Posttoday: คนขับรถเมล์เผยผู้ติดตาม"สนธิ" ซิ่งรถยิงโต้คนร้ายจนหนีโฆษกพันธมิตร เผย สนธิ รู้ตัวก่อนหน้านี้ ถูกตามฆ่า
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสี่แยกบางขุนพรหม เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพรถคันดังกล่าว พบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม16 กระจกด้านหน้าเป็นรูพรุน 27 รู ฝากระโปงหน้า 8 รู กระจังหน้ากันชน 7 รู บริเวณซันลูปด้านบนของรถเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ กระจกด้านหลังแตกทั้งบาน กระจกด้านหน้าซ้ายแตกทั้งบาน ยางรถทั้ง 4 ถูกยิงแตก น้ำมันเครื่องไหลนองพื้นถนน
พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 กว่า 100 ปลอก ขณะที่รถโดยสารประจำทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ( ขสมก.) สาย 53 หมายเลขทะเบียน12-0283 กรุงเทพมหานคร โดนกระสุนปืนลูกหลงเข้าด้านหน้ามุมขวารถ
นาย** อายุ 49 ปี คนขับรถ ขสมก. สาย 53 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุขับรถมาถึงหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เห็นรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงรถคันเกิดเหตุไปจอดด้านหน้า ก่อนที่คนร้ายที่นั่งกระบะท้าย 2 คน จะลุกขึ้นนั่งและใช้อาวุธสงครามใส่รถคันดังกล่าว จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋ง สีดำที่ขับตามมา ขับแซงขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ทำให้คนร้ายหลบหนีไป
โฆษก พธม. คาดฝีมือคนมีสี
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ถึงเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คนร้ายมีอย่างน้อย 2 คน ใช้อาวุธสงครามปืนอาก้าและเอ็ม16 ยิงล้อรถทั้ง 4 ล้อให้ยางแตก ก่อนลงรถมากราดยิงใส่ พบปลอกกระสุนปืนในจุดเกิดเหตุอย่างน้อย 100 ปลอก เบื้องต้นคนขับรถและคนติดตามได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมิชชั่น
นายปานเทพ กล่าวต่อ ว่า ก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมข่าวเอเอสทีวีช่วงเช้าทราบว่าจะมีเหตุลอบยิงนายสนธิอย่างต่อ เนื่อง แต่นายสนธิไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่การต่อสู้กับรัฐบาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขว้างระเบิด ยิงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จึงเป็นเรื่องคาดไม่ถึง เชื่อว่าการยิงประกบยิงครั้งนี้ เป็นมืออาชีพ เนื่องจากคนร้ายสวมชุดสีขาวกางเกงลายพราง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าวสะท้อนว่า วิถีการแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนถูกคุกคามอย่างหนัก รุนแรงผิดปกติ เพราะใช้อาวุธสงคราม เข้าข่ายเป็นภัยความมั่นคงของชาติ ไม่ได้เพียงมุ่งหมายข่มขู่ สื่อมวลชน แกนนำภาคประชาชน เท่านั้น แต่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของนานานชาติ รัฐบาลต้องติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เชื่อว่า ไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดา และถูกฝึกมาอย่างดี สังเกตจากการใช้อาวุธ อาจเป็นคนในแวดวง ทหารหรือตำรวจทางใดทางหนึ่ง
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสี่แยกบางขุนพรหม เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบสภาพรถคันดังกล่าว พบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามอาก้า และเอ็ม16 กระจกด้านหน้าเป็นรูพรุน 27 รู ฝากระโปงหน้า 8 รู กระจังหน้ากันชน 7 รู บริเวณซันลูปด้านบนของรถเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ กระจกด้านหลังแตกทั้งบาน กระจกด้านหน้าซ้ายแตกทั้งบาน ยางรถทั้ง 4 ถูกยิงแตก น้ำมันเครื่องไหลนองพื้นถนน
พบปลอกกระสุนปืนอาก้าและเอ็ม 16 กว่า 100 ปลอก ขณะที่รถโดยสารประจำทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ( ขสมก.) สาย 53 หมายเลขทะเบียน12-0283 กรุงเทพมหานคร โดนกระสุนปืนลูกหลงเข้าด้านหน้ามุมขวารถ
นาย** อายุ 49 ปี คนขับรถ ขสมก. สาย 53 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุขับรถมาถึงหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เห็นรถกระบะสีน้ำเงิน ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงรถคันเกิดเหตุไปจอดด้านหน้า ก่อนที่คนร้ายที่นั่งกระบะท้าย 2 คน จะลุกขึ้นนั่งและใช้อาวุธสงครามใส่รถคันดังกล่าว จากนั้นได้มีรถยนต์เก๋ง สีดำที่ขับตามมา ขับแซงขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ทำให้คนร้ายหลบหนีไป
โฆษก พธม. คาดฝีมือคนมีสี
ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" ทางช่อง 3 ถึงเหตุคนร้ายถล่มยิงรถยนต์นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า คนร้ายมีอย่างน้อย 2 คน ใช้อาวุธสงครามปืนอาก้าและเอ็ม16 ยิงล้อรถทั้ง 4 ล้อให้ยางแตก ก่อนลงรถมากราดยิงใส่ พบปลอกกระสุนปืนในจุดเกิดเหตุอย่างน้อย 100 ปลอก เบื้องต้นคนขับรถและคนติดตามได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลมิชชั่น
นายปานเทพ กล่าวต่อ ว่า ก่อนหน้านี้ ในที่ประชุมข่าวเอเอสทีวีช่วงเช้าทราบว่าจะมีเหตุลอบยิงนายสนธิอย่างต่อ เนื่อง แต่นายสนธิไม่ได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่การต่อสู้กับรัฐบาลที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขว้างระเบิด ยิงสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี จึงเป็นเรื่องคาดไม่ถึง เชื่อว่าการยิงประกบยิงครั้งนี้ เป็นมืออาชีพ เนื่องจากคนร้ายสวมชุดสีขาวกางเกงลายพราง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า เหตุดังกล่าวสะท้อนว่า วิถีการแสดงความคิดเห็นของภาคประชาชนถูกคุกคามอย่างหนัก รุนแรงผิดปกติ เพราะใช้อาวุธสงคราม เข้าข่ายเป็นภัยความมั่นคงของชาติ ไม่ได้เพียงมุ่งหมายข่มขู่ สื่อมวลชน แกนนำภาคประชาชน เท่านั้น แต่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของนานานชาติ รัฐบาลต้องติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เชื่อว่า ไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดา และถูกฝึกมาอย่างดี สังเกตจากการใช้อาวุธ อาจเป็นคนในแวดวง ทหารหรือตำรวจทางใดทางหนึ่ง