Mgr: ปลัดฯ ต่างประเทศ ยังอึดขอเวลาสอบข่าวนิการากัวออกพาสปอร์ตให้ “ทักษิณ” ชี้ข้อมูลยังขัดแย้งไม่ตรงกัน เผย อยู่ระหว่างเจรจาสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่งตัว “นช.แม้ว” กลับมาดำเนินคดี แต่ยังอุบรายละเอียดอ้างเป็นมารยาท ด้านรายงานข่าวเผยสถานทูตนิการากัวปฏิเสธข่าวออกหนังสือเดินทางให้ “ทักษิณ” ไม่มีมูล
วันนี้ (16 เม.ย.) นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีประเทศนิการากัว ให้พาสปอร์ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อมูลที่ขัดแย้งไม่ตรงกัน จึงต้องขอเวลาตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบไปยังอีกหลายประเทศ ที่มีข่าวว่าออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้ข้อมูลเมื่อไหร่
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ทางไทยได้แจ้งไปยังประเทศต่างๆ ถึงการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ส่วนเรื่องการดำเนินการขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น จะเป็นไปตามกระบวนการที่มีขั้นตอนปฏิบัติ ในส่วนของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่แม้จะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย แต่เรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการติดต่อประสานกันอยู่แล้วในช่องทางการทูต ซึ่งโดยมารยาทจะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า บรรยากาศที่ทูตานุทูตประเทศต่างๆ รับฟังคำชี้แจงจากนายกฯ เป็นไปด้วยดี ซึ่งทูตทุกประเทศได้เข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมด และในวันที่เกิดเหตุที่พัทยา ทางนายกฯ ได้เป็นผู้ไปส่งผู้นำแต่ละประเทศกลับด้วยตัวเอง และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เว้นแต่ 2 ผู้นำจากประเทศนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่ไม่ได้ไปส่ง เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางก็ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดประชุมอาเซียนบวก 3 และ บวก 6 ครั้งต่อไปนั้น จะต้องหารือกับประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพื่อหาเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในฐานะประเทศเจ้าภาพ ตามธรรมนูญอาเซียน ระบุว่า ยังต้องจัดประชุมอีก 2 ครั้ง ซึ่งกำหนดเดิมจะอยู่ในช่วงปลายปี ส่วนความเป็นไปได้ที่จะรวบจัดประชุมพร้อมกันทีเดียวเลยได้หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องหารือร่วมกัน ถึงความเหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนัดให้ผู้นำ 16 ประเทศให้มาพร้อมกันได้
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัว ประจำเม็กซิโก ได้มีหนังสือที่ EDNIC/EMB/91/2009 มีเนื้อหาว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัว ประจำเม็กซิโก ขอตอบหนังสือสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำเม็กซิโกที่ 31001/126/2552 ที่ขอให้ตรวจสอบรายงานข่าวเกี่ยวกับการให้สัญชาติและการถือหนังสือเดินทาง นิการากัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยทางสถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอเรียนสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำเม็กซิโก ว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่ไม่มีมูล ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 15 เมษายน และทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโก ได้รายงานเรื่องนี้มายังกระทรวงต่างประเทศไทยแล้ว
วันนี้ (16 เม.ย.) นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีประเทศนิการากัว ให้พาสปอร์ตกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อมูลที่ขัดแย้งไม่ตรงกัน จึงต้องขอเวลาตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบไปยังอีกหลายประเทศ ที่มีข่าวว่าออกหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้ข้อมูลเมื่อไหร่
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า ทางไทยได้แจ้งไปยังประเทศต่างๆ ถึงการเพิกถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ส่วนเรื่องการดำเนินการขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น จะเป็นไปตามกระบวนการที่มีขั้นตอนปฏิบัติ ในส่วนของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่แม้จะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย แต่เรื่องการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยปฏิบัติ ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งรัฐบาลประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการติดต่อประสานกันอยู่แล้วในช่องทางการทูต ซึ่งโดยมารยาทจะไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด
ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวอีกว่า บรรยากาศที่ทูตานุทูตประเทศต่างๆ รับฟังคำชี้แจงจากนายกฯ เป็นไปด้วยดี ซึ่งทูตทุกประเทศได้เข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมด และในวันที่เกิดเหตุที่พัทยา ทางนายกฯ ได้เป็นผู้ไปส่งผู้นำแต่ละประเทศกลับด้วยตัวเอง และแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เว้นแต่ 2 ผู้นำจากประเทศนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่ไม่ได้ไปส่ง เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางก็ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อเหตุที่เกิดขึ้น
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดประชุมอาเซียนบวก 3 และ บวก 6 ครั้งต่อไปนั้น จะต้องหารือกับประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา เพื่อหาเวลาที่เหมาะสม ซึ่งในฐานะประเทศเจ้าภาพ ตามธรรมนูญอาเซียน ระบุว่า ยังต้องจัดประชุมอีก 2 ครั้ง ซึ่งกำหนดเดิมจะอยู่ในช่วงปลายปี ส่วนความเป็นไปได้ที่จะรวบจัดประชุมพร้อมกันทีเดียวเลยได้หรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องหารือร่วมกัน ถึงความเหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนัดให้ผู้นำ 16 ประเทศให้มาพร้อมกันได้
ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัว ประจำเม็กซิโก ได้มีหนังสือที่ EDNIC/EMB/91/2009 มีเนื้อหาว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัว ประจำเม็กซิโก ขอตอบหนังสือสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำเม็กซิโกที่ 31001/126/2552 ที่ขอให้ตรวจสอบรายงานข่าวเกี่ยวกับการให้สัญชาติและการถือหนังสือเดินทาง นิการากัว ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยทางสถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอเรียนสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำเม็กซิโก ว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่ไม่มีมูล ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 15 เมษายน และทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโก ได้รายงานเรื่องนี้มายังกระทรวงต่างประเทศไทยแล้ว