posttoday: ตำรวจเล็งเสนอขอส่ง จักรภพ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน หากไม่มาฟังคำสั่งคดีหมิ่นเบื้องสูงวันที่ 29เม.ย.
พล. ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน ในฐานะคณะกรรมการคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วพบว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยยังไม่ทราบว่าขณะนี้พำนักอยู่ในประเทศใด ซึ่งวันที่ 29 เม.ย.นี้ อัยการนัดฟังคำสั่งว่า จะพิจารณาสั่งฟ้องคดีหรือไม่ หากนายจักรภพไม่มาฟังคำสั่ง อัยการก็อาจจะมีความเห็นเลื่อนนัดฟังคำสั่งไปก่อน เพราะตำรวจมีสิทธิที่จะพิจารณาเสนอศาลขอหมายจับ เพื่อให้มาฟังคำสั่งคดี และหากพบว่านายจักรภพ อยู่ในต่างประเทศ ก็จะต้องประสานกับอธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ ขอความร่วมมือในเรื่องของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ด้านพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งถูกออกหมายจับ จากเหตุการณ์ทุบทำลายขบวนรถนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตามจะพยายามสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้ในสำนวนคดีที่กระทรวงมหาดไทยถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่มีการพิจารณาจะออกหมายจับเพิ่มเติม
พล. ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและสอบสวน ในฐานะคณะกรรมการคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้วพบว่า นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว โดยยังไม่ทราบว่าขณะนี้พำนักอยู่ในประเทศใด ซึ่งวันที่ 29 เม.ย.นี้ อัยการนัดฟังคำสั่งว่า จะพิจารณาสั่งฟ้องคดีหรือไม่ หากนายจักรภพไม่มาฟังคำสั่ง อัยการก็อาจจะมีความเห็นเลื่อนนัดฟังคำสั่งไปก่อน เพราะตำรวจมีสิทธิที่จะพิจารณาเสนอศาลขอหมายจับ เพื่อให้มาฟังคำสั่งคดี และหากพบว่านายจักรภพ อยู่ในต่างประเทศ ก็จะต้องประสานกับอธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ ขอความร่วมมือในเรื่องของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
ด้านพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งถูกออกหมายจับ จากเหตุการณ์ทุบทำลายขบวนรถนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตามจะพยายามสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้ในสำนวนคดีที่กระทรวงมหาดไทยถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่มีการพิจารณาจะออกหมายจับเพิ่มเติม