Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Sunday, March 29, 2009

ทักษิน ก็มีความกลัว

26 มี.ค. 2552

ทักษินโฟนอิน

บอกว่ากำลังจะไปพบประธานาธิบดี ประเทศแอฟริกาประเทศหนึ่ง
ไม่ยอมบอกชื่อประเทศ...

วันต่อมา นพดล ออกมาบอกอีกว่า ทักษินได้รับเชิญจากประเทศแอฟริกา ให้ช่วยแก้จน
ไม่บอกอีกว่า ประเทศอะไร...

ทั้งๆที่ถ้าเป็นเรื่องจริง เช็คข่าวได้ ก็น่าจะเป็น credit ให้ทักษิน
ให้คนเสื้อแดงชื่นชม

หรือว่า...

ประเทศนั้น ไม่เป็นประชาธิปไตย

หรือประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย

หรือ..ทั้งหมด เป็นแค่ข่าวกุ เหมือนที่แล้วๆมา

ไม่ว่าจะอย่างไร ทักษินอยู่ภายใต้ความกลัว

กล้วคนจะรู้ความจริง
กลัวจะถูกจับโกหก
กลัวจะโดนจับ

ถามว่า ถ้าเป็นข่าวกุเหมือนที่แล้วมา ทักษินจะรู้สึกอย่างไร

...อาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย...ทุกอย่างทำเพื่อเป้าหมายสูงสุด

...อาจจะละอายต่อตนเอง ว่าตนแย่ ขนาดที่ต้องโกหกคนอื่น และตัวเอง ว่ายังมีความสามารถ ยังมีความสำคัญอยู่ คนเก่งระดับทักษิน เคยทำอะไรได้ทุกอย่างที่อยากทำ ยังไงๆก็ต้องรู้สึกบางอย่างถ้าต้องโกหก

วันที่ 26 นั้น ดูเหมือนเขาจะไม่พร้อมที่จะพูด

วันที่ 27 สีหน้าของเขาก็ยังดูไม่ดี ไม่ได้ใส่เสื้อสีแดง อย่างที่ควรจะใส่ การพูดมีตะกุกตะกัก หยุดดูโพยบ้าง แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับวันที่เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทุกอย่างลื่นไหล แคล่วคล่อง ทั้งหมดนี้ ดูเขาไม่มีความสุขเลย ตาไร้แวว ไหล่ห่อ ไม่ผึ่งผายเหมือนเดิม ... บางช่วงดูยังไม่พร้อม... ทักษินพูดภาษาไทยกับคนที่ set up เครื่องเสียง "ได้ยินๆ" หรือจะเป็นคนไทยจาก NBT ตามข่าว จังหวะที่ทักษิน เอ่ยชื่อผู้มีบารมี ก็ไม่อยู่ในช่วงจังหวะที่สอดคล้อง ที่ต่างจากการปราศรัยสด ที่จังหวะจะสอดคล้องกับอารมณ์ของผู้ฟัง หรือว่าชื่อนั้นไม่ได้สร้างความแปลกใจเลย เพราะเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว โจมตีกันมานาน ท่านที่โดนโจมตี ก็ไม่ได้ใส่ใจจะตอบโต้ แต่ทักษินใช้เป็นประเด็นที่จะปลุกคนเสื้อแดงออกมามากกว่า ถ้าไม่พูด ก็เหมือนกับไม่รู้ชกอยู่กับใคร คนที่เชียร์ ก็เชียร์มันส์ขึ้น ส่วนคนเสื้อเหลืองก็รู้มานานแล้ว

การเปิดเผยของทักษินครั้งนี้ มองในอีกแง่หนึ่งได้ว่า ทักษินเป็นคนขี้ขลาด เพราะเปิดเผยเมื่อมือนั้น เอื้อมไปไม่ถึง และทักษินอยู่ในที่ลับ ส่วนผู้มีบารมีอยู่ในที่แจ้ง...ทำไม ถ้าทักษินรักประชาธิปไตยจริงๆ และเรื่องที่ทักษินพูดเป็นเรื่องจริง ทำไมจึงไม่ "กล้า" ที่จะเปิดเผยตัวตนของผู้มีบารมีออกมาให้ทุกคนรู้ และแก้ไขระบบ (รัฐธรรมนูญ)ให้ถูกต้อง ในเวลาที่ตัวเองมีอำนาจจะทำได้ ตัวตนของทักษินจริงๆ จึงไม่ใช่คนที่จะ "กล้า" แก้ไขสิ่งที่ผิด ให้ถูกต้อง สิ่งที่พิสูจน์เรื่องนี้คือ ทักษินบอกว่า คอรัปชั่นแก้ยาก เพราะหยั่งรากลึกลงไปในสังคม คำพูดนี้ ขัดแย้งเป็นอย่างยิ่งกับบุคลิกของทักษินแบบ "can do" ทักษินทำอะไรได้ทุกอย่าง และต้องทำให้ได้ แม้แต่แก้จราจร กมท. ที่จริงๆแล้วทำไม่ได้ แต่ทักษินก็ยังให้สัญญาให้เวลา 6 เดือน

can do ของทักษิน จึงมีข้อยกเว้น

นั่นคือ ยกเว้นการปราบคอรัปชั่น


เพราะปราบไปๆ
สุดท้ายก็จะเจอหัวหน้าใหญ่ คือ ตัวทักษิน นั่นเอง




Label Cloud