Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Thursday, April 2, 2009

ประชาชน-ผู้ตามในยาม"ผู้นำหลงป่า"

"สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี"  ทรงยิ่งใหญ่  มวลประชาไทยรุ่งเรือง-ไพศาล  วันนี้-วันที่  ๒  เมษายน  ๒๕๕๒  ย้อนกลับไปเมื่อ  ๕๔  ปีที่แล้ว  จะเป็นวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนฯ   ของปวงพสกนิกรไทย  และในวโรกาสคล้ายวันเสด็จพระราชสมภพอันเป็นมงคลยิ่ง  ณ  วันนี้  กราบแทบพระบาทถวายพระพรชัย  ขอให้สมเด็จพระเทพรัตนฯ  ทรงพระเกษมสำราญ  พระบารมีไพศาลประสานสุขสามัคคีพสกไทย  ทรงมีพระพลานามัยเข้มแข็ง  เป็นแสงแห่งความหวังและศรัทธา  นำความไพบูลย์วัฒนาสู่สยาม  ณ  ไทยกระเดื่องเกียรติในสากล  มวลชนประชาปริ่มสุข-สิ้นทุกข์ขุกเข็ญ  ฉ่ำเย็นทั่วหล้า...ด้วยพระมหาบารมีแห่งสมเด็จพระเทพรัตนฯ  นี้..นิรันดร์

     ตราบใด-ที่ประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่   ตราบนั้น-ไพร่ฟ้าประชาชนชาวไทย  และผู้ได้พึ่งอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารยังหวังได้ซึ่งสุขจากสงบ  ความเห็นต่างบางเรื่อง-บางกรณีในหมู่ชนของสังคมชาติอันสืบเนื่องมาจากแรงปลุกปั่นของบุคคล  "เพื่อผลประโยชน์ผ่านการเมือง"  นั้น

     เป็นเพียงปฏิกิริยาตอบสนองสิ่งเร้าเฉพาะกาลเท่านั้น  แต่ลึกลงไปในหัวจิต-หัวใจ  คนไทยไม่ว่าอยู่ในสีไหน  ไม่มีใคร  "ใจคิดห่าง"  ต่อสถาบันหลักของชาติ  โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์  จะมีก็เพียงมิจฉาทิฐิ  "บางคน"  เท่านั้น  อย่าเครียดกันไปให้มากนัก  ก็ขนาดในกาลสมัย  "สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า"  พระองค์ทรงคุณประเสริฐเลิศเหนือมวลหมู่เทพและมนุษย์ถึงปานนั้น

     ก็ยังไม่วาย  มีผู้เป็นทั้งศิษย์และพระญาติพระตถาคตนามว่า  "พระเทวทัต"  สร้างความวิบัติให้กับตัวเองด้วยพฤติกรรม  ทำร้ายพระพุทธองค์  แยกสงฆ์-แยกพระพุทธศาสนา

     และวาระสุดท้าย  ไม่มีใครทำอะไร  ด้วยกรรมใด-ใครสร้าง  "ฟ้า-ดิน"  ก็ทำหน้าที่ "ธรณีสูบ"  พระเทวทัตลงสู่นรกขุมลึกสุด!

     ฉะนั้น  จงเชื่อด้วยศรัทธาในสถาบันนำชาติเถิด  ถ้าพวกเราไม่มั่นใจในความเป็นคนไทยด้วยกัน  ใจไม่ปักมั่นอยู่ในแกนในคือสถาบันหลักของชาติแล้ว  ใคร-ที่ไหนล่ะมาจะมามั่นใจในความเป็นคนไทย  และประเทศไทยของพวกเรา

     เรื่องที่ว่า  "ไทยจะแตกชาติ"  นั้น  ก็แค่วิตกจริตกันไปในหมู่คนไร้สติ  และไร้ความเชื่อมั่นในตัวเอง  จะมีเป็นเทศกาลบางครั้ง-บางคราวก็แค่  "แยกเขี้ยวใส่กัน"  เพราะคนไทยเรา  "กินดี-อยู่ดี"  กันมานานจนรำคาญความสามัคคี  อยากจะแสวงหาสิ่งแปลกใหม่มาบำรุง-บำเรอใจไปชั่วครั้ง-ชั่วคราวเท่านั้นเอง!

     แต่ผมอยากพูดให้คนในรัฐบาลได้คิด   รัฐบาลนั้นเป็นองค์กรนำสังคมชาติสูงสุดทางบริหาร  ต้องเข้าใจให้ชัดอย่างหนึ่งว่า  ธรรมชาติของประชาชน  คือ  "ผู้ตาม"

     ฉะนั้น  ใครก็ได้  ถ้าสามารถโน้มน้าว  ชักนำให้ประชาชนเกิดความเชื่อ-ความศรัทธาได้  ประชาชนก็พร้อมจะตาม  เพราะความเชื่อ-ความศรัทธาที่ค่อยๆ  สั่งสมนั้น  มายาภาพจะถูกแปลงเป็นจินตภาพ  และจินตภาพของประชาชนนั้นจะถูกแปลงอีกทอดเป็น  "ความหวังใหม่"

     และนั่นแหละ  "ตัวโค่นล้ม-ทำลาย"  ที่แท้จริงละ  โค่นล้มรัฐบาลมันเรื่องจ้อย  ประเทศชาตินั่นก็สามารถโค่นล้มได้  เพราะระลอกแล้ว-ระลอกเล่าที่ปล่อยสะสมเป็นลูกคลื่น  มันจะไล่หลังตะปบกลืนคลื่นลูกเก่าได้เสมอ

     ตรงนี้ก็จงเข้าใจให้ถูกเถอะว่า  ตีนของมวลชนไม่ว่าสีไหนที่ย่ำกันไป-ย่ำกันมา  ขณะนี้นั้น  เป็นแค่  "กลไก"  รับสั่งการจากสมองเท่านั้น  เป็นเพียง  "รูปธรรม"  ของพลังงานที่เรียกว่า  "ศรัทธาและความเชื่อ"  ที่บ่าไหลไปสู่เป้าหมายใหม่ด้วย  "ความหวังใหม่"  ในจินตภาพนั้น

     ตะเกียงขาดไส้  ไฟย่อมไม่ติด  ฉันใด  ถ้าคนสิ้นหวัง-สิ้นศรัทธาจากสิ่งไหน  สิ่งนั้นก็ย่อมอยู่ไม่ได้  ฉันนั้น!

     ก็อยากจะถามว่า  รัฐบาลก็ดี  ตำรวจก็ดี  ทหารก็ดี  บรรดาข้าราชการทั้งหลายก็ดี  พวกคุณทำหน้าที่ด้วยความเข้าใจว่า  "โลกนี้อยู่ได้ด้วยความเชื่อในศรัทธา"  ขนาดไหน  อย่างไร?

     พวกคุณกำลังจนมุมตัวเองด้วยความตีบตื้นว่า  "เขาทำตามสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย"  มันไม่ใช่อย่างนั้น  ถ้าคิดอย่างนั้นก็เท่ากับว่า  บริโภคประชาธิปไตยด้วยความโง่เขลา  และเอาประชาธิปไตยมาบดทำลายสังคมชาติ-สังคมประเทศตัวเอง

     มีประชาธิปไตยที่ไหนในโลกนี้มั้ย  ที่ปล่อยให้โจรผู้ร้ายใช้เครื่องมือสื่อสารปลุกปั่น-ปลุกระดมผู้คนให้กระด้างกระเดื่องต่อระบบรัฐอย่างชัดแจ้ง  คำว่าแดงทั้งแผ่นดิน  พูดในเจตนาไหน  คำว่าให้มารวมตัวกันปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล  ขัดขวางไม่ให้คณะรัฐบาลเข้าทำงาน  เจตนามันคืออะไร  คำว่าให้บุกยึดศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ  มันบ่งบอกถึงอะไร?

     การให้ด่า  "ประธานองคมนตรี"  แถมถ่ายทอดวิทยุกระจายเสียงทั้งวัน-ทั้งคืน  ซึ่งคนเป็นเจ้าของกิจการได้มี  ๒  หน่วยเท่านั้นคือ  ทางราชการ  และทางกองทัพ  ก็รู้ใช่มั้ยว่าตำแหน่งประธานองคมนตรี  และองคมนตรีมาจากไหน  มีหน้าที่อะไร  แล้วปล่อยให้ใส่ร้ายป้ายสีหวังเซาะทำลายสถาบันหลักของชาติ  ไม่ว่าจะเป็นสถาบันพระมหากษัตริย์  สถาบันองคมนตรี  สถาบันศาล  อยู่อย่างนี้ได้อย่างไร?

     อ้างว่า  "ถอดเทปแล้วยังไม่พบว่ามีการพูดจาเข้าข่ายหมิ่นสถาบัน"  นี่น่ะเรอะการวินิจฉัยที่ลุ่มลึกของตำรวจที่มาจาก  "กระบี่แตะบ่า"  และเมื่อจนตา-จนท่าเข้าก็อ้างว่า...ทำอะไรไม่ได้  เพราะเขาชุมนุมกันตามประชาธิปไตย

     รัฐบาลอ้างประชาธิปไตยแบบ  "ตาบอดคลำช้าง"  หรือเปล่า  กฎหมายบ้านเมืองก็ดี  กฎหมายทางศาสนาก็ดี  ตรงกันอยู่อย่างหนึ่งคือ  "ยึดเจตนา"  เป็นศูนย์กลางแห่งการวินิจฉัยผิด-ถูก  แล้วท่านเข้าใจมั้ยว่า  พ.ต.ท.ทักษิณออกมาระเบิดพลีชีพตัวเองครั้งนี้  "เจตนา"  คืออะไร  ถ้าจะบอกว่า  "ตีไม่ออก"  ก็ไม่เป็นไร

     แหกหูฟังที่ทักษิณมันพูดแต่ละวัน-แต่ละคำบ้างมั้ยว่า  นั่นมันส่อเจตนาจะเป็น  "ผีบุญคนที่ ๒"  ของเมืองไทยใช่ไหม!?

     กองทัพแดงของทักษิณนั้น  ผมสมเพชมากกว่าเกลียดชัง  มันทำอะไรกันเป็นนอกจากดมขี้ตีนพันธมิตรฯ  แล้วทำตาม  แต่ถ้าดมขี้ตีนแล้วทำตามให้ตลอดมันก็ดี  และมันจะไม่เป็นอย่างนี้  เพราะที่พันธมิตรฯ  เขาทำ  ทำด้วยเจตนาบนเป้าหมาย  "พิทักษ์รักษาสถาบัน"  บากบั่น-พิฆาตไอ้ชั่วชาติโกงบ้าน-กินเมือง  ไม่มีเรื่องแยกอำนาจ-แยกประเทศเพื่อสถาปนาตัวข้าเป็นอำนาจใหม่

     นี่..ตัวอย่างดีๆ  ของพันธมิตรฯ  อย่างนี้  กลับไม่ลอกไปทำตาม  ดันไปลอกตัวอย่างไม่ดี  เช่น  ยึดทำเนียบฯ  ดาวกระจายไปทำตาม  แล้วก็มาอ้างว่า  "พันธมิตรฯ  ทำได้  เสื้อแดงก็ทำได้"  อย่างนี้  มันเป็นตรรกะที่ใช้อิงเพื่ออ้างไม่ได้  เหมือนเห็นโจรปล้นร้านทอง  ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้  ก็จะอ้างปล้นบ้าง  ตำรวจจะจับก็เถียงว่า..ก็ทีไอ้นั่นยังจับไม่ได้  แล้วจะมาจับข้าได้ยังไง

     พันธมิตรฯ   ยอมทำผิดบางครั้ง  ก็เพื่อพิทักษ์รักษาสิ่งดี  ด้วยพร้อมยอมรับในความผิดนั้น  แต่กองทัพแดง  ไปจำลองผิดเขามาทำผิด  เพื่อพิทักษ์สิ่งจัญไรนายแม้ว  และสร้างความฉิบหายขายบ้าน-ขายเมือง  ซ้ำแข็งขืนขัดเคืองต่อระบบรัฐ-อำนาจรัฐ

     อย่างนี้มัน  "ประชาธิปไตยในรอยตีนควาย"  เถลือกไถลไปข้างๆ  คูๆ  ก็สมแล้วที่เป็นสมุนเจ้ามูลแม้ว  ตามคำโบราณที่ว่า  "นายเป็นแบบไหน  ขี้ข้าก็เป็นแบบนั้น"  เปี๊ยบเลย!

     ผมพูดถึง  "ผีบุญ"  ไว้ข้างบน  บางท่านอาจฉงนมันคือใคร?  ก็อยากเฉลยซักนิด  ย้อนไปเมื่อปี  พ.ศ.๒๕๐๒  ในยุคจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ปฏิวัติครั้งที่  ๒  และเป็นนายกรัฐมนตรี  มีเหตุเกิดขึ้นที่อำเภอโชคชัย  จังหวัดนครราชสีมา  ชาวบ้านร้อยกว่าคนฆ่านายอำเภอ  ครู ผู้ใหญ่บ้าน  และข้าราชการอีกหลายคนตาย  เมื่อเจ้าหน้าที่ยกกำลังไป  กองทัพชาวบ้านก็รบต้าน-รักษาเมือง

     สุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองปราบ  ตายไปก็มี  หนีกันแตกฉานซ่านเซ็นไปก็มี  ถูกจับกุมได้ก็มี  โดยเฉพาะ  "หัวหน้าใหญ่"  พาเมียสาวพร้อมลูกน้องจำนวนหนึ่งแหกวงล้อมเจ้าหน้าที่หนีไปได้

     โน่นแน่ะ  หนีจากโคราชไปเข้าป่าลึกทางอุบลราชธานี  เตรียมจะหนีออกประเทศลาว  ตำรวจจับได้เอาขึ้นรถไฟมาขังไว้ที่โคราช  จอมพลสฤษดิ์ให้เอาตัวมาที่กองปราบปรามสามยอด  กรุงเทพฯ  และไปสอบสวนด้วยตัวเอง  เสร็จแล้วให้เอาตัวกลับไปขังไว้ที่โคราชตามเดิม

     แล้วเมื่อวันที่  ๒๖  มิถุนายน  ๒๕๐๒  (๒๖  เหมือนกัน  แต่คนละเดือน-คนละปีที่ทักษิณสั่ง  "แดงทั้งแผ่นดิน")  คณะรัฐมนตรีก็ลงมติใช้  ม.๑๗  ยิงเป้าที่บริเวณป่าช้าจีน  โคราช  ด้วยความผิดอันเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า  ปลุกปั่นก่อการจลาจลในบ้านเมือง  แล้วแยกดินแดน  ประกาศตั้งอาณาจักรเป็นอิสระ  พร้อมสถาปนาตนเองเป็น  "พระเจ้าแผ่นดิน"!

     เขาผู้นั้นคือ  "นายศิลา  วงศ์สิน"  ที่เรียกกันว่า  "ผีบุญ"  อายุประมาณ  ๕๐  ปี  เดิมเป็นคนมีรกรากอยู่แถวๆ  อุบลฯ  ร่ำเรียนทางวิชาอาคมขลัง  ทำนองหมอผีจอมขมังเวท  จนมีคนหลงเชื่อมยอมเป็นสานุศิษย์ติดตาม  ได้ใช้รถบรรทุกหลายคันขนทั้งคน-ทั้งของเดินทางจากอุบลฯ  มาสร้างอาณาจักรที่หมู่บ้านไทยเจริญ  อำเภอโชคชัย

     ก็คงจะมีเงินหนา  เพราะมาถึงก็จ้างชาวบ้านไม่อั้นหักร้างถางพง  ปลูกอาคารบ้านช่องพร้อมสมุน-บริวารนับร้อยนั้นสถาปนาเป็นเมือง  ทำทางเข้าเมือง  แล้วทำป้อมปราการขึ้นรอบทั้ง  ๔  ทิศ  ให้ชาวบ้านถือปืนเป็นยามรักษาการณ์  เรียกว่าสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นปกครอง  และป่าวร้องไปทั่วว่า  จะสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน!

     เคราะห์ดีสมัยนั้นยังไม่มี  "วิดีโอลิงค์"  ไม่งั้นดังระดับ  CNN  ไปแล้ว!
     ผีบุญประกาศเช่นนั้น  ปรากฏว่าระดับนายอำเภอ  ปลัดอำเภอ  ครู  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  เขายังยอมไม่ได้  ไม่ต้องรอนายพล  นายหมื่นจากกรมตำรวจหรือจากกองทัพ  หรือจากเจ้ากระทรวงมหาดไทยยุรยาตรมาวินิจฉัย  เขาใช้มโนสำนึกของ  "ข้าในแผ่นดิน"  วินิจฉัยกันได้ลงตัว  ก็ยกขบวนกันเข้าไปตรวจสอบถึงพื้นที่

     ไปด้วยหวังดีต่อบ้านเมือง  แต่ถูกกองกำลังผีบุญผู้หวังร้ายต่อบ้านเมืองฆ่าตายดังกล่าว  อย่างนี้ค่อยคู่ควรกับคำว่า  "พลีชีพ"  หน่อย  เมื่อคณะผีบุญกำแหงหาญ  ตำรวจต้องยกกำลังเข้าไปล้อมจับ  ผู้แยกแผ่นดิน  ผู้ตั้งตนเป็นกษัตริย์จึงถูกจับ-ถูกประหารในที่สุด

     จอมพลสฤษดิ์ถามนายศิลา  วงศ์สิน  "ผีบุญ"  อยู่คำ  ก่อนส่งกลับไปรอโทษประหารว่า
     "ลื้อกำแหงคิดแบ่งแยกดินแดนละซี"
     ผีบุญไม่ตอบ  ได้แต่ก้มลงกราบตีนจอมพลสฤษดิ์  ตะกุกตะกักว่า...ผม..ผม..ไม่เคยคิดเลยครับ!

     เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า   ประชาชนนั้น  เกิดมาเพื่อเป็นผู้ตาม  ถ้าใครทำให้เชื่อได้-หวังได้  ประชาชนก็พร้อมตามผู้นั้น  และในทำนองนั้น  อำนาจรัฐ  มีเพื่อจัดระเบียบสังคมมิให้ใครไปตั้งตัวเป็นใหญ่  แยกบ้าน-แยกเมืองไปครอบครอง  หรือย่อยลงมาก็จะไม่ยอมให้ใครเหยียบหัวแม่ตีนใคร  นั่นคือความหมายของคำว่าประชาธิปไตย  แต่ถ้าอำนาจรัฐปล่อยให้เหยียบหัวแม่ตีนกันได้เปรอะไป  ใครตีนใหญ่กว่า-ประชาชนก็พร้อมตาม  โดยนิยามนี้  "ทหาร-ตำรวจ"  ต้องเข้าใจ  ไม่ใช่อ้างแต่ว่า  "ให้คนเสียหายมาแจ้งความ"  ทั้งที่ความผิดนี้เกิดขึ้นซึ่งหน้า  ในกรณีด่า  "ประธานองคมนตรี"  เป็นต้น  ทหารก็เช่นกัน  พูดเป็นอยู่คำเดียวว่า  "การันตีไม่ปฏิวัติ"  พูดทำไม..ใครต้องการให้ทหารปฏิวัติ..แต่แค่ไม่ปฏิวัติแล้วจะเคลมว่าเป็น  "ทหารประชาธิปไตย"  มันง่ายเกินไปนะท่าน  ประชาธิปไตยหรือปฏิวัติจะมีความหมายอะไร..ถ้าประเทศไทยไม่สุข  และไม่สงบ.

แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์  คอลัมน์ เปลวสีเงิน  วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552

G-20 Needs to ‘Put the Fire Out,’ Asean Envoy Says

LONDON - APRIL 1:  Queen Elizabeth II poses wi...Image by Getty Images via Daylife

Bloomberg

April 1 (Bloomberg) -- Thai Prime Minister Abhisit Vejjajiva said it would be a “great disappointment” if Group of 20 leaders fail to coordinate a global stimulus and head off social unrest in developing nations.

“It’s imperative that we try to move the global economy out of the current recession and make sure that the poorest are not hard hit,” Abhisit said in an interview with Bloomberg Television in London, where he was attending the G-20 Summit as chairman of the 10-member Association of Southeast Asian Nations. “Unless there is a rapid recovery we’ll see many more job losses and also possible social tensions.”

Southeast Asian countries are pushing for bigger rescue packages as demand for their computer chips, commodities and cars plunges amid the worst downturn since World War II. Exports by developing Asian economies may shrink 10.3 percent this year, after growing 14.7 percent in 2008, according to an Asian Development Bank report.

Abhisit took power in December after supporters shut down the country’s airports for eight days and a court dissolved the former ruling party for vote buying. Since then separate demonstrators have called on him to quit, and they have surrounded his Bangkok office complex for the past week.

G-20 heads of state have said the summit is unlikely to yield more spending plans and that they will focus on greater oversight of hedge funds, private-equity firms and derivatives markets. The recession is hitting developing Asia in “an increasingly severe manner,” the ADB report said, with 2 million job losses forecast this year in Thailand alone.

‘Still Burning’

“The fire is still burning and there are still a lot of people, very vulnerable people, still trapped inside,” said Abhisit, who oversees the country of 66 million people. “Surely the priority must be to put the fire out and make sure we protect people.”

The MSCI Asia Pacific excluding Japan Index has dropped 46 percent in the past year, while nine of 10 Asian currencies tracked by Bloomberg have dropped against the dollar in 2009.

Indonesia’s economy, Southeast Asia’s largest, expanded the least in two years in the fourth quarter, and Thailand is facing its first recession in a decade. Singapore is in its deepest downturn ever, while Malaysia’s economy grew at the slowest pace in seven years in the final three months of 2008.

“In a lot of emerging and developing economies we do not have a strong social safety net in place, so job losses there are much more devastating than job losses in industrial countries,” Abhisit said.

Stimulus Programs

Global economies need to introduce stimulus programs to create at least 90 million jobs by the end of next year to forestall a jobs crisis, the United Nation’s labor organization said March 25. Announced stimulus packages as a percentage of GDP for advanced economies averaged 1.3 percent, less than half that allocated by developing and emerging economies.

President Barack Obama has urged the G-20 to find a unified approach to the recession. In the run-up to the meeting, Germany, France and Australia have resisted the U.K.’s call for G-20 nations to increase spending.

Asian members of the G-20 include China, Japan, India, Indonesia and South Korea. The 19 developed and emerging economies plus the European Union represent 85 percent of the world economy.

Reserves

Asian governments, which hold about two-thirds of the world’s foreign-exchange reserves, have taken steps to shield their currencies from speculative attacks. Japan, China, South Korea and 10 Southeast Asian countries agreed in February to pool $120 billion to shore up regional stability.

The IMF said last month it would make loans easier to get for developing nations that have low inflation, moderate levels of foreign debt and sound public finances. Mexico said yesterday it would activate a credit line of at least $30 billion from the international lender.

Asian countries “welcomed” the new facility though the stigma attached to borrowing from the IMF might deter countries from using it, Abhisit said. The IMF forced them to adopt harsh economic policies in return for bailouts during the financial crisis a decade ago.

“What we would like to see is the possibility of tapping into countries with surplus reserves that somehow can find their way into helping developing economies,” he said. “The IMF could maybe act as coordinator, as a provider of guarantees.”

Thailand and the rest of Asean, where exports amount to 70 percent of gross domestic product, rely on developed countries to grow their economies. Many won’t start growing again until the world buys more of their goods, Abhisit said.

“It’s not often that you get so many leaders in the world to gather around,” he said. “The failure to respond, the failure to rise up to the challenge, will be very costly.”

Reblog this post [with Zemanta]

ตำรวจแดง ???



ตกลงรถคันนี้ เสื้อแดงยึดมา หรือว่าตำรวจดับเพลิงนนทบุรี กลางเป็นตำรวจแดง ที่รับใช้คนบางกลุ่มเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างหลัง ตำรวจไม่ทำหน้าที่ของตนอย่างเป็นกลาง ไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย




แม้ว:เด็กขี้แพ้แล้วงอแง! เปิดเกมสู้เพื่อขอต่อรอง

2755-Thailand-Bangkok-Government HouseImage by PnP! via Flickr

แม้ว:เด็กขี้แพ้แล้วงอแง! เปิดเกมสู้เพื่อขอต่อรอง
ไม่เข้าใจ'หน่วยค.มั่นคง' ปล่อยพาดพิงองคมนตรี

“เอก ยุทธ” ซัด “ทักษิณ” เหมือนเด็กขี้แพ้แล้วงอแง ทั้งที่อายุก็ 60 ปีแล้ว แถมเป็นถึงอดีตผู้นำปท. แต่ไม่รู้ว่าอะไรสมควรพูดหรือไม่สมควรพูด ดันไปกล่าวพาดพิง “ปธ.องคมนตรี-องคมนตรี” เชื่อเป็น “เกมต่อรอง” เพื่อหวังผลในเรื่องคดีความต่างๆ เย้ยเหมือนจิ๋กโก๋ปากซอย ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย แต่ดันส่งคนไปฟ้องร้องคนอื่นจวก “หน่วยความมั่นคงไทย” อ่อนแอ ปล่อยให้นักโทษหนีคุก กล่าวหาคนระดับองคมนตรีได้อย่างไร

กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนักโทษหนีคุกในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ ที่ปราศรัยผ่านวิดีโอลิงค์ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยตอนหนึ่งระบุว่า

“ขอเล่าว่า ที่มาของความวุ่นวาย คงจำได้ว่า ปลายปี 2547 ก่อนการเลือกตั้ง ก็มีการรวมตัวกันเล็กน้อย ที่สนามหลวงก็มีสหภาพแรงงานคนหนึ่ง ร่วมกับเอกยุทธ อัญชันบุตร-ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ก็ไปรวมตัวกันเล็กๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาพอเลือกตั้ง ไทยรักไทยชนะ ฝ่ายค้านอ่อนแอเกินไป

พอปลายปี 2548 เกิดกระบวนการรวมตัวของพันธมิตรฯ มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เริ่มต้นชุมนุมที่ลุมพินี โดยการเอื้อเฟื้อของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ประชาธิปัตย์ช่วยทางอ้อม นี่คือสิ่งที่เริ่มต้นของการต่อสู้นอกระบบ แค่นั้นยังไม่เท่าไหร่ แต่มีองคมนตรีบางท่านไปบอกกับสื่อ และแอบอ้างว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่เอากับผมแล้ว ผมพูดกับสื่อก็ยอมรับ มีองคมนตรีบางคน”

ในเรื่องนี้นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ประธานบริหารเครือโอเรียนเต็ล มาร์ท กรุ๊ป ประเทศอังกฤษ เปิดเผยว่า เฉพาะตน ไม่ปฏิเสธว่าจะล้มทักษิณ เพราะประกาศชัดเจนว่าจะล้มเค้า ตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อปลายปี 2547 เพราะเห็นถึงพฤติกรรมอันตรายหลายอย่างที่ “ทักษิณ” ทำไว้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ

“คนเป็นถึงอดีตนายกฯ ต้องรู้จักเรื่องความมั่นคงของชาติ ว่าอะไรสมควรพูดหรือไม่สมควร แต่กรณีนี้คงใช้กับทักษิณไม่ได้ เพราะคนๆ นี้ไม่มีวุฒิภาวะ การกล่าวพาดพิงถึงองคมนตรี ว่าอยู่เบื้องหลังนั้น เหมือนเด็กงอแง ขี้แพ้แล้วงอแง ทั้งที่อายุก็ 60 ปีแล้ว ทั้งนี้ประชาชนจะเป็นคนตัดสินใจเอง ว่า ทั้งพล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) หรือพล.อ.สุรยุทธ์ (จุลานนท์) เกี่ยวข้องจริงหรือไม่”


เมื่อถามว่า การปราศรัยของพ.ต.ท.ทักษิณ มีการแอบอ้างสถาบันบ่อยครั้ง นายเอกยุทธ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า เป็นเกมต่อรอง และคงไม่หยุดแค่นี้ โดยเฉพาะในเรื่องคดีต่างๆ ที่ทักษิณกำลังจะโดน รวมไปถึงคดีที่โดนอายัดทรัพย์ 7.3 หมื่นล้านบาท จึงมีการให้ลูกสมุนไปเร่งผลักดันกฎหมายปรองดองแห่งชาติ เพื่อให้ตัวเองหลุดคดี แต่ที่ตนแปลกใจก็คือ คนเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย แต่มากระทำการเช่นนี้ หลายครั้งมีการพูดพาดพิงสถาบัน ทำไมหน่วยงานความมั่นคงของไทย ไม่จัดการอะไรเลย ซึ่งต้องโดนตำหนิ เพราะอย่าลืมว่า ทักษิณก็อยากกลับมามีอำนาจ เขาก็ต้องทำเช่นนี้ ทำทุกทาง เพราะเค้าไม่มีอะไรจะเสีย

แต่หน่วยความมั่นคงของเรา ไปมัวทำอะไรกันอยู่ ปล่อยให้นักโทษหนีคุกมากล่าวหาคนเป็นประธานองคมนตรีและองคมนตรี ผิดถูกอย่างไรไปว่ากัน แต่ไม่มีปัญญาทำอะไรกันเลยหรือ อย่าง ‘บุตโต’ ลี้ภัยอยู่อังกฤษก็ไม่มีใครทำอะไร แต่พอกลับมาจะเป็นใหญ่ในประเทศ ก็โดนบึ้มพลีชีพ ก็จบ

ผมถามว่า ความมั่นคงของชาติจะเอาไว้หรือไม่

เค้าบอกเค้าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม แต่เห็นว่า เพิ่งให้ทนายไปฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล อย่างนี้มันบ้าหรือเปล่า ตอนนี้มันเป็นเงินตราภิวัฒน์มากกว่า ที่ซื้อพวกหน้าโง่ต่างๆ ได้”นายเอกยุทธกล่าว

เมื่อถามว่า แล้วกับคำพูดที่บอกให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาศร์ ผบ.สส.ว่า “ให้พาลูกน้องกลับที่ตั้ง อย่ายุ่งการเมืองอีก”

นายเอกยุทธกล่าวว่า “ทักษิณพูดฝ่ายเดียว ผมก็พูดได้ แต่ต้องดูพฤติกรรมว่า ทหารทำมา ดีขึ้นหรือไม่ อย่าคิดว่า ทหารเรียนมาด้วยกัน จะดี-จะชั่ว เหมือนกันหมด คนคิดถึงประเทศชาติก็มีอยู่ การพูดฝ่ายเดียว ต้องดูที่การกระทำของพล.อ.อนุพงษ์และผบ.สส.ดีกว่า”

นายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า “ภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในต่างประเทศยังดูดี และให้ความเชื่อถือ ไม่มีหรอก Thailand is a joke. ที่ทักษิณชอบเหน็บ

ผมพูดมาตลอด ถ้าคุณคิดเช่นนี้ ก็อย่ากลับมาอยู่เมืองไทยสิ ไปอยู่ประเทศที่เค้าต้อนรับคุณสิ ความฝันกลับมาเป็นนายกฯ แก้ปัญหาประเทศชาตินั้นเลอะเทอะ ปัญหาตัวเองยังแก้ไม่ได้ ผมมองว่าน่าสงสารมากกว่า เค้าเกิดอาการที่เกินกว่าสมองคนธรรมดาจะรับได้”

สำหรับกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตำหนิถึงรัฐธรรมนูญปี 2550 นายเอกยุทธ กล่าวว่า ตนก็ยอมรับว่า จุกจิกและหยุมหยิม แต่ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ไม่ควรส่งลูกพรรคคุณลงสมัครผู้แทน แต่เมื่อคุณยอมรับแล้ว แถมตัวเองยังได้คะแนนเสียงมากสุด แต่ต่อมาการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลพลิกผัน ก็มาอ้างว่ามันไม่ถูกต้อง ถ้าบอกว่าไม่ดี ทำไมไม่แก้ตั้งแต่ตอนที่ลูกน้องตัวเองมาเป็นรัฐบาล

“แต่ละประเทศมีกฎหมายไม่เหมือนกัน ให้เป็นนักโทษทางการเมือง ก็อยู่อังกฤษได้หมด แต่ที่อังกฤษจะไม่ยอมรับเลยคือพวกฟอกเงินและโกงภาษี
ดังนั้นต้องรู้ตัวว่า ทำไมถึงเข้าประเทศอังกฤษไม่ได้
จะมาบอกว่า กระบวนการยุติธรรมไทยไม่ยุติธรรม แล้วคุณให้ทนายมาฟ้องคนอื่นทำไม หากศาลตัดสินไม่เข้าข้างคุณ ก็บอกไม่ยุติธรรม อย่างนี้พูดแบบจิ๊กโก๋ปากซอย”นายเอกยุทธกล่าว

นายเอกยุทธ กล่าวอีกว่า “สุนัขที่เห่าอยู่นอกบ้านไม่มีพิษภัยหรอก หากหน่วยความมั่นคงของไทยเรามีประสิทธิภาพจริง แต่เวลาผมมองว่า การกระทำของกลุ่มทักษิณ ทำไมถึงไปสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของจปร.7

ผมเองก็อยู่ร่วมขบวนตอนกบฏ 9 กันยาฯด้วย ก็มีหลายเรื่องที่เรารู้ แต่พูดไม่ได้ ทั้งพล.อ.พัลลภ (ปิ่นมณี)-พล.ต.มนูญกฤต (รูปขจร) ที่ออกมาในเวลานี้ ประกอบกับทักษิณเคลื่อนไหวหนักขึ้น แบบเปิดหน้าเองตรงๆ แต่เวลานี้อยากให้สังเกตว่ามีการใช้ยุทธศาสตร์แยกกันเดิน-รวมกันตี และเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่พล.อ.เปรม-พล.อ.สุรยุทธ์ โดยกลุ่มคนที่ไม่ชอบพล.อ.เปรม รวมตัวกันมาเล่น

หากแก้ไขเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ และเคลียร์ปัญหานี้ไม่ได้ แล้วถ้าประชาชนแคลงใจ ผลสุดท้ายจะตกไปสู่สถาบัน ต้องระวังให้ดี รวมไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีภาพลักษณ์ผูกติดกับชนชั้นสูง ก็อาจได้รับกระทบจนถึงขั้นยุบพรรคก็ได้”

Reblog this post [with Zemanta]

ศาลไม่รับฟ้อง"โอ๊ค"ยื่นฟ้องสรรพากรอายัดทรัพย์ พิเคราะห์ไม่อยู่ในเขตอำนาจ สั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ศาลปกครองสูงสุดยืนตามศาลปกครองกลาง ไม่รับฟ้อง พานทองแท้ ยื่นฟ้องกรมสรรพากรกับพวกรวม 7 คน อายัดทรัพย์ พิเคราะห์ไม่อยู่ในเขตอำนาจพร้อมให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ว่า  ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับฟ้องและให้จำหน่ายคดีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องกรมสรรพากรกับพวก รวม 7 คน เรื่องออกคำสั่งโดยมิชอบกรณีที่กรมสรรพากรมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานยึดอายัด ทรัพย์สินของนายพานทองแท้ เพื่อชำระภาษีจากการขายหุ้น บริษัทชินคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด มหาชน ออกจากสารบบกลาง
 
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครอง แต่อยู่ในเขตศาลภาษีอากรกลาง จึงมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครอกลาง ไม่รับฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบกลาง

 สำหรับคำฟ้องดังกล่าว นายพานทองแท้ ได้ระบุว่า กรมสรรพากรได้มีคำสั่งให้ชำระภาษีขายหุ้น โดยนายพานทองแท้ได้นำบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ ไปเป็นหลักค้ำประกัน แต่กรมสรรพากรไม่รับ เนื่องจากเห็นว่า เป็นบัญชีซึ่ง คณะกรรมการตรวจสอบกานกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) อายัดไว้ แล้วได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่มายึดอายัดทรัพย์สินเพื่อชำระค่าภาษี

matichon

ทูตสหรัฐฯเข้าพบ"พล.อ.เปรม" ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯอดเจอ

ฑูตสหรัฐฯเข้าพบ"พล.อ.เปรม" ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯอดเจอ 
(ดัดแปลงพาดหัวให้เป็นกลาง และแก้คำผิด จากของเดิม "ทูตสหรัฐฯดอดพบ"เปรม" ทำศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯอดเจอ")


เมื่อเวลา 10.00 น. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ นายวีระ สมความคิด พร้อมด้วยตัวแทนศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรุ่นที่ 88-90 เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ หลังถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โจมตีว่าเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญและอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549


นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต่อต้านการคอร์รัปชั่น ในฐานะศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่น 90 กล่าวว่า เมื่อมีศิษย์เก่าของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยถูกรังแก เราจึงรับไม่ได้ และ ยอมไม่ได้ ไม่เห็นด้วยที่ใครจะมารังแก พล.อ.เปรม ตนและศิษย์เก่าจึงมาให้กำลังใจท่าน ที่ผ่านมาถูก พ.ต.ท.ทักษิณ โจมตี ยืนยันว่าไม่ได้เดินทางมาในนามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่เป็นห่วงรุ่นพี่ ทั้งนี้ ไม่อยากให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยก


"หากกลุ่มเสื้อแดงยังคงชุมนุมยืดเยื้อต่อไป เกรงว่าจะเกิดการปะทะกับคนเสื้อเหลืองหรือพันธมิตรฯ ได้ ไม่ว่าคนเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง ก็มีศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ ทั้งสิ้น ทั่วประเทศมีหลายหมื่นคน อยากให้สองฝ่ายมานั่งคุยกันอย่างจริงจัง โดยเชื่อว่าขณะนี้ยังสามารถคุยกันได้ ไม่มีปัญหา คิดว่าจะนัดหารือกันในวันเสาร์หรืออาทิตย์นี้" นายวีระ กล่าว


นายพิเชียร กล่าวว่า ศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ ไม่มีเสื้อเหลือง เสื้อแดง แม้ขณะนี้ศิษย์เก่าของ สวนกุหลาบฯ จะมีนายเนวิน ชิดชอบ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ยังพูดคุยกันได้ไม่มีปัญหา ไม่เคยขัดแย้ง และถ้าจำเป็นตนจะเป็นคนเชิญศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ พูดคุยกัน เพราะหากเราสามารถเชื่อมจุดเล็กๆ ได้ ก็จะนำไปสู่จุดใหญ่ๆได้ เราชาวสวนกุหลาบฯจะแสดงให้เห็นความรัก ความสามัคคี


ขอให้กำลังใจป๋าเปรม ยืนยันว่าท่านไม่โดดเดี่ยว ยังมีลูกหลานป๋าเปรม ทั่วประเทศให้กำลังใจ ทั้งนี้หากมีโอกาส ผมจะเดินทางไปคารวะให้กำลังใจ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เพราะท่านเคยเป็นนายกฯศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯ มา 3 สมัย และทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ”นายพิเชียรกล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ประสานให้กลุ่มดังกล่าวเข้าพบ พล.อ.เปรม ปรากฏว่ารถจากสถานฑูตฯ สหรัฐอเมริกาวิ่งเข้าไปในบ้านสี่เสาเทเวศร์เข้าไปก่อน จากนั้น พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี ได้เดินออกมารับดอกไม้แทน พล.อ.เปรม พร้อมแจ้งว่า พล.อ.เปรม ได้รอคณะศิษย์เก่าเดินทางเข้าพบภายในบ้านพัก แต่เนื่องจาก นายอีริค จี. จอห์น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เดินทางมาเข้าพบในเวลาเดียวกันพอดี


พล.ร.ท.พะจุณณ์  กล่าวกับคณะศิษย์เก่าว่า พล.อ.เปรม ฝากขอบคุณทกคน ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ยืนยันว่า พล.อ.เปรม ยังมีความหนักแน่น เมื่อถามว่า จะเปิดบ้านให้ข้าราชการทหารตำรวจเข้ารดน้ำดำหัวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประมาณวันที่ 10 เมษายนนี้หรือไม่ พล.ร.ท.พะจุณณ์ กล่าวว่า ในปีนี้คงต้องรอดูสถานการณ์วันที่ 8 เมษายนนี้ก่อน แต่ พล.อ.เปรม มีกำหนดการเดินทางไปร่วมงานวันสัญญาธรรมศักดิ์  ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ในวันที่  5 เมษายนนี้ด้วย

matichon

สหรัฐฯต้องการใช้ยุทธศาสตร์ร่วมเอเชียให้พม่าเลิกโดดเดี่ยว

    นายจิม สไตเบอร์ก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยกับ"สถาบันวิจัยเอเชียแห่งชาติ"ที่กรุงวอชิงตัน ดีซีของสหรัฐฯว่า สหรัฐต้องการหารือเรื่องการใช้ยุทธศาสตร์ร่วมกันกับสมาคมประชาชาติเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และกับจีน ,อินเดีย และญี่ปุ่น เพื่อหาทางเกลี้ยกล่อมให้รัฐบาลทหารพม่าเลิกโดดเดี่ยวตัวเอง และหานโยบายที่จะปรับปรุงชีวิตของชาวพม่า กับส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคแถบนี้ สหรัฐฯเปิดกว้างที่อาจมีการจัดตั้งกรอบการเจรจาที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งมีต้นแบบมาจากการเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อพยายามยุติปัญหาอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี เพราะการแก้ปัญหาหลายๆประการของโลกไม่จำเป็นต้องทำด้วยการจัดตั้งหน่วยงาน หรือสถาบันใหม่ๆอย่างเป็นทางการ เสมอไป
    นายสไตเบอร์กกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯต้องการวิธีการเข้าหาพม่าแบบร่วมมือกันและสร้างสร้างสรรค์และว่าชาติ ต่างๆที่ มีอิทธิพลต่อพม่าสมควรหลีกเลี่ยงที่จะใช้วิธีแข่งขันกัน เพราะการมองความสัมพันธ์กับประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องเผด็จการอย่างพม่าว่า เป็นทฤษฏีเกม (zero-sum game) ซึ่งคะแนนที่ผู้ชนะได้ไป เท่ากับคะแนนที่ผู้แพ้เสียนั้น จะไม่เป็นประโยชน์แก่ชาติใดเลย
    ที่ผ่านมา ชาติเอเชียส่วนใหญ่รวมทั้งอาเซียนพยายามเข้าหาพม่า รวมทั้งจีนซึ่งเป็นคู่ค้าหลักและเป็นหุ้นสาวนทางทหารกับพม่า ซึ่งวิธีการของเอเชียแตกต่างจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรพม่าเพื่อกดดันให้พม่าปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชน และปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี ผู้นำการเรียกร้องประชาธิปไตยในพม่า นายสไตเบอร์กยืนยันว่า เป้าหมายหลักต่างๆของสหรัฐยังคงเหมือนเดิม กล่าวคือ ต้องการให้พม่าเป็นประเทศที่เปิดกว้างมากขึ้น เคารพสิทธิของประชาชน และเข้ามีส่วนร่วมกับเศรษฐกิจโลก สหรัฐฯกับเอเชียมีความสนใจร่วมกันที่จะร่วมกันทำงานเพื่อให้มีทางออกอย่าง สร้างสรรค์ โดยทำให้รัฐบาลทหารพม่าเชื่อว่าวิธีการที่ใช้อยู่ไม่เป็นผลดีสำหรับพวกเขา เอง

Reblog this post [with Zemanta]

ทักษิน เปิดหลักฐาน ไม่กลัวยึดพาสพอร์ทไทย ได้เพื่อนอดีตผู้ต้องหา ช่วยเหลือ

http://matichon.co.th/online/2009/04/12385900381238590066l.jpghttp://matichon.co.th/online/2009/04/12385900381238590095l.jpg


มติชน เปิดเผย หลักฐานหนังสือเดินทางนักการฑูต เล่มใหม่ของทักษิน ออกโดยประเทศนิคารากัว ที่อยู่ตอนใต้สุดของอเมริกาใต้ (3)


คงต้องคอยดูว่า ทักษินจะเข้าออกประเทศต่างๆได้เหมือนเดิมโดยใช้หนังสือเดินทางเล่มนี้หรือไม่ ต่างประเทศห้ามเข้าด้วยเหตุผลเพราะตัวบุคล หรือเมื่อเป็นบุคคลของประเทศอื่นแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะไม่ถูกกระทบไปด้วย

เพื่อนทักษิน คืออดีตผู้ต้องหาคดีข่มขืนลูกเลี้ยงตัวเอง

เห็นรูปประธานาธิบดี ออร์เทก้า (Daniel Ortega) ผู้นำนิคารากัว กับทักษินแล้ว เห็นว่ามีความคล้ายกันหลายอย่าง ปธน. ออร์เทก้า โดนลูกเลี้ยงสาว กล่าวหา ว่าล่วงละเมิดเธอ เป็นเวลาถึง 19 ปี (1) ตั้งแต่เธออายุ 11 ปี แม้จะมีกลุ่ม human rights ต่างๆ กลุ่มสิทธิสตรี รวมทั้ง ทีมทนาย 15 ชาติคอยสนับสนุนเธอ แต่คดีข่มขืนนี้ ก็ถูกยกฟ้องโดยผู้พิพากษา แห่งนิคารากัว (2) ขณะนั้น ออร์เทก้าก็ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอยู่ คดีนี้เป็นเรื่องที่ทำให้ชาวนิคารากัวตกตลึงเป็นอย่างมากในขณะนั้น


ZOILAMERICA NARVAEZ MURILLO, ลูกเลี้ยงของออร์เทก้า
ภาพจาก http://losmotivosdelzorro.blogspot.com/


ทักษิน กับลูกต่างสายเลือด กับเสียงเล่าลือ ที่ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่


Comment from MGR
To all red shirts: this is what’s going to happen in Thailand if Thaksin (now Ortega’s crony), can return to Thai politic as leader. Read and WEEP!

“I am a U.S. citizen who has lived in Nicaragua for 6 years. My wife is Nicaraguan as are many of my friends. If there were any doubts as to who controls the CPC, everyone here understands now they are agents of the Ortegas and were put in place to help “el commandante” build a cuban-style police state. The Ortegas’ own the Supreme Court and the Electoral commision have completely neutralized the political opposition through threats, blackmail, and bribery. This is not about Sandanismo- this is about complete power for the Ortega-Murillo family. Daniel was elected(with 38% of the vote) by splitting the opposition and proclaiming he was “the New Daniel”. Leading up to the election, he dropped all his Marxist rhetoric and turned into a social democrat. Once he was elected, he was the old Daniel. Back to the Future. Nicaragua has returned to the 80s with a vengeance .The Ortegas were the last thing this sad country needed. Very shortly, the violence will start. Many foreigners have already left, and the real estate market has virtually collapsed.”
(from COHA , Council on Hemisphere Affairs, June 18, 2008 web-blpgs)

คร่าวๆคือ ออร์เทก้า คุมรัฐตำรวจ คุมศาล และกระบวนการยุติธรรมได้ ไม่เว้นแม้แต่คณะจัดการเลือกตั้ง ออร์เทก้าก็สั่งได้ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ คดีข่มขืนลูกเลี้ยงไม่ได้รับการพิจารณา

และถ้าทั้งหมดนี้ เป็นความจริง ก็จะยิ่งตอกย้ำความเหมือนของคู่หู สองคนนี้

(1) http://www.encyclopedia.com/doc/1P2-642850.html
(2) http://www.encyclopedia.com/doc/1G1-81624483.html
(3) http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1238590038&grpid=00&catid=01
(4) http://www.nytimes.com/1998/05/28/world/world-news-briefs-ortega-s-stepdaughter-files-charges-of-rape.html

Reblog this post [with Zemanta]

ภาพการประท้วงการประชุม G-20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

Protesters close to Britain's central bank attempt to convey their message to G-20 leaders.A protester smashes one of the Royal Bank of Scotland windows as scuffles threatened to escalate.Protests at the U.S. Embassy were vocal but there was no violence at the heavily-guarded building.Protesters take part in the "Apocalypse March" close to Liverpool Street station earlier Wednesday.

ความรุนแรงเกิดจากความโกรธแค้นที่อดีต CEO ของ Royal Bank of Scotland ออกจากตำแหน่งโดยได้รับเงินหลายล้านเหรียญอเมริกัน ในขณะที่ธนาคาร แจ้งขาดทุน และรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล

Label Cloud