เปลว สีเงิน ไทยโพสต์: 18-04-2009
เลือดสดฉาดฉานแดงสาดโชกเสื้อเชิ้ตสีขาวของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" จากห่ากระสุนสงคราม ทั้งเอ็ม ๑๖ เอ็ม ๗๙ ที่กราดใส่เมื่อเช้ามืดวานนี้ (๑๗ เม.ย.๕๒) ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช ย่านบางขุนพรหม นั่น....เลือดสื่อ-หนังสือพิมพ์ ครับ คุณสนธิเจ็บครั้งนี้ จะมีใครเจ็บด้วยหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผม-ในฐานะสื่อ-หนังสือพิมพ์ด้วยกัน บอกได้คำเดียวว่า "เจ็บ" แต่เจ็บนี้ไม่ตายหรอกเพื่อนเอ๋ย ฉะนั้น ในหัวเลี้ยว-หัวต่อที่บ้านเมืองกำลังเดินสู่ "เส้นทางเปลี่ยน" เลือดที่แดงฉาดฉาน นั่นคือสิ่งที่ฟ้า-ดินส่งสัญญาณเตือนผ่านคุณสนธิถึง สื่อ-หนังสือพิมพ์ทั้งหลายให้ "ใช้เลือด" แทนหมึก ผนึกหน้าที่ "ผลิตข่าวสารคุณธรรม" นำทางสังคมชาติกันเถิด
ทุกคนเห็นสภาพรถที่พรุนแหลกทั้งคันจากหัวยันท้าย ต่างลงความเห็นตรงกันว่า "ไม่รอด" แต่คุณสนธิก็รอด แถมเดิมยิ้มร่าออกมาจากซากรถ ทั้งที่ร่างอาบเลือด และกระสุนเจาะกะโหลกเข้าไปฝังในอยู่ในเนื้อสมอง
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าปาฏิหาริย์ หรือเป็นมนุษย์ ๑ ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ที่รอดได้ในสภาพเช่นนี้ และผมก็ไม่คิดแม้กระทั่งจะแอบคิดว่านั่นมาจาก "ปาฏิหาริย์" ที่ไร้คำอธิบาย ในขณะที่เพื่อนนักข่าวบนกอง บก.และใครๆ ก็ออกปากกันอย่างนั้น บางคนถึงขนาดสรุปลงไปด้วยความมั่นใจว่า
"แบบนี้ คุณสนธิต้องมีพระดีแน่ๆ"!
จะปาฏิหาริย์ หรือพระดี ก็ช่างเถอะ แต่ที่แน่ๆ ในความเป็นมนุษย์คนหนึ่งอันมีทั้ง ชั่ว-ดี-ถี่-ห่าง เป็นส่วนผสมอยู่ในร่าง ผมยอมรับว่าการทำหน้าที่สื่อของคุณสนธิในรอบ ๔-๕ ปีนี้ ทำด้วยจิตวิญญาณอุทิศ พร้อมสละทุกสิ่ง-ทุกอย่าง ด้วยหวังอย่างเดียวให้อยู่รอด
คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันชาติบ้านเมือง!
คนภักดีชาติ-ซื่อสัตย์สถาบัน จะตายได้อย่างไร ผีบ้าน-ผีเมืองไม่ยอมปล่อยให้หลีกไปสบายคนเดียวอยู่นอกภพ-นอกชาติในชั่วโมง นี้-ยามนี้หรอก
คุณสนธินั้น ล้านรัก-หมื่นชัง เมื่อชั่งน้ำหนักแห่งเนื้อ-น้ำแล้ว สังคมชาติบ้านเมืองต้องมีคนอย่างนี้ ผมยังคิดอยู่ในใจเสมอว่า ในความสุขสบายของพี่น้องร่วมชาติบ้านเมืองอันจะมีในอนาคตข้างหน้ายาวนาน นั้น เมื่อถึงวันตรุษ-สารทจะต้องมีคนรู้คุณออกมาเซ่นไหว้ เอ่ยนามคารวะนรชน "สนธิ ลิ้มทองกุล"
คนหนังสือพิมพ์ "พลี" เพื่อพิทักษ์ชาติ!
หลักฐานทุกอย่าง เห็นกันอยู่ แล้วต้องโวยวาย พูดจาให้บรรดา "อสัตย์แผ่นดิน" ผู้ยิ่งยศมันแอบยิ้มหัวทำไม "เป็นฝีมือพวกไหน" บอกได้ชัดตามคติโบราณที่ว่า "ร้อยปากว่า ไม่เท่าหนึ่งหลักฐานที่ทิ้งไว้"
บ้านเมืองอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ทหารควบคุม-ตรวจตรา แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนขน "อาวุธสงคราม" ชนิดร้ายแรง กราดยิงหวังฆ่าคนกลางเมืองหลวง แถมกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ บริเวณนั้นมีอันขัดข้อง-ใช้ไม่ได้ในเวลาเดียวกันทั้งหมด
แถม "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.เอ่ยวาจาให้ชาวบ้านได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๒ ที่ทัพแดงทักษิณบุกยึดกรุงแล้วเผาบ้าน-เผาเมืองว่า "เรื่องเอาอาวุธสงครามมาถล่มหวังฆ่าสนธิเป็นคดีอาชญากรรมธรรมดา ย่อมเกิดได้ไม่ว่าจะเป็นภาวะฉุกเฉิน หรือไม่ฉุกเฉิน"
ผมอยากจะบอกกับคุณสนธิ มิตรสหาย และพันธมิตรฯ ทั้งหลายว่า สิ่งที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดในเวลานี้ "สติตรองก่อนพูด-ก่อนทำ" ทุกอย่าง อย่าวู่วาม อย่าใจร้อน อย่าใช้อารมณ์ตอบสนองสิ่งที่เกิดแบบฉับพลันผลันผลุน นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังจะเสียการ เสียประโยชน์ และเหตุที่เกิดวานนี้
อย่าโทษใครเปะปะไปเด็ดขาด สิ่งที่รู้อยู่กับใจ อย่าเอามาใช้เป็นคำพูด!
พี่น้องเสื้อแดงนั้น ต่อให้โกรธ-เกลียดเข้ากระดูกดำกันขนาดไหน พี่น้องไทยใต้ฝ่าพระบาท "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระองค์เดียวกัน ผมเชื่อสนิทใจ โกรธกันขนาดไหน ก็ไม่ถึงขั้นต้องลากอาวุธสงครามมาไล่ฆ่ากันอย่างนี้แน่นอน
ถ้าอย่างนั้นแล้วใครล่ะที่ทำ?
ก็ใครล่ะที่จะได้ประโยชน์จากการสร้างสถานการณ์ปั่นหัว "เสื้อเหลือง-เสื้อแดง" ให้โกรธกันถึงขั้นอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ แล้วทำสงคราม "ประชาชน-ประชาชน" ฆ่ากัน แล้วมันจะสอดกลางหยิบชิ้นปลามัน ในเมื่อทั้งเหลือง-ทั้งแดง "ตายหมด" หรือไม่ก็อ่อนล้า-ราบคาบ
แล้วใครล่ะ อยู่ในฐานะ "ซ้าย-ขวา" กินเรียบ!?
คนเอ่ยสัตย์ปฏิญาณว่าภักดี-มีเยอะ แต่กับเงิน และอำนาจที่จัดสรรลงตัวในวันข้างหน้า คนยุคนี้-สมัยนี้-เวลานี้ จะให้น้ำหนักในการภักดีกับอะไรมากกว่า
"หน้ากาก" มันค่อยๆ เผยอให้เห็นสีหน้าและแววตากันแล้วมิใช่หรือ?
ผมเข้าใจ-ด้วยเป็นห่วงสุดขีด คือบ้านเมืองขณะนี้ ด้วย "ความนิ่ง" ของบางอำนาจทางการบริหาร เป็นตัวช่วยเร่ง ด้วยหลอกให้พี่น้องประชาชนร่วมชาติสวมกระบังตา แดงกับเหลือง ดาหน้าเข้าเข่นฆ่าประหัต-ประหารกัน ซึ่งในข้อเท็จจริง ระดับพี่น้องประชาชนด้วยกัน ไม่มีอะไรต้องแบ่งแยก-เกลียดชังกันถึงขั้นนั้น
แต่นี่..เมื่อสร้างความรู้สึกให้เกิดว่า "แดงพ่าย" เป็นแค้นที่แดงต้องชำระขึ้นแล้ว.......
ในขณะที่แดงแค้นอาฆาต "มือที่มองเห็น" ก็กราดยิงหมายสังหารคุณสนธิ เพื่อปั่นสีเหลืองให้แค้นอาฆาตสีแดงด้วยเข้าใจว่า อาก้า-เอ็ม ๑๖ เอ็ม ๗๙ ที่กราดยิงนั้น มันพวกสีแดง!
ฉะนั้น ตรงนี้ ผมอยากให้พ่อ-แม่พี่น้องในความเป็นประชาชนด้วยกัน ทั้งสีเหลือง และสีแดงใจเย็นๆ มีสติกันให้มากเข้าไว้ และค่อยๆ ลำดับความก็จะเข้าใจว่า เราทั้งหลายเวลานี้ กำลังมี "มือที่มองเห็น" มอมหน้า-ปั่นหัวหวังให้ฆ่ากัน เพื่อพวกมันจะได้ฉกฉวยเป็น "ตาอยู่" อ้างกู้สถานการณ์-ปกบ้าน ป้องเมือง
แล้วสถาปนาอำนาจ "ผูกขาด" ในชาติบ้านเมืองเสียเอง!?
ทักษิณไม่เกี่ยวในงานหมายสังหารสนธิ แต่เกมบ้าน-เกมเมืองของทักษิณครั้งนี้ เหมือนการเล่นเผ มวลชนเสื้อเป็นแค่ไพ่ที่หงายลอยหน้า ๔ ใบ แต่ "ไต๋" ใบสำคัญที่คว่ำไว้ ก่อนหน้านี้เพียงเห็นหลังไวๆ ยังปักใจชัดไม่ได้ว่ามันใครกันแน่
แต่ดูลีลาเรียกไพ่ และการใส่เงินของทักษิณจาก ๘-๑๔ เม.ย. ไต๋ทักษิณคือตัวอะไร ถึงมั่นใจใส่เงินไม่ยั้งอย่างนั้น ระดับขั้นหมื่นล้านด้วยซ้ำ ท่านทั้งหลายดูโทรทัศน์รายการ "รวมการเฉพาะกิจ" ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ออกมาพูดจากับประชาชนแต่ละครั้ง "จิตวิญญูชน" ย่อมบอกกับ "จิตใต้สำนึก" ของแต่ละท่านที่รักชาติ-บ้านเมืองได้มิใช่หรือ
"แววตาคือต่างหน้าต่างใจ" ครั้นมองสำรวจไป ก็คล้ายมีหนามปักคา?
พี่น้องร่วมชาติทุกคนไม่วิกฤติ แต่บ้านเมืองขณะนี้วิกฤติ และวิกฤตินี้จะคลี่คลายได้ โดยพี่น้องเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ต้องเข้าใจว่าพวกเราทั้ง ๒ ฝ่าย กำลังตกเป็นเครื่องมือของคนบางคนจ้องฉกฉวยโอกาสหลอกล่อให้ "เหลือง-แดง" ฆ่ากันตายไปทั้งสองฝ่าย ผมเห็นท้ายสงกรานต์ พี่น้องออกมาเล่นสาดน้ำกันสนุกสนาน ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง มีแต่รักสมัครสมานสามัคคีดีต่อกัน ก็อยากให้วันอย่างนี้มีกับพี่น้องไทยเหมือนเดิม
ขณะนี้ สีเหลืองก็เหมือนพ่าย เพราะคุณสนธิ "เกือบตาย" และฝ่ายแดงก็เหมือนพ่าย ชาวบ้านอย่างเราไม่ได้อะไร ต้องกระจัดกระจายกลับบ้านใคร-บ้านมัน
ก็ด้วยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พวกเรา-ในระดับพี่น้องประชาชนด้วยกัน ทำอย่างไรจะให้ทั้งสองสี-สองฝ่ายหันมาพูดจาทำความเข้าใจกัน สมัครสมานให้บรรยากาศเล่นสาดน้ำสงกรานต์กลับคืนมา "โชกสุขสนุกสนาน" โดยไม่มีสี!?
จากที่คุณสนธิเจ็บถึงตายได้ครั้งนี้ โดยพื้นฐานใจพี่น้องพันธมิตรฯ ย่อมเดือดกว่าน้ำร้อนบนเตาไฟ แต่การเอาไฟไปดับไฟ หรือเอาน้ำร้อนไปเติมน้ำร้อน ไฟก็ไม่ดับ น้ำก็ไม่เย็น ด้วยวุฒิภาวะแห่งเจตนาเพื่อบ้านเมือง หาทางลอกสีเหลือง-สีแดง แล้วนำความเป็นพี่น้องไทยเนื้อแท้ไปต่อสาย-ต่อขั้ว รวมเป็นกอไผ่-ไทยด้วยกันจะดีไหม
ที่ผมพูดเช่นนี้ เพราะจากที่สดับตรับฟังมาหลายๆ ด้าน ถ้าไม่หาทางให้ทุกคนมีสติยับยั้งชั่งใจ วันนี้-พรุ่งนี้ อาจมีสถานการณ์อุบาทว์เมืองเกิดขึ้นได้ เพราะใจแยกฝ่าย-แยกแค้น!?
นายกฯ อภิสิทธิ์ก็เช่นกัน ณ วันนี้ ตัวท่าน-อำนาจท่าน ผมสังเกตว่าเหมือนท่านนั่งอยู่บนกองหนาม รอบข้างท่าน ๑๐ คน ๑๐๐ คน มีถึง ๒ ถึง ๑๐ คนไหมที่ท่านมั่นใจว่าเนื้อแท้ในใจจะไม่เป็นบรูตุส?
ข้าวเหนียวหน้าเนื้อน่ะ กินอร่อย แต่คนหน้าเนื้อ ต้องระวัง...เพราะมันใจเสือจะกินท่าน เหตุที่เกิดกับคุณสนธิ ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะเกิดกับท่าน ครอบครัวท่านไม่ได้ ที่พัทยา ที่มหาดไทยนั่นคือตัวอย่างสอนใจ อย่าลืมว่าอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศอยู่ที่ท่าน ผมเชื่อแล้วว่าท่านใจแข็ง-ใจถึง แต่ท่านอย่าตายใจกับใครง่ายๆ
ด้วยอำนาจของท่านอันมีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ต้องฆ่ามันก่อนที่มันจะรวมหัวฆ่าท่าน!
ไม่ต้องดูอื่นไกล นำเหตุการณ์ที่เกิดในกระทรวงมหาดไทยมาทบทวน-ไล่เรียงดู เรื่องราวเป็นยังไงทำให้ต้องไปแถลงข่าวที่มหาดไทย มีใครไปบ้าง การไปมีใครรู้บ้าง ตอนเกิดเหตุมีใครถูกเสื้อแดงทุบ มีใครไม่ถูกทุบ และหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นหน่วยไหน ใครจัดมาให้ท่าน ต่างๆ นานามันเป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบทั้งนั้นว่า
เรื่องบัดสี-หยาบช้านี้เกิดขึ้นกับ "ผู้นำประเทศ" ได้อย่างไร?
ทั้งที่มหาดไทยกับที่พัทยา ไล่เรียงดูก็ได้ว่า มันมาจาก "คนหน้าเดิม" ใช่หรือไม่?
ผมบอกได้ว่า เวลานี้มีคนต้องการฆ่าสนธิ พอๆ กับมีคนใช้แผนแยบยลเพื่อแซะก้นท่านให้พ้นเก้าอี้ "นิพนธ์ พร้อมพันธ์" นั้น นับว่าเป็น ๑ ใน ๑๐๐ ที่ท่านไว้ใจได้ในยามนี้ ท่านใช้วิสัยทัศน์และความเก่งบนความเป็น "เด็กนอก" เพื่อการบริหารงานเถอะ แต่การบริหารอำนาจนั้น ต้องใช้วิสัยทัศน์และบรรจุแผ่นดิสก์สมองโปรแกรมไทยลงไป ไม่อย่างนั้นจาก ๒๐ เม.ย.ถึงกลางมิถุนายนเป็นอย่างช้า ท่านจะ "พลาดท่า-เสียทาง".
เลือดสดฉาดฉานแดงสาดโชกเสื้อเชิ้ตสีขาวของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" จากห่ากระสุนสงคราม ทั้งเอ็ม ๑๖ เอ็ม ๗๙ ที่กราดใส่เมื่อเช้ามืดวานนี้ (๑๗ เม.ย.๕๒) ที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุช ย่านบางขุนพรหม นั่น....เลือดสื่อ-หนังสือพิมพ์ ครับ คุณสนธิเจ็บครั้งนี้ จะมีใครเจ็บด้วยหรือไม่ผมไม่ทราบ แต่ผม-ในฐานะสื่อ-หนังสือพิมพ์ด้วยกัน บอกได้คำเดียวว่า "เจ็บ" แต่เจ็บนี้ไม่ตายหรอกเพื่อนเอ๋ย ฉะนั้น ในหัวเลี้ยว-หัวต่อที่บ้านเมืองกำลังเดินสู่ "เส้นทางเปลี่ยน" เลือดที่แดงฉาดฉาน นั่นคือสิ่งที่ฟ้า-ดินส่งสัญญาณเตือนผ่านคุณสนธิถึง สื่อ-หนังสือพิมพ์ทั้งหลายให้ "ใช้เลือด" แทนหมึก ผนึกหน้าที่ "ผลิตข่าวสารคุณธรรม" นำทางสังคมชาติกันเถิด
ทุกคนเห็นสภาพรถที่พรุนแหลกทั้งคันจากหัวยันท้าย ต่างลงความเห็นตรงกันว่า "ไม่รอด" แต่คุณสนธิก็รอด แถมเดิมยิ้มร่าออกมาจากซากรถ ทั้งที่ร่างอาบเลือด และกระสุนเจาะกะโหลกเข้าไปฝังในอยู่ในเนื้อสมอง
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าปาฏิหาริย์ หรือเป็นมนุษย์ ๑ ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ที่รอดได้ในสภาพเช่นนี้ และผมก็ไม่คิดแม้กระทั่งจะแอบคิดว่านั่นมาจาก "ปาฏิหาริย์" ที่ไร้คำอธิบาย ในขณะที่เพื่อนนักข่าวบนกอง บก.และใครๆ ก็ออกปากกันอย่างนั้น บางคนถึงขนาดสรุปลงไปด้วยความมั่นใจว่า
"แบบนี้ คุณสนธิต้องมีพระดีแน่ๆ"!
จะปาฏิหาริย์ หรือพระดี ก็ช่างเถอะ แต่ที่แน่ๆ ในความเป็นมนุษย์คนหนึ่งอันมีทั้ง ชั่ว-ดี-ถี่-ห่าง เป็นส่วนผสมอยู่ในร่าง ผมยอมรับว่าการทำหน้าที่สื่อของคุณสนธิในรอบ ๔-๕ ปีนี้ ทำด้วยจิตวิญญาณอุทิศ พร้อมสละทุกสิ่ง-ทุกอย่าง ด้วยหวังอย่างเดียวให้อยู่รอด
คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันชาติบ้านเมือง!
คนภักดีชาติ-ซื่อสัตย์สถาบัน จะตายได้อย่างไร ผีบ้าน-ผีเมืองไม่ยอมปล่อยให้หลีกไปสบายคนเดียวอยู่นอกภพ-นอกชาติในชั่วโมง นี้-ยามนี้หรอก
คุณสนธินั้น ล้านรัก-หมื่นชัง เมื่อชั่งน้ำหนักแห่งเนื้อ-น้ำแล้ว สังคมชาติบ้านเมืองต้องมีคนอย่างนี้ ผมยังคิดอยู่ในใจเสมอว่า ในความสุขสบายของพี่น้องร่วมชาติบ้านเมืองอันจะมีในอนาคตข้างหน้ายาวนาน นั้น เมื่อถึงวันตรุษ-สารทจะต้องมีคนรู้คุณออกมาเซ่นไหว้ เอ่ยนามคารวะนรชน "สนธิ ลิ้มทองกุล"
คนหนังสือพิมพ์ "พลี" เพื่อพิทักษ์ชาติ!
หลักฐานทุกอย่าง เห็นกันอยู่ แล้วต้องโวยวาย พูดจาให้บรรดา "อสัตย์แผ่นดิน" ผู้ยิ่งยศมันแอบยิ้มหัวทำไม "เป็นฝีมือพวกไหน" บอกได้ชัดตามคติโบราณที่ว่า "ร้อยปากว่า ไม่เท่าหนึ่งหลักฐานที่ทิ้งไว้"
บ้านเมืองอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ทหารควบคุม-ตรวจตรา แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มคนขน "อาวุธสงคราม" ชนิดร้ายแรง กราดยิงหวังฆ่าคนกลางเมืองหลวง แถมกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ บริเวณนั้นมีอันขัดข้อง-ใช้ไม่ได้ในเวลาเดียวกันทั้งหมด
แถม "พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา" ผบ.ทบ.เอ่ยวาจาให้ชาวบ้านได้ยินเสียงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๒ ที่ทัพแดงทักษิณบุกยึดกรุงแล้วเผาบ้าน-เผาเมืองว่า "เรื่องเอาอาวุธสงครามมาถล่มหวังฆ่าสนธิเป็นคดีอาชญากรรมธรรมดา ย่อมเกิดได้ไม่ว่าจะเป็นภาวะฉุกเฉิน หรือไม่ฉุกเฉิน"
ผมอยากจะบอกกับคุณสนธิ มิตรสหาย และพันธมิตรฯ ทั้งหลายว่า สิ่งที่จำเป็นต้องใช้มากที่สุดในเวลานี้ "สติตรองก่อนพูด-ก่อนทำ" ทุกอย่าง อย่าวู่วาม อย่าใจร้อน อย่าใช้อารมณ์ตอบสนองสิ่งที่เกิดแบบฉับพลันผลันผลุน นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังจะเสียการ เสียประโยชน์ และเหตุที่เกิดวานนี้
อย่าโทษใครเปะปะไปเด็ดขาด สิ่งที่รู้อยู่กับใจ อย่าเอามาใช้เป็นคำพูด!
พี่น้องเสื้อแดงนั้น ต่อให้โกรธ-เกลียดเข้ากระดูกดำกันขนาดไหน พี่น้องไทยใต้ฝ่าพระบาท "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระองค์เดียวกัน ผมเชื่อสนิทใจ โกรธกันขนาดไหน ก็ไม่ถึงขั้นต้องลากอาวุธสงครามมาไล่ฆ่ากันอย่างนี้แน่นอน
ถ้าอย่างนั้นแล้วใครล่ะที่ทำ?
ก็ใครล่ะที่จะได้ประโยชน์จากการสร้างสถานการณ์ปั่นหัว "เสื้อเหลือง-เสื้อแดง" ให้โกรธกันถึงขั้นอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ แล้วทำสงคราม "ประชาชน-ประชาชน" ฆ่ากัน แล้วมันจะสอดกลางหยิบชิ้นปลามัน ในเมื่อทั้งเหลือง-ทั้งแดง "ตายหมด" หรือไม่ก็อ่อนล้า-ราบคาบ
แล้วใครล่ะ อยู่ในฐานะ "ซ้าย-ขวา" กินเรียบ!?
คนเอ่ยสัตย์ปฏิญาณว่าภักดี-มีเยอะ แต่กับเงิน และอำนาจที่จัดสรรลงตัวในวันข้างหน้า คนยุคนี้-สมัยนี้-เวลานี้ จะให้น้ำหนักในการภักดีกับอะไรมากกว่า
"หน้ากาก" มันค่อยๆ เผยอให้เห็นสีหน้าและแววตากันแล้วมิใช่หรือ?
ผมเข้าใจ-ด้วยเป็นห่วงสุดขีด คือบ้านเมืองขณะนี้ ด้วย "ความนิ่ง" ของบางอำนาจทางการบริหาร เป็นตัวช่วยเร่ง ด้วยหลอกให้พี่น้องประชาชนร่วมชาติสวมกระบังตา แดงกับเหลือง ดาหน้าเข้าเข่นฆ่าประหัต-ประหารกัน ซึ่งในข้อเท็จจริง ระดับพี่น้องประชาชนด้วยกัน ไม่มีอะไรต้องแบ่งแยก-เกลียดชังกันถึงขั้นนั้น
แต่นี่..เมื่อสร้างความรู้สึกให้เกิดว่า "แดงพ่าย" เป็นแค้นที่แดงต้องชำระขึ้นแล้ว.......
ในขณะที่แดงแค้นอาฆาต "มือที่มองเห็น" ก็กราดยิงหมายสังหารคุณสนธิ เพื่อปั่นสีเหลืองให้แค้นอาฆาตสีแดงด้วยเข้าใจว่า อาก้า-เอ็ม ๑๖ เอ็ม ๗๙ ที่กราดยิงนั้น มันพวกสีแดง!
ฉะนั้น ตรงนี้ ผมอยากให้พ่อ-แม่พี่น้องในความเป็นประชาชนด้วยกัน ทั้งสีเหลือง และสีแดงใจเย็นๆ มีสติกันให้มากเข้าไว้ และค่อยๆ ลำดับความก็จะเข้าใจว่า เราทั้งหลายเวลานี้ กำลังมี "มือที่มองเห็น" มอมหน้า-ปั่นหัวหวังให้ฆ่ากัน เพื่อพวกมันจะได้ฉกฉวยเป็น "ตาอยู่" อ้างกู้สถานการณ์-ปกบ้าน ป้องเมือง
แล้วสถาปนาอำนาจ "ผูกขาด" ในชาติบ้านเมืองเสียเอง!?
ทักษิณไม่เกี่ยวในงานหมายสังหารสนธิ แต่เกมบ้าน-เกมเมืองของทักษิณครั้งนี้ เหมือนการเล่นเผ มวลชนเสื้อเป็นแค่ไพ่ที่หงายลอยหน้า ๔ ใบ แต่ "ไต๋" ใบสำคัญที่คว่ำไว้ ก่อนหน้านี้เพียงเห็นหลังไวๆ ยังปักใจชัดไม่ได้ว่ามันใครกันแน่
แต่ดูลีลาเรียกไพ่ และการใส่เงินของทักษิณจาก ๘-๑๔ เม.ย. ไต๋ทักษิณคือตัวอะไร ถึงมั่นใจใส่เงินไม่ยั้งอย่างนั้น ระดับขั้นหมื่นล้านด้วยซ้ำ ท่านทั้งหลายดูโทรทัศน์รายการ "รวมการเฉพาะกิจ" ที่นายกฯ อภิสิทธิ์ออกมาพูดจากับประชาชนแต่ละครั้ง "จิตวิญญูชน" ย่อมบอกกับ "จิตใต้สำนึก" ของแต่ละท่านที่รักชาติ-บ้านเมืองได้มิใช่หรือ
"แววตาคือต่างหน้าต่างใจ" ครั้นมองสำรวจไป ก็คล้ายมีหนามปักคา?
พี่น้องร่วมชาติทุกคนไม่วิกฤติ แต่บ้านเมืองขณะนี้วิกฤติ และวิกฤตินี้จะคลี่คลายได้ โดยพี่น้องเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ต้องเข้าใจว่าพวกเราทั้ง ๒ ฝ่าย กำลังตกเป็นเครื่องมือของคนบางคนจ้องฉกฉวยโอกาสหลอกล่อให้ "เหลือง-แดง" ฆ่ากันตายไปทั้งสองฝ่าย ผมเห็นท้ายสงกรานต์ พี่น้องออกมาเล่นสาดน้ำกันสนุกสนาน ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง มีแต่รักสมัครสมานสามัคคีดีต่อกัน ก็อยากให้วันอย่างนี้มีกับพี่น้องไทยเหมือนเดิม
ขณะนี้ สีเหลืองก็เหมือนพ่าย เพราะคุณสนธิ "เกือบตาย" และฝ่ายแดงก็เหมือนพ่าย ชาวบ้านอย่างเราไม่ได้อะไร ต้องกระจัดกระจายกลับบ้านใคร-บ้านมัน
ก็ด้วยตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พวกเรา-ในระดับพี่น้องประชาชนด้วยกัน ทำอย่างไรจะให้ทั้งสองสี-สองฝ่ายหันมาพูดจาทำความเข้าใจกัน สมัครสมานให้บรรยากาศเล่นสาดน้ำสงกรานต์กลับคืนมา "โชกสุขสนุกสนาน" โดยไม่มีสี!?
จากที่คุณสนธิเจ็บถึงตายได้ครั้งนี้ โดยพื้นฐานใจพี่น้องพันธมิตรฯ ย่อมเดือดกว่าน้ำร้อนบนเตาไฟ แต่การเอาไฟไปดับไฟ หรือเอาน้ำร้อนไปเติมน้ำร้อน ไฟก็ไม่ดับ น้ำก็ไม่เย็น ด้วยวุฒิภาวะแห่งเจตนาเพื่อบ้านเมือง หาทางลอกสีเหลือง-สีแดง แล้วนำความเป็นพี่น้องไทยเนื้อแท้ไปต่อสาย-ต่อขั้ว รวมเป็นกอไผ่-ไทยด้วยกันจะดีไหม
ที่ผมพูดเช่นนี้ เพราะจากที่สดับตรับฟังมาหลายๆ ด้าน ถ้าไม่หาทางให้ทุกคนมีสติยับยั้งชั่งใจ วันนี้-พรุ่งนี้ อาจมีสถานการณ์อุบาทว์เมืองเกิดขึ้นได้ เพราะใจแยกฝ่าย-แยกแค้น!?
นายกฯ อภิสิทธิ์ก็เช่นกัน ณ วันนี้ ตัวท่าน-อำนาจท่าน ผมสังเกตว่าเหมือนท่านนั่งอยู่บนกองหนาม รอบข้างท่าน ๑๐ คน ๑๐๐ คน มีถึง ๒ ถึง ๑๐ คนไหมที่ท่านมั่นใจว่าเนื้อแท้ในใจจะไม่เป็นบรูตุส?
ข้าวเหนียวหน้าเนื้อน่ะ กินอร่อย แต่คนหน้าเนื้อ ต้องระวัง...เพราะมันใจเสือจะกินท่าน เหตุที่เกิดกับคุณสนธิ ไม่มีอะไรรับประกันว่ามันจะเกิดกับท่าน ครอบครัวท่านไม่ได้ ที่พัทยา ที่มหาดไทยนั่นคือตัวอย่างสอนใจ อย่าลืมว่าอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศอยู่ที่ท่าน ผมเชื่อแล้วว่าท่านใจแข็ง-ใจถึง แต่ท่านอย่าตายใจกับใครง่ายๆ
ด้วยอำนาจของท่านอันมีผลต่อสถานการณ์บ้านเมือง ต้องฆ่ามันก่อนที่มันจะรวมหัวฆ่าท่าน!
ไม่ต้องดูอื่นไกล นำเหตุการณ์ที่เกิดในกระทรวงมหาดไทยมาทบทวน-ไล่เรียงดู เรื่องราวเป็นยังไงทำให้ต้องไปแถลงข่าวที่มหาดไทย มีใครไปบ้าง การไปมีใครรู้บ้าง ตอนเกิดเหตุมีใครถูกเสื้อแดงทุบ มีใครไม่ถูกทุบ และหน่วยรักษาความปลอดภัยเป็นหน่วยไหน ใครจัดมาให้ท่าน ต่างๆ นานามันเป็นปริศนาที่ต้องหาคำตอบทั้งนั้นว่า
เรื่องบัดสี-หยาบช้านี้เกิดขึ้นกับ "ผู้นำประเทศ" ได้อย่างไร?
ทั้งที่มหาดไทยกับที่พัทยา ไล่เรียงดูก็ได้ว่า มันมาจาก "คนหน้าเดิม" ใช่หรือไม่?
ผมบอกได้ว่า เวลานี้มีคนต้องการฆ่าสนธิ พอๆ กับมีคนใช้แผนแยบยลเพื่อแซะก้นท่านให้พ้นเก้าอี้ "นิพนธ์ พร้อมพันธ์" นั้น นับว่าเป็น ๑ ใน ๑๐๐ ที่ท่านไว้ใจได้ในยามนี้ ท่านใช้วิสัยทัศน์และความเก่งบนความเป็น "เด็กนอก" เพื่อการบริหารงานเถอะ แต่การบริหารอำนาจนั้น ต้องใช้วิสัยทัศน์และบรรจุแผ่นดิสก์สมองโปรแกรมไทยลงไป ไม่อย่างนั้นจาก ๒๐ เม.ย.ถึงกลางมิถุนายนเป็นอย่างช้า ท่านจะ "พลาดท่า-เสียทาง".