Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Wednesday, April 22, 2009

ยัน"ปืน-กระสุน"ยิง"สนธิ"ไม่มีในสตช.

คมชัดลึก :นครบาลยันอาวุธ-กระสุนที่คนร้ายยิง" สนธิ" ไม่มีในหน่วยงานตำรวจ เร่งคลี่คลายวิถีกระสุนยิง มึนเหตุฆ่า โฆษกนครบาลโต้ข้อตำหนิหละหลวมมาตรการรปภ. แจงตั้งด่านเข้ม 50 จุดทั่วกรุงโยงใยแมงมุม

(21เม.ย.) เวลา 12.00 น.พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษกนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคลี่คลายคดียิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ อีกครั้งดูวิถีกระสุนและจุดที่คาดว่าคนร้ายยิงอาวุธปืนใส่รถนายสนธิพร้อม ตรวจสอบทิศทางการหลบหนีของคนร้าย โดยนำพยานที่เห็นเหตุการณ์มาชี้จุดที่เกิดเหตุและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสอด คล้องกับคำที่เคยให้การไว้หรือไม่ ชั้นนี้คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากเป็นเรื่องของสำนวนคดี ส่วนสาเหตุการลอบยิงนั้นยังชี้ชัดว่าเป็นกลุ่มไหนแต่เชื่อว่า ผู้ต้องหาหวังเอาชีวิตแน่นอน และจากการตรวจสอบกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุตัดไปได้เลยว่าไม่ใช่เป็นกระสุน ที่ใช้ในหน่วยงานตำรวจอย่างแน่นอน

 นอกจากนี้โฆษกนครบาลยังกล่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญออกมาตำหนิมาตรการรักษา ความปลอดภัยของตำรวจต่อศาลว่าหละหลวมไม่รอบคอบ ว่า ที่ผ่านมาขอยืนยันมีการดำเนินการมาโดยตลอดมีการตั้งด่านรอบพื้นที่สถาน ราชการสำคัญและมีการตั้งจุดตรวจร่วม 50 จุดซึ่งเป็นจุดที่กำหนดร่วมกันในหน่วยงานความมั่นคงโดยตำรวจปฏิบัติตามแผน นั้นทั้งตรวจเข้มรอบนอกรอบในพร้อมยังมีด่านตรวจแอลกอฮอร์และจุดสกัดรถต้อง สงสัยสามารถครอบคลุมพื้นที่ กทม.ทั้งหมดโยงใยเป็นเครือข่ายใยแมงมุม

 ส่วนการนัดชุมนุมเสื้อแดงที่ระบุจะเดินทางมากดดันการประชุมรัฐสภาวันที่ 22 เม.ย.นั้น อยู่ระหว่างการหาข่าวของเจ้าหน้าที่และคงไม่อนุญาติให้มีการชุมนุมเนื่องจาก ยังอยู่ระหว่างประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด หากพบว่ามีการชุมนุมมากกว่า 5 คนขึ้นไปก็จะดำเนินการจับกุมตามกฎหมายในทันที

 ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสน.ชนะสงครามได้นำเด็กปั๊มรายหนึ่งซึ่งเป็นชายมาสอบสวน ถึงเหตุการณ์ที่รถของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกลอบยิงหน้าปั๊มน้ำมันตรงข้ามวัดเอี่ยมวรนุชที่พยานรายนี้ทำงาน โดยมี พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ทำการสอบสวนเบื้องต้นเด็กปั๊มรายนี้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถกระบะสีเข้มคันหนึ่งจอดอยู่หน้าปั๊มน้ำมัน และช่วงเกิดเหตุเห็นชาย 2 คนยืนบนกระบะหลังของรถคันดังกล่าว ยิงปืนกราดกระสุนเข้าใส่รถนายสนธิ จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ขับมุ่งหน้าไปทางบางลำพู ต่อมามีทหารชั้นสัญญาบัตรจากกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ 3 นาย ขอหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของคดีนี้

"เกียรติกร"อ้างเสื้อแดงบีบปากด่า“ปชป.-พธม.”

คมชัดลึก :“เกียรติกร”พลิ้ว! อ้าง“เสื้อแดง”บีบปากด่า“ปชป.-พธม.”

ยัน“ไม่ออก”กลัวหมดสภาพส.ส. อ้อมแอ้ม ไม่อยากไล่"อภิสิทธิ์" แต่ห่วงความปลอดภัย หลังนปช.ปลุกระดมหนัก แว้งกัด 3 เกลอ ทำงานรับใช้"ทักษิณ"คนเดียว

(22 เม.ย.) นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงจุดยืนต่อการขึ้นเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ก่อนที่ตนจะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงครั้ง แรกในวันที่ 9 เม.ย.นั้นตนได้โทรศัพท์ไปถึงนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้บอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เพราะกลุ่มเสื้อแดงจะ บุกไปปิดล้อมที่ประชุม แต่พูดแล้วเขาไม่ฟัง จึงได้โทรศัพท์ไปหานายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้บอกแกนนำกลุ่มเสื้อแดงให้ นำคนกลับมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและพัทยามารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล หยุดการทำร้ายประเทศชาติ ซึ่งหากทั้งหมดกลับมาจริงตนก็จะขึ้นไปขอบคุณเท่านั้นแล้วจบลงเวที แต่ปรากฏว่าขณะที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นำมวลชนกลับก็ได้โทรมาบอกว่าถูกดักยิง มีเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บ กลับไม่ได้ ซึ่งถึงเวลาที่ตนต้องขึ้นไปพูด ปรากฏว่ามีเสื้อแดงตะโกนว่าให้ฆ่าตนเลยเพราะเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ สถานการณ์บีบให้ตนต้องโจมตีพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์อย่างรุนแรง
 
 “มัน เป็นสัญญาลูกผู้ชายของผมกับนปช. ว่าถ้าม็อบกลับแล้วผมจะขึ้นเวทีไปขอบคุณ แต่พอสถานการณ์เปลี่ยน ม็อบถูกดักยิง มันเลยบีบให้ต้องโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่เกลียดทั้งสีเหลืองหรือสีแดง แต่ถ้าผมไม่พูดผมก็ตาย ถ้าผมขึ้นไปบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ดี คุณคิดสิว่าผมจะเป็นอย่างไร” นายเกียรติกร กล่าว
 
 ส่วนการขึ้นเวทีอีกสองครั้งคือวันที่ 11-12 เม.ย. นายเกียรติกร ชี้แจงว่า เพื่อต้องการที่จะชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสิบล้านบาท ซึ่งความจริงคือตนเคยโทรศัพท์คุยกับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ถ้ามีคนให้เงิน 10 ล้านบาทตนก็ไม่ขึ้นเวทีหรอก และตนก็บอกด้วยว่าอย่าเชื่อนะตนปล่อยข่าวเล่นๆ ขอยืนยันว่าตนกำลังทำงานให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเอ่ยชื่อไม่ได้ ถ้าให้ไปตายก็ผมก็ต้องตายเพื่อผู้ใหญ่คนนี้ ซึ่งไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนนปช.นั้นทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆตนไม่เถียง แต่ตนไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย ที่ผ่านมาตนเสี่ยงตายมาตลอด ถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง จากขบวนการของคนที่มีอำนาจซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจน แต่เปิดเผยไม่ได้
 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้ยังมีจุดยืนที่จะให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภาตามที่ได้ประกาศบนเวทีเสื้อแดงหรือ ไม่ นายเกียรติกร กล่าวว่า ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ และอยากให้นายกฯปลอดภัยขณะนี้นปช.ปลุกระดมมวลชนรุนแรงทำให้นายกฯไปไหนไม่ได้ เลย และสงสารตำรวจทหารที่ต้องอารักขาจำนวนมาก ดังนั้นการลาออก จะเป็นทางออกที่ดี แล้วจับมือกับทุกพรรคการเมืองตั้งรัฐบาล โดยต้องให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้บ้านเมืองสงบ
 
 เมื่อถามว่า ในเมื่อขึ้นเวทีของฝ่ายตรงข้ามด่าหัวหน้าพรรคตัวเองจะมีสปิริตลาออกจากพรรค หรือไม่ นายเกียรติกร กล่าวว่า ตนไม่ออก เพราะถ้าออกก็จะพ้นสภาพของส.ส.ทันที ยอมรับว่าด่านายกฯจริง แต่ถามว่าหลังจากนั้นได้ด่าหรือไม่ บอกตรงๆว่าที่มาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะศรัทธานายชวน หลีกภัย ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวได้แย้งข้อมูลของนายเกียรติกร ว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.กลุ่มนปช.ไม่ได้นำมวลชนกลับจากพัทยา มีแต่จะระดมคนไปยังที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แล้วนายเกียรติกรจะขึ้นไปขอบคุณได้อย่างไร แต่นายเกียรติกร ก็ยืนกรานหลายครั้งว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.นั้นกลุ่มเสื้อแดงพร้อมใจกันกลับแต่ถูกทำร้ายจึงกลับไม่ได้และต้องระดมพลไปสมทบ 

บัวแก้วโวยไม่มีเอกสารจับทักษิณมาถึง

คมชัดลึก : "บัวแก้ว"โวยไม่มีเอกสารจับ "ทักษิณ"แล้วจะให้แจ้งจับตัวได้อย่างไร ฉุน ตม.ปล่อย "จักรภพ"เดินทางออกนอกประเทศ

ปชป.ตั้งทีมรับมืออภิปราย 22-23 เม.ย. ตั้ง 19 ขุนพล รับเกมในสภา ปัดไม่เกี่ยวกับ รมต.แต่ละกระทรวง ชี้ความเห็นฝ่ายค้านยังแตกกรณีแก้ รธน. ย้ำต้องเป็นไปตามกระบวนการที่กฏหมายกำหนด

(21เม.ย.) แหล่งข่าวกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการตามขั้นตอน ในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่เคยส่งเรื่องดังกล่าวมายังกระทรวงการต่างประเทศเลย แล้วจะให้ติดตามตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างไร

 ที่สำคัญกระทรวงไม่มีหน้าที่อันใดเกี่ยวกับกิจการความมั่นคงภายในประเทศ มันเป็นหน้าที่ของสตช. และอัยการ ที่จะตั้งเรื่องและส่งข้อมูลมายังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงก็ติดตามดูอยู่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปยังประเทศใดบ้าง เพื่อที่จะได้ส่งเอกสารดังกล่าวแจ้งไปยังถิ่นที่อยู่ของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมื่อกระทรวงยังไม่มีเอกสารจะแจ้งไปยังทางการประเทศอื่นๆ เพื่อให้ร่วมกันนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้อย่างไร

 แหล่งข่าวระดับสูง ในกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายจักภพ เพ็ญแข แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศระบุว่าเขาได้เดินทางออกนอกประเทศและเตรียมการ เคลื่อนไหวต่อไปว่า ขณะนี้ตนยังไม่ทราบข่าวและสถานะล่าสุดของนายจักรภพว่า อยู่ที่ไหนและจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างไร ซึ่งได้ทราบข่าวจากสื่อมวลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายจักรภพ ก็เป็นผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112 ซึ่งไม่ทราบว่าทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้ปล่อยให้นายจักรภพ เดินทางออกนอกประเทศได้อย่างไร ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้รับทราบข้อมูลข่าวกรองใดๆ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเหล่านี้ จึงไม่อยู่ในฐานะที่จะตรวจสอบใดๆได้

ปชป.ตั้ง 19ขุนพลทีมรับมืออภิปราย2สภา

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึง การเตรียมการรับมือในการเปิดอภิปรายร่วมสองสภาของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ทางพรรคได้ขอให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ ปรึกษาพรรคทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ของคณะผู้เตรียมการอภิปรายทั่วไปในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อดูแลประเด็นในการอภิปรายของพรรค ซึ่งมีส.ส.ที่สนใจจะร่วมอภิปรายในเหตุการณ์จลาจลเมื่อวันที่ 11-14 เม.ย.ที่ผ่านมา ประมาณ 19 คน ซึ่งเป็นส.ส.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่ว ประเทศ อาทิ

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายชำนิ ศักดิเศรษฐ ส.ส.สัดส่วน นายจุติ ไกรฤกษ์ และนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี นางผุสดี ตามไทย ส.ส.สัดส่วน น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ส.ส.ลพบุรี นายวัชระ เพชรทอง นายสมัย เจริญช่าง นายอรถวิช สุวรรณภักดี นายธนา ชีรวินิจ ส.ส. และนางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส. กทม. นายเจ๊ะอามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.นราธิวาส และตนเข้าร่วมด้วย

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจจะถูกส.ส.ฝ่ายค้านพาดพิงถึง เช่น รมว.กลาโหม จะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นปกป้องหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะทางคณะทำงานของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็มีการเตรียมข้อมูล ที่จะชี้แจงการอภิปรายไว้แล้ว ในส่วนของพรรคเองก็ดำเนินการไป

 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาและ นายบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ต่างเห็นด้วยที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวกับการยุบพรรคกรณีที่กรรมการบริหารพรรคถูกกล่าวหาว่า ซื้อเสียงและมีโทษถึงขั้นยุบพรรค นายชินวรณ์ กว่าวว่า ยังเป็นความเห็นที่หลากหลาย ในชั้นนี้ จึงเป็นแค่การเปิดโอกาสให้มีการเสนอและรับฟังความเห็นเพื่อที่จะรวบรวม ประเด็นความเห็นทั้งหมดอีกครั้งว่าส่วนใหญ่ไปในทิศทางใด และการอภิปรายครั้งนี้ก็ไม่สามารถที่จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อทำ หน้าที่รวบรวมประเด็นได้เพราะเป็นการขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 179 ซึ่งเป็นการอภิปรายที่ไม่มีการลงมติใดๆ

 ประธานวิปรัฐบาล กล่าวต่อว่า ในชั้นนี้ก็ยังมีแนวคิดของพรรคฝ่ายค้านเองในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ออกไป 3 แนวทางอีกเพราะยังไม่เป็นที่ยุติ คือ 1. เป็นการแก้ไขโดยเอารัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ใหม่ 2. การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 บางส่วน บางมาตรา ที่เป็นปัญหาอุปสรรคเพื่อให้สอดคล้องกับสถารการณ์และการปฏิบัติได้จริงและนำ มาใช้ต่อ 3.การขอยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติใดๆ ส่วนเมื่อได้ข้อยุติแล้วก้ต้องมาดำเนินากรต่อไปตามกระบวนการของกกหมายรัฐ ธรรมนูญตามมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 อีก

"อภิสิทธิ์"เกือบทิ้งเก้าอี้วันแดงเดือด

คมชัดลึก : ถึงแม้ว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงบางคนจะมุดลงดิน เพื่อไปเล่นเกมต่อ แล้วยังต้องลุ้นว่า "เกม" ที่ว่านั้นจะแรง เดือดพล่านเหมือนเมื่อครั้งปิดถนนเผารถเมล์ ป่วนไปทั้งเมืองได้อีกหรือไม่ แต่ควันหลงการชุมนุมเสื้อแดงก็ยังมีเรื่องราวในอีกหลายฉากที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเบื้องหลังการตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และสลายการชุมนุมของกองทัพ

ในจังหวะชุลมุน ใครจะรู้ว่า เสื้อแดงนั้นเกือบได้ชัยชนะไปแล้ว !

 ใครจะรู้ว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถอดใจจนเกือบจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ถ้าหาก สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ไม่ขอร้องด้วยการเอาหัวเป็นประกัน !

 ย้อนกลับไปที่การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คริฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี ที่เสื้อแดงพยายามบุกเข้าไปขอความเป็นธรรมถึงตัวอาคาร ทั้งที่ก่อนหน้านั้น มีจุดมุ่งหมายเพียงแค่ชุมนุมประจานรัฐบาล

 เหตุการณ์บานปลายจนกระทั่งการประชุมอย่างเป็นทางการที่กำลังจะเริ่มขึ้น ต้องปิดฉากลง โดยผู้นำออสเตรเลียยังนั่งเครื่องบินอยู่บนอากาศก็ต้องหันหัวกลับ

 ภาพคนเสื้อแดงบุกเข้าไปในโรงแรมนั้น ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทยลงอย่างสิ้นเชิง

 แน่นอนว่า ในยามนั้น ผู้ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบก็คือ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด...แต่เมื่อหันซ้ายหาตำรวจก็เกียร์ว่าง หันขวาไปหาทหาร ก็เมินเฉย จะมีประโยชน์อันใดที่จะนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่ไร้เสาหลักค้ำยัน

 ในการหารือกันที่พรรคประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ก็ได้แจ้งต่อแกนนำถึงการตัดสินใจเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 แต่การตัดสินใจของ อภิสิทธิ์ ถูกขอร้องจาก สุเทพ ที่สารภาพว่า ประเมินสถานการณ์พลาด

 พลาดเพราะฟังรายงานสถานการณ์จากตำรวจเพียงด้านเดียว

 พลาดเพราะปล่อยให้กลุ่มเสื้อน้ำเงิน ที่ถูกระบุว่าเชื่อฟัง เนวิน ชิดชอบ ว่าจะกันเสื้อแดงอยู่หมัด และให้เคลื่อนไหวอิสระจนเกิดเรื่อง
 แทนที่จะสกัด แต่กลับเป็นตัวเร่งเกมให้แดงเดือด

 ข้อเสนอของสุเทพในตอนนั้นก็คือ หากจะลาออก ก็ให้ปลดรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ พล.ต.อ.พัชรวาท ออกจากตำแหน่ง !

 "ผมยอมรับว่า ตำรวจ 99% แดงหมด อีก 1% อยู่ข้างเรา 1% ก็คือ พล.ต.อ.พัชรวาท" นี่คือคำสารภาพของ สุเทพ

 มาถึงช่วงนี้ อภิสิทธิ์ก็ ได้ยอมรับกับทุกคนว่า ตัวเขาเองก็พลาดเหมือนกัน ที่ไม่ใช้กำลังทหาร เลือกที่จะพึ่งพาเฉพาะกำลังตำรวจ แถมยังกำชับเด็ดขาดว่า ห้ามมีเสียงปืนดังขึ้นแม้แต่นัดเดียว

 การตัดสินใจใช้กำลังตำรวจ ไม่เพียงเป็นความผิดพลาด หากแต่ยังสร้างรอยร้าวให้เกิดขึ้นระหว่างกองทัพกับรัฐบาล

 เพียงเพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากอำนาจทหาร เหมือนอย่างที่เวทีเสื้อแดงกล่าวหาทุกเมื่อเชื่อวัน

 แผนการจัดวางกำลังเพื่อป้องกันสถานที่ประชุมสุดยอดอาเซียนของกองทัพ จึงไม่มีใครนำไปใช้ประโยชน์

 และเมื่อตัดสินใจแล้วว่า จะสู้ อภิสิทธิ์ก็พลิกเล่นบทกร้าว ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 เจ้ากรรมที่ ถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย อัยการเก่า ยกร่างฯ ช้ากว่ากำหนด ที่เดิมนัดไว้ 12.00 น. แต่เอาเข้าจริง 14.00 น.ถึงได้อ่านแถลงการณ์ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน...และม็อบแดงก็ล้อมทุกด้านของกระทรวงมหาดไทยเอาไว้แล้ว

 เหตุจลาจลก็เกิดขึ้นในเวลาต่อมา


 และนั่นคือที่มาของการเดินทางไปใช้บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เป็นวอร์รูมบัญชาการรักษาความสงบ

 แต่ก็ใช่ว่า เรื่องราวจะราบรื่น ในเมื่ออภิสิทธิ์ตัดสิน ใจปล่อยเสือออกจากกรง เพราะเสียงคำรามของกองทัพเมื่อรัฐบาลก่อนโน้นก็คือ หากรัฐบาลคิดจะใช้ทหาร ก็ต้องตัดสินใจให้รอบคอบ เพราะสุดท้ายรัฐบาลอาจต้องไปเสียเอง

 ซ้ำร้ายกว่านั้น โฆษกกระทรวงกลาโหมก็ออกมาแถลงย้ำถึงความผิดพลาดที่สั่งใช้กำลังทหารด้วย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่มีแผนรองรับ จนทำให้รถสายพานลำเลียงถูกเสื้อแดงไล่ยึดจนสิ้นศักดิ์ศรี...ตอกย้ำถึงระยะ ห่างระหว่างกองทัพกับรัฐบาลเข้าไปอีก

 เป็นใครก็ต้องคิด จะเข้าถ้ำเสือ ร.1 รอ. ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเสือขย้ำหัว ยึดอำนาจหรือไม่

 "ผมจะเอาปืนไปด้วย ถ้าอนุพงษ์ยึดอำนาจผมจะยิงหัวตัวเอง" เป็น สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ไม่รู้เอาอะไรมามั่นใจถึงได้ให้คำมั่นในตอนนั้นกับอภิสิทธิ์

 นั่นคือนาทีก่อนที่อภิสิทธิ์-สุเทพ จะเข้าไปเปิดวอร์รูม ที่ ร.1 รอ. โดยมี ผบ.เหล่าทัพ รวมทั้ง พล.ต.อ.พัชรวาท ตามเข้าไปด้วย

 "เรื่องปฏิบัติการทางการทหาร ขอให้เชื่อใจผม แต่เรื่องการเมืองผมไม่ถนัด ก็ให้ว่ากันเอาเอง" นายทหารใหญ่เจ้าบ้านยืนยันกับอภิสิทธิ์

 การเข้าสลายการชุมนุมครั้งนี้ กองทัพเตรียมกำลังถึง 46 กองพัน มากกว่าเสื้อแดงนับเท่าตัว แต่ใช้จริง 36 กองพัน อีก 10 กองพันสำรองเอาไว้

 เมื่อได้รับคำมั่น ก็ค่อยๆ ผ่อนคลาย เจ้าของบ้านจัดที่ทางให้กิน-นอนที่บ้านพัก ทำให้อภิสิทธิ์และสุเทพได้มีโอกาสสัมผัสกับ "ถาดหลุม" หลายมื้อเลยทีเดียว

เผย"แม้ว"กลับไทยแล้ววันเสียงปืนแตก แต่ถูก"เจ๊แดง"ห้าม

matichon: เผย"แม้ว"กลับไทยแล้ววันเสียงปืนแตก แต่ถูก"เจ๊แดง"ห้าม

เมื่อเวลา 13.00 น. นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงที่ห้องแถลงข่าวอาคารรัฐสภาถึงการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นได้เคยตัดสินใจเดินทางกลับเข้าประเทศไทยครั้งหนึ่งแล้วในวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ทางกองทัพ ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขึ้นเครื่องบินส่วนตัว มาลงยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นได้วางแผนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยทางภาคอีสาน เพื่อรวบรวมประชาชนในภาคอีสาน เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อสมทบกับคนเสื้อแดงที่กำลังถูกสลายการชุมนุม โดย พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นต้องการทำความคำพูดที่ได้ประกาศเอาไว้ว่า หากมีการใช้กำลังปราบปรามประชาชนแล้วเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจะเดินทางกลับ ประเทศไทยทันที

แต่ระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเดินทาง นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ หัวหน้ากลุ่มวังบัวบาน ซึ่งอยู่ในระหว่างอาการตกใจและร้องไห้ได้โทรศัพท์ประสานกับ ส.ส.เพื่อให้ช่วยกันร้องขอไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทย เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะเวลานั้นมีข่าวเรื่องการลอบทำร้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาและอีกอย่าง คือทางกองทัพเริ่มรู้ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศไทย ส.ส.จึงพยายามช่วยกันห้าม สุดท้ายพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ชะลอการเดินทางกลับประเทศไทยเอาไว้ แล้วก็เกิดการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ คิดได้ว่าควรเชื่อคำแนะนำของ ส.ส.

นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป การตัดสินใจกลับประเทศไทยของพ.ต.ท.ทักษิณ นั้นขึ้นอยู่กับ 3 เงื่อนไขคือ 1.รัฐบาลต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว 2. ประกาศใช้ พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เพื่อให้ทุกคนกลับเข้ามาพูดคุยกันเรื่องความสมานฉันท์สามัคคี  และ 3.ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 แล้วประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2540 จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงค่อยมาดูเรื่องการเดินทางกลับประเทศไทย เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เชื่อว่า เรื่องคดีความนั้นสามารถพูดคุยกันได้ในภายหลัง



Thai protesters 'plan new action' BBC Jonathan Head

BBCBBC (via last.fm)


BBC (via last.fm)
One of the leaders of the "red-shirt" protest movement in Thailand has promised to continue a clandestine campaign against the government.

Jakrapob Penkair managed to escape overseas after the army broke up the mass protests in Bangkok a week ago.

Speaking to the BBC from in hiding, he said the movement would use different tactics to confront the government, including possible armed attacks.

The protesters say the government is illegitimate, and want fresh elections.

The sudden collapse of the red-shirt protests last week has left the movement in disarray.

Five of the organisers have been arrested and are being held under the emergency decree, which is still in effect. The police have issued arrest warrants for another 48.

However one of its most outspoken leaders, Jakrapob Penkair, has managed to flee the country.

Underground

Speaking by phone from an undisclosed location, he told the BBC that the struggle to bring down the current government would continue, but that they would no longer rely on conventional forms of protest.

"The state of emergency is a big help. It puts people underground.

"I believe the room for unarmed and non-violent means to resolve Thailand's problem is getting smaller every day," he said.

There have been sporadic attempts to blockade roads and public buildings in the north of Thailand - a stronghold of the red-shirt movement - but little other activity since the protesters were surrounded by troops and forced to disperse last week.

Radio and television channels sympathetic to the movement have been shut down, and coverage by other Thai media has been largely negative following the violent clashes in Bangkok.

There is still strong mass support for the movement's goal of a new constitution and the rehabilitation of former Prime Minister Thaksin Shinawatra in parts of the country.

But it is not clear how that now can be translated into an effective challenge to the government.

click thumb for news capture
คลิกเพื่อดูรูปใหญ่


Reblog this post [with Zemanta]

"กษิต"อ้าง "ทักษิณเอี่ยวยิง"สนธิ"

kasitImage by Klaikong via Flickr

posttoday: รัฐมนตรีต่างประเทศ ลั่นกลางเวทีนิวยอร์ค "ทักษิณ"พัวพันยิงสนธิ เชื่อ ตนเอง-4 รมต.ตกเป็นเป้าด้วย ยัน สลายเสื้อแดงไม่มีคนตาย

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย กล่าวปาฐกถาที่"ดิ เอเชีย โซไซตี้" ที่นครนิวยอร์คของสหรัฐเมื่อวันอังคาร เชื่อมโยงอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณชินวัตร กับเหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ที่ตำรวจไทยระบุว่ามือปืนอย่างน้อยสองคนใช้รถประกบยิงรถของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้นำคนสำคัญของแนวร่วมพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเคยมีส่วนร่วมโค่นล้มรัฐบาลของอดีตนายกฯทักษิณเมื่อปี 2549 และการประท้วงที่ทำให้กรุงเทพฯเป็นอัมพาตเมื่อปีที่แล้ว ทำให้นายสนธิกับลูกน้องอีก 2 คน ได้รับบาดเจ็บ

นายกษิต กล่าวต่อที่ประชุมว่า คิดว่าอดีตนายกฯทักษิณล้มเหลวในการใช้ความเคลื่อนไหวของขบวนการประชานิยม จึงได้หันไปใช้ความพยายามลอบสังหารในบางรูปแบบ และเชื่อว่าตัวเองกับสมาชิกอีก 4 คนในคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตกเป็นเป้าหมายด้วยและว่าสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เขารู้สึกเหมือนถูกกักขัง ขณะที่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนเขาถูก ห้อมล้อมด้วยเหล่านาวิกโยธินติดอาวุธครบมือ เขาเสริมว่า หากจะมีการสู้กันถึงตาย พวกเราหลายคนจะเหลือแต่ขี้เถ้า

นายกษิต กล่าวว่า หากในการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงมีผู้เสียชีวิตแม้เพียงสักคนหนึ่งด้วย ฝีมือกองกำลังความมั่นคง เขาคิดว่าไทยจะอยู่ในสภาวะที่อาจเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นได้เขายังได้กล่าว ปกป้องรัฐบาลจากการประท้วงและความวุ่นวายที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย โดยกล่าวว่า จะต้องไม่มีการประท้วงรูปแบบใดใดที่จะทำไปสู่การเกิดความรุนแรง พร้อมเสริมว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะแสร้งทำเป็นว่าสิ่งต่างๆเป็นปกติ


matichon: กษิตเผยสื่อนอก บอก"ทักษิณ"สั่งยิง"สนธิ ลิ้มทองกุล"

กษิตเผยสื่อต่างประเทศ ระบุทักษิณสั่งลอบสังหาร"สนธิ ลิ้มทองกุล"ระบุเชื่อรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลตกเป็นเป้าด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย กล่าวกับ"สมาคมเอเชีย"ที่กรุงนิวยอร์กว่า ถึงกรณีเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรเสื้อเหลือง ว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสนธิกำลังจะรับประทานอาหารเที่ยงกับเขาในช่วงเที่ยง และเขาคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้วิธีการลอบสังหาร หลังจากล้มเหลวในการเคลื่อนไหวกลุ่มผู้สนับสนุน โดยนายกษิต ไม่ได้อธิบายรายละเอียดหรือแสดงหลักฐานในการกล่าวหาดังกล่าว แต่บอกว่า เขายังเชื่อว่า เขาและรัฐมนตรีอีก 4 คน ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ ยังตกเป็นเป้าด้วย

นายกษิตกล่าวด้วยว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เขากำลังรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ภายใต้การจองจำจากการอารักขาของกลุ่มทหาร และว่าหากมีการต่อสู้กันจนถึงตาย เขาคิดว่าพวกเราหลายคนอาจกลายเป็นเถ้าถ่าน

นายกษิตกล่าวชี้ด้วยว่า เมืองไทยคงเกิดสงครามกลางเมืองไปแล้ว หากมีประชาชนเพียงคนเดียวตายเพราะทหาร พร้อมทั้งปกป้องรัฐบาลเกี่ยวกับเหตุการณ์การเมืองวุ่นวายปั่นป่วนและเกิดการ ประท้วง แต่ชี้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอ้างว่าการเมืองไทยขณะนี้เป็นปกติ

เนื่องจากมติชนอัปเดทข่าว + เพิ่มเติมเนื้อข่าว โดยใช้พื้นที่ข่าวหน้าเดิม หรือบางครั้ง เปลี่ยน head line และเรียงเรื่องใหม่ จึงเก็บหน้าข่าวปัจจุบันไว้เพื่อการอ้างอิง


AP "Thai diplomat accuses ousted leader in shootings" 2 pages



Reblog this post [with Zemanta]

"จักรภพ"ขู่ใช้อาวุธโค่นรัฐบาล"อภิสิทธิ์"

UDD Demonstration, Victory Monument, Bangkok. ...Image by adaptorplug via Flickr

คมชัดลึก :"จักรภพ เพ็ญแข" ให้สัมภาษณ์จากที่ซ่อนว่า จะโค่นรัฐบาล"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ให้ได้ และอาจใช้อาวุธโจมตีด้วย

(22เม.ย.) ในหัวข้อข่าว "ไทย โพรเทสเตอร์ส แพลน นิว แอ็คชั่น" ในเว็บไซท์ของ BBC โดยโจนาธาน เฮด ระบุว่า นายจักรภพ เพ็ญแข หนึ่งในแกนนำ " คนเสื้อแดง" ที่เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศไทย ได้ประกาศจะเดินหน้าต่อต้านรัฐบาลด้วยแผนการลับต่อ ไป

นายจักรภพ ได้หลบหนีไปยังต่างประเทศ หลังทหารสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงใน กรุงเทพฯเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน เขาให้สัมภาษณ์ BBC จากที่ซ่อนว่า การเคลื่อนไหวต่อไป จะใช้ยุทธวิธีที่หลากหลายในการเผชิญหน้ากับรัฐบาล ที่รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้อาวุธโจมตีด้วย

รายงานของ BBC ระบุว่า ผู้ประท้วงเสื้อแดงอ้าง ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ แต่การสลายการชุมนุมอย่างกระทันหันของคนเสื้อแดง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้การเคลื่อนไหวตกอยู่ในสภาพความสับสนอลหม่าน แกนนำ 5 คน ถูกจับ และถูกควบคุมตัวภายใต้ พรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ยังคงมีผลบังคับใช้ ขณะที่ตำรวจได้ออกหมายจับแกนนำคนอื่น ๆ อีก 48 คนแต่หนึ่งในแกนนำฝีปากกล้าอย่างนายจักรภพ กลับหนีไปต่างประเทศ

นายจักรภพได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ จากสถานที่ที่ไม่เปิดเผยว่า การต่อเพื่อโค่นอำนาจรัฐบาลปัจจุบันจะยังคงเดินหน้าต่อไป แต่จะไม่อาศัยการประท้วงในรูปแบบการชุมนุมเดิมๆ อีกแล้วเขาอ้างว่า การประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ช่วยนำประชาชนหันไปต่อสู้ใต้ดิน เขาเชื่อว่า พื้นที่ ที่ปราศจากการใช้อาวุธและความรุนแรงในการแก้ปัญหาของประเทศไทย เล็กลงทุกวัน

BBC ยังคงเสนอข่าวเรื่องการปิดถนน และสถานที่ราชการของคนเสื้อแดงทางภาคเหนือของไทยซึ่งเป็นฐานสำคัญของคนเสื้อแดง แต่แทบไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใด หลังการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง เพราะทหารเข้าปิดล้อมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


matichon: "จักรภพ"กร้าวผ่านสื่อนอกเสื้อแดงจะไม่ประท้วงยืดเยื้ออีกแล้ว บอกสันติวิธีเริ่มหาได้ยากขึ้นทุกวัน

"จักรภพ"ประกาศสงครามผ่านบีบีซี เดินหน้าต่อสู้รัฐบาลแบบลับๆ ลั่นเสื้อแดงจะไม่ประท้วงยืดเยื้ออีกแล้ว อ้างพ.ร.ก.ฉุกเฉินผลักปชช.ลงใต้ดิน ย้ำสันติวิธี-ไม่ใช้ความรุนแรงเริ่มหาได้ยากขึ้นทุกวัน

สำนักข่าวบีบีซี รายงานข่าว"Thai protesters plan new action" ของนายโจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำประเทศไทย ระบุว่าขณะนี้ กรุงเทพฯ ยังอยู่ในประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่หนึ่งในแกนนำของผู้ประท้วง "เสื้อแดง" ประกาศว่าจะยังคงต่อสู้แบบลับในความพยายามต่อต้านรัฐบาล

นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ได้หลบหนีไปยังต่างแดน หลังทหารเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงในกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยนายจักรภพให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับบีบีซีจากที่ซ่อนตัวแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยว่าเป็นที่ใด

บีบีซีรายงานว่ากลุ่มผู้ประท้วงอ้างว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์เป็นรัฐบาล ที่ผิดกฎหมายและต้องการให้จัดการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตามจากการล่มสลายอย่างกะทันหันของคนเสื้อแดงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้การเคลื่อนไหวตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน

"แกนนำ 5 คนถูกจับและยังอยู่ในการควบคุมตัวภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการใน สถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ตำรวจยังได้ออกหมายจับคนอื่นๆอีก 48 ราย ทว่าหนึ่งในแกนนำของพวกเขา นายจักรภพ เพ็ญแข ได้หลบหนีออกนอกประเทศ" รายงานข่าวระบุ

ขณะที่นายจักรภพเปิดเผยว่า คนเสื้อแดงและประชาชนที่รักประชาธิปไตย จะพยายามขับไล่รัฐบาลชุดนี้ต่อไป แต่จะไม่ใช้กลยุทธการประท้วงแบบเดิมๆ ที่ใช้เวลายาวนานอีกแล้ว

"การประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาลช่วยได้มาก จะยิ่งผลักดันให้ประชาชน หันมาต่อสู้ทางใต้ดินมากขึ้น เพราะขณะนี้ พื้นที่สำหรับการเรียกร้องแก้ไขปัญหาของประเทศ ด้วยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรงนั้น เริ่มเล็กลงๆขึ้นทุกวัน" แกนนำเสื้อแดงกล่าว


อ่าน "Thai protesters plan new action"
Reblog this post [with Zemanta]

Label Cloud