Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Tuesday, March 31, 2009

“สันติบาล” ชี้เนื้อหาบางส่วน “แม้ว” โฟนอินปลุกระดม-ดูข้อ กม.เอาผิด

สันติบาลเร่งศึกษาข้อกฎหมายเอาผิด “นช.แม้ว” โฟนอินปลุกระดม สั่งหน่วยข่าวต่างประเทศตรวจสอบจุดเชื่อมสัญญาณโฟนอิน เป็นแบบสดหรืออัดเทป ขณะที่ ผบช.น.ชี้โฟนอิน “แม้ว” จากการตรวจสอบยังไม่พบเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง
      
       วันนี้ (31 มี.ค.) พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบรายละเอียดและข้อกฎหมายว่าจะสามารถ ดำเนินการทางกฎหมาย รวมทั้งมาตรการทางศาลอย่างไรได้บ้าง กับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามายังกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งยอมรับว่ามีเนื้อหาบางส่วนปลุกระดมมวลชน
      
       นอกจากนี้ยังสั่งการให้หน่วยข่าวต่างประเทศตรวจสอบจุดโฟนอินของอดีต นายกรัฐมนตรีว่า เชื่อมสัญญาณมาจากประเทศใด และการโฟนอินดังกล่าวเป็นเทป หรือเป็นการโฟนอินสด
      
       พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลว่า อีกไม่นานจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่รัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงขึ้น ส่วนการเฝ้าระวังมือที่ 3 ฉกฉวยสร้างสถานการณ์นั้น จากการติดตามด้านการข่าวยังไม่พบความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา ตนมองว่าทั้งสองฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เชื่อว่าคนไทยด้วยกันจะสามารถพูดคุยกันได้
      
       ทางด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวยืนยันว่าการออกประกาศเตือนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวานที่ผ่าน มา เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของคำสั่งศาลปกครองที่มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งพฤติกรรมการชุมนุมที่มีลักษณะขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ในการเข้าไปปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาล
      
       ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากการตรวจสอบยังไม่พบเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง เป็นเพียงการหมิ่นตัวบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง
      
       นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังกล่าวถึงการชุมนุมที่ปิดถนนโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ประกอบกับงานกาชาด ซึ่งส่งผลกระทบกับการจราจรเป็นอย่างมาก โดยการประชุมในวันนี้จะหารือถึงเส้นทางการจราจรที่เข้ามาในงานกาชาดด้วย

mgr

Pakistan received $500 million from the World Bank

KARACHI, March 31 (Reuters) - Pakistan received $500 million from the World Bank, the central bank said on Tuesday. "We have received $500 million from World Bank," Syed Wasimuddin, the chief spokesman told Reuters. Last Thursday, the World Bank approved a $500 million interest-free loan...

กรุงการาจี รอยเต้อร์รายงาน

ปากีสถานรับความช่วยเหลือ $500 ล้านเหรียญสหรัฐจากธนาคารโลก เงินกู้ดังกล่าว เป็นเงินกู้ไร้ดอกเบี้ย

Related articles by Zemanta:


Reblog this post [with Zemanta]

กลุ่มคนรักป๋าเปรมด่าวีระเนรคุณ

กลุ่มคนรักป๋าเปรม รวมตัวที่สงขลาแสดงพลังป้องพล.อ.เปรม ที่จ.สงขลา กลุ่มคนรักป๋าเปรม จาก 16 อำเภอของสงขลา พร้อมใส่เสื้อเหลือง เดินทางไปรวมตัวที่หน้าพิพิธภัณฑ์พธำมรงค์ ในเขตเทศบาลนครสงขลา บ้านเกิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อให้กำลังใจพล.อ.เปรม  ภายหลังถูกพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวิดีโอลิงค์โจมตีว่า เกี่ยวข้องกับการเมือง และสั่งทำรัฐประหาร ทั้งนี้ บรรดาแกนนำกลุ่มคนรักป๋า ได้ผลัดกันขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะนายวีระ มุสิกพงศ์ ซึ่งเป็นชาวสงขลา ว่าเนรคุณต่อพล.อ.เปรม

อย่างไรก็ตาม  ก่อนเที่ยงวันนี้ กลุ่มคนรักป๋าเปรม จะเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กับนายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เพื่อผ่านไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษทันที พร้อมทั้งตัดสัญญาณโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม  พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังต้องติดต่อสถานที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ซ่อนตัวอยู่ให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน มาจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และให้จับกุมแกนนำคนเสื้อแดงมาดำเนินคดี

ป๋็าเปรมปัดเอี่ยวปฎิวัติ

พล.อ.เปรมเปิดใจผ่านศิษย์เก่าวชิราวุธยันไม่เกี่ยวปฎิวัติพาคมช.เข้าเฝ้าฯ

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เปิดเผยกับคณะนักเรียนเก่าวชิราวุธ และนักเรียนเก่าสงขลารวม 30 คน ที่เข้าพบเพื่อให้กำลัง ใจที่บ้านสี่เสาเทเวศร์วันนี้ โดยปฏิเสธคำกล่าวหาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่าอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งการนำนายทหารผู้นำคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติหรือ คมช.ที่นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บัญชาการทหารบก และผู้นำเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯ

แต่อย่างไรก็ตาม พล.อ.เปรม กล่าวยอมรับว่าในวันที่ 19กันยายน 2549 ได้เดินทางเข้าเฝ้าฯเวลาประมาณ 21.00 น.ซึ่งเป็นการเข้าเฝ้าฯ ในฐานะประธานองคมนตรี ก่อนหน้าที่ พล.อ.สนธิ จะนำผู้นำเหล่าทัพเข้าเฝ้าฯประมาณ 20นาที ดังนั้น เมื่อทราบว่า เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติของบ้านเมือง จะต้องเข้าไปถวายการรับใช้อยู่แล้ว ไม่ทราบมาก่อนว่าพล.อ.สนธิจะเข้าเฝ้าฯ ดังนั้นตนจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับคมช. ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวหา ส่วนที่ตนไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้กับสื่อมวลชน ที่สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เพราะสื่อถามไม่ตรงจุดอีกทั้งตนก็ไม่จำเป็นต้องไปตอบตามที่สื่อถามนำ
        
พล. อ.เปรม กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีกำลังใจ 100 เปอร์เซ็นต์ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเมื่อครั้งต่อสู้กับภัยผู้ก่อการร้ายในอดีต อย่างไรก็ตาม ไม่เห็นด้วยที่คณะที่เข้าให้กำลังใจ จะทำการตั้งกลุ่ม"คนรักป๋าเปรม"เพราะไม่เหมาะสมที่จะไปตั้งกลุ่มเคลื่อนไหว ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งกันในบ้านเมือง แต่ควรจะช่วยกันทำความเข้าใจกับสังคมอย่าให้มีการบิดเบือน และควรทำอย่างสุภาพบุรุษ ทั้งนี้ ไม่ได้ห้ามที่จะปกป้องตน แต่ควรเป็นการปกป้องโดยไม่ใช้วิธีความรุนแรง.

posttoday

วาทะเด็ด - แนวหน้า



 "วันนี้เป็นการต่อสู้ของ 2 อุดมการณ์ เราต้องการประชาธิปไตย มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีรัฐธรรมนูญ แต่อีกฟากไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ ถึงเวลาเราต้องออกมาแล้ว เพราะเป็นเรื่องความอยู่รอดของสิ่งที่เราอยู่กันมาหลายร้อยปี"

นายกษิต ภิรมย์
รมว.ต่างประเทศ
(29 มีนาคม 2552)


“เทพเทือก”แจงงดประชุมครม.ที่ทำเนียบ ไม่ใช่เรื่องเอาแพ้ชนะ

ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่สั่งงดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จนทำให้ดูเหมือนรัฐบาลแพ้กลุ่มคนเสื้อแดง เพราะไม่สามารถเข้าร่วมประชุมครม.ที่ทำเนียบรัฐบาลได้ ว่า ไม่ใช่เรื่องเอาแพ้เอาชนะกัน  แต่เป็นเรื่องของการรักษาบ้านเมือง ซึ่งรัฐบาลพยามยามรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองโดยอาศัยกฎหมาย  ขณะ นี้มีผู้ชุมนุมอยู่ทุกถนนรอบๆทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถ้าไม่ฝ่าฝืนกฎหมายจะไปผลักดันเขาก็ลำบาก ดังนั้นวิธีที่ทำได้ คือ ร้องศาลไต่สวนฉุกเฉิน

เสื้อแดงเชียงใหม่ สลายการชุมนุมแล้ว

กลุ่มเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปักหลักชุมนุม  ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขับไล่รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ได้สลายการชุมนุมแล้ว  หลัง จากแกนนำกลุ่มเสื้อแดงในส่วนกลางส่งสัญญาณให้กลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศที่ ชุมนุมอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดต่างๆ ยุติการชุมนุมชั่วคราว โดยทางแกนนำ กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ประกาศให้กลุ่มเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ กลับไปพักผ่อน เพื่อรอสัญญาณจากทางกทม. โดยเฉพาะหากมีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ที่ล้อมทำเนียบรัฐบาลก็จะกลับมาชุมนุมเคลื่อนไหวอีกครั้ง

อย่าง ไรก็ตาม ในวันนี้ เวลา 16.00 น. ทางกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่จะมีการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ บริเวณ โรงแรมแกรนด์วโรรส 

แนวหน้า

"พันธมิตร"ร้องปกป้องสถาบันเบื้องสูง ชุมนุมกดดันผบ.ตร.ลาออก รับไม่ได้"แม้ว"ใช้ถ้อยคำเท็จหยาบคาย

พธม.ประณาม"ทักษิณ" ออกแถลงการณ์ให้ยุติวิดีโอลิงก์ แฉคดีทุจริตผ่านสื่อรัฐ เรียกร้องรบ.-ทหารปกป้องสถาบันกษัตริย์ รับไม่ได้ใช้ถ้อยคำเท็จหยาบคาย กล่าวหา"เปรม-สุรยุทธ์"วางแผนปฏิวัติ 21 แกนนำรับทราบข้อหา คดีชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา 7 ต.ค. ขอเวลา 30 วันทำคำชี้แจง พันธมิตรรวมพลหน้าตร.จี้"พัชรวาท"ลาออก

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ออกแถลงการณ์ประณาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ที่สนับสนุนให้พ.ต.ท.ทักษิณ ปราศรัยโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ร่วมวางแผนล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมเรียกเรียกร้องให้ทหารออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์


แกนนำพันธมิตรประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ได้เปิดแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มีนาคม โดยนายสุริยะใสอ่านแถลงการณ์พันธมิตร ฉบับที่ 1/2552 เรื่องคำเตือนต่อการวางเฉยกรณีมีการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เนื้อหาประณาม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กล่าวหา พล.อ.เปรม และ พล.อ.สุรยุทธ์ โดยระบุว่า พล.อ.เปรมเป็นรัฐบุรุษที่ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี มีประวัติซื่อสัตย์สุจริต สร้างคุณูปการให้กับชาติบ้านเมืองมามากมายและยาวนาน การกล่าวหาโจมตี พล.อ.เปรม ด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จและหยาบคาย จึงเป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลและไม่อาจยอมรับได้


ทั้งนี้ แถลงการณ์ของพันธมิตรยังกำหนดข้อเรียกร้อง รวม 6 ข้อ เช่น ให้รัฐบาลยกเลิกหนังสือเดินทางและดำเนินการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษในประเทศไทย,ให้รัฐบาลแถลงความจริงและคดีทุจริตทั้งหมดในระบอบ ทักษิณผ่านสื่อของรัฐ และเร่งรัดปฏิรูปสื่อโดยด่วนที่สุด, ให้รัฐบาลและทหารพิทักษ์ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ความมั่นคงของรัฐ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมทั้งให้รัฐบาลหยุดยั้งการถ่ายทอดภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ


นายสนธิ กล่าวว่า พันธมิตรออกมาเตือนโดยสนิทใจ เพื่อหวังว่าทหารฟังแล้วจะได้คิดและทำหน้าที่ในสิ่งที่ควรทำโดยไม่วางเฉย ส่วนเตือนแล้วยังนิ่งเฉย พันธมิตรจะชุมนุมหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์


ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ทหารมีหน้าที่รักษาความมั่นคงของชาติ บัดนี้ ความมั่นคงของชาติถูกกระทบอย่างรุนแรง ทหารจะวางเฉยไม่ได้ จะต้องออกมาชี้แจง และบอกประชาชน ว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร โดยพันธมิตรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


"ผมบอกให้ออกมาชี้แจงนะครับ และบอกกับประชาชนว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ประเดี๋ยวจะเข้าใจว่าให้ทหารออกมาทำอย่างนู้นอย่างนี้ ไม่ใช่นะ ต้องชัดเจน" พล.ต.จำลอง กล่าว


ด้านแกนนำพันธมิตร 21 คน ที่ถูกออกหมายจับในคดีการชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ประกอบด้วย 1.นายสนธิ ลิ้มทองกุล 2.นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 3.นายพิภพ ธงไชย 4.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5.นายสุริยะใส กตะศิลา 6.นายสำราญ รอดเพชร 7.นายสาวิทย์ แก้วหวาน 8.นายวีระ สมความคิด 9.นายกิตติชัย ใสสะอาด 10.นายสุชาติ ศรีสังข์ 11.นายอมร อมรรัตนานนท์ 12.นายศิริชัย ไม้งาม 13.นายพิชิต ไชยมงคล 14.นายอำนาจ พละมี 15.นายประยุทธ วีระกิตต์ 16.นายสมบูรณ์ ทองบุราน 17.นายประพันธ์ คูณมี 18.นายพิเชฐ พัฒนโชติ 19.นายศุภผล เอี่ยมเมธาวี 20.นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และ 21.น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์ ได้ทยอยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ที่ห้องประชุมบุณยจินดา 3 สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีสมาชิกกลุ่มพันธมิตรประมาณ 3,000 คน มาชุมนุมให้กำลังใจบริเวณทางเข้าสโมสรตำรวจ


พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาสมทบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และหน่วงเหนี่ยวกักขังเจ้าหน้ารัฐ เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดยังไม่ให้การ แต่จะทำเอกสารชี้แจงภายหลัง โดยขอเวลา 30 วัน ซึ่งทนายความพันธมิตรได้นัดวันที่ 27 เมษายนนี้ เป็นอย่างช้า


"หลังจากแจ้งข้อหา พนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมพิมพ์ลายนิ้วมือ ลงบันทึกประจำวัน หลังรับทราบข้อหาแล้ว ให้กลับบ้านได้โดยไม่ต้องประกันตัว เพราะไม่ได้จับกุม" พล.ต.ต.อำนวย กล่าว


นายสนธิให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับทราบข้อหาว่า ได้ยื่นคำให้การไปแล้ว ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ โดยแกนนำทุกคนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


เมื่อถามถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองของพันธมิตร นายสนธิ กล่าวว่า ยังรอการประชุมใหญ่เดือนพฤษภาคมนี้กับแกนนำพันธมิตรทั่วประเทศที่จะตัดสินใจ ว่าทำยังไง ถ้าเอาเราก็เอา ถ้าเขาไม่เอาก็ไม่เอา


เมื่อถามถึงการทำงานของรัฐบาลในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี นายสนธิ กล่าวว่า ก็มีแค่คนเดียวที่ทำงานอยู่คือ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นอกนั้นก็หน่อมแน้มกันเหลือเกิน ด่าหน่อมแน้มยังน้อยไป อย่าเอาเสรีภาพสื่อเป็นที่ตั้งว่าประชาธิปไตยคือ การเลือกตั้ง ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย แม้แต่นิดเดียว ยังถ่มถุยเหมือนเดิม อย่าอคติ ถ้าว่างก็ดูเอเอสทีวีบ้าง เพราะมีแนวทางที่วางไว้ จากนั้นนายสนธิพร้อมแกนนำคนอื่นๆ ได้ทยอยออกมาพบและปราศรัยทักทายกลุ่มพันธมิตรที่มาให้กำลังใจ


ต่อมาเวลา 13.30 น.กลุ่มพันธมิตรกว่า 1,000 คน นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน นายอมร อมรรัตนานนท์ เคลื่อนขบวนมาชุมนุมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน ปราศรัยเรียกร้องให้ ตร.ตั้งโต๊ะรับดำเนินคดีกับแนวร่วมพันธมิตรทั้งหมด เช่นเดียวกับแกนนำพันธมิตรทั้ง 21 คน พร้อมโจมตีการทำงานของตำรวจ และ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มพันธมิตร และเรียกร้องให้ พล.ต.อ.พัชรวาท ลาออกจากตำแหน่ง


นายอมร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ให้กลุ่มพันธมิตรร่วมกันดาวน์โหลดแบบฟอร์มการแสดงตัวเป็นผู้ต้องหา และกรอกข้อมูล ส่งให้ทนายความพันธมิตรรวบรวม เพื่อจะยื่นต่อ พล.ต.อ.พัชรวาท ในภายหลัง พร้อมประกาศจะมีผู้ชุมนุมมากกว่า 10 เท่า ก่อนประกาศยุติการชุมนุมเมื่อเวลา 15.45 น.

matichon

สปน.จะร้องศาลคุ้มครองชั่วคราว ให้เสื้อแดงเปิดทำเนียบ

นายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเตรียมหลักฐาน ก่อนเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง เพื่อ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) เปิดทางเข้า-ออก ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้คณะรัฐมนตรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปทำงานภายในทำเนียบรัฐบาลได้ โดยตนได้มอบหมายให้ นายจตุรงค์ ปัญญาดิลก รองปลัดสำนักนายกรัฐมตรีเป็นผู้ดำเนินการและเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาล
 
ด้าน นายจตุรงค์ กล่าวว่า ตนกำลังเร่งเตรียมพยานหลักฐานให้พร้อม ก่อนเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง หากหลักฐานพร้อม ก็สามารถยื่นคำร้องได้ทันที เชื่อว่าภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถยื่นคำร้องได้อย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นเวลาใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้

    [good practice, step by step, be professional!!]



"เตช"การันตี"กษิต"ทำงานดี สงสัย"แม้ว"โจมตีรับเงิน

นายเตช บุนนาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  กล่าวเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่า ที่ผ่านมา ตนไม่ได้ติดตามการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งประเด็นที่กล่าวหา นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน ว่าเคยให้เงินใช้ ซึ่งตนไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่จากที่รู้จักนิสัยของนายกษิต ขอยืนยันว่า เป็นคนทำงานดี และเป็นคนตรงไปตรงมา  ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่า จะมีการกระทำเช่นนั้น  และไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เหตุใดต้องออกมาโจมตี

นอกจากนี้ นายเตช ยังระบุว่า  ตนไม่ทราบว่า ขณะนี้  พ.ต.ท.ทักษิณ พักอยู่ที่ไหน แต่กระทรวงการต่างประเทศ สามารถติดตามตัวได้

[ทักษินอยู่ไหน ให้เงินเค้าใช้ไปทั่ว จนเคยชิน นี่พูดออกมาเอง ทักษินให้เอง กษิตไม่ได้ขอ ค่าขนม 2 ล้าน ก็คงไม่พ้นแบบนี้]

มติชน

Monday, March 30, 2009

One Voice

เอะอะก็บอกเสื้อเหลืองเคยทำ เสื้อเหลืองเลวอย่างโง้นอย่างงี้ พวกคุณรู้ว่าเสื้อเหลืองไม่ดีแล้วทำตามอย่างทำไมครับ แล้วตอนนี้ สิ่งที่คุณทำ มันไม่ใช่การเอาคืนเสื้อเหลืองอย่างที่พวกคุณด่ากันนะครับ คุณกำลังทำลายทั้งประเทศ เห็นคนอื่นๆ ที่เขาไม่เกี่ยวบ้านรึปล่าว หรือในโลกของคุณ ใครไม่เห็นด้วยกะคุณ จะต้องเป็นเสื้อเหลืองกันหมด ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่า เสื้อเหลืองคงมีเป็นหลายพันล้านคนทั่วโลกนะครับ ตอนนี้คุณคือปัญหาของประเทศครับ คุณพยายามยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพื่อให้มีการสลาย เพื่อให้คุณเอาประเทศของตัวเองไปประจานนานาชาติ แล้วคุณจะได้อะไรครับ ผลของการกระทำ พวกคุณนั่นแหละที่จะเป็นคนเดือดร้อนไม่ต่างจากคนอื่นๆ คุณจะได้มาแค่ความสะใจ ทุกวันนี้ ไอ้ลิ้มมันไม่เกี่ยวกะเรื่องนี้แล้ว คนที่คุณเกี่ยวด้วยตอนนี้คือประชาชนทั้งประเทศที่ต่อให้คุณเอาเหลืองกะแดง รวมกันคูณ 10 ก็ยังมีไม่เท่า ระวังคนพวกนี้จะลุกขึ้นมา ทวงคืนประเทศนะครับ ประเทศ ไม่ใช่ของพวกคุณคนเดียว คุณถึงจะย่ำยียังไงก็ได้ ประชาชนทั้งประเทศ ต้องการความสงบ ให้ประเทศเดินหน้า อย่าเอาความเป็นคนด้อยพัฒนา ด้อยคุณภาพมาถ่วงดึงประเทศให้มันแย่ไปเลยครับ และขอบเขตของการกระทำมันต้องมีครับ อย่าเล่นกันจนเกินขอบเขตที่พอดี การพาลโดยการดึงเอาทุกอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องลงมาเล่น มันไม่สามารถเปลี่ยนความคิดคนอื่นได้ง่ายๆ หรอกนะครับ ทุกสิ่งที่พวกคุณพยายามบิดเบือน ให้ร้าย มีหลักฐานเป็นรูปธรรมให้เห็นกันแล้วว่าคุณโกหก คนที่เชื่อคุณ มันก็แค่โดนกล่อมไปซักพัก ความดีงามเป็นความจริงแท้อันประเสริฐพอที่จะไม่โดนคนเลวๆอย่างไอ้เหลี่ยมกัด กร่อนเอาง่ายๆ หรอกครับ
……………………………

ยากให้ใช้กำลังสลายการชุมนุม เสื้อแดงจะได้ลุกฮือ ทั่วประเทศ อยากเห็นเมืองไทยพินาศว่ะ สะใจดี

ความคิดเห็น โดย: ด (#67461)

……………………………

เช่นความเห็นแบบนี้เป็นตัวอย่าง อันนี้พิสูจน์ให้เห็นง่ายๆ ว่า ในหัวสมองคิดอะไรอยู่บ้าง พฤติกรรมเฮไหนเฮด้วย ไม่รู้จักไตรตรอง มันพิสูจน์ให้ชาวโลกเห็นอยู่แล้วว่าคุณเป็นคนยังไง คนเราจะโง่ได้ขนาดไหน ที่ยอมจะเผาบ้านตัวเอง เพื่อให้ชาวโลกได้หันมามอง เขาหันมามองแล้วยังไงครับ เค้าจะเชื่อรึปล่าว เค้าจะเชื่อคนโง่ที่เผาบ้านตัวเองมั๊ยครับ วันนี้ เสื้อเหลือง หรือสนธิไม่ได้มีบทบาทแล้ว คุณพวกเดียวที่กำลังแสดงบทบาทโง่ๆ โชว์สายตาชาวโลกอยู่

ผมขอชื่นชมผู้คนที่รักในประชาธิปไตยจริงๆ แต่ถ้าคุณบอกว่าประชาธิปไตยต้องเห็นไปข้างเดียวกันหมด คนที่ไม่เห็นด้วยไม่ใช่ประชาธิปไตย นั่นแสดงว่าพวกคุณไม่ได้รู้จักคำว่าประชาธิปไตยครับ ประชาธิปไตย หมายถึงการให้เสียงส่วนใหญ่นำพาก็จริง แต่ก็ไม่ได้ละเลยเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่ไม่ยอมรับ และมองเป็นศัตรูครับ

ความคิดเห็น โดย: จตุพร (#67692)


หยุดตะแบงดันกม.ฟอกผิดทักษิณ (บทบรรณาธิการแนวหน้า)

ความพยายามของพรรคเพื่อไทยที่ผลักดันร่างกฏหมายว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรเมื่อเร็วๆนี้ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีเป้า หมายแฝงเร้นทางการเมืองเพื่อฟอกโทษและความผิดคดีทุจริตทั้งหมดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้เป็นนักโทษหนีความผิดตามคำพิพากษาของศาลฏีกาที่ไปใช้เวทีต่างแดน ปลุกระดมและบัญชาการม็อบเสื้อแดงให้ลุกฮือขึ้นโค่นล้มอำนาจรัฐอยู่ในขณะนี้

ร่างกฏหมายว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติฉบับนี้มีสาระสำคัญที่กำหนดให้มีการ นิรโทษกรรมความผิดทั้งหมดอันเป็นผลพวงของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จนกระทั่งถึงวันที่5 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า มีเจตนาวางแผนนิรโทษกรรมความผิดล่วงหน้าให้กับม็อบเสื้อแดงที่กำลังทำสงคราม ขั้นแตกหักโดยมี พ.ต.ท.ทักษิณเป็นแม่ทัพใหญ่อยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากเป็นไปตามร่างกฏหมายดังกล่าวนั่นหมายความว่าหากม็อบเสื้อแดงก่อเหตุ จลาจล ในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ 5 พฤษภาคมก็จะอยู่ในข่ายได้รับการนิรโทรกรรมด้วย

การออกมาผลักดันร่างกฏหมายว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติของพรรคเพื่อไทยในช่วง เวลาสอดรับการออกมาทำสงครามแตกหักของม็อบเสื้อแดงซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ล้วนเป็นเครือข่ายหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณชัดเจนว่าเป็นเพียงหมากทางการเมืองเพื่อกดดันต่อรองหาทางรอดให้ กับตัวเองของ พ.ต.ท.ทักษิณในภาวะที่กำลังหลังพิงฝาและใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะ

ดังนั้นการออกกฏหมายที่อ้างว่าเพื่อความปรองดองในชาติความจริงแล้วจึงเป็น เพียงการออกกฏหมายเพื่อฟอกล้างความผิดให้กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้นนั่นคือพ .ต.ท.ทักษิณโดยอ้างการสร้างความปรองดองในชาติบังหน้า แต่ที่สำคัญกฏหมายฉบับนี้เป็นการทำลายหลักนิติรัฐตลอดจน มาตรฐานระบบยุติธรรมในสังคมอย่างยับเยิน และเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันไม่ถูกต้องชอบธรรมกลายเป็นการฟอกความผิดให้กับ คนเพียงบางคนที่ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน จนอาจเกิดคำถามว่าหากเป็นตาสีตาสานายมีนายมาซึ่งเป็นชาวบ้านทั่วไปจะได้รับ ข้อยกเว้นไม่ต้องรับโทษเช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรีผู้อื้อฉาวหรือไม่

กฏหมายฉบับนี้ยังทำลายความศักดิ์สิทธิ์แห่งสถาบันศาลอย่างยับเยินหากมีการ นิรโทษความผิดแก่อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูกศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาถึง ที่สุดให้จำคุก 2 ปีในคดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษกไปแล้ว และยังมีอีกหลายคดีอยู่ระหว่างรอการชี้ขาดของศาลโดยเฉพาะคดียึดทรัพย์มูลค่า 76,000 ล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ

นอกจากนี้กฏหมายฉบับนี้แทนที่จะสร้างความปรองดองในชาติ แต่กลับจะเป็นชนวนจุดไฟวิกฤติความแตกแยกให้กลับมาลุกโชนและลุกลามรุนแรงยิ่ง ขึ้น เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่อยากเห็นอดีตนายกรัฐมนตรีได้รับโทษความผิดตาม กระบวนการยุติธรรมเพื่อเป็นบรรทัดฐานทางสังคม เพราะฉะนั้นขบวนการเครือข่ายระบอบทักษิณทั้งหลายจึงควรหยุดเคลื่อนไหวตีรวน จุดไฟเผาบ้านป่วนเมืองเพื่อตัวเองสวนกระแสของสังคมที่อยากเห็นบ้านเมืองเดิน ไปข้างหน้าเสียที

แนวหน้า


คนสงขลาขู่บุกกรุงป้องป๋าเปรม

กลุ่มคนรักป๋าเปรมจ.สงขลาขู่บุกกรุง หากทักษิณยังไม่หยุดใส่ร้าย
ที่จ.สงขลาหน้าพิพิธภัณฑ์พระธำมรงค์ ถนนปละท่า อ.เมือง กลุ่มคนรักป๋าเปรม นำโดยนายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลาเป็นแกนนำรวมตัวชุมนุมหน้าบ้านเกิดของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุญ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมออกแถลงการณ์กรณี"ทักษิณบิดเบือนกล่าวเท็จใส่ร้ายป๋าเปรม" พร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้อง4 ข้อคือ 1 .ให้รัฐบาลใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อหยุดยั้งการใส่ร้ายป้ายสีโจมตีประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษป๋าเปรมทันที 2.ตัดสัญญาณโฟนอิน ของทักษิณทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม 3.รัฐบาลต้องติดต่อประเทศที่ทักษิณซ่อนตัวอยู่ให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้าม แดนมาจำคุกตามคำพิพากษาของศาล และ4.ให้จับแกนนำคนเสื้อแดง 3 เกลอหัวขวดมาดำเนินคดีทันที  
          
นอก จากนี้ ผู้ที่มาร่วมชุมนุมมีหลากหลายอาชีพมีการขึ้นกล่าวโจมตี แกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่เป็นคนลืมบุญคุณผู้มีพระคุณ ลืมชาติกำเนิดบุญคุณแผ่นดิน และในวันพรุ่งนี้จะมีการชุมนุมใหญ่ของชาวสงขลาเรือนหมื่น ที่มาจาก 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา เพื่อแสดงพลังมวลชนชาวสงขลา ที่มีต่อพลเอกเปรม และหากว่ากลุ่มเสื้อแดงยังไม่หยุดการกล่าวใส่ร้ายป๋าเปรมก็จะเดินทางเข้า กรุงเทพเพื่อไปปกป้องป๋าเปรม

ขณะเดียวกันก็จะเดินทางไปปิดล้อมบ้าน นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่อำเภอระโนด เพื่อให้พ่อแม่สั่งสอนลูกให้ดีกว่านี้ ให้นึกถึงบุญคุณแผ่นดินเกิด ไม่ใช่สั่งสอนให้เนรคุณชาติ

http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=40150


ตำรวจขู่ควบคุมฝูงชน

บช.น.ประกาศเสียงตามสายขอเสื้อแดงเลิกปิดล้อมทำเนียบฯขู่ควบคุมฝูงชน!

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)ประกาศเสียงตามสายในทำเนียบรัฐบาลว่า ตำรวจขอประกาศไปถึงผู้จัดการชุมนุม และผู้เข้าร่วมการชุมนุม ขอให้หยุดการกระทำขัดขวางการเข้าออกภายในทำเนียบรัฐบาล หากยังไม่ยอมเลิก ตำรวจจะเข้าควบคุมฝูงชนตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก โดยจะเริ่มจากการใช้โล่ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้พกพาอาวุธปืนแต่อย่างใด และจะทำตามกฎหมายกับผู้จัดการชุมนุม และผู้เข้าร่วมชุมนุมทุกราย หากกระทำการผิดกฎหมาย ดังนั้นหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะการแก้ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ไม่ใช่ใช้ความรุนแรง
         
ทั้ง นี้นอกจากการประกาศเสียงตามสายแล้ว บช.น.มีการเปิดเพลงมาร์ชปลุกใจอยู่เป็นระยะๆ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ พากันโห่ร้อง ขณะที่แกนนำก็รีบประกาศบนเวทีระดมผู้ชุมนุมให้รีบมารวมตัวกันด้านหน้าเวที และที่บริเวณประตูทางเข้าออกต่างๆภายในทำเนียบรัฐบาล โดยให้รวมตัวกันให้ได้ประตูละ 100-300 คน

ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบ รัฐบาล เมื่อได้ฟังประกาศเสียงตามสายที่อาจจะมีการสลายการชุมนุม ต่างก็รีบเซ็นชื่อ และเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลเป็นจำนวนมากเพื่อความปลอดภัย

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งระดมพลเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 กองร้อยไปรวมตัวกันที่บริเวณ ด้านข้างสำนักงานอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมระดมกำลังจำนวนมาก มาตั้งแถวเผชิญหน้ากับตำรวจ เนื่องจากเกรงว่า จะใช้เส้นทางดังกล่าวเข้ามาสลายการชุมนุม อีกทั้งเป็นการเฝ้าระวังความปลอดภัย เนื่องจากนายกรัฐมนตรีกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สำนักงานสหประชาชาติ ในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
          
ต่อมา กลุ่มเสื้อแดงประกาศห้ามข้าราชการเข้ามาทำงานในทำเนียบรัฐบาลโดยเด็ดขาด แต่อนุญาติให้เฉพาะผู้สื่อข่าวเท่านั้น พร้อมทั้งมีการตรวจคนอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะห้ามถือข้าวกล่อง และครื่องดื่มที่แพ็กเป็นจำนวนมากเข้ามาภายในทำเนียบรัฐบาล

http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=40148

Sunday, March 29, 2009

ทักษิน ก็มีความกลัว

26 มี.ค. 2552

ทักษินโฟนอิน

บอกว่ากำลังจะไปพบประธานาธิบดี ประเทศแอฟริกาประเทศหนึ่ง
ไม่ยอมบอกชื่อประเทศ...

วันต่อมา นพดล ออกมาบอกอีกว่า ทักษินได้รับเชิญจากประเทศแอฟริกา ให้ช่วยแก้จน
ไม่บอกอีกว่า ประเทศอะไร...

ทั้งๆที่ถ้าเป็นเรื่องจริง เช็คข่าวได้ ก็น่าจะเป็น credit ให้ทักษิน
ให้คนเสื้อแดงชื่นชม

หรือว่า...

ประเทศนั้น ไม่เป็นประชาธิปไตย

หรือประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย

หรือ..ทั้งหมด เป็นแค่ข่าวกุ เหมือนที่แล้วๆมา

ไม่ว่าจะอย่างไร ทักษินอยู่ภายใต้ความกลัว

กล้วคนจะรู้ความจริง
กลัวจะถูกจับโกหก
กลัวจะโดนจับ

ถามว่า ถ้าเป็นข่าวกุเหมือนที่แล้วมา ทักษินจะรู้สึกอย่างไร

...อาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย...ทุกอย่างทำเพื่อเป้าหมายสูงสุด

...อาจจะละอายต่อตนเอง ว่าตนแย่ ขนาดที่ต้องโกหกคนอื่น และตัวเอง ว่ายังมีความสามารถ ยังมีความสำคัญอยู่ คนเก่งระดับทักษิน เคยทำอะไรได้ทุกอย่างที่อยากทำ ยังไงๆก็ต้องรู้สึกบางอย่างถ้าต้องโกหก

วันที่ 26 นั้น ดูเหมือนเขาจะไม่พร้อมที่จะพูด

วันที่ 27 สีหน้าของเขาก็ยังดูไม่ดี ไม่ได้ใส่เสื้อสีแดง อย่างที่ควรจะใส่ การพูดมีตะกุกตะกัก หยุดดูโพยบ้าง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวันที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทุกอย่างลื่นไหล แคล่วคล่อง ทั้งหมดนี้ ดูเขาไม่มีความสุขเลย ตาไร้แวว ไหล่ห่อ ไม่ผึ่งผายเหมือนเดิม ... บางช่วงดูยังไม่พร้อม... ทักษินพูดภาษาไทยกับคนที่ set up เครื่องเสียง "ได้ยินๆ" หรือจะเป็นคนไทยจาก NBT ตามข่าว จังหวะที่ทักษิน เอ่ยชื่อผู้มีบารมี ก็ไม่อยู่ในช่วงจังหวะที่สอดคล้อง ที่ต่างจากการปราศรัยสด ที่จังหวะจะสอดคล้องกับอารมณ์ของผู้ฟัง หรือว่าชื่อนั้นไม่ได้สร้างความแปลกใจเลย เพราะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว โจมตีกันมานาน ท่านที่โดนโจมตี ก็ไม่ได้ใส่ใจจะตอบโต้ แต่ทักษินใช้เป็นประเด็นที่จะปลุกคนเสื้อแดงออกมามากกว่า ถ้าไม่พูด ก็เหมือนกับไม่รู้ชกอยู่กับใคร คนที่เชียร์ ก็เชียร์มันส์ขึ้น ส่วนคนเสื้อเหลืองก็รู้มานานแล้ว

การเปิดเผยของทักษินครั้งนี้ มองในอีกแง่หนึ่งได้ว่า ทักษินเป็นคนขี้ขลาด เพราะเปิดเผยเมื่อมือนั้น เอื้อมไปไม่ถึง และทักษินอยู่ในที่ลับ ส่วนผู้มีบารมีอยู่ในที่แจ้ง...ทำไม ถ้าทักษินรักประชาธิปไตยจริงๆ และเรื่องที่ทักษินพูดเป็นเรื่องจริง ทำไมจึงไม่ "กล้า" ที่จะเปิดเผยตัวตนของผู้มีบารมีออกมาให้ทุกคนรู้ และแก้ไขระบบ (รัฐธรรมนูญ)ให้ถูกต้อง ในเวลาที่ตัวเองมีอำนาจจะทำได้ ตัวตนของทักษินจริงๆ จึงไม่ใช่คนที่จะ "กล้า" แก้ไขสิ่งที่ผิด ให้ถูกต้อง สิ่งที่พิสูจน์เรื่องนี้คือ ทักษินบอกว่า คอรัปชั่นแก้ยาก เพราะหยั่งรากลึกลงไปในสังคม คำพูดนี้ ขัดแย้งเป็นอย่างยิ่งกับบุคลิกของทักษินแบบ "can do" ทักษินทำอะไรได้ทุกอย่าง และต้องทำให้ได้ แม้แต่แก้จราจร กมท. ที่จริงๆแล้วทำไม่ได้ แต่ทักษินก็ยังให้สัญญาให้เวลา 6 เดือน

can do ของทักษิน จึงมีข้อยกเว้น

นั่นคือ ยกเว้นการปราบคอรัปชั่น


เพราะปราบไปๆ
สุดท้ายก็จะเจอหัวหน้าใหญ่ คือ ตัวทักษิน นั่นเอง




ประชาธิปไตย กับคำถาม

ลองคิดดูเล่นๆ

ว่า

การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย มีการซื้อเสียง แม้เพียง 1 เสียง ผลการเลือกตั้ง และรัฐบาลที่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะถือว่าเป็นประชาธิปไตยหรือไม่

หากเป็นประชาธิปไตย ซื้อเสียงจำนวนเท่าใดจึงจะไม่ทำให้เป็นประชาธิปไตย

หรือขึ้นอยู่กับว่า การซื้อเสียงเกิดจาก ฝั่งจัดตั้งรัฐบาล จึงถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
แต่หากเกิดจากฝั่งตรงข้ามส่วนน้อย ผลเลือกตั้งถือว่าเป็นประชาธิปไตย

Saturday, March 28, 2009

Thaksin, Where are you?

จากการ โฟนอิน เมื่อ 26 มี.ค. 2552 เวลาประมาณ 20น.

ทักษินบอกว่าอยู่อาฟริกา กำลังจะไปพบประธานาธิบดี เดาเอาว่า เนื่องจากทักษิน รักประชาธิปไตย จึงน่าจะยอมรับประเทศแอฟริกาที่เป็นประชาธิปไตยเท่านั้น

แต่มีแค่ 4 ประเทศในแอฟริกา ที่ทั่วโลกยอมรับในความเป็น ประชาธิปไตย

1. Botswana, President: Seretse Khama Ian Khama, GNI (gross national income) per capita: US $5,840

2. Ghana, President: John Atta Mills, GNI US $590

3. Mauritius, President: Sir Anerood Jugnauth , Prime minister: Navin Ramgoolam, GNI US $5,450

4. South Africa, President: Kgalema Motlanthe, GNI US $5,760

ดูแล้ว ถ้าทักษินช่วยแก้จน ก็ต้องเป็น กาน่า

หลุดจาก 4 ประเทศนี้ แสดงว่าทักษิน ไม่รักประชาธิปไตยจริง :D

ref: http://allafrica.com/stories/200901140107.html


Reblog this post [with Zemanta]

Tuesday, March 17, 2009

นายกฯ อภิสิทธิ์ตอบใจ PM Abhisit answered JI


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ตอบคำถามนายใจ อึ๊งภากรณ์ ในการปาฐกถาที่
St.John's College, University of Oxford
Mr.Abhisit Vejjajiva Prime Minister of the Kingdom of Thailan.

Label Cloud