คมชัดลึก :“เกียรติกร”พลิ้ว! อ้าง“เสื้อแดง”บีบปากด่า“ปชป.-พธม.”
ยัน“ไม่ออก”กลัวหมดสภาพส.ส. อ้อมแอ้ม ไม่อยากไล่"อภิสิทธิ์" แต่ห่วงความปลอดภัย หลังนปช.ปลุกระดมหนัก แว้งกัด 3 เกลอ ทำงานรับใช้"ทักษิณ"คนเดียว
(22 เม.ย.) นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงจุดยืนต่อการขึ้นเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ก่อนที่ตนจะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงครั้ง แรกในวันที่ 9 เม.ย.นั้นตนได้โทรศัพท์ไปถึงนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้บอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เพราะกลุ่มเสื้อแดงจะ บุกไปปิดล้อมที่ประชุม แต่พูดแล้วเขาไม่ฟัง จึงได้โทรศัพท์ไปหานายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้บอกแกนนำกลุ่มเสื้อแดงให้ นำคนกลับมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและพัทยามารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล หยุดการทำร้ายประเทศชาติ ซึ่งหากทั้งหมดกลับมาจริงตนก็จะขึ้นไปขอบคุณเท่านั้นแล้วจบลงเวที แต่ปรากฏว่าขณะที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นำมวลชนกลับก็ได้โทรมาบอกว่าถูกดักยิง มีเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บ กลับไม่ได้ ซึ่งถึงเวลาที่ตนต้องขึ้นไปพูด ปรากฏว่ามีเสื้อแดงตะโกนว่าให้ฆ่าตนเลยเพราะเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ สถานการณ์บีบให้ตนต้องโจมตีพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์อย่างรุนแรง
ส่วนการขึ้นเวทีอีกสองครั้งคือวันที่ 11-12 เม.ย. นายเกียรติกร ชี้แจงว่า เพื่อต้องการที่จะชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสิบล้านบาท ซึ่งความจริงคือตนเคยโทรศัพท์คุยกับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ถ้ามีคนให้เงิน 10 ล้านบาทตนก็ไม่ขึ้นเวทีหรอก และตนก็บอกด้วยว่าอย่าเชื่อนะตนปล่อยข่าวเล่นๆ ขอยืนยันว่าตนกำลังทำงานให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเอ่ยชื่อไม่ได้ ถ้าให้ไปตายก็ผมก็ต้องตายเพื่อผู้ใหญ่คนนี้ ซึ่งไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนนปช.นั้นทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆตนไม่เถียง แต่ตนไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย ที่ผ่านมาตนเสี่ยงตายมาตลอด ถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง จากขบวนการของคนที่มีอำนาจซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจน แต่เปิดเผยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้ยังมีจุดยืนที่จะให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภาตามที่ได้ประกาศบนเวทีเสื้อแดงหรือ ไม่ นายเกียรติกร กล่าวว่า ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ และอยากให้นายกฯปลอดภัยขณะนี้นปช.ปลุกระดมมวลชนรุนแรงทำให้นายกฯไปไหนไม่ได้ เลย และสงสารตำรวจทหารที่ต้องอารักขาจำนวนมาก ดังนั้นการลาออก จะเป็นทางออกที่ดี แล้วจับมือกับทุกพรรคการเมืองตั้งรัฐบาล โดยต้องให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้บ้านเมืองสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวได้แย้งข้อมูลของนายเกียรติกร ว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.กลุ่มนปช.ไม่ได้นำมวลชนกลับจากพัทยา มีแต่จะระดมคนไปยังที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แล้วนายเกียรติกรจะขึ้นไปขอบคุณได้อย่างไร แต่นายเกียรติกร ก็ยืนกรานหลายครั้งว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.นั้นกลุ่มเสื้อแดงพร้อมใจกันกลับแต่ถูกทำร้ายจึงกลับไม่ได้และต้องระดมพลไปสมทบ
ยัน“ไม่ออก”กลัวหมดสภาพส.ส. อ้อมแอ้ม ไม่อยากไล่"อภิสิทธิ์" แต่ห่วงความปลอดภัย หลังนปช.ปลุกระดมหนัก แว้งกัด 3 เกลอ ทำงานรับใช้"ทักษิณ"คนเดียว
(22 เม.ย.) นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงจุดยืนต่อการขึ้นเวทีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ก่อนที่ตนจะไปขึ้นเวทีเสื้อแดงครั้ง แรกในวันที่ 9 เม.ย.นั้นตนได้โทรศัพท์ไปถึงนายชุมพล กาญจนะ ประธานส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้บอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เพราะกลุ่มเสื้อแดงจะ บุกไปปิดล้อมที่ประชุม แต่พูดแล้วเขาไม่ฟัง จึงได้โทรศัพท์ไปหานายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้บอกแกนนำกลุ่มเสื้อแดงให้ นำคนกลับมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและพัทยามารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล หยุดการทำร้ายประเทศชาติ ซึ่งหากทั้งหมดกลับมาจริงตนก็จะขึ้นไปขอบคุณเท่านั้นแล้วจบลงเวที แต่ปรากฏว่าขณะที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นำมวลชนกลับก็ได้โทรมาบอกว่าถูกดักยิง มีเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บ กลับไม่ได้ ซึ่งถึงเวลาที่ตนต้องขึ้นไปพูด ปรากฏว่ามีเสื้อแดงตะโกนว่าให้ฆ่าตนเลยเพราะเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ สถานการณ์บีบให้ตนต้องโจมตีพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์อย่างรุนแรง
“มัน เป็นสัญญาลูกผู้ชายของผมกับนปช. ว่าถ้าม็อบกลับแล้วผมจะขึ้นเวทีไปขอบคุณ แต่พอสถานการณ์เปลี่ยน ม็อบถูกดักยิง มันเลยบีบให้ต้องโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ ซึ่งจริงๆแล้วผมไม่เกลียดทั้งสีเหลืองหรือสีแดง แต่ถ้าผมไม่พูดผมก็ตาย ถ้าผมขึ้นไปบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ดี คุณคิดสิว่าผมจะเป็นอย่างไร” นายเกียรติกร กล่าว
ส่วนการขึ้นเวทีอีกสองครั้งคือวันที่ 11-12 เม.ย. นายเกียรติกร ชี้แจงว่า เพื่อต้องการที่จะชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ารับเงินสิบล้านบาท ซึ่งความจริงคือตนเคยโทรศัพท์คุยกับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ถ้ามีคนให้เงิน 10 ล้านบาทตนก็ไม่ขึ้นเวทีหรอก และตนก็บอกด้วยว่าอย่าเชื่อนะตนปล่อยข่าวเล่นๆ ขอยืนยันว่าตนกำลังทำงานให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเอ่ยชื่อไม่ได้ ถ้าให้ไปตายก็ผมก็ต้องตายเพื่อผู้ใหญ่คนนี้ ซึ่งไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนนปช.นั้นทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ จริงๆตนไม่เถียง แต่ตนไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย ที่ผ่านมาตนเสี่ยงตายมาตลอด ถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง จากขบวนการของคนที่มีอำนาจซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจน แต่เปิดเผยไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงวันนี้ยังมีจุดยืนที่จะให้นายกรัฐมนตรีลาออก หรือยุบสภาตามที่ได้ประกาศบนเวทีเสื้อแดงหรือ ไม่ นายเกียรติกร กล่าวว่า ตนอยากให้บ้านเมืองสงบ และอยากให้นายกฯปลอดภัยขณะนี้นปช.ปลุกระดมมวลชนรุนแรงทำให้นายกฯไปไหนไม่ได้ เลย และสงสารตำรวจทหารที่ต้องอารักขาจำนวนมาก ดังนั้นการลาออก จะเป็นทางออกที่ดี แล้วจับมือกับทุกพรรคการเมืองตั้งรัฐบาล โดยต้องให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯอีกครั้งหนึ่ง เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้บ้านเมืองสงบ
เมื่อถามว่า ในเมื่อขึ้นเวทีของฝ่ายตรงข้ามด่าหัวหน้าพรรคตัวเองจะมีสปิริตลาออกจากพรรค หรือไม่ นายเกียรติกร กล่าวว่า ตนไม่ออก เพราะถ้าออกก็จะพ้นสภาพของส.ส.ทันที ยอมรับว่าด่านายกฯจริง แต่ถามว่าหลังจากนั้นได้ด่าหรือไม่ บอกตรงๆว่าที่มาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เพราะศรัทธานายชวน หลีกภัย ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์ หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวได้แย้งข้อมูลของนายเกียรติกร ว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.กลุ่มนปช.ไม่ได้นำมวลชนกลับจากพัทยา มีแต่จะระดมคนไปยังที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แล้วนายเกียรติกรจะขึ้นไปขอบคุณได้อย่างไร แต่นายเกียรติกร ก็ยืนกรานหลายครั้งว่าในคืนวันที่ 9 เม.ย.นั้นกลุ่มเสื้อแดงพร้อมใจกันกลับแต่ถูกทำร้ายจึงกลับไม่ได้และต้องระดมพลไปสมทบ