Find Other Sides of Thai Politic. Update you on the political turmoil in Thailand.

อ่าน ทวิตเตอร์

Upcoming

Thursday, April 23, 2009

เกมนี้"มันจบแล้ว"สำหรับกบฏทักษิณ - เปลว สีเงิน 23-04-2009

ไทยโพสต์ - เปลวสีเงิน

ก็แปลกดี  เผาบ้าน-แยกเมือง  เสร็จแล้วแทนที่จะตกเป็นผู้ต้องหาก่อจลาจล  ทำลายความมั่นคง-ล้มล้างสถาบันหลักของชาติ   แต่  ส.ส.แกนนำก่อจลาจล  "นายจตุพร  พรหมพันธุ์"  และคณะพรรคเพื่อไทย  กลับใช้วาทกรรมพลิกตัวเองขึ้นเป็นผู้เสียหาย  กล่าวหารัฐบาล  และทหารว่าฆ่าพวกเขาตาย-เจ็บเป็นร้อยๆ  แล้วแอบลำเลียงศพไปเผาที่โน่น-ที่นี่

  พูดง่ายๆ  คือ  เจ้าหน้าที่ผู้รักษาบ้านเมืองแทนที่จะเป็นโจทก์  กลับกลายเป็นจำเลย  ส่วนผู้ก่อจลาจลในบ้านเมือง  แทนที่จะเป็นจำเลย  กลับกลายเป็นโจทก์  แล้วอย่างนี้ไม่แปลกหรือ?

     แต่ถ้าใครเข้าใจยุคสมัยแล้วจะไม่แปลก  ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ  ยุคนี้เป็นยุค  "สื่อสารครองโลก"  ใครยึดสื่อได้ก่อน  ก็เป็นผู้ครองโลกได้ก่อน  คนที่เข้าใจตรงนี้ดีที่สุดคือ  "ทักษิณ  ชินวัตร"  เพราะฉะนั้น  เขาและบริวารจึงสามารถพลิกแพลงความเป็นโจทก์  หรือความเป็นตัวนำได้ก่อนเสมอ

     เขาทำอย่างไร..?

     ก็ด้วยการอาศัย  "ไมค์สื่อ"  ที่จ่อปากเป็นเครื่องมือ  พลิกลิ้น  ปลิ้นปล้อน  หน้าด้าน  พลิกดำเป็นขาว-พลิกขาวเป็นดำ  ให้กลายเป็นข่าวกรอกหู-กรอกตาประชาสาธารณชนผ่านจอ  เรียกว่า  "ชิงพื้นที่ข่าว"  ก่อนได้เปรียบ  อะไรประมาณนั้น

     พวกหนังหนา-หน้าด้าน  ไร้ซึ่งหิริ  โอตตัปปะเช่นนี้  คนบุราณท่านจัดอยู่ในประเภท  "คนระยำ  ใส่ครกตำ  สักพันปี  ก็บ่มี  ซึ่งยางอาย"!

     สื่อประเภทถือไมค์  ผมสังเกตว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือง่ายมาก  และมากต่อมาก  ถ้าวัดระดับความเฉลียวดฉลาดในด้านสื่อแล้ว  ผมว่านายจตุพร  พรหมพันธุ์  ฉลาดเหนือชั้นกว่านักข่าว  และหัวหน้าข่าวโทรทัศน์หลายๆ  ช่อง  เพราะหลังจากหนีไปตั้งหลักอยู่วัน-สองวัน  พอโผล่หน้าก็มีสื่อเป็นม้าใช้  รุมกันเอาไมค์จ่อปาก

     แล้วจตุพรก็ลากไป  ว่าฝ่ายรัฐบาล  ให้ทหารลากปืนมาฆ่าประชาชนเสื้อแดงตายเป็นเบือบ้าง  ทหารขนเอาศพไปแอบเผาทิ้งบ้าง  พวกเสื้อแดงทำถูกทั้งหมด  ฝ่ายรัฐบาล-ทหารทำผิดทั้งหมดที่มาปราบปรามประชาชน  ซ้ำไม่กระดากปากปลิ้นปล้อนไปซึ่งๆ  หน้าว่า  พวกเขา-พวกเสื้อแดงไม่ใช่เป็นคนยิงใส่มัสยิด  มีคนสวมรอยป้ายความผิดไปให้พวกเขา

     เที่ยงๆ  บ่ายๆ  ค่ำๆ  คำสามานย์เหล่านั้นก็ได้ออกเป็นข่าวตามแผน  "กบฏแผ่นดิน"  ที่หลอกใช้สื่อโทรทัศน์กระจายข่าวสารจาก   "คณะก่อการทักษิณ"  สู่ประชาชน  ทั้งใกล้ปืนเที่ยง  และไกลปืนเที่ยง  เรียกว่าตั้งประเด็นเป็นโจทก์ไว้ก่อน-ได้เปรียบ  แล้วฝ่ายทหาร-ฝ่ายรัฐบาลก็เป็นฝ่ายคลานตามมาแก้  (ตัว)  ซึ่งเสียเปรียบในเชิงจิตวิทยามวลชน

     เมื่อพลิกลิ้นได้เปรียบเชิงกลทางข่าวสารที่  ถึงเร็ว-ถึงไว  และถึงก่อน  ไปแล้ว  ก็คิดเค้นประเด็นใหม่เป็นเหยื่อล่อให้สื่อไล่งับใหม่ไปเรื่อยๆ  ในภาษาสื่อเขาบอกว่า  "ประเด็นไม่ด้าน"  ถ้าไม่มีประเด็นใหม่มาหลอก  สื่อก็จะไม่เอาไมค์มาจ่อปาก  หรือจ่อปาก  คนข้างในก็จะไม่ตัดต่อออกหน้าจอสู่ประชาชน

     จตุพรศิษย์เอกทักษิณเขาเก่ง  ปล่อยข่าวเท็จจนฮิตติดชาร์ตไปแล้ว  ๒  ประเด็น  ทั้งเรื่องเสื้อแดงถูกทหารยิงตายเอาศพไปแอบเผา  กับเรื่องทหารเอาปืนจริง-กระสุนจริงมายิงเสื้อแดง  ก็เปิดประเด็นใหม่ตามแผน  "ใช้สื่อเป็นสากกะเบือ"  ไล่ทุบตีฝ่ายตรงข้าม

     รถแก๊สปิดถนน  ขู่บึ้มมมมม  ทลายกรุง  ตั้ง  ๒-๓  คันทั้งย่านดินแดงและราชปรารภ  อันเป็นหลักฐานประจานความชั่วร้ายขบวนการทักษิณ  นั้น  มันตวัดลิ้นไปว่า  หาใช่เกิดจากการกระทำของพวกเขาไม่

     หากแต่มีคนอีกฝ่ายจงใจ  "จัดฉาก"  ให้ฝ่ายเขาเป็นโจร....ดูมันพูดเข้า!?

     แม้กระทั่งจลาจลนางเลิ้ง  เสื้อแดงคลั่งยิงชาวบ้านตายไป  ๒  ศพ  มันยังกล้าพูด  หาใช่ฝีมือพวกมันไม่  หากแต่มีใครอีกฝ่ายสวมรอย  แล้วป้ายความผิดให้กบฏแผ่นดิน

     พรุ่งนี้ไม่รู้เขาจะคิดสรรปั้นประเด็นอะไรมาหลอกใช้สื่อ  และลากรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ ให้ตกเป็นจำเลยตามไปแก้ข้อกล่าวหาอีก  ก็ช่วยไม่ได้ครับ  ในตำราบอกว่า  "การศึกย่อมไม่หน่ายเล่ห์"  ฉะนั้น  เมื่อไม่คำนึงถึงคุณธรรม  มโนธรรม  และความงามสง่าในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์

     นายจตุพรและ  ส.ส.เพื่อไทย  เขาก็มีสิทธิ์ทำทุกอย่างเพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ  และได้มวลชน  เช่นเดียวกัน  ฝ่ายรัฐบาล-ทหาร-ตำรวจ  ซึ่งเป็นฝ่ายรักษากฎหมาย  รักษาบ้านเมือง  และบริหารราชการงานเมือง  เรียกว่าได้เปรียบทั้งทางเงื่อนไข  และทางกลไกรัฐ  แต่ในเมื่อไม่สามารถใช้สิ่งที่เหนือกว่าชิงความได้เปรียบ  แม้กระทั่งสื่อโทรทัศน์ก็เป็นของรัฐ

     แล้วจะให้ไปโขกสับ-ด่าทอนายจตุพร  หรือนายตะแบงปากพูด-ตะแคงตูดถ่ายคนไหน  ก็ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไรกัน  ในชนชั้นไร้เสียแล้วซึ่งสำนึกแห่งชาติ  และมโนธรรมแห่งวิญญูชน

     คนในอาชีพสื่อ-ถือไมค์ทุกวันนี้  ก็น่าเห็นใจ  หน้าที่ของเขาคือซับข่าวสารกลับเข้าไปข้างในให้ได้มากที่สุด  และทุกอย่างขึ้นกับวินิจฉัยบุคลากรภายในว่าอะไรควรนำใส่จอ  แต่คนดูภายนอกไม่ค่อยเข้าใจ  ดี-ร้าย  ก็เหมาลงไปที่คนถือไมค์  และคนแบกกล้องจ้องถ่ายหมด

     ซึ่งผมก็เห็นใจ  และเข้าใจในข้อจำกัด  "นักรบถือไมค์"  ทั้งหลาย  ในภาวะสถานการณ์เป็นตาย  ประดาบกับ  "ตัวข่าว"  ทีไร  กลายเป็นเครื่องมือให้เขาไปโดยปริยายทุกที  เหตุผลง่ายๆ  ก็คือว่า  มีหน้าที่จ่อไมค์  แต่ไม่รู้จะตั้งประเด็นจี้ซักถามอะไร  เนื่องจากเหตุไม่มีภูมิในตัว  หรือไม่เคยทำการบ้านในเรื่องราวข่าวสารนั้นๆ  มาก่อน  จึงไม่มีฐานข้อมูลเป็นตัวรับและตัวรุก  คือการตั้งประเด็นซักไซ้  และถามแย้งกลับไปในการสัมภาษณ์

     ไมค์เลยถูกใช้เป็นสากกะเบือ  ให้เขาพูดลากไปตามประเด็นที่เขาตั้งใจจะใส่ร้ายป้ายสีใคร  หรือตามที่ตั้งใจจะพลิกแพลงตะแบงข่าวจากขาวเป็นดำสู่สังคม!

     เห็นมีคำถามยอดฮิตติดปากสื่อที่ได้ยินประจำทางหน้าจออยู่ประโยคเดียวซ้ำๆ  ซากๆ  คือ...ท่านครับ..ท่านคะ..เรื่องนี้ท่านว่าไงครับ  หรือไม่ก็..เรื่องนี้ไปถึงไหนแล้วคะ?

     นักการเมือง  หรือนักกวนเมืองได้ยินแล้วก็หัวเราะในใจ  จับไต๋ได้ว่าคนถามมีแต่ขี้คาไส้  นอกนั้นกลวงโบ๋  จึงให้ข่าวในลักษณะ  "หลอกใช้สื่อ"  เป็นเครื่องมือสู่เป้าหมายของเขา

     เนี่ยะ..ตั้งแต่  ๑๔  เมษา  ฝ่ายกบฏทักษิณ  "ออกแผน"  เป็นแคมเปญช่วงชิงมวลชนทางการตลาด  โดยชูประเด็น  ทหารใช้กระสุนจริงยิงเสื้อแดง  ทหารฆ่าเสื้อแดงเอาศพไปเผา  รัฐบาลใช้  ๒  มาตรฐานในการจับกุม  และต่างๆ  นานา  สุดแต่ความหนาจะเสกสรรค์ปั้นแต่งขึ้นมาสาดสี  ซึ่งนอกจากเป็นการโต้กลับแล้ว  ยังเป็นการกลบเกลื่อนความชั่วร้ายฝ่ายตัวเองที่ปล้นบ้าน-เผาเมืองอีกด้วย!

     กบฏทักษิณ  นายจตุพรและคณะพรรคเพื่อไทย  ไม่เห็นพูดถึงบ้างเลยว่า  นับแต่วันที่  ๘ เมษายน  ๒๕๕๒  ที่ทักษิณวิดีโอลิงค์มาถึงมวลชนเสื้อแดงอันรายล้อมทำเนียบรัฐบาล  และบ้านประธานองคมนตรีแน่นหนา  ด้วยคำปลุกเร้าประโยคหนึ่งว่า

     "เมื่อข้าอยู่ไม่ได้  ก็อย่าหวังว่าใคร  หน้าไหนจะอยู่ด้วยความสงบ"

     แล้วบรรดาสาวกเสื้อแดงก็ฮึกเหิม  ฮือก่อการจลาจลเมืองตามคำทักษิณสั่ง  ปิดถนนเฉพาะที่  และดาวกระจายตามปกติ  ก็ไม่ว่ากัน  แต่การไล่ปิด-ไล่ยึดทั้งกรุงเทพฯ  จนเป็นเมืองร้าง

     -ยึดรถเมล์มาเผา

     -ไล่ทุบ  ตามล่า  ไล่ฆ่านายกฯ  และคณะ

     -บุกโรงแรมรอยัลคลิฟบีช  พังการประชุมอาเซียนซัมมิต

     -ปิดดินแดง  ใช้รถแก๊สหวังระเบิดกรุง  ปาระเบิดเพลิงทำร้ายทหาร

     -กราดอาวุธสงครามใส่ศาลรัฐธรรมนูญ  หวังฆ่าคณะตุลาการ

     -ก่อจลาจล  สุมไฟ  แล้วไล่ยิงชาวบ้านนางเลิ้ง  ๒  ศพ

     -ย่ำยีศาสนสถานพี่น้องชาวมุสลิมย่านถนนเพชรบุรี

     ยังไม่นับที่จ้วงจาบหยาบช้าต่อสถาบันเบื้องสูง  และปลุกเร้า-ปลุกระดม  ให้กองกำลังเสื้อแดงลุกฮือยึดศาลาจังหวัดในแต่ละจังหวัด  อันเข้าข่ายกบฏแยกบ้าน-แยกแผ่นดิน

     นี่..ย่อๆ  แค่นี้  นายจตุพร  และคณะ  ส.ส.เพื่อไทย  ในเมื่อเรียกร้องความเป็นธรรม  เรียกร้องความถูกต้อง  เรียกร้องมาตรฐานในปฏิบัติการของตำรวจ-ทหาร  และรัฐบาล  แล้วทำไม่เห็นหยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาถามบ้างล่ะว่า

     "หมาหรือคนตัวไหนมันทำระยำต่อเมือง"?

     มันถูกต้องหรือไม่  มันเกินเลยกว่าการชุมนุมตามกรอบรัฐธรรมนูญหรือไม่  มันเป็นการก่อจลาจลปล้นยึดประเทศหรือไม่  และเข้าข่ายอาชญากรก่ออาชญากรรมหรือไม่?

     มากล่าวหาทหารทำรุนแรง  เอากระสุนจริงมายิงล้อรถเมล์ทะลุ  ซึ่งมันปลายเหตุ  ในเมื่อต้นเหตุก่อจลาจลเผาเมือง-ฆ่าชาวบ้านดังที่กล่าวมา  ถ้าทหาร-ตำรวจจะยิงให้ตายโหง-ตายห่าไปบ้าง  ผมว่าไม่มีใครพุทโธ  หรือติดใจสงสัยอะไรด้วยซ้ำ  มีแต่ตอนนี้ทั้งชาวบ้าน  และชาวโลกด้วยซ้ำที่กังขา

     รัฐบาล  ตำรวจ-ทหารประเทศไทย  "ใจพุทธ"  หรือว่า  "ใจไม่ถึง"?

     ทีทำหยาบช้า-ป่าเถื่อนกับบ้านกับเมือง  กับพี่น้องประชาชนด้วยกัน-ทำได้  ครั้นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาทำหน้าที่ระงับยับยั้ง  ไม่ฆ่า-ไม่แกง  กลับแว้งกัด  ตัดประเด็นมาเสแสร้งใส่ไคล้กล่าวหา...ทหารฆ่าประชาชน

     ก็มันสมควรฆ่ามั้ยล่ะ....ถ้าเขาจะฆ่าจริงๆ  น่ะ  ไม่ปล่อยให้มายึดสภาฯ  เป็นกระดองเห่าอยู่อย่างนี้หรอก  ยิ่งลูกอีช่างสังเกตอะไรนั่นน่ะ  ทหารไม่เอากาบกล้วยคลุกขี้แมวท้องเสียแล้วราดสีแดงไปแพ่นตรงกลางกบาล  ให้มันร้องโฮๆ  ไปให้พ่อมันที่นิการากัวขัดหัวมันแผล็บให้  ก็นับว่าบุญแค่ไหนแล้ว?

     แสดงเดชศักดา  "ล่มประเทศ"  ตัวเองบูชาเจ้านาย  "กบฏทักษิณ"  กันไปเถอะ  มันจบแล้วสำหรับทักษิณที่จะได้กลับมา  "จูบแผ่นดิน"  อย่างครั้งก่อน  "บิน ลาดิน"  ที่โลกประณามเป็นผู้ก่อการร้ายโลกนั้น  ชั่ว-ดี-ถี่-ห่าง  บิน  ลาดิน  ทำทุกอย่างเพื่อปกปัก-พิทักษ์รักษาสถาบันเชื้อชาติ  ศาสนา  และวัฒนธรรม  ประเพณีของเขา

     บิน  ลาดิน  ไม่เคยทำลายประเทศชาติบ้านเมืองตัวเอง  และพี่น้องร่วมชาติ  ร่วมเผ่าพันธุ์ตัวเองเลย!

     แต่ทักษิณ  ชินวัตร  ล่ะ  ทำลายทั้งประเทศชาติตัวเอง  ทำลายทั้งสถาบันหลักของชาติตัวเอง  ทำลายทั้งพี่น้องร่วมชาติ-ร่วมเผ่าพันธุ์ตัวเอง  เพื่อปกปักรักษาสมบัติตัวเอง  อำนาจตัวเอง  และตระกูลตัวเอง  ในขณะที่มันให้ลูก-เมียบินหนีออกจากประเทศไทยไป  "ลอยชาย-ช็อปปิ้ง"  อยู่ต่างประเทศ  แล้วมันก็หลอกให้ชาวบ้านสวมเสื้อแดงก่อการกบฏบ้าน-กบฏเมือง...เพื่อมัน  อย่างนี้มันเลวกว่า  "ผู้ก่อการร้าย"  แล้วจะยอมตาย-ขายชาติให้กับคนจัญไรเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?

Label Cloud