Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Monday, October 5, 2009

บึ้มสนั่น!! ข้างรั้วเอเอสทีวี ตร.ยังไม่รู้ระเบิดอะไร

Crime - Manager Online
ตำรวจยังไม่รู้วัตถุต้องสงสัยริมรั้วสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีเป็นระเบิดชนิดไหน ต่อวงจรระเบิดไว้พร้อม ระบบยังไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดทำลาย ระเบิดตูมดังสนั่นหวั่นไหว เชื่อคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์

(5 ต.ค.) เวลา 11.30 น. ร.ต.ท.ชาญชัย จังวัง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยภายในสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ สว.สส. พ.ต.ท.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย สวป. ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. บช.น.

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณขอบปูนสำหรับปลูกต้นไม้อยู่ติดกับรั้วบ้านเจ้าพระยา สถานที่ตั้งสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี เจ้าหน้าที่พบถุงพลาสติกใสภายในมีท่อพีวีซีต่อสายไฟระโยงระยางออกมา โดยมีเทปกาวสีน้ำตาลอ่อนพันไว้ และมีนาฬิกาอยู่ภายในถุงด้วย หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบเพื่อกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ จากนั้นได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดน้ำเข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว จนเกิดเสียงระเบิดตูมขึ้นดังสนั่นหวั่นไหว

หลังสิ้นเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอีกครั้งพบว่ามีเศษท่อพีวีซีแตกกระจายไปทั่วบริเวณ พร้อมตะปูเข็ม เศษแบตเตอรี่ ชิ้นส่วนสายไป และพลาสติก รวมทั้งชิ้นส่วนนาฬิกา กระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงเก็บรวบรวมเป็นหลักฐานก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพิสูจน์ต่อไป ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นระเบิดชนิดไหน ได้แต่ระบุว่าระเบิดได้ถูกต่อวงจรไว้สมบูรณ์และพร้อมทำงาน แต่เมื่อใช้ปืนแรงดันสูงยิงทำลาย ปรากฏว่าเกิดระเบิดขึ้นบางส่วน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าระเบิดประกดอบไว้ไม่สมบูรณ์ ต้องส่งพิสูจน์อีกครั้ง

ด้าน พ.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า จากการสอบสวนพนักงานทำความสะอาดของเขตพระนคร ที่รับผิดชอบดูแลความสะอาดภายในสวนสันติชัยปราการให้การว่า พบเห็นถุงใบดังกล่าวซุกซ่อนในพุ่มไม้มาประมาณ 2-3 วันแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งวันนี้มีม็อบเอ็นจีโอมาตั้งแถว และเมื่อม็อบกลับไปจึงเข้าไปทำความสะอาด และได้ดึงถุงพลาสติกออกมาก็พบท่อพีวีซี และสายไฟโผล่ออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ของสวนสันติชัยปราการ ให้รับแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

“ในเบื้องต้นทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีอยู่ ซึ่งเราจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์” พ.ต.ท.สมยศ กล่าว


เสียใจ | คอลัมน์ ปิดไม่ลับ มติชนรายวัน (เสียงบ่นจากสมัคร)

หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน

เสียใจ

คอลัมน์ ปิดไม่ลับ
ชะตากรรมของ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดอาญากรณีสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ถือเป็นเคราะห์กรรมที่มาจากการกระทำของตนเองในช่วงดำรงตำแหน่งบริหารสูงสุด ที่ต้องไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

แต่สำหรับอดีตผู้นำอีกคนหนึ่งที่ละวางจากการเมือง เก็บตัวเงียบไม่ออกสังคม แต่คนในวงการเมืองไม่เคยลืมคือ "สมัคร สุนทรเวช" อดีตนายกฯอีกคนหนึ่ง ที่ประสบชะตากรรมหลุดจากตำแหน่งเพราะการกระทำของคนกันเองที่อยู่ต่างแดน จากคนที่สนิทคุ้นเคยที่ก่อนหน้านั้นโทรศัพท์หาเช้าสายบ่ายเย็น ปรึกษาหารือกันอย่างใกล้ชิด ซึ่ง "ป๋าหมัก" ก็รับใช้จนหัวชนฝา

เมื่อหมดความสำคัญก็เข้าตำรา "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" และการหักหลังทางการเมืองหนนั้นทำให้ "สมัคร" รู้สึกเจ็บปวดที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ทำใจเพราะอาการเจ็บป่วยทางกาย จึงต้องละจากการเมืองโดยเด็ดขาด

ทุกวันนี้เจ้าตัวอยู่บ้าน มีเฉพาะบรรดามิตรสหายที่รู้ใจพากันไปเยี่ยมเยียนถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ พูดคุยเรื่องการเมืองบ้างในบางโอกาส แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจถือเป็นสาระสำคัญ

แต่สิ่งหนึ่งที่คนสนิทที่เข้าไปเยี่ยมเยียนเปรยให้หลายๆ คนฟังว่า "สมัคร"เคยพูดให้ฟังว่า "ทุกวันนี้ยังมีสิ่งที่เสียใจมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง"

คือตั้งแต่หลุดออกจากเก้าอี้นายกฯและมีโรคภัยเข้ารุมเร้าเป็นข่าวใหญ่โตมานานกว่า 1 ปี "สมัคร" ยังไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากคนที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเลยสักครั้งเดียว


เพราะอย่างน้อยก็น่าจะโทร.เข้ามาทักทายถามไถ่ให้กำลังใจในฐานะคนที่รู้จักและทำงานร่วมกันมา แต่ไม่เคยสักครั้งเดียวที่จะได้เสียงกริ๊งจากแดนไกล

จึงพากันสงสัยว่า ทำไม "ทักษิณ" ที่สามารถโฟนอินคุยกับใครๆ โฟนอินคุยกับคนเสื้อแดง โฟนอินคุยกับแท็กซี่

แต่ทำไมแค่น้ำใจ "โฟนอิน" หาคนชื่อ "สมัคร สุนทรเวช" คนที่อยู่แดนไกลอย่าง "ทักษิณ" จึงทำไม่ได้...


ปุจฉา-วิสัสชนา รัฐธรรมนูญปี-40 และ 50 comment จาก Matichon.co.th

คุณ : กำนันก้ว comment 19-20 Matichon.co.th

ปุจฉา
**สส.ขายตัวหรือย้ายพรรคหลังการเลือกตั้งได้หรือไม่


**รัฐธรรมนูญปี-40 สามารถขาย สส. ยกเข่งรวมได้โดยขายทั้งพรรคมีกี่คนก็ขายหมด มีตัวอย่างให้เห็นคือพรรคความหวังใหม่-บิ๊กจิ๋วเป็นหัวหน้า พรรคชาติพัฒนา-คุณสุวัฒน์เป็นหัวหน้า-ขายยกเข่งให้พรรคไทยรักไทย-ขอถามผู้ ขาย-ผู้ซื้อการทำเช่นนี้เป็นการหลอกลวงประชาชนที่เลือกพวกท่านเข้ามาหรือไม่

**รัฐธรรมนุญปี-50 ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ขายเหมายกเข่งหรือขายตัวรายบุคคล ดังนั้น พวกสส.จึงไม่ชอบเรียกร้องให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี-40

**พี่น้องเสื้อเหลือง+เสื้อแดง โปรดตัดสินใจให้ดีอยากให้ สส.เป็นแบบไหน


ปุจฉา-วิสัสชนา
**หัวหน้าพรรคมีหน้าที่ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมในการกวดขันไม่ให้เกิดการซื้อเสียงหรือไม่


**รัฐธรรมนูญปี-40 ไม่ต้องดูแลกวดขันขณะเดียวกันก็อาจแอบส่งซิกให้ซื้อเสียง*เพราะไม่มีบท บัญญัติ-ลงโทษห้ามไม่ให้เล่นการเมืองห้า(5)ปี

**รัฐธรรมนุญปี-50 มีบทบัญญัติให้ลงโทษหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารห้ามเล่นการเมืองห้า(5)ปี
ดังนั้นทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการต้องช่วยกันไม่ให้เงินลูกน้องไปซื้อ เสียง ตัวเองก็ต้องไม่ซื้อเสียงและต้องห้ามลูกน้องไม่ให้ไปซื้อเสียงด้วย เขียนไว้ในมาตรา 237 ครับ

**สส.ที่โกงการเลือกตั้งหรือซื้อเสียงเลือกตั้ง เมื่อได้เป็น สส. หรือเป็นรัฐบาลก็ต้องไปถอนทุนคืน โดยการทุจริตทุกอย่างไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม มาตรานี้ สส.ไม่ชอบเป็นที่สุด นายทุนใหญ่ก็ไม่กล้าเสี่ยงลงทุนซื้อเสียงเพราะหากจับได้ลงโทษหนัก

**เสื้อแดง+เสื้อเหลือง หากอยากได้สส.ที่โกงการเลือกตั้งก็ให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี-40


"นพดล"ปัดข่าว"แม้ว"ออกจากดูไบ เตือน"เทพไท"ระวังปาก

Matichon Online
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ระหว่างการตัดสินใจย้ายที่พำนักไปประเทศอื่น เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศของไทย กดดันกงสุลใหญ่ของประเทศไทยประจำประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ติดตามความเคลื่อนไหวและรายงานมายังไทยตลอดเวลา ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ อาจตัดสินใจย้ายไปพำนักในประเทศที่ไม่มีกงสุลไทย หรือเอกอัครราชทูตไทยประจำอยู่ในประเทศนั้นๆ ว่า ได้ตรวจสอบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่อย่างเป็นปกติที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และยังสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ตามปกติ ไม่มีการกดดันใดๆจากใครทั้งสิ้น

นายนพดล กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีความจงรักภักดีมากกว่าตน ว่า คำพูดดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาท ยืนยันว่าตนมีความจงรักภักดีเท่าเทียมกับคนไทยทุกคน จริงๆ ไม่อยากจะให้ราคาหรือลดตัวไปตอบโต้กับนายเทพไท อยากให้ยุติการพูดแบบเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ผูกขาดการรักชาติด้วยปากแต่เพียงผู้เดียว เรื่องที่อ่อนไหว ละเอียดอ่อนแบบนี้ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นการเมือง ที่ผ่านมาเคยมีคนถูกศาลตัดสินให้จำคุกมาแล้ว เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่วนตัวไม่อยากฟ้องร้องนายเทพไท เพราะเคยรู้จักกันมาก่อน ก็ขอฝากนายอภิสิทธิ์ให้เตือนโฆษกประจำตัวบ้าง วันนี้กรุงเทพโพลสำรวจผลออกมาว่า นายอภิสิทธิ์สอบตกได้คะแนนแค่ 4 กว่าจากเต็ม 10 คะแนน โดยเฉพาะเรื่องความปรองดอง ดังนั้นอย่าปล่อยให้โฆษกประจำตัวออกมาปล่อยมลพิษรายวัน สร้างความแตกแยกในสังคม


เทพไทถามเฉลิม ยังเป็นคนไทยหรือไม่?

โพสต์ ทูเดย์ - เทพไทเปรียบเหลิมไส้ศึกอยุธยา
เทพไทถามเฉลิมยังเป็นคนไทยหรือไม่? กรณีส่งคลิปกษิตให้ฮุนเซน

(4ตุลาคม) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย นำคลิปวีดีโอปราศรัยของ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปให้นายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการแสดงท่าทีของนายกษิตก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่การที่ ร.ต.อ.เฉลิม หยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเป็นปัญหาความไม่เข้าใจระหว่างประเทศ อยากถาม ร.ต.อ.เฉลิม ว่ากำลังคิดอะไร และทำเพื่ออะไร เพราะกำลังเอาผลประโยชน์ของชาติมาสนองตัณหาทางการเมืองอย่างนั้นใช่หรือไม่ และอยากให้กลับไปดูประวัติของอยุธยาที่แตก เพราะคนไทยเป็นไส้ศึกกันเอง

นายเทพไท กล่าวว่า วันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม กำลังทำตัวเหมือนคนไทยคนนั้นใช่หรือไม่ การเอาความในประเทศที่เป็นเรื่องส่วนบุคคลไปสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความเสียหายย่อมเกิดขึ้นกับประเทศชาติอย่างแน่นอน

จึงอยากตั้งคำถามดังๆกับร.ต.อ.เฉลิม
ว่ายังรักประเทศไทยอยู่หรือเปล่า คุณคือคนไทยอยู่หรือเปล่า


ถ้ากรณีดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ถึงขั้นบานปลาย จนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร.



ผลเลือกตั้งนายกฯเล็ก เชียงใหม่

โพสต์ ทูเดย์ - ผลเลือกตั้งนายกฯเล็กเชียงใหม่
ทัศนัยชนะเลือกตั้งนายกเล็กเชียงใหม่ได้24,384คะแนน

(5ตุลาคม) สรุปผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศบาลนครเชียงใหม่อย่างไม่เป็นทางการ

นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ผู้สมัคร หมายเลข 2 ได้คะแนนสูงสุด 24,384คะแนน
นางวิภาวัลย์ วรพุทธิพงษ์ หมายเลข7 ได้13,197คะแนน และ
รอ.เอกหญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ หมายเลข1ได้ 6,958 คะแนน

ทั้งนี้ การนับคะแนนเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อเวลาประมาณ 03.07 น. มีผู้มาใช้สิทธิ์ 64,871 คน คิดเป็น 60.99 % จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 106,366 คน มีบัตรเสีย1,534 บัตร คิดเป็น 2.37% ใบ ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนจำนวน 4,444บัตร คิดเป็น 6.85%


ปชป.งัดคลิป แฉคนใกล้ชิด"ทักษิณ"

Suvarnabhumi is such a curvy airport...Image by antwerpenR via Flickr
ปชป.งัดคลิปแฉคนใกล้ชิด"ทักษิณ" - Suthichaiyoon.com
นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง และในฐานะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับประชาธิปไตยกินได้ของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย ว่า ในการบริหารงานสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐบาล ที่หลายฝ่ายรู้กันว่ามีกรณีการทุจริตมากมายในสมัยนั้น

นายสาธิต กล่าวว่า โดยข้อมูลดังกล่าวตนได้รับจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ถูกคนใกล้ชิดรัฐบาลสมัยพ.ต.ท.ทักษิณ เรียกเก็บเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับสัมปทานของสนามบินสุวรรณภูมิในการสร้าง "คาร์พาร์ค" หรือที่จอดรถ แต่เมื่อหลังจากที่จ่ายเงินจำนวนดังกล่าวไป และเชื่อว่าจะได้รับงาน แต่กับปรากฏว่าไม่ได้รับงานดังกล่าว

และเมื่อเรียกขอรับเงินคืน โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้มีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอรับเงินคืน และคำว่าประชาธิปไตยกินได้ของร.ต.อ.เฉลิมนั้นหมายความถึงเรื่องดังกล่าวใช่หรือไม่ โดยขณะนี้ตนได้มีคลิปสนทนาที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่เรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับสัมปทานในการสร้างคาร์พาร์ค เป็นบุคคลใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และสาเหตุที่เชื่อว่าน่าจะได้รับงานดังกล่าว เพราะได้มีการโทรศัพท์ประสานไปยังบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมืองในกระทรวงคมนาคมขณะนั้น จึงเป็นสาเหตุให้บริษัทเอกชนดังกล่าวเชื่อถือ


Reblog this post [with Zemanta]

What's the deal between Thaksin and Chavalit?

Thai Talk | Suthichai Yoon
Thaksin badly needed a "head" at his party. Chavalit was looking for a political role to play. It didn't take them long to come to an agreement that Chavalit would become "chairman" of the party while officially Yongyuth Vichaidit remains the official party leader. Chairman of the Party's Advisory Board is former Army Chief Gen Chetta Thanajaro.

...

During their discussions, Chavalit offered Thaksin to set the stage for reconciliation, having told the ex-premier that the "old way" of  trying to win at all cost wouldn't improve things.On the contrary, the situation will only get worse.

Chavalit was said to have told Thaksin that he would reach out to the military leaders, with whom he still holds close ties, at least at certain level, so that some sort of reconciliation between Thaksin and the army brass could take place.


The possibility of direct patching-up talks between Thaksin and Gen Prem Tinsulanonda, the Privy Council's president, is remote.

...


อ่านต่อ...>>


'เวิน' เยือนเปียงยาง เจรจา 'คิม'

TO: PRESIDENT OF NORTH KOREA:THANK YOU--A NEW ...Image by roberthuffstutter via Flickr
'เวิน'เยือนเปียงยางเจรจา'คิม' | ไทยโพสต์
นายกฯ เวินเจียเป่าของจีน เดินทางถึงกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ "คิม จองอิล" เดินทางมารับถึงสนามบินด้วยตนเอง คาดน่าจะนำประเด็นนิวเคลียร์ขึ้นโต๊ะเจรจาด้วย ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือพร้อมจะรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์อีกครั้ง แม้รัฐบาลจีนออกตัวเป็นการเยือนกระชับไมตรีครบ 60 ปีสัมพันธภาพ

ภาพข่าวทางโทรทัศน์เผยให้เห็น คิม จองอิล ผู้นำสูงสุดของเปียงยาง เดินทางมาต้อนรับนายกฯ เวินด้วยตนเอง ถึงที่สนามบินซูนานในกรุงเปียงยาง เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ซึ่งถือว่าเป็นการให้เกียรติด้วยการปรากฏกายแบบไม่ปรากฏบ่อยนัก ในพิธีต้อนรับบุคคลที่ไม่ใช่ผู้นำระดับสูงสุดของประเทศ ทั้งที่มีข่าวว่าเขาล้มป่วยเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ก็ตาม และน่าจะเป็นการส่งสัญญาณถึงความกระตือรือร้นของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุดชาตินี้

อ่านต่อ...>>


Reblog this post [with Zemanta]

เปิดใจ อนันต์ อัศวโภคิน เศรษฐกิจไทยฟื้นหรือไม่?

เปิดใจ อนันต์ อัศวโภคิน เศรษฐกิจไทยฟื้นหรือไม่? - กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์

อนันต์ อัศวโภคิน เปิดใจไม่มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น วิพากษ์นโยบายรัฐบาลที่ออกมาไม่รู้ไปทิศทางไหน แนะหากใช้อสังหาฯ ดันศก. ต้องใช้ยาแรงกว่านี้
อนันต์ อัศวโภคิน เปิดใจไม่มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น วิพากษ์นโยบายรัฐบาลที่ออกมาไม่รู้ไปทิศทางไหน พร้อมแนะหากจะใช้อสังหาฯเป็นหัวหอกในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ออกมาตรการดึงเงินกระเป๋าคนรวยออกสู่ระบบ พร้อมให้ผู้ซื้อบ้านนำเงินดาวน์หักภาษีได้เลยเต็มจำนวน

"ผมไม่รู้ว่าฟื้นหรือไม่ฟื้น แต่ผมรู้แต่ว่า ไม่แย่ไปกว่านี้อีกแล้ว"

อ่านต่อ...>>

รัฐเล็งยืดชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน

A Very Close Family : RURAL THAI VILLAGEImage by madaboutasia via Flickr
โพสต์ ทูเดย์ - รัฐเล็งยืดชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน
(4ตุลาคม) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ครม.จะพิจารณายืดการชำระคืนหนี้ของกองทุนหมู่บ้านจากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี รวมทั้งจะเพิ่มเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน รวมทั้งหมดคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้พบว่าประชาชนที่กู้ยืมเงินจากองทุนหมู่บ้านไปได้ไปกู้เงินนอกระบบมาคืน จากนั้นก็มากู้ยืมในงวดต่อไป ทำให้ไม่สามารถกระจายไปยังรายใหม่ได้

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การแก้ปัญหากองทุนหมู่บ้านรัฐบาลได้มีแนวทางแก้ไข 3 ประเด็น คือ จะเปิดโอกาสให้กองทุนหมู่บ้านต่างๆพิจารณาในการยืดเงื่อนไขการชำระหนี้ ซึ่งเดิมต้องชำระภายใน 1 ปี ก็สามารถยืดไปเป็น 2 ปีได้ ซึ่งจะช่วยลดการกู้นอกระบบน้อยลง และรัฐบาลจะเพิ่มเงินเข้ากองทุนหมู่บ้าน แต่จะพิจารณากับกองทุนหมู่บ้านทีมีการบริหารจัดการได้ดี มีความพร้อมและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะพิจารณาเพิ่มเงินจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งกองทุนใดมีสมาชิกก็จะให้มาก ทั้งนี้จะให้เพิ่ม 2 แสนล้านบาท, 4 แสนบาท และ 6 แสนล้านบาท รวมทั้งจะนำผู้ที่ได้ผ่านการอบรมจากโครงการต้นกล้าอาชีพ ให้ไปสำรวจสภาพกองทุนหมู่บ้านต่างๆ เพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการ รวมทั้งดูแลการปล่อยกู้ซึ่งกู้แล้วไปสร้างอาชีพได้อย่างแท้จริง

นอกจากนั้นก็จะมีโครงการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งจะนำเงินจากโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็งมาเป็นจุดเริ่มต้น อย่างไรก็ตามจะมีการปรับแผนในช่วงที่สองของแผนปฏิบัตการไทยเข้มแข็ง เนื่องจากขณะนี้ ภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ก็จะปรับจากโครงการที่พร้อมใช้จ่าย มาเป็นโครงการในเชิงยุทธศาสตร์ สำหรับระยะกลางระยะยาวมากขึ้น ซึ่งจะทำรายละเอียดประมาณ 2-3 เดือน พร้อมย้ำว่าได้ดำเนินโครงการตรวจสอบอย่างโปร่งใส โครงการใดที่ยังมีปัญหาก็ยังไม่สามารถเบิกเงินได้


Reblog this post [with Zemanta]

Label Cloud