีหน้าที่มาช่วยเหลือพวกไทยด้วยกัน ว่า ทำอย่างนี้ไม่ถูกหรอก ควรจะทำอย่างนี้มากกว่า เพื่อจะได้รู้ว่า ผมไม่คิดว่า คนไทยเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม ผมมีหน้าที่ที่จะทำให้คนไทยรักกัน ชอบพอกัน อันนี้ ถ้าหนังสือพิมพ์ถามผม ผมก็จะตอบ บางคนเขาบอกว่า ผมควรจะมาชี้แจง ผมคิดว่ายังไม่ชี้แจงหรอก แต่ถ้าเผื่อถามก็จะชี้แจง แต่เล่าให้พวกเราฟัง โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งหลาย เพื่อจะได้รู้ความจริง....

MGR

Label Cloud