เจอคำถามยิงตรง ทักษิณก็โดนน็อค
สังเกตไหมว่านักข่าวต่างประเทศตั้งคำถามคุณทักษิณ ชินวัตร แบบเจาะลึกมากขึ้นทุกที
ที่ทักษิณเคยคิดว่ายิ่งให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะได้ประโยชน์กับตนใน "สงครามข่าวสาร" นั้น
เห็นทีจะเป็นการประเมินที่ผิดพลาดอย่างยิ่งเสียแล้ว
เพราะคนข่าวมืออาชีพไม่ว่าจะเป็นไทยหรือต่างประเทศนั้น จะไม่ยอมเป็นเพียง "กระบอกเสียงไร้จิตวิญญาณ" ของทักษิณ อีกต่อไปแล้ว
ที่ทักษิณ เคยจ้าง lobbyist ต่างชาติเพื่อ "ปั่น" (คำนี้วงการฝรั่งใช้ spin) เพื่อให้ข่าวคราวออกมาเข้าข้างตนเองนั้น
บัดนี้ย้อนกลับมาเล่นงานเขาเองเสียแล้ว
กลายเป็นบูมเมอแรงที่หวนกลับมากระแทกคนที่ริเริ่มการกระทำนั้นๆ
คำอธิบายมีง่ายนิดเดียว...ตามภาษาฝรั่งทีว่า
คุณสามารถหลอกคนบางคนบางเวลาได้ หรือหลอกคนทั้งหมดบางเวลาได้
แต่....คุณไม่อาจจะหลอกคนทั้งหมดตลอดเวลาได้
You can lie to someone sometimes BUT you can never lie to everyone every time.
ดูจากคำถามของนักข่าวต่างประเทศช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็น Telegraph หรือ Financial Times ซีเอ็นเอ็น หรือบีบีซี
ต่างทำการบ้านมาอย่างรอบด้าน และไม่มีนักข่าวคนไหนต้องการจะเสียประวัติว่า ถูกทักษิณใช้เป็นเครื่องมือเพื่อโฆษณาชวนเชื่อเพื่อตัวเขาเองอีกต่อไป
เพราะในแวดวงนักข่าววิชาชีพนั้น เริ่มมีการเฝ้าระวังกันและกันมากขึ้น
เช่นมีคำถามระหว่างนักข่าวต่างชาติว่า
"เฮ้ย ระวังนะเว้ย ไม่ทำการบ้าน ถามอะไรชุ่ยๆ เชยๆ เขาจะหาว่าคุณรับเงินทักษิณมา เขียนเชียร์เขาอย่างเดียว..."
ไม่มีนักข่าวอาชีพคนไหนต้องการได้ชื่อว่าเป็นเพียง "ลูกจ้าง" ของแหล่งข่าว ไม่ว่าแหล่งข่าวคนนั้นจะมีเงินมีอำนาจมากมายเพียงใดก็ตาม
ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าหากทักษิณ จะอ้ำๆ อึ้งๆ เมื่อเจอคำถามตรงๆ และไม่เกรงใจอย่างเช่นที่นักข่าว Financial Times (FT) จะถามทักษิณว่า
"คุณให้เงินกลุ่มเสื้อแดงหรือ?"
คำตอบของทักษิณ ของคำถามยิงตรงเช่นนี้น่าสนใจกว่าคำถามด้วยซ้ำ
เขาตอบว่า
"เปล่าเลย..." (No....no...no...no)
แล้วก็เฉไฉออกไป
"ถ้าคุณดูจะเห็นวัฒนธรรมที่น่ารักมาก ชาวประมงหยุดจับปลา แล้วเอาปลามาแจกจ่าย
พวกเขาช่วยเหลือกัน พ่อค้าแม่ค้าเร่เอาอาหารมาด้วย..."
ทักษิณ คิดว่า "ตีลูกชิ่ง" อย่างนี้ นักข่าวก็คงจะหลงทาง ไปถามเรื่องอื่นที่เขาอยากให้ถามต่อ
แต่นักข่าว FT ถามต่อว่า
"แต่เราได้ยินว่าคุณให้เงิน..."
ทักษิณรู้ว่าถูกต้อน แต่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จึงทำเสียงแหลมเหมือนคนจนมุม
"ไม่มีทาง ไม่มีเงินเลย
ครั้งหนึ่งผมพูดติดตลกว่า ตอนนี้รัฐบาลแจกเงินผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท ซึ่งผมมีสิทธิได้รับด้วย
หลังจากวันเกิดของผมในวันที่ 26 กรกฎาคม ในวันที่ 27 กรกฎาคม ผมจะมีอายุครบ 60 ปี และมีสิทธิได้รับเงินนี้
ผมพูดเล่นๆ ว่า หลังวันที่ 27 กรกฎาคม ผมจะไปเข้าคิวรับเงิน 500 บาทของผม
พวกนั้นเข้าใจว่าผมจะแจกคนละ 500 ..."
ออกทะเลไปเลยครับ...
(หมายเหตุ - ช่วยกันไปดู VDO Clip ใน Youtube กันหน่อยซิว่า เขาพูดอย่างที่ว่า จริงหรือไม่)
เมื่อนักข่าวไม่ยอมให้ทักษิณ หลอกใช้เป็นเครื่องมือ ก็ย่อมแปลว่า
ยิ่งทักษิณเปิดปากกับนักข่าวต่างชาติมาก และบ่อยเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งจะถูกเปิดโปงมากขึ้นเท่านั้น
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1240236570
สังเกตไหมว่านักข่าวต่างประเทศตั้งคำถามคุณทักษิณ ชินวัตร แบบเจาะลึกมากขึ้นทุกที
ที่ทักษิณเคยคิดว่ายิ่งให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะได้ประโยชน์กับตนใน "สงครามข่าวสาร" นั้น
เห็นทีจะเป็นการประเมินที่ผิดพลาดอย่างยิ่งเสียแล้ว
เพราะคนข่าวมืออาชีพไม่ว่าจะเป็นไทยหรือต่างประเทศนั้น จะไม่ยอมเป็นเพียง "กระบอกเสียงไร้จิตวิญญาณ" ของทักษิณ อีกต่อไปแล้ว
ที่ทักษิณ เคยจ้าง lobbyist ต่างชาติเพื่อ "ปั่น" (คำนี้วงการฝรั่งใช้ spin) เพื่อให้ข่าวคราวออกมาเข้าข้างตนเองนั้น
บัดนี้ย้อนกลับมาเล่นงานเขาเองเสียแล้ว
กลายเป็นบูมเมอแรงที่หวนกลับมากระแทกคนที่ริเริ่มการกระทำนั้นๆ
คำอธิบายมีง่ายนิดเดียว...ตามภาษาฝรั่งทีว่า
คุณสามารถหลอกคนบางคนบางเวลาได้ หรือหลอกคนทั้งหมดบางเวลาได้
แต่....คุณไม่อาจจะหลอกคนทั้งหมดตลอดเวลาได้
You can lie to someone sometimes BUT you can never lie to everyone every time.
ดูจากคำถามของนักข่าวต่างประเทศช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็น Telegraph หรือ Financial Times ซีเอ็นเอ็น หรือบีบีซี
ต่างทำการบ้านมาอย่างรอบด้าน และไม่มีนักข่าวคนไหนต้องการจะเสียประวัติว่า ถูกทักษิณใช้เป็นเครื่องมือเพื่อโฆษณาชวนเชื่อเพื่อตัวเขาเองอีกต่อไป
เพราะในแวดวงนักข่าววิชาชีพนั้น เริ่มมีการเฝ้าระวังกันและกันมากขึ้น
เช่นมีคำถามระหว่างนักข่าวต่างชาติว่า
"เฮ้ย ระวังนะเว้ย ไม่ทำการบ้าน ถามอะไรชุ่ยๆ เชยๆ เขาจะหาว่าคุณรับเงินทักษิณมา เขียนเชียร์เขาอย่างเดียว..."
ไม่มีนักข่าวอาชีพคนไหนต้องการได้ชื่อว่าเป็นเพียง "ลูกจ้าง" ของแหล่งข่าว ไม่ว่าแหล่งข่าวคนนั้นจะมีเงินมีอำนาจมากมายเพียงใดก็ตาม
ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าหากทักษิณ จะอ้ำๆ อึ้งๆ เมื่อเจอคำถามตรงๆ และไม่เกรงใจอย่างเช่นที่นักข่าว Financial Times (FT) จะถามทักษิณว่า
"คุณให้เงินกลุ่มเสื้อแดงหรือ?"
คำตอบของทักษิณ ของคำถามยิงตรงเช่นนี้น่าสนใจกว่าคำถามด้วยซ้ำ
เขาตอบว่า
"เปล่าเลย..." (No....no...no...no)
แล้วก็เฉไฉออกไป
"ถ้าคุณดูจะเห็นวัฒนธรรมที่น่ารักมาก ชาวประมงหยุดจับปลา แล้วเอาปลามาแจกจ่าย
พวกเขาช่วยเหลือกัน พ่อค้าแม่ค้าเร่เอาอาหารมาด้วย..."
ทักษิณ คิดว่า "ตีลูกชิ่ง" อย่างนี้ นักข่าวก็คงจะหลงทาง ไปถามเรื่องอื่นที่เขาอยากให้ถามต่อ
แต่นักข่าว FT ถามต่อว่า
"แต่เราได้ยินว่าคุณให้เงิน..."
ทักษิณรู้ว่าถูกต้อน แต่ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร จึงทำเสียงแหลมเหมือนคนจนมุม
"ไม่มีทาง ไม่มีเงินเลย
ครั้งหนึ่งผมพูดติดตลกว่า ตอนนี้รัฐบาลแจกเงินผู้สูงอายุเดือนละ 500 บาท ซึ่งผมมีสิทธิได้รับด้วย
หลังจากวันเกิดของผมในวันที่ 26 กรกฎาคม ในวันที่ 27 กรกฎาคม ผมจะมีอายุครบ 60 ปี และมีสิทธิได้รับเงินนี้
ผมพูดเล่นๆ ว่า หลังวันที่ 27 กรกฎาคม ผมจะไปเข้าคิวรับเงิน 500 บาทของผม
พวกนั้นเข้าใจว่าผมจะแจกคนละ 500 ..."
ออกทะเลไปเลยครับ...
(หมายเหตุ - ช่วยกันไปดู VDO Clip ใน Youtube กันหน่อยซิว่า เขาพูดอย่างที่ว่า จริงหรือไม่)
เมื่อนักข่าวไม่ยอมให้ทักษิณ หลอกใช้เป็นเครื่องมือ ก็ย่อมแปลว่า
ยิ่งทักษิณเปิดปากกับนักข่าวต่างชาติมาก และบ่อยเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งจะถูกเปิดโปงมากขึ้นเท่านั้น
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1240236570