Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Thursday, September 10, 2009

สั่งออกจากราชการ ตร.เบิก"ใบสั่ง"ให้เอกชนใช้โดยผิด กม.

Matichon Online
สั่งออกจากราชการ ตร.เบิก"ใบสั่ง"ให้เอกชนใช้โดยผิด กม.

พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) กล่าวถึงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนว่า มีการนำใบสั่งของตำรวจจราจรทางด่วน 2 ไปให้บริษัทเอกชนใช้โดยมิชอบตามกฎหมายว่า กองบังคับการตำรวจจราจร มีคำสั่งให้ ส.ต.อ.อธิพงศ์ กันดี ผู้บังคับหมู่งานจราจรทางด่วน 2 ที่มีชื่อปรากฏในใบสั่งออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากจ่าสิบตำรวจอธิพงษ์รับสารภาพว่า เป็นผู้เบิกใบสั่งไปให้เพื่อนที่ทำงานในบริษัทเอกชนจริง

พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขณะที่ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.อธิพงศ์สั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำพนักงานบริษัทที่เป็นผู้ให้ข้อมูล ซึ่งคาดว่าภายในบ่ายช่วงนี้จะได้คำตอบที่ชัดเจน ส่วนผู้บังคับการตำรวจจราจร สั่งกำชับให้หัวหน้าสถานีทุกพื้นที่ เข้มงวดรัดกุมการเบิกจ่ายสมุดใบสั่งแล้ว


"สนธิ"คุก2ปี ไม่รอลงอาญา หมิ่น"หม่อมอุ๋ย"

Matichon Online
"สนธิ"คุก2ปีไม่รอลงอาญาหมิ่น"หม่อมอุ๋ย"กล่าวหาล้างมลทินอำนาจเก่าทำผิดซ้ำไม่หลาบจำ เจ้าตัวอุทธรณ์ต่อ

พิพากษาคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา" สนธิ "จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ปี 50 หมิ่น"หม่อมอุ๋ย"บริหารงานมีประโยชน์ทับซ้อน แก้กฎหมายล้างมลทินสั่งอนุมัติหวยบนดิน-หวยออนไลน์ ขณะที่ทำผิดซ้ำ ไม่หลาบจำ ศาลสั่งนับโทษต่อคดีหมิ่น "ภูมิธรรม" อีก 2 ปี ส่วนไทยเดย์ โดนปรับ 2 แสน แถมจำคุก "ขุนทอง" บก.นสพ.ผจก. อีก 1 ปี ปรับ 3 หมื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลพิพากษาจำคุก นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำเลยที่ 2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเป็นเวลา 2 ปี ส่วนบริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด จำเลยที่ 1 ลงโทษปรับ 200,000 บาท และลงโทษจำคุกนายขุนทอง ลอเสรีวานิช บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา นสพ.ผู้จัดการ จำเลยที่ 4 เป็นเวลา 1 ปี ปรับ 30,000 บาท ให้ยกฟ้อง บริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 3

คดีนี้ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ฟ้อง สรุปว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2550 นายสนธิ จำเลยที่ 2 ใส่ความโจทก์ผ่านรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ออกอากาศทางช่อง New 1 เอเอสทีวี และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ทำนองว่าโจทก์ล้างมลทินให้กลุ่มอำนาจเก่า ปล่อยให้มีการออกสลากบนดิน 2 ตัวขัดต่อกฎหมาย และโจทก์ช่วยเหลือ นายศิโรตม์ สวัสดิพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่ไม่ตรวจสอบการขายหุ้นแอมเพิลริชให้กลุ่มทุนเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ และปกป้องผู้กระทำผิดกรณีที่ปล่อยให้มีการโอนหุ้นชิน บมจ.ชินคอร์ป โดยไม่เสียภาษี รวมทั้งมีผลประโยชน์ทับซ้อนธนาคารกสิกรไทย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานรวมทั้งแนวคำพิพากษาศาลฎีกาคดีหมิ่นประมาทหลายคดีแล้ว เห็นว่าการจะพิจารณาว่าข้อความใดหมิ่นประมาทหรือไม่เป็นอำนาจของศาล รวมทั้งจะต้องพิจารณาถึงเจตนาจากข้อความ โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ได้กล่าวถึงโจทก์ว่า โจทก์หลอกลวงประชาชนและรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในการให้ความเห็นเรื่องการซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก , กล่าวว่าโจทก์ เป็นผู้สั่งอนุมัติโครงการออกสลากเลขท้ายพิเศษ 2 และ 3 ตัว (หวยบนดิน) หวยออนไลน์ และแก้ พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อล้างมลทินให้ผู้กระทำความผิดรวมทั้งตัวโจทก์เองซึ่งเป็นอดีต รมว.คลังด้วย , กล่าวว่าขณะที่โจทก์ดำรงตำแหน่งผู้บริหารธนาคารกสิกรไทยมีผลประโยชน์ทับซ้อนโดยให้ธนาคารกสิกรไทยไปถือหุ้นบริษัทคอมลิงค์ที่โจทก์บริหารอยู่ด้วย , กล่าวว่าขณะดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง โจทก์ปกป้องนายศิโรตม์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร หลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเลี่ยงจัดเก็บภาษีจาก คุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายต่างมารดา และกล่าวว่าโจทก์ต้องรับผิดเช่นเดียวกับกรณีของนายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กรณีที่ออกนโยบายลดเงินลงทุน 30 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งมีผู้ใกล้ชิดกับโจทก์ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อยู่

ศาลเห็นว่าข้อความที่จำเลยที่ 2 กล่าวล้วนแต่เป็นการกล่าวเท็จ ทั้งที่ขณะนั้นจำเลยอยู่ในวิสัยที่จำตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ แต่ก็นำข้อเท็จจริงมาพูดโยงรวมกัน และชี้นำโน้มน้าวให้ประชาชนผู้ฟังเข้าใจผิดในตัวโจทก์ว่าเป็นคนชั่วมีพฤติการณ์บริหารงานต่างๆเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องทั้งที่ข้อเท็จจริงในหลายกรณี เช่นกรณีนายศิโรตม์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ปรากฏข้อเท็จจริงในทางนำสืบว่าหลังจากที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้ว ต่อมากระทรวงการคลังก็มีมติให้นายศิโรตม์ ออกจากตำแหน่งโดยเรื่องนี้มีอดีตปลัดกระทรวงการคลังมาร่วมเบิกความยืนยัน ขณะที่การลงมติไล่ออกโจทก์เป็นประธาน อ. กพ.กระทรวงการคลัง ซึ่งมีมติเป็นเอกฉันท์จึงเห็นได้ว่าโจทก์ไม่มีพฤติการณ์ปกป้อง ส่วนกรณี ที่จะให้โจทก์รับผิดเช่นเดียวกับนายเริงชัย ชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบว่ากรณีของนายเริงชัย เป็นการรับผิดต่อการบริหารนโยบาย ธปท.เข้าแทรกแซงค่าเงินบาทซึ่งขณะนั้นเป็นเรื่องของการจัดซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่มีการทำสัญญาไว้ก่อนแล้ว โดยเมื่อค่าเงินบาทก่อนจึงทำให้ ธปท.ต้องขาดทุนเป็นจำนวนเงิน 11 บาท ต่อทุกดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นการขาดทุนจริง แต่กรณีของโจทก์เป็นการปรับลดเงินลงทุนไม่ได้เป็นเหตุให้จำนวนเงินตราต่างประเทศลดลงแต่เป็นการลดลงของมูลค่าตามอัตราแลกเปลี่ยน โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ คิดเป็นเงินบาท กว่า 2 ล้านล้านบาท ส่วนกล่าวอนุมัติโครงการหวยบนดิน และออนไลน์ นั้นก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้สั่ง โดยการปฏิบัติหน้าที่โจทก์ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหารือข้อกฎหมายว่า การแก้กฎหมายจะส่งผลให้ผู้กระทำผิดหลุดพ้นจากความผิดหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี

แม้จำเลยที่ 2 จะอ้างว่าเป็นการติชมโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลสาธาราณะด้วยความเป็นธรรม ในฐานะสื่อมวลชน แต่รูปแบบการจัดรายการของจำเลยที่ 2 เป็นการวิเคราะห์โดยอาศัยภูมิความรู้ของตนเองโดยไม่ได้เชิญบุคคลใดมาร่วมสัมภาษณ์อีกทั้งการตั้งคำถามของจำเลยก็แสดงเจตนาที่จะให้ร้ายโจทก์ไม่ได้เป็นคำถามในรูปแบบปกติทั่วไปที่วิญญูชนจะกระทำเพื่อสอบถามให้ได้ข้อเท็จจริงซึ่งหากจำเลยที่ 2 เห็นว่าการกระทำของโจทก์ไม่ถูกต้องอย่างไรก็ควรต้องแสดงความคิดเห็นว่าสิ่งที่ถูกต้องควรทำอย่างไรเมื่อพิจารณาถ้อยคำทั้งหมดแล้วจึงเห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยที่ 2 มีเจตนาใส่ร้ายให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อตัวโจทก์ซึ่งต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328

ส่วนบริษัทไทยเดย์ ฯ จำเลยที่ 1 ศาลเห็นว่าได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 โดยการบันทึกถ้อยคำที่กล่าวหมิ่นประมาทโจทก์ลงในวีซีดีออกเผยแพร่ จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ.2484 และประมลกฎหมายอาญา มาตรา 328 แต่เนื่องจาก พ.ร.บ.การพิมพ์ ถูกยกเลิกหลัง พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 บังคับใช้ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายกฎหมายอาญาเท่านั้น เช่นเดียวกับนายขุนทอง บก.นสพ.ผู้จัดการ จำเลยที่ 4 ศาลเห็นว่า มีความผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 ที่เผยแพร่ข้อความที่จำเลยที่ 2 กล่าวถึงโจทก์อย่างต่อเนื่องระหว่างวันที่ 13 – 16 มกราคม 2550 ทั้งที่จำเลยที่ 4 ในฐานะบรรณาธิการ มีหน้าที่ต้องระมัดระวังการลงข้อความที่จะหมิ่นประมาทบุคคลอื่น ดังนั้นการที่จำเลยที่ 4 อ้างว่า ก่อนตีพิมพ์ข่าวมีหัวหน้าข่าวคอยกลั่นกรองอยู่แล้วจึงไม่อาจรับฟังได้

พิพากษาว่า บริษัทไทยเดย์ฯ จำเลยที่ 1 นายสนธิ จำเลยที่ 2 และนายขุนทอง จำเลยที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 238 ให้ปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 2 แสนบาท หากไม่ชำระค่าปรับให้ยึดทรัพย์ตามกฎหมาย ส่วนสนธิ จำเลยที่ 2 เคยกระทำผิดและถูกลงโทษในคดีหมิ่นประมาทมาแล้วแต่ไม่หลาบยังคงกระทำผิดซ้ำอีก จึงให้จำคุก 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.1241/2550 ที่ศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ฐานหมิ่นประมาท นายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ส่วนนายขุนทอง จำเลยที่ 4 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 3 หมื่นบาท แต่เนื่องจากจำเลยไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษกำหนด 2 ปี และให้จำเลยที่ 1 ,2 และ 4 ร่วมกันโฆษณาคำขอขมาโจทก์ใน นสพ.มติชน ,ไทยรัฐ ,เดลินิวส์ และผู้จัดการเป็นเวลา 5 วันติดต่อกันโดยจำเลยทั้งสามเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย

ส่วนบริษัทเมเนเจอร์ฯ จำเลยที่ 3 ชั้นพิจารณาโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่ากรรมการบริษัทร่วมกับจำเลยที่ 2 ในการจัดรายการหมิ่นประมาทโจทก์จำเลยจึงไม่มีความผิดพิพากษายกฟ้อง

ภายหลัง นายสนธิ เดินชูสองนิ้วออกมาจากห้องพิจารณา โดยกล่าวว่าศาลสั่งจำคุก 2 ปี ไม่มีอะไรตื่นเต้น แพ้ศาลชั้นต้น ก็อุทธรณ์ต่อ อุทธรณ์แพ้ ก็ฏีกา ถ้าสุดท้ายศาลฎีกาเห็นว่าตนผิดก็เข้าไปใช้ชีวิตในคุก คนอย่างผมผ่านอาวุธสงครามมา 200 นัด ระเบิดอีก 2 ลูก ต่อสู้เพื่อชาติ เรื่องติดคุกไม่ใช่เรื่องตื่นเต้น ไม่กลัว และไม่หนี

นายสนธิ ยังกล่าวถึงการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ให้มารักษาการ ตำแหน่ง ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าตนรู้สึกเฉยๆ และจะไม่กดดัน พล.ต.อ.ธานี เรื่องการสะสางคดีที่ตนถูกลอบยิง และคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ เวลา 21 วันของ พล.ต.อ.ธานี ทำได้แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้น แต่เชื่อว่า พล.ต.อ.ธานี ต้องทำเต็มความสามารถ และน่าจะมีอะไรดีๆออกมาเอง

"ที่บอกว่า ผม สนิทกับ พล.ต.อ.ธานี เพราะเป็นรุ่นน้องสมัยเรียนที่อัสสัมชัญศรีราชา ยืนยันว่าไม่จริง ตอนเรียนไม่ได้สนิทกัน แค่คุ้นหน้ากันเท่านั้น บ้านเขาอยู่ไหนผมก็ไม่รู้จัก ลูกเมียเขาผมก็ไม่รู้จัก และส่วนตัวก็ไม่ได้คุยกันนานแล้ว" นายสนธิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เช้าวันเดียววันนี้ นายสนธิ ยังได้สอบคำให้การคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสนธิ , น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ และ บจก.แมเนเจอร์ ฯ เป็นจำเลยที่ 1-3 คดีหมายเลขดำที่ อ.3323/2550 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ฯ กรณีเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2550 จัดรายการกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ วางแผนโค่นล้มสถาบัน ซึ่งนายสนธิ ให้การปฏิเสธ แต่เนื่องจากวันนี้ น.ส.สโรชา จำเลยที่ 2 ไม่ได้เดินทางมาสอบคำให้การ ศาลจึงนัดพร้อมเพื่อตรวจสอบหลักฐาน และสอบคำให้การ น.ส.สโรชา ในวันที่ 18 กันยายน นี้ เวลา 13.30 น.


เปิดตัวตนและคอนเนกชั่น ผอ.อสมท. "ธนวัฒน์ วันสม" หุ้นส่วนธุรกิจ "ชัยสิทธิ์ ชินวัตร"ญาติผู้พี่ทักษิณ

Matichon Online
เปิดตัวตนและคอนเนกชั่น ผอ.อสมท. "ธนวัฒน์ วันสม" หุ้นส่วนธุรกิจ "ชัยสิทธิ์ ชินวัตร"ญาติผู้พี่ทักษิณ

แกะรอยข้อมูลลึกของ"ธนวัฒน์ วันสม"พบเป็นหุ้นใหญ่ของ"ชัยสิทธิ์ ชินวัตร"ในบริษัทบริการสื่อโฆษณาทาง โทรทัศน์,วิทยุ,สื่อสิ่งพิมพ์ แต่ทำไมสาธารณชนไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน

เพิ่งนั่งเก้าอี้ใหญ่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อสมท.จำกัด ( มหาชน) เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2552 ก้นยังไม่ทันจะร้อน

ล่าสุด "ธนวัฒน์ วันสม" ผอ.อสมท.ป้ายแดง โดนรับน้องไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อสถานีวิทยุคลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ตช อสมท. รายการ "เอกซ์คลูซีฟ" ดำเนินการรายการโดยนายจอม เพชรประดับ ได้สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อตอนสายวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายนผ่านมา

กรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง เนื่องเพราะสถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือนักโทษที่หลบหนีคดีการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาซึ่งศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุก 2 ปี

ขณะเดียวกันยังมีคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกออกหมายจับอีก 3 คดีคือ ให้พม่ากู้เงิน 4,000 ล้าน ของธนาคารเพื่อการส่งอกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) คดีหวย 3 ตัว 2 ตัว คดีแปลงสัมปทานภาษีสรรพสามิต

ส่วนคดีร่ำรวยผิดปกติ 76,621 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เหตุการณ์ดังกล่าวนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯซึ่งกำกับดูแล อสมท. เดือดปุดๆทันที เพราะเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ สั่งให้ผู้บริหาร อสมท.สอบสวนข้อเท็จจริงทันทีว่า มีความผิดพลาดหรือบกพร่องอย่างไรหรือไม่?

แน่นอนว่า นายจอม เพชรประดับ ผู้ดำเนินรายการ ถูกถล่มไม่เลี้ยงว่าใช้วิจารณาญาณไม่เหมาะสมที่เปิดพื้นที่สื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่รับผิดชอบผลกระทบที่จะตามมา แม้เจ้าตัวชี้แจ้งเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนรับฟังข้อมูลรอบด้านก็ตาม

กระทั่งตอนบ่ายวันที่ 7 กันยายน นายจอมชิงถอดปลั๊กออกแถลงการณ์ยุติการจัดรายการอ้างว่าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเพื่อมิให้ผู้บริหารและพนักงาน อสมท.ต้องได้รับผลกระทบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ล่าสุดนายสาทิตย์ออกมาบอกทำนองว่าสงสัยคนใน อสมท.มีความเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ตราบใดที่ไม่ได้ทำผิดฏหมายรัฐบาลจะไม่เข้าไปจัดการ

อย่างไรก็ตาม หากจับกระแสการคาดโทษจากนายสาทิตย์ เก้าอี้ผู้อำนวยการ อสมท.ของนายธนวัฒน์ก็สะเทือนไปด้วย

ก่อนรับตำแหน่ง นายธนวัฒน์ ถูกมองว่าเป็น "ม้ามืด" เพราะในแวดวงสื่อสารมวลชนแทบไม่มีใครรู้จักบิ๊ก อสมท.รายนี้มาก่อน แต่ใครบางคนบอกว่า รู้จัก ธนวัฒน์ จาก ความดังของดาราสาว พอลล่า เทเลอร์

ประสบการณ์ทำงานมีข้อมูลระบุเพียงว่า เคยเป็นรองประธานภูมิภาค บริษัท สตารส์ทีวี เอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ในเครือนิวส์คอร์ปอเรชั่น ,เป็นกรรมการผู้จัดการ แชลแนลวี ประเทศไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ท็อปคอร์ป อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ปรึกษาอาวุโส Lumina-Looque Internation Pte Ltd (Singapore) และที่ปรึกษาอาวุโส บมจ.กันตนา กรุ๊ป

ก่อนหน้านี้ ธนวัฒน์ แจกนามบัตร ในตำแหน่ง ซีอีโอ. Luxe galleria เครือกันตนา

นาย ธนวัฒน์ เคยลงชิงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่แข่งกับ วสันต์ ภัยหลีกลี้ โดยทั้งคู่ได้คะแนนเท่ากันคือ 458 คะแนน แต่ วสันต์ เข้าป้าย ธนวัฒน์ ต้องรอเวลา 2 ปีจึงกลับมาในตำแหน่งที่ปรารถนา

ล่าสุดได้ตรวจสอบภูมิหลังของนายธนวัฒน์พบข้อมูลน่าสนใจคือ นายธนวัฒน์ประกอบธุรกิจส่วนตัว 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อาร์วัน คลับ จำกัด ให้บริการสื่อโฆษณาทาง โทรทัศน์,วิทยุ,สื่อสิ่งพิมพ์ และ บริษัท โมส โมเดล จำกัด บริการจัดงานเปิดตัว แสดงสินค้า และงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความบันเทิงทุกประเภท

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่า หุ้นส่วนของนายธนวัฒน์ ไม่ใช่ใคร? คือ บิ๊กตุ้ย-พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ. ญาติผู้พี่ พ.ต.ท.ทักษิณ และพยายามเข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ บริษัท อาร์วัน คลับ จำกัด ก่อตั้งวันที่ 2 มีนาคม 2548 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 4 ล้านบาท ที่ตั้ง เลขที่ 119 ซอยพหลโยธิน 34 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

นายธนวัฒน์ วันสม ถือหุ้น 81.% ,พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร 12.5 % , พลอ.ชาตรี พัธนพันธุ์ 6.25% ผู้ถือหุ้นคนอื่น MR. CHRLES MITCHELL POLLARD ,นายจำริต นุชนารถ นางพัชรี นุชนารถ วันสม , นายมาร์ค แอนโทนี บีกิน

บริษัท โมส โมเดล จำกัด ก่อตั้งวันที่ 11 ธันวาคม 2545 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้าน ที่ตั้งเดียวกัน นายธนวัฒน์ วันสม ถือหุ้น 56 % นางปิยะดา เพ็ญจินดา 37 % นายมนูญ โตเขียว 2% นางสาวอารีรัตน์ พินชัย 2 % นายเทวราช ยุติธรรม 1% นางสาวพัชรินทร์ พวงสมบัติ 1% นายมาร์ค แอนโทนี่ ปิกิน 1%

นอกจากนั้นเคยทำธุรกิจโฆษณาและประชาสัมพันธ์เลิกกิจการแล้วได้แก่ บริษัท ท็อปคอร์ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท ออลลูร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด

ท่ามกลางความร้อนระอุของสงครามสื่อ และการจับจ้องของคนในรัฐบาล ผอ.อสมท.ป้ายแดงรายนี้

จะนั่งเก้าอี้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่?

ต้องติดตามกันต่อไป



อดีตส.ส.ร.แฉ เลือกตั้งนายกอบต.โกงแหลก ซื้อเสียงกว่าทุกครั้ง

Matichon Online
อดีตส.ส.ร.แฉเลือกตั้งนายกอบต.โกงแหลก ซื้อเสียงกว่าทุกครั้ง

นายสำรวย ฉิมฉวี อดีต ส.ส.ร. ปี 2540,2550 จ.อ่างทอง กล่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ย. ว่า การเลือกตั้ง นายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต) เมื่อวันทื่ 6 กันยายน 2552 จำนวน 33 แห่ง มีการซื้อเสียงมากกว่าทุกครั้ง แต่จับได้ยาก เพราะผู้ให้กับผู้รับฉลาดมากขึ้น และการซื้อเสียงได้รับผลตอบแทนสูงกว่าผู้มีผลงาน และมีการแข่งขันสูงเนื่องจากผู้แข่งนายก อบต.เกือบทั้งหมด เป็นผู้เคยแพ้ที่แข่งกันมาก่อนในสมัยที่ผ่าน จึงมุ่งให้ได้รับเลือกตั้งไว้ก่อน ส่วนจะไปสอยภายหลัง ยังอีกนานนับปี เนื่องจาก กกต. ให้คุณให้โทษ เหลือน้อย ตามประกาศคณะปฎิรูปการปกครองฯ ฉบับที่ 32 หลังรัฐประหาร วันที่ 19 กันยายน 2541 ให้ กกต.ประกาศผลเลือกตั้งผู้บิหารและสมาชิก อปท. ภายใน 30 วัน หลังจากวันเลือกตั้ง จากนั้นถ้าพบทำผิดเลือกตั้ง ใบเหลือง ใบแดง รวบรวมสำนวนส่ง ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา โดย มี รองนายก (ซึ่งนายกฯนั้นๆ ตั้งไว้)ทำหน้าที่แทน และกระบวนของศาลพิจารณาค่อนข้างช้าท แม้ผู้ทำผิดก็ถูกประกาศก่อน และสอยทีหลัง อย่างน้อยมีโอกาสได้ นั่งนายกฯ นานอาจพอที่จะ ประสานประโยชน์ได้ จึงสมควรแก้ไข อย่างน้อย เงื่อนเวลาของการสิ้นสุด

ส่วนกรณีกระทรวงมหาดไทยประกาศเลื่อนชั้น อบต. ที่ขอเป็นเทศบาล ล่าช้า ทั้งๆที่ได้ขยายระยะเวลาเลือกตั้ง อบต ในวันที่ 6 กันยายน 2552 ไว้ก่อน เพื่อรอเลือกเทศบาลตำบลครั้งเดียว แต่ขณะที่ยังมีสภาพ เป็น อบต.อยู่ และยังไม่มีเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 เพราะไม่มีผู้บริหาร แม้จะมีอำนายใช้งบประมาณ รายจ่ายประจำ ได้เท่าปี 2552 ไปก่อน ก็ตาม แต่ประชาชนย่อมเสียประโยชน์ในส่วนที่ควรจะได้รับ อาทิโครงสร้างพื้นฐาน งบประมาณที่จะขอสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ฯลฯ ล้วนเป็นประโยชน์กับประชาชนและท้องถิ่น แม้ประกาศเป็นเทศบาลแล้ว แต่กระบวนการพิจารณาและอนุมัติเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553ของแต่ละเทศบาลกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการเป็นเวลานาน ชาวบ้านเสียประโยชน์ จึงสมควรเร่งรัด.


"ธานี"เริ่มงานแรก เรียกประชุมตามคืบหน้าคดีคนเสื้อแดง

Matichon Online
"ธานี"เริ่มงานแรก เรียกประชุมตามคืบหน้าคดีคนเสื้อแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเร่งรัดสำนวนสอบสวนคดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ชุมนุมประท้วงตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดี โดยมีคำสั่งให้ชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนเร่งรัดสรุปสำนวนคดี นปช. และจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ส่วนกรณี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. มารับผิดชอบในการสอบสวนคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง แทน พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งได้ขอ พล.ต.อ.พัชรวาท ให้เปลี่ยนตัวจากประธานคณะกรรมการสอบสวนคดีพันธมิตรฯ มา 2 ครั้ง โดยอ้างว่าได้รับการกดดันจากหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง และ กลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้ติดต่อให้ พล.ต.ท.สมยศ เข้ามารับผิดชอบคดีนี้แทน พล.ต.ท.วุฒิ โดยมีการลงนามคำสั่งตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน


อัยการสั่งไม่ฟ้อง “สุนัย” หมิ่น “ทักษิณ” แฉคดีปกปิดหุ้นเอสซีฯ

Crime - Manager Online
อัยการสั่งไม่ฟ้อง “สุนัย มโนมัยอุดม” หมิ่น “ทักษิณ” ระบุดีเอสไอมีหลักฐานชัดเอาผิดคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นเอสซีแอสเสท ชี้ทำหน้าที่โดยสุจริต

วันนี้ (10 ก.ย.) นายณัฐพร โตประยูร ทนายความนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชูเกียรติ ธรรมรักษ์ อัยการอาวุโส รักษาราชการแทนอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อัยการเจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายอภิศักดิ์ อาภัสสมภพ ทนายความแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินคดีกับนายสุนัย ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค.51 ทำนองว่าหลักฐานที่ดีเอสไอมีอยู่เพียงพอที่จะลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา ในคดีปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

“คดีนี้อัยการพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนแล้วเห็นว่า นายสุนัยให้สัมภาษณ์ในฐานะเป็นอธิบดีดีเอสไอ ที่ได้สอบสวน พ.ต.ท.ทักษิณและพวก โดยเป็นการชี้แจงขั้นตอนการดำเนินคดีที่รับผิดชอบอยู่ รวมถึงชี้แจงสิทธิของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนรวบรวมได้ในขณะนั้นว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้หรือไม่เพียงใด ซึ่งได้กล่าวไปตามพยานหลักฐานตามการสอบสวน ไม่ได้แกล้งใส่ร้าย หรือจงใจให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง จึงขาดองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ทั้งยังเป็นการกล่าวโดยสุจริตตามพยานหลักฐานในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงาน ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท จึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง” นายณัฐพร กล่าว



ธานีรายงานตัวสุเทพ

โพสต์ ทูเดย์ - Breaking News - ธานีรายงานตัวสุเทพ
ธานีรายงานสุเทพวันนี้ก่อนทำหน้าที่20วันรักษาการผบ.ตร.

วันนี้(10กันยายน) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร.
ตามคำสั่งของนายกฯรัฐมนตรี เตรียมเข้ารายงานตัวกับนายสุเทพ เทอกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงเพื่อรับทราบนโยบายจากนั้นจะเข้าทำหน้าที่โดยทันที

วานนี้ พล.ต.อ.ธานีเปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในตำแหน่ง 20 วัน จะตั้งใจทำงานเท่าที่สามารถทำได้ ยืนยันไม่หนักใจที่ต้องเข้ามาทำหน้าที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. และย้ำว่า ตำแหน่งรักษาราชการแทนมีอำนาจเทียบเท่า ผบ.ตร.ตัวจริง สามารถเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.)ได้

พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งผบ.ตร.ของพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณว่า เป็นการจำนนด้วยกฏหมายของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ไม่ได้เกิดจากสปิริต และไม่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ จะเป็นชนวนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ทั้งยังเชื่อว่าในขณะนี้ พรรคภูมิใจไทย ยังไม่ประสงค์จะออกจากการร่วมรัฐบาล เพราะยังได้ประโยชน์จากการควบคุมการบริหารในกระทรวงสำคัญหลายกระทรวง

พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการ รมว.กลาโหม ปฏิเสธไม่ทราบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม จะคิดอย่างไรหลังพล.ต.อ.พัชรวาท ลาออก หลังนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมปฏิเสธด้วยว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้แสดงท่าทีไม่พอใจสื่อมวลชนขณะสัมภาษณ์กรณีพล.ต.อ.พัชรวาท ถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิด กรณีเหตุการณ์สลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2551

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่เป็นชนวนทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ จนเกิดแรงกระเพื่อมของทหารอย่างแน่นอน ทั้งนี้ส่วนเห็นว่า การลาาออกของพล.ต.อ.พัชรวาท ถือว่าหมดเคราะห์หมดโศกแล้ว



‘พัชรวาท’ ทิ้งเก้าอี้ ปิดฉากชีวิตขรก.

โพสต์ ทูเดย์ - การเมือง - ‘พัชรวาท’ทิ้งเก้าอี้ปิดฉากชีวิตขรก.
“พัชรวาท” ลาออกจากราชการหลังถูกเด้งประจำทำเนียบรัฐบาล นายกฯ ตั้ง “ธานี” รักษาการผบ.ตร.

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งแล้ววานนี้ หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้มาช่วยราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. รักษาราชการแทน

พล.ต.อ.พัชรวาท เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยให้มีผลทันทีตั้งแต่วานนี้เป็นต้นไป

“ตามปกติอีก 22 วัน จะเกษียณอายุราชการ จะขอไปพักผ่อน นอกจากนั้นการลาออกยังเพื่อให้นายกฯ ทำงานได้ต่อไปด้วยดี ส่วนเรื่องคดีความขอปล่อยเป็นไปตามกระบวนการ อย่างไรก็ตามขอบคุณตำรวจทุกนายที่ทำงานร่วมกันมา” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การย้ายพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผลจากมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิดกรณีเหตุการณ์ 7 ต.ค. 2551 ซึ่งกฎหมายระบุ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นับแต่วันที่มีมติคือเมื่อวันที่ 7 ก.ย. แต่ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งมติมา ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาช่องว่างขึ้น และเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายสับสน เพราะจะเกิดการโต้แย้งเกี่ยวกับการสั่งราชการต่างๆ จึงขอให้ผบ.ตร. มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล

วันเดียวกัน ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องป.ป.ช. ที่ปฏิเสธไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคำให้การพยานในคดีดังกล่าว ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ แต่ไม่รับฟ้อง ข้อหาการดำเนินกระบวนพิจารณาชี้มูลของป.ป.ช. ไม่ชอบ และสั่งให้ป.ป.ช. ชะลอการลงมติเพื่อชี้มูลความผิดคดีนี้ไว้

ขณะที่พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. กล่าวว่า ขอถามกลับไปยังป.ป.ช. ว่าในอนาคตจะใกล้หรือไกล แล้วแต่ว่าหากมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาชุมนุมปิดล้อมสถานที่ราชการ ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลหรือไปปิดล้อมป.ป.ช.เอง แล้วมีท่าทีจะก่อความวุ่นวาย ใช้รั้วลวดหนาม ใช้ยางรถยนต์ ใช้น้ำมันราดพื้น ใช้กุญแจไปปิดคล้องประตูสถานที่ราชการ ขู่ว่า “ฆ่ามัน ฆ่ามัน” ถามว่าป.ป.ช. จะให้ตำรวจทำได้แค่ไหน ขอให้กำหนดกรอบมาจะได้ทำถูกต้อง

“อย่าว่าตำรวจเกียร์ ว่างนะ คำว่าเกียร์ว่าง คือมีเกียร์ให้เข้าแต่ไม่เข้า แต่นี่ไม่มีเกียร์ ไม่มีเกียร์คือไม่มีกติกา แผนกรกฎท่านบอกว่าใช้ไม่ได้ ท่านบอก ว่าเกินกว่าเหตุ ท่านก็เขียนมาให้ผมสิ” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

นายจตุพร พรหมพันธุ์ สส.พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การนำพล.ต.อ.ธานี มารักษาการแทนนั้นจะเป็นผลดีต่อการชุมนุม เพราะจะทำให้คนเสื้อแดงลุกฮือยิ่งขึ้น

ขณะที่ นายปรีชา สุวรรณทัต อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่าหาก นายกฯอนุมัติใบลา พล.ต.อ.พัชรวาทอาจผิดต่อกฎหมายป.ป.ช.เนื่องจากยังไม่มีการสอบวินัย

ด้่านนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ไม่ขอตอบว่า นายกฯจะผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะนายกฯและที่ปรึกษาน่าจะรู้กฎหมายดี


คำถามถึงเครือ "มติชน" (กรณี ปปช ชี้มูล เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551)

Daily News - Manager Online

หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ซึ่งเรียกตัวเองโก้เก๋ว่า เป็นหนังสือพิมพ์คุณภาพเพื่อคุณภาพของประเทศ ได้นำเสนอบทความภายหลัง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดของฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนในบทความเรื่อง “ผลแห่งคดี 7 ตุลาฯ ‘มาตรฐาน’ป.ป.ช. ‘เป็นไปตามคาด’”ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 9 กันยายน

บทความชิ้นนี้ออกมาชี้นำในท่วงทำนองว่า การตัดสินของ ป.ป.ช.นั้น อาจเป็น “ใบสั่งทางการเมือง” และ “การตั้งธง” ที่หลายฝ่ายสงสัย

บทความระบุว่า ผลการลงมติของ ป.ป.ช.ในครั้งนี้จึงทำให้ใครหลายๆ คนไม่รู้สึก “เซอร์ไพรส์” หรือ “ประหลาดใจ” แต่กลายเป็นความรู้สึกที่เกิดพร้อมกับเสียงถอนหายใจว่า “มันเป็นไปตามคาด”

พร้อมกับสรุปว่า ที่ผ่านมาการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.ในหลายๆ เรื่องก็ถูกตั้งคำถามถึงเรื่อง “มาตรฐาน” มาโดยตลอด

ในหนังสือมติชนรายวัน ฉบับวันเดียวกัน สรกล อดุลยานนท์ เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” ผู้เขียนหนังสือชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร อัศวินคลื่นลูกที่สาม” และใช้อีกนามปากกา “วิหคเหินฟ้า” เขียนคอลัมน์ เรียงคนมาเป็นข่าว เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับฆาตกร 7 ตุลา

สรกลเขียนว่า “เห็นคำตัดสินของ ป.ป.ช.คดี ‘7ตุลาฯเลือด’ แล้วต้องหยิบหนังสือ ‘บันทึกคนข่าว 7 ตุลา ข้อเท็จจริงที่แตกต่าง’ ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมาอ่าน เพราะเป็น ‘ความจริง 2 ด้าน ไม่ใช่ ความจริง 2 มาตรฐาน’ ที่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด แต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด”

“ย้อนไปอ่านข่าวหนังสือพิมพ์วันที่ 8-9 ตุลาคม 2551 ทุกฉบับยังสับสนอยู่เลยว่า ‘แก๊สน้ำตา’ ทำให้คนบาดเจ็บได้อย่างไร กว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ‘แก๊สน้ำตา’ รุ่น ‘เมด อิน ไชน่า’ มีประสิทธิภาพการทำลายเหนือความคาดหมายก็ใช้เวลาอีกหลายวัน”

“คำถามก็คือ ในสถานการณ์ที่สับสนเช่นนั้น ‘พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ-พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว’ ที่รับคำสั่งจากรัฐบาลจะรู้ไหมว่า ‘แก๊สน้ำตา’ ทำให้คนบาดเจ็บ เพราะตอนนั้นบางฝ่ายยังเชื่อว่าเป็นผลจาก ‘ระเบิดปิงปอง’ ที่ ‘ม็อบ’ พกพามา”

ผมออกประหลาดใจไม่น้อยที่สรกลเขียนเช่นนั้น และ “ที่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด แต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด” แม้จะรู้ว่า เจตนาที่แท้จริงของสรกลก็คือ การโน้มน้าวให้คนอ่านเข้าใจว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพราะตั้งธงไว้ ลำเอียงและมี 2 มาตรฐาน

สรกลเห็นว่า การที่ตำรวจเอาอาวุธที่บรรจุแก๊สน้ำตาเสื่อมคุณภาพจากจีนมายิงใส่ประชาชนที่มาชุมนุมกันหน้ารัฐสภาเป็นเรื่องที่ถูกต้องเช่นนั้นหรือ (ยิงใส่ตัวนะครับ ไม่ได้ปฏิบัติตามที่สากลเขาทำกัน) และเราเห็นชัดเจนว่า กระสุนปืนนั้นมีประสิทธิภาพร้ายแรง แม้กิ่งไม้ใหญ่ก็ยังหักสะบั้น (ฆ่าคนแล้ว อ้างว่า ไม่รู้ว่า อาวุธที่ใช้มีประสิทธิภาพได้หรือ)

สรกลเห็นว่า คนที่เสียชีวิต แขนขาดขาขาด และบาดเจ็บอีกหลายร้อยคนสมควรจะถูกกระทำโดยที่คนกระทำไม่ต้องรับผิดชอบต่อความผิด

หรือสรกลเห็นว่า คนผิดคือ คนไปชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ส่วนคนยิงใส่ประชาชนไม่ผิด เช่นที่ชอบเขียนว่าพันธมิตรฯ ขับรถพุ่งชนตำรวจ เอาปลายธงแทงตำรวจทั้งๆ ที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ตำรวจใช้ความรุนแรงแล้ว

แต่เมื่อย้อนมาอ่านความเห็นของสรกลและเครือมติชนก็ไม่น่าประหลาดใจว่า ทำไมคอลัมนิสต์และหนังสือพิมพ์ในเครือส่วนใหญ่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับคนเสื้อแดงในเหตุการณ์สงกรานต์เผาเมือง และประณามทหารที่สลายการชุมนุมของเสื้อแดง

สรกลเขียนในคอลัมน์ว่า “ถ้าใช้ ‘หลักการ’ นี้เป็น ‘เหตุผล’ ลงโทษ ‘ตำรวจ’ ปฏิบัติการสลายม็อบของ ‘ทหาร’ ในวันสงกรานต์ที่มีคนบาดเจ็บตั้งแต่เช้า แต่ตอนบ่ายก็ยังทำซ้ำแบบเดิมก็คงเข้าหลักการเดียวกัน”

คำถามก็คือว่า ทัศนคติของเครือมติชนนั้นเป็นไป เพราะสำนึก “ผิดถูกชั่วดี” หรือ “การฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายเสื้อแดง”

เพราะถ้า “มติชน”ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายเสื้อแดง (แน่นอนเครือผู้จัดการประกาศตัวชัดเจนว่า ยืนอยู่ข้างเสื้อเหลือง) แต่ยืนอยู่ในจุดของสื่อมวลชนตามที่ขรรค์ชัย บุนปาน ชอบคาบคัมภีร์อวดอ้างไว้ในคอลัมน์ของเขา “มติชน” ต้องไม่เห็นด้วยทั้ง การใช้กำลังปราบปรามประชาชนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง

แต่นี่แปลกกลับเห็นด้วยที่ใช้กำลังปราบปรามเสื้อเหลือง แต่ไม่เห็นด้วยใช้กำลังปราบปรามเสื้อแดง ผมไม่เห็นมติชนพูดถึง หรือประณามเสื้อแดง หรือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านนางเลิ้งที่ถูกเสื้อแดงยิงตาย 2 ศพ(สงสัยจะเชื่อที่เสื้อแดงอ้างว่า เป็นการกระทำของมือที่สาม) และพันธมิตรฯ ที่ถูกยิงด้วยเอ็ม-79 อีกหลายชีวิต

การกล่าวหาว่า พันธมิตรฯได้รับบาดเจ็บจากระเบิดปิงปองที่พกพาไปนั้น ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับ “น้องโบว์” อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เท่านั้น แม้แต่ “ตี๋” ชิงชัย อุดมเจริญกิจ ก็ถูกสื่อมวลชนในค่ายมติชน นำเสนอว่า ถือระเบิดปิงปองอยู่ในมือ จนสุดท้ายเมื่อ “ตี๋” ชิงชัยนำคดีขึ้นสู่ศาล สื่อในค่ายนี้ต้องมาขออภัย และได้รับอภัยด้วยจิตใจที่กว้างใหญ่ของ “ตี๋”

ในเมื่อสรกลและมติชนฝักใฝ่เสื้อแดง ส่วนผมและผู้จัดการฝักใฝ่เสื้อเหลือง ผมจะไม่ตัดสินว่า การสลายการชุมนุมของเสื้อแดงที่สรกลพยายามหยิบยกมาเปรียบเทียบกับการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯนั้น เหมาะสมหรือควรแก่เหตุหรือไม่

แต่ที่ผมได้เห็นในวันสงกรานต์เผาเมืองของเสื้อแดงก็คือ กลุ่มเสื้อแดงได้นำรถแก๊สมาเปิดท่อเพื่อระเบิดสร้างความหวาดหวั่นให้กับประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้น แล้วยึดรถเมล์มาเผาคันแล้วคันเล่า จนทหารได้เข้ามาสลายและปรากฏภาพการสลายครั้งนั้นออกไปทั่วโลก อยากให้ลองเปรียบเทียบกับภาพที่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ

เอาภาพทั้งสองเหตุการณ์มาดูพร้อมกัน แล้วตัดสินด้วยใจเป็นธรรม ด้วยสำนึกผิดถูกชั่วดี

จำได้ว่า สรกลเคยเขียนในทำนองว่า ในช่วงเย็นที่ตำรวจยิงเข้าใส่พันธมิตรฯจนมีผู้ล้มตายนั้น เพราะมีข่าวว่า พันธมิตรฯจะไปบุก บชน. (ซึ่งมาจากรายงานของตำรวจเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง) แต่ข้อเท็จจริงที่รับรู้และสื่อมวลชนส่วนใหญ่ก็รู้ก็คือ พันธมิตรฯ กำลังสลายกลับมาจากหน้ารัฐสภา และเมื่อเดินผ่านด้านข้างของ บชน.บริเวณลานพระบรมรูปจู่ๆ ก็ถูกอาวุธจำนวนมากยิงถล่มจนน้องโบว์เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ “เจ๊ฮวง” รุ่งทิวา ธาตุนิยม

ผมรู้ว่าค่ายมติชนส่วนใหญ่แล้วไม่ชอบสนธิ ลิ้มทองกุล แต่ผมยังจำได้ในวันที่คนในเครือข่ายมติชน นัดเจอสนธิที่ร้านอาหารต้นโพธิ์ เพื่อขอบคุณที่สนธิและเครือผู้จัดการ ยืนหยัดเคียงข้างมติชนเพื่อต่อสู้กับที่ถูกอากู๋ แกรมมี่เทคโอเวอร์ (มีคนบอกว่า ความจริง ขรรค์ชัยรู้กับอากู๋อยู่แล้ว แต่เมื่อคนในองค์กรและประชาสังคมคัดค้าน ขรรค์ชัยก็ต้องเล่นไปตามบท)

เอาเถอะครับ มติชนอาจไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์ของประชาชนฝ่ายพันธมิตรฯ และคอลัมนิสต์หลายคนชื่นชอบทักษิณ แต่ทำไมพวกเขาและมติชนไม่รู้จักแยกแยะเรื่องการใช้ความรุนแรงในการสังหารประชาชนไม่ว่าเขาจะมีจุดยืนหรืออุดมการณ์ทางการเมืองเช่นไร

คนดีๆในมติชนมีเยอะ แต่ไม่อาจครอบงำทัศนคติชั่วร้ายที่แสดงออกมาต่อประชาชนที่ถูกตำรวจสังหารได้

อย่างไรก็ตามนี่คือ บันทึกทางประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งว่า หนังสือพิมพ์ฉบับนี้แสดงจุดยืนอยู่เคียงข้างกับอำนาจรัฐที่สั่งฆ่าประชาชน

อ่านบทความต้นเหตุ


เรียงคนมาเป็นข่าว - "วิหคเหินฟ้า" - (กรณี ปปช ชี้มูล เหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551)

หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
คอลัมน์ เรียงคนมาเป็นข่าว
โดย "วิหคเหินฟ้า"

.........จะเรียกว่า "ซื้อเวลา" ก็ไม่ได้ เพราะไม่เคย "จ่าย" เลย พรรคประชาธิปัตย์เล่นเกมยื้อ "แก้ไขรัฐธรรมนูญ" มาตลอด เพราะคิดว่ายิ่ง "ช้า" ยิ่งเป็นคุณกับพรรค แต่ถึงวันนี้ยื้อไม่ไหวแล้ว เพราะพรรคร่วมรัฐบาลเอาจริง

.........ไล่เรียงปฏิทินการเมืองเดือนกันยายนแล้วบอกได้คำเดียวว่า "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เหนื่อยแน่ ตั้งแต่การเปิดสภาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 19 กันยาฯ "คนเสื้อแดง" ชุมนุมใหญ่ และ 21 กันยาฯตัดสินคดี "กล้ายาง"

.........ยังมีเรื่องตั้ง "ผบ.ตร." คนใหม่ที่ "อภิสิทธิ์" เล่นเกม "หมาป่ากับลูกแกะ" มาตลอด แต่ "เช็คเสียง" ณ วันนี้ แม้จะไม่มีชื่อ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" เสียงหนุน "พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย" ก็ยังเหนือกว่า

.........คนที่ไม่ใช่ "คอการเมือง" สงสัยว่า "ข้อมูลใหม่" ของ "นิพนธ์ พร้อมพันธุ์" คืออะไร เรื่องนี้ไม่ยากให้ใส่ชื่อ "นิพนธ์ พร้อมพันธุ์" ใน "กูเกิล" และคลิกที่ "วิกิพีเดีย" อ่านประวัติรอบเดียวก็รู้แล้วว่า "นิพนธ์" นั้น "ของจริง" หรือ "ของปลอม"

.........เห็นคำตัดสินของ ป.ป.ช.คดี "7ตุลาฯเลือด" แล้วต้องหยิบหนังสือ "บันทึกคนข่าว 7 ตุลา ข้อเท็จจริงที่แตกต่าง" ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมาอ่าน เพราะเป็น "ความจริง 2 ด้าน" ไม่ใช่ "ความจริง 2 มาตรฐาน" ที่ฝ่ายหนึ่งถูกทั้งหมด แต่อีกฝ่ายทำอะไรก็ผิด

.........ย้อนไปอ่านข่าวหนังสือพิมพ์วันที่ 8-9 ตุลาคม 2551 ทุกฉบับยังสับสนอยู่เลยว่า "แก๊สน้ำตา" ทำให้คนบาดเจ็บได้อย่างไร กว่าจะพิสูจน์ได้ว่า "แก๊สน้ำตา" รุ่น "เมด อิน ไชน่า" มีประสิทธิภาพการทำลายเหนือความคาดหมายก็ใช้เวลาอีกหลายวัน

.........คำถามก็คือ ในสถานการณ์ที่สับสนเช่นนั้น "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ-พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" ที่รับคำสั่งจากรัฐบาลจะรู้ไหมว่า "แก๊สน้ำตา" ทำให้คนบาดเจ็บ เพราะตอนนั้นบางฝ่ายยังเชื่อว่าเป็นผลจาก "ระเบิดปิงปอง" ที่ "ม็อบ" พกพามา

.........แม้แต่ "นักข่าว" หลายคนที่เขียนใน "บันทึกคนข่าวฯ" ก็ไม่คิดว่า "แก๊สน้ำตา" ทำให้คน "แขนขาด-ขาขาด" ได้ แต่ ป.ป.ช.กลับสรุปว่าตำรวจ "รู้" ว่ามีคนบาดเจ็บอยู่แล้วแต่ทำไมยังทำซ้ำ การกระทำโดย "เจตนา" กับ "ไม่เจตนา" ระดับความผิดต้องแตกต่างกัน

.........มี "คนบาดเจ็บ" จากการสลายม็อบตั้งแต่เช้า ทำไมยังทำซ้ำในช่วงบ่าย ถ้าใช้ "หลักการ" นี้เป็น "เหตุผล" ลงโทษ "ตำรวจ" ปฏิบัติการสลายม็อบของ "ทหาร" ในวันสงกรานต์ที่มีคนบาดเจ็บตั้งแต่เช้า แต่ตอนบ่ายก็ยังทำซ้ำแบบเดิมก็คงเข้าหลักการเดียวกัน

.........แค่ "จอม เพชรประดับ" สัมภาษณ์ "ทักษิณ ชินวัตร" ก็ป่วนไปทั้งทำเนียบรัฐบาล "วิหคเหินฟ้า" ตั้งคำถามเล่นๆ ว่าถ้า "บิน ลาเดน" อาชญากรสงคราม ศัตรูหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาจะให้สัมภาษณ์ ท่านคิดว่า "ซีเอ็นเอ็น" หรือ "สื่อ" ทั้งหลายจะบินไปสัมภาษณ์หรือไม่??

.........หรือ "ออง ซาน ซูจี" นักโทษของพม่า ถ้าเธอมีโอกาสโทรศัพท์คุยกับสื่อได้ ถามว่า "สื่อเมืองไทย" หรือ "สื่อต่างชาติ" จะสัมภาษณ์ "นักโทษการเมือง" คนนี้หรือไม่?

.........และถาม "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" ตรงๆ ว่าในความเห็นของท่านรัฐมนตรีคิดว่า "เสรีภาพ" ของ "สื่อรัฐ" กับ "สื่อเอกชน" เท่าเทียมกันหรือไม่ เพราะอ่านหนังสือ "ร้อยฝันวันฟ้าใหม่" ของ "อภิสิทธิ์" ตอนเป็นฝ่ายค้านเขายืนยันว่าเท่าเทียมกัน

.........ในเรื่อง "ปฏิรูปช่อง 11" หน้า 212 "อภิสิทธิ์" ยืนยันว่าแม้ช่อง 11 จะเป็นสื่อของรัฐก็สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนคุณภาพได้ "หากผู้มีอำนาจรัฐเคารพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน" ไม่รู้ว่าวันนี้ "อภิสิทธิ์" ยังคิดเหมือนเดิมหรือเปล่า?

.........หน้าที่ของ "สื่อมวลชน" คือการค้นหาความจริง เมื่อทุกฝ่ายแม้แต่รัฐบาลยังยอมรับว่า "ทักษิณ" คือตัวแปรสำคัญที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในประเทศ การทำข่าวเรื่องความเห็นของ "ทักษิณ" จึงไม่ใช่เรื่องแปลก


TDMZ ^^ เอ่อ ถ้าบิน ลาเดนให้สัมภาษณ์ ก็อาจมีสื่อไปสัมภาษณ์ แต่อเมริกาคงไม่ยอมให้ออกสดโดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง เพราะใน message สามารถแฝงอะไรไว้ได้มากมาย เป็นต้นว่าให้สัญญาน attack ระลอกใหม่ (อย่างที่ทักษิณให้สัญญานกับเสื้อแดง เมื่อเมษา 52) แต่ถ้ารู้ที่อยู่จริง อเมริกาคงไม่รอให้นักข่าวไปสััมภาษณ์ก่อนหรอก

บทสัมภาษณ์ของทักษิณ กับ จอม ถ้าเป็นเสื้อแดงก็คงจะเชื่อทุกคำ ทุกตัวอักษร แต่ในความจริง คำสัมภาษณ์ทุกคำ ใช่ว่าจะจริงไปทั้งหมด การใช้สื่อของรัฐ ซึ่งใช้เงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ มาให้คนที่หลีกเลี่ยงที่จะจ่ายภาษีทุกทางที่จะทำได้ มาใช้เพื่อพูดเท็จบ้าง จริงบ้าง ไม่รู้ว่าเหมาะสมแค่ไหนกัน??

Label Cloud